มารยาททางสังคม ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข เพราะถือเป็นสิ่งที่จะช่วยป้องกันและปกป้องสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานได้แบบง่ายๆ เนื่องจากสังคมเกิดจากการอยู่ร่วมกันของหลายๆผู้คนและ หลายๆครอบครัว ทุกคนจึงควรรู้ ว่าอะไรควร หรือ ไม่ควรปฏิบัติในสังคม คล้ายกับ กฎ กติกาที่ใช้ร่วมกัน เพราะเรื่องมารยาทในบางครั้งก็ไม่ใช่แค่สิ่งภายนอก แค่น่ามองเพียงอย่างเดียว แต่ยังบ่งบอกถึงการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยที่ไม่เบียดเบียนหรือสร้างความรำคานใจ รวมทั้งการเป็นมลพิษให้ทางสังคมด้วย  หากใครอยากรู้ทริคมารยาทง่ายๆ ให้ได้ลุค ดูมีมารยาท ดูดีได้แบบไม่ต้องพึ่งตำราเล่มไหน ! ก็ไปดูกันได้เลย

รวมทริค มารยาททางสังคม ช่วยให้ดูดี มีมารยาทได้ง่ายๆ

ทริคการสวมใส่เสื้อผ้า แต่งกาย

          แม้การแต่งกายในปัจจุบันจะเปิดกว้างมากขึ้น แถมยังได้รับกระแสแทรนด์การแต่งตัวแบบใหม่มาจากหลากหลายประเทศ แน่นอนว่าการแต่งกาย สวมใส่เสื้อผ้าของแต่ล่ะคนนั้นเป็นสิทธิของเพื่อนๆแต่ล่ะคน หากไม่ถึงขนาดโป๊เปลือย หรือ  อนาจาร แต่ในเรื่องของมารยาททางสังคม การแต่งกายในสถานที่ที่ดูมีความจริงจังขึ้นมาหน่อย ไม่ว่าจะเป็นในบริบทต่างๆก็ควรที่จะแต่งตัวให้ถูกต้องตามกาลเทศะด้วย

          หากพูดถึง กาลเทศะ ก็คงจะหมายถึง ความเหมาะสม รู้ว่าสิ่งไหนควรทำ หรือไม่ควรทำ เหมาะกับเวลาและสถานที่ต่างๆหรือไม่ แม้แต่เรื่องเสื้อผ้า การแต่งกายก็ถือเป็นอีกมารยาทพื้นฐานทางสังคม สิ่งที่ควรคำนึงถึงกาลเทศะเช่นกัน เช่นการแต่งตัวไปเรียน ไปงานแต่งงาน หรือ ออกงาน ไปสถานที่ราชการ วัดวาอารามต่างๆ ก็ควรที่จะแต่งกายให้เหมาะสมกับสถานที่เพื่อให้เกียรติสถานที่ และดูเหมาะกับสถานที่นั้นๆ รวมถึงช่วงเวลาและโอกาสที่ได้เข้าร่วมด้วยล่ะ ถือเป็นอีกทริคที่ช่วยให้เพื่อนๆดูดีผ่านมารยาทและกาลเทศะในการแต่งตัวได้แบบง่ายๆเลย

ทริคทานอาหารยังไง ให้ดูมีมารยาท

          “มารยาทบนโต๊ะอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถทานอาหารร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข แถมยังช่วยทำให้บุคลิกภาพดูดีขึ้นได้อีกด้วย จริงๆแล้วเรื่องของการทานอาหารร่วมกับผู้อื่น โดยหลักๆในเรื่องของมารยาทก็มีไม่เยอะมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกาลเทศะ ในบางสถานที่ บางโอกาส และบางเวลาด้วย เพราะอาจจะต้องเคร่ง เรื่องมารยาทในการทานอาหารมากขึ้นกว่าเดิมมาอีกหน่อย

ตัวแปลที่จะทำให้กฎ กติกาเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหารเปลี่ยนไปได้ก็คือ สถานที่ เพราะบางประเทศก็จะมีเรื่องมารยาทในเรื่องของการร่วมโต๊ะอาหารที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้วก็จะเป็นในการทานอาหารซะส่วนใหญ่ที่ควรมีมารยาทขั้นพื้นฐานต่อกันไว้ เช่น  ไม่เคี้ยวเสียงดัง ไม่กินอาหารมูมมาม ควรใช้ช้อนกลางในการตัดอาหาร และไม่เอื้อมตักอาหารข้ามหัวผู้อื่น รวมทั้งไม่เอาเท้าตั้งบนโต๊ะอาหาร และควรตักอาหารแต่พอดีกับที่ตนเองทานหากหมดแล้วค่อนตักเพิ่มก็ช่วยให้สามารถทานอาหารได้ดูดี มีมารยาทได้ง่ายๆแล้วล่ะ

การพูดคุยกับผู้อื่น พูดยังไงน่ารัก ดูมีมารยาท

          การพูด ถือเป็นการสื่อสารระหว่างกันที่คนสองคน หรือ หลายๆคนในสังคมมักจะใช้คุยกันหรือสื่อความหมายเข้าใจกันในบริบทต่างๆทั่วไป แม้การพูดจะดูเหมือนจะเป็นเรื่องเบสิคง่ายๆที่หลายๆคนมักจะรู้กันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีเรื่องกาลเทศะเข้ามาด้วย จึงทำให้เรื่องมารยาทในการพูด ถือเป็นมารยาทพื้นฐานทางสังคม อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้มารยาทในเรื่องอื่นเลย เพราะทักษะการพูด หรือบริบทคำพูดก็ยังบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยใจคอของผู้พูดได้อีกด้วย มารยาทการพูดหลักๆ ก็คือ ควรพูดแบบมีหางเสียงกับผู้อื่นที่ไม่สนิท พูดขอบคุณเมื่อได้รับสิ่งของ หรือได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น พูดขอโทษเมื่อทำผิด ไม่พูดจาเสียดสี หรือ พูดคำหยาบกับผู้อื่น ไม่พูดแทรกในขณะที่ผู้อื่นพูด เพียงเท่านี้ก็สามารถรักษาเรื่องมารยาทในการพูดง่ายๆได้แล้วล่ะ

การทักทาย

          การทักทายเมื่อเจอกัน หรือ พบหน้ากัน ในแต่ล่ะประเทศนั้นจะมีการทักทายที่แสดงออกแตกต่างกันออกไป ตามวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศแต่ล่ะประเทศ หากพูดถึงมารยาทในการทักทายในบ้านเราก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่การไหว้ ซึ่งแต่เดิมมานั้นการไหว้ทักทายที่แสดงออกถึงความเคารพนับถือ ก็ยังถือเป็นการทักทายกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันอีกด้วยล่ะ โดยจะแบ่งการไหว้เป็น 3 ระดับ คือ

• ระดับที่ 1:การไหว้เพื่อนฝูง บุคคลทั่วไปรวมทั้งเพื่อนๆที่มีอายุเท่ากัน คือ ไหว้ระดับหน้าอก
• ระดับที่ 2:การไหว้ผู้อาวุโส หรือ ไหว้บุคคลที่เคารพนับถือ คือ การไหว้ระดับใบหน้า โดยให้นิ้วชี้จรดระหว่างคิ้ว
• ระดับที่ 3:การไหว้พระรัตนตรัย สำหรับใครที่นับถือศาสนาพุทธ ไหว้ระดับศีรษะ ให้นิ้วชี้จรดเหนือหน้าผากเพื่อไหว้พระรัตนตรัย รวมเรียกง่ายๆว่าการไหว้พระนั้นเอง

การไหว้อย่างเหมาะสมก็ถือเป็นเอกลักษณ์และแสดงถึงความเคารพนับถือแบบไทยๆอย่างถูกกวิธีอีกด้วย

มารยาทในการใช้โซเชี่ยลต่างๆ

เนื่องจากในปัจจุบันมีสื่อออนไลน์มากมายที่เพื่อนๆสามารถเข้าถึงการใช้งานได้เพียงแค่ปลายนิ้ว นอกจากจะใช้งานได้ง่ายแล้ว การแสดงออกทางความคิด หรือ สื่อต่างๆเพื่อให้คนในสังคมได้เห็นหรือเข้าใจถึงสิ่งที่ทุกคนต้องการจะสื่อสารผ่านรูปภาพ วิดีโอ รวมทั้งการพิมพ์ ก็ยังสามารถทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

          มารยาทในการใช้สื่อโลกออนไลน์ การเล่นโซเชี่ยลต่างๆจึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรมี เช่นการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะไม่ว่าจะเป็นในโพสต์ เฟซบุ๊กของคนอื่น หรือ ในกลุ่มแชทของตัวเองก็ควรที่จะใช้ข้อความที่สุภาพไม่เสียดสี หรือ สร้างข่าวลวงให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย แม้แต่ภาพที่โพสต์ลงโซเชี่ยลหากติดภาพ หรือ ถ่ายวีดีโอผู้อื่นอยู่ก็ควรที่จะได้รับความยินยอมก่อนด้วย

โดยจะเห็นได้ชัดว่ามารยาทกับกฎหมายเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันโดยตรง เพราะในปัจจุบันก็มี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ที่ออกมาลงโทษผู้คนที่ไร้มารยาทในสังคมโซเชี่ยลมากมาย มารยาทในการใช้โซเชี่ยลจึงถือเป็นสิ่งที่จำเป็น และควรค่าแก่การ ปฏิบัติกันอย่างมากเช่นกันล่ะ นอกจากจะช่วยให้ไม่ถูกลงโทษทางกฎหมายแล้ว ก็ยังแสดงถึงทัศนคติและมารยาททางสังคมที่ดีงามอีกด้วย ใครอยากใช้โซเชี่ยลอย่างถูกวิธี ก็อย่าลืมมารยาทในการใช้โซเชี่ยลกันนะ

มารยาทในการใช้สถานที่ และบริการสาธารณะต่างๆ ให้ไม่ถูกมองแรง !

          มารยาทในการใช้สถานที่ และบริการสาธารณะต่างๆก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเกี่ยวกับมารยาทแล้วก็ยังเกี่ยวเนื่องกับสิทธิของเพื่อนๆทุกคนอีกด้วย เพื่อไม่ให้ไปกระทบต่อสิทธิของคนอื่น รวมทั้งไม่เป็นการเอาเปรียบคนอื่นด้วย มารยาทในการใช้บริการสถานที่ต่างๆ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ล่ะสถานที่ เช่น โรงพยาบาล ในสถานศึกษา รวมทั้งห้องสมุด สวนสาธารณะ เคสตัวอย่างเช่น การเคารพกฎในสถานที่นั้นๆ หากไปใช้บริการห้องสมุดก็ไม่ควรส่งเสียงดงรบกวนผู้อื่น หรือ หากอยู่ในห้องเรียนในบริบทที่ครูกำลังสอนอยู่ก็ไม่ควรพูดคุยเสียงดังนั้นเอง

          ส่วนในเรื่องของการใช้บริการสาธารณะ เช่นการยืนรอรถ ควรต่อแถวไม่ควรรีบแย่งขึ้นไป หรือ แซงคิวคนอื่น ถือว่าเป็นเรื่องเบสิกที่หลายๆคนมักจะรู้อยู่แล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร หากใครอยากให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น มารยาทในการใช้สถานที่ และบริการสาธารณะก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ควรค่ารักษากันไว้นั้นเอง

          มารยาททางสังคมถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะในสังคมจะน่าอยู่ได้หากหลายๆคนพึ่งนึกถึงคนอื่นและไม่เอาเปรียบคนอื่น แถมกาลเทศะยังแสดงถึงการแสดงออกอย่างเคารพและเอื้อพื้นที่ ทางความรู้สึก หรือทางสังคมให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย หากเพื่อนๆรู้แล้วว่ามารยาทที่จะช่วยให้ทุกคนดูดีขึ้นได้ทั้งกายและใจมีอะไรบ้าง ก็อย่าลืมไปลองใช้ปฏิบัติดูกันได้ ไม่แน่ว่าชีวิตช่วงวุ่นๆอาจจะดูง่ายดายขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ