วิธีลดความเครียดที่ถูกต้อง ตัวช่วยรับมือการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวในทุกสถานการณ์
ความเครียดถือว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และในทุกสถานการณ์ และโดยทั่วไปความเครียดก็มักจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายนอกหลากหลายปัจจัย กล่าวคือมีแนวโน้มที่จะเกิดจากปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุมได้นั่นเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญจึงเป็นการหาวิธีลดความเครียดที่ถูกต้องเหมาะสมกับตนเองมาใช้ แทนที่จะหาวิธีหลีกเลี่ยง หรือจัดการกับปัจจัยที่เราไม่อาจควบคุม หรือเปลี่ยนแปลงได้ โดยเนื้อหาในบทความนี้เองจะกล่าวถึงความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความเครียด การรับมือกับภาวะความเครียดที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ และวิธีลดความเครียดที่ถูกต้อง
- ความเครียดเป็นภาวะปกติที่เกิดได้กับทุกคน เมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดก็คือมองว่าภาวะที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องผิดปกติของชีวิตที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมาในชีวิตประจำวัน เช่น ปัญหานอนไม่หลับ ความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร การทานอาหารได้มากขึ้น หรือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทว่าในความเป็นจริงแล้วความเครียดจัดเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และทุกสถานการณ์ เพราะมนุษย์นั้นมีสัญชาตญาณรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด เรียกว่าความเครียดเกิดขึ้นมาจากการกระบวนการป้องกันตนเองจากสถานการณ์ต่างๆ นั่นเอง
- วิธีลดความเครียด วิธีแรกจึงเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาวะดังกล่าวว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบจัดการให้ภาวะดังกล่าวหายไปในทันที เมื่อสมองเราสามารถรับรู้ได้แล้วว่ากำลังเผชิญกับภาวะที่เป็นปกติ และสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ก็จะทำให้เราสามารถพิจารณาหาวิธีลดความเครียดที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไปได้
- ทำความเข้าใจถึงสาเหตุ ที่มาที่ไปของความเครียดที่เกิดขึ้น แม้ว่าโดยทั่วไปความเครียดมักมีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้ แต่การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ชัดเจนก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เรารับมือกับการเผชิญความเครียดในเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น และนำมาสู่การหาวิธีลดความเครียดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ ดังนั้นเราจึงต้องพิจารณาถึงสาเหตุทุกครั้งที่เกิดภาวะนี้ขึ้น โดยอาจพิจารณาในภาพกว้างของด้านต่างๆ ในชีวิต เช่น เรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องความสัมพันธ์ เมื่อทราบได้ว่าความเครียดในช่วงเวลานั้นๆ มาจากเรื่องใด การรับมือแก้ไขสถานการณ์ก็จะทำได้ง่ายขึ้น
- เปลี่ยนแปลงทัศนคติ และความคาดหวังจากการทำงาน ความเครียดที่มีสาเหตุมาจากเรื่องงานนับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย และในทุกช่วงอายุ โดยคนๆ หนึ่งอาจเผชิญภาวะความเครียดจากการทำงานได้ในหลายช่วงอายุ ทั้งช่วงเริ่มต้นทำงาน ช่วงของการเติบโตในสายงาน ช่วงการเปลี่ยนแปลงสายงาน หรือองค์กร กระทั่งช่วงวัยเกษียนบางคนก็ยังต้องเผชิญกับความเครียด ดังนั้นวิธีลดความเครียดที่ถูกต้อง อีกหนึ่งวิธีที่นับเป็นเรื่องสามัญที่แทบทุกคนต้องนำไปปรับใช้กันก็คือ การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และความคาดหวังผลลัพธ์ในการทำงานนั่นเอง
ขยายความคือ อารมณ์ความรู้สึกในเชิงลบที่เกิดขึ้นจากการทำงานนั้นบ่อยครั้งมาจากทัศนคติในการทำงานที่ไม่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ที่อดทนทำงานก็เพราะต้องการเงิน งานคือภาระที่ต้องจัดการในแต่ละวัน งานคือคความยุ่งยากในการรับมือกับลูกค้า เป็นต้น เมื่อเรามองงานด้วยทัศนคติดังกล่าวนี้แล้ว ก็ย่อมมีแนวโน้มที่จะเกิดความรู้สึกในด้านลบต่างๆ ขึ้นระหว่างการทำงาน จนเกิดภาวะความเครียดขึ้นในที่สุด
วิธีลดความเครียดจากการทำงานจึงต้องเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติ โดยมองหาคุณค่าของงานที่ทำนอกเหนือไปจากค่าตอบแทนที่ได้รับ เช่น งานที่เราทำช่วยแก้ปัญหาความทุกข์ร้อนในเรื่องใดให้กับลูกค้าได้บ้าง งานที่เราทำมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงให้สังคมดีขึ้นได้อย่างไร หากเราสามารถมองเห็นคุณค่าของงานที่ทำได้แล้ว อารมณ์ ความรู้สึกในด้านบวกระหว่างการทำงานก็ย่อมเกิดขึ้น และเข้ามาแทนที่อารมณ์ ความรู้สึกได้ในด้านลบได้ในที่สุด ความเครียดจากการทำงานก็ย่อมลดลงไปด้วยเช่นกันในทางเดียวกันสำหรับความคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการคาดหวังที่จะได้รับคำชื่นชมจากหัวหน้า การคาดหวังตำแหน่งที่สูงขึ้น คาดหวังความสมบูรณ์ของผลงานที่ออกมาก็เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อผลลัพธ์ที่ออกมาจริงๆ นั้นไม่เป็นไปตามที่เราตั้งความหวังไว้
วิธีลดความเครียดจากปัจจัยดังกล่าวจึงทำได้โดยเปลี่ยนแปลงความคาดหวังให้สอดคล้องกับธรรมชาติของโลกการทำงานมากขึ้น เช่น การทุ่มเทตั้งใจทำงานด้วยความคาดหวังให้ผลงานออกมาบรรลุวัตถุประสงค์ของตัวงาน โดยมองว่าคำชื่นชมจากหัวหน้าเป็นโบนัสจากการทำงานที่อาจจะได้รับ หรือไม่ได้รับก็ได้ ตั้งความคาดหวังในด้านการเรียนรู้มากกว่าความสมบูรณ์แบบของผลงานในโลกของการทำงาน เราอาจเจอปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผลงานที่ออกมาได้หลายรูปแบบ การคาดหวังที่จะให้งานออกมาสมบูรณ์แบบอยู่ตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกในเชิงลบที่สะสมจนก่อเป็นภาวะความเครียด เราจึงควรเปลี่ยนโฟกัสไปที่การเรียนรู้จากการทำงาน เรียนรู้จากปัญหาที่เจอในแต่ละครั้งแทน ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกสนุก และมีความท้าทายจากการทำงานได้มากกว่าการคาดหวังผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ
- วิธีลดความเครียดจากปัญหาทางการเงิน ปัญหาด้านการเงินถือเป็นหนึ่งในสาเหตุยอดฮิตที่ก่อให้เกิดความเครียดกับหลายคน โดยเฉพาะกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน รวมไปถึงอนาคตอันใกล้ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งทำให้เราต้องพึ่งพาเงินเป็นปัจจัยสำหรับทุกๆ กิจกรรมในชีวิตประจำวันมากขึ้น อย่างไรก็ตามการจัดการรับมือปัญหาด้านการเงินก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และมีวิธีที่แตกต่างกันไปตามแต่สถานการณ์ทางการเงินของแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ววิธีลดความเครียดจากปัญหาทางการเงินนั้นควรเน้นการแก้ปัญหาในระยะยาว โดยจำเป็นต้องยอมรับ และเผชิญกับความรู้สึกในด้านลบที่เกิดขึ้นจากปัญหาในปัจจุบัน และมองหาวิธีแก้ไขที่จะส่งผลในระยะยาวมากกว่าการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น เลือกมองหาอาชีพที่สอง หาช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการทำงานประจำ แทนที่จะมองหาแหล่งเงินกู้ ซึ่งอาจทำให้ได้เงินมาแก้ไขปัญหาแบบเร่งด่วนจริง แต่ก็จะตามมาพร้อมภาระดอกเบี้ยที่ส่งผลต่อปัญหาการเงินของเราในระยะยาวต่อไปอีก
- การกำหนดเป้าหมายในด้านต่างๆ ช่วยลดความเครียดได้ การกำหนดเป้าหมายในด้านต่างๆ ที่ชัดเจนให้ตนเองนั้น ถือเป็นวิธีลดความเครียดที่ได้ผลดีในระยะยาว โดยมีงานวิจัยจากหลายแหล่งที่เผยผลสำรวจว่า ผู้ที่มีการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในด้านการเรียน การทำงาน ด้านความสัมพันธ์มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตได้ดีกว่าผู้ที่ไม่มีการวางเป้าหมายในด้านต่างๆ ไว้ ดังนั้นการเริ่มต้นกำหนดเป้าหมายในแต่ละด้านให้ตัวเองอย่างเป็นรูปธรรมจึงเป็นสิ่งที่หลายคนควรทำ โดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังเผชิญกับภาวะความเครียด โดยที่การเริ่มต้นกำหนดเป้าหมายในชีวิต อาจเริ่มต้นจากเป้าหมายในภาพกว้าง ซึ่งง่ายต่อการสำรวจความต้องการของตนเองก่อน เช่น เป้าหมายการศึกษาต่อ เป้าหมายการเก็บเงินเพื่อเกษียณ เป็นต้น เมื่อเรามีเป้าหมายที่เป็นภาพกว้างในด้านต่างๆ แล้วเราก็จะสามารถกำหนดเป้าหมายย่อย ที่มีรายละเอียด และดูเป็นรูปธรรมมากขึ้นได้
- ทานอาหารที่ส่งผลต่ออารมณ์ การเลือกทานอาหารเป็นวิธีลดความเครียดที่ใกล้ตัว และเริ่มต้นทำได้ง่าย แต่หลายคนก็อาจหลงลืมไป โดยมีอาหาร เครื่องดื่มหลากหลายชนิดที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกในด้านบวกได้ ตัวอย่างเช่น โกโก้ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้ ชาที่ช่วยลดความรู้สึกเหนื่อยล้าได้ อาหารในกลุ่มที่มีวิตามินบี เช่น ไข่ เนื้อสัตว์ ผักใบเขียว มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง ดังนั้นการเลือกทานอาหารที่มีสรรพคุณดังกล่าวนี้ในช่วงเวลาที่รู้สึกเครียด ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ก็เป็นวิธีลดความเครียดที่ได้ผลดีทีเดียว และในขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท เช่น แป้ง ไขมัน ที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ง่ายในช่วงที่ร่างกายกำลังมีสภาวะอารมณ์ ความรู้สึกที่แปรปรวน
- แบ่งเวลาให้กิจกรรมสำหรับการพักผ่อน วิธีลดความเครียด ที่เป็นวิธีพื้นฐาน ได้ผลจริงอีกวิธีก็คือการพักผ่อนทั้งรางกาย และสมองนั่นเอง ด้วยสภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบัน ทำให้หลายคนต้องใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบมากขึ้น และเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนจึงลดน้อยลงไปด้วยนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้เราต้องเผชิญกับภาวะที่สมองและร่างกายไม่มีพลังเพียงพอที่จะรับมือ และจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นคนที่กำลังเผชิญกับภาวะความเครียดอยู่ แทนที่จะเลือกวิธีลดความเครียดด้วยการเร่งจัดการแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ อาจต้องเปลี่ยนมาใช้วิธีลดความเครียดด้วยการแบ่งเวลาสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการพักผ่อนบ้าง โดยเลือกใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ตนเองสนใจ และเว้นว่างจากการคิดถึงปัญหาต่างๆ เช่น อาจใช้เวลาไปกับการดูหนัง ซีรีย์ ไปเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุด ซึ่งสมองและร่างกายที่เปลี่ยนบรรยากาศไปใช้เวลากับการพักผ่อนย่อมกลับมารู้สึกสดชื่นและรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้มีประสิทธิภาพขึ้น
- วิธีลดความเครียดที่เกิดจากปัญหาด้านความสัมพันธ์ วิธีลดความเครียดที่มีสาเหตุมาจากความสัมพันธ์ถือเป็นวิธีที่ทำได้ยากที่สุด เนื่องจากความสัมพันธ์ของคนเราเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ไม่มีขอบเขตของปัญหาที่ชัดเจนเหมือนปัญหาด้านการทำงาน หรือการเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสาเหตุของปัญหามาจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น วิธีลดความเครียดจากปัญหาก็ย่อมต้องอาศัยความร่วมมือจากอีกฝ่ายด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าการจัดการความเครียดที่เกิดจากปัญหาความสัมพันธ์จะเป็นเรื่องยาก แต่เราก็ไม่ควรเพิกเฉย เพราะจะทำให้ปัญหาส่งผลกระทบไปยังด้านอื่นๆ ได้ โดยการแก้ไขรับมือความเครียดจากปัญหาความสัมพันธ์ เริ่มต้นได้ด้วยการพูดคุย การเปิดใจพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจอีกฝ่ายจะช่วยให้ต่างฝ่ายเข้าใจต้นตอของปัญหาได้มากขึ้น และเป็นวิธีลดความเครียดที่ได้ผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อมีการพูดคุย อธิบาย และรับฟังถึงปัญหาแล้ว ความรู้สึกอึดอัด และกดดันจากความสัมพันธ์ก็ย่อมลดน้อยลงไปด้วย แต่กระนั้นปัญหาความสัมพันธ์ของแต่ละคนก็อาจมีรายละเอียด และบริบทที่แตกต่างกัน การจัดการกับปัญหาจึงควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับสถานการณ์ และรูปแบบความสัมพันธ์เป็นหลัก
- ปรึกษาแพทย์ นักจิตวิทยา เป็นวิธีลดความเครียดที่ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลายคนที่ไม่อาจจัดการกับความเครียดด้วยตัวเองได้ หรือภาวะความเครียดส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันมากเกินไป เช่น มีปัญหานอนไม่หลับติดต่อกันเป็นเวลานาน มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ ก็คือการปรึกษาแพทย์ หรือนักจิตวิทยา โดยการบอกเล่ารายละเอียดปัญหา เหตุการณ์ต่างๆ ที่เผชิญและอาจเป็นสาเหตุของความเครียด เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ซึ่งจะทำให้ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีลดความเครียดที่ถูกต้องเหมาะสม และอาจได้รับการรักษาทางกายภาพ ได้รับการจ่ายยาบางตัวจากแพทย์เพื่อปรับสมดุลเคมีในร่างกายให้มีภาวะปกติด้วย
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎