อยากผอมแต่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย แค่ลุยกับงานแต่ละวันก็เหนื่อยจนแทบสลบแล้ว แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เสียทีเดียว เพียงแต่ต้องลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ Yoyo Effect และเสียสุขภาพ วันนี้เรามีเทคนิคการลดน้ำหนักแบบไม่ออกกำลังกาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านดูแลสุขภาพยืนยันว่าระบบเผาผลาญไม่พังและเห็นผลจริงแน่นอน
1. ลดการกินแป้งและน้ำตาล
การบริโภคคาร์โบไฮเดรตมาก ๆ เมื่อถูกเผาผลาญจะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นพรวด ๆ โดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นถ้าจะลดน้ำหนักให้ได้ผลก็ควรลดกินอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม กาแฟหรือชาใส่น้ำตาล ชานมไข่มุก เค้ก เบเกอรี่ และอาหารหวาน ๆ รวมทั้งสารแทนความหวานด้วยเช่นกัน
2. ลดอาหารทอดหรือไขมันสูง
อาหารทอด ๆ มัน ๆ น่าจะเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน แต่เมื่อต้องการลดน้ำหนักก็ควรลดการบริโภคให้น้อยลง แล้วหันไปกินอาหารที่มีไขมันชนิดดีอย่างเช่นปลาทะเล น้ำมันมะกอก นมพร่องมันเนย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายได้รับไขมันมากเกินไป เพราะหากเผาผลาญไม่หมดก็จะเป็นไขมันสะสมในร่างกายอยู่ดี
3. ดื่มน้ำมะนาวตอนเช้า
หลังตื่นนอนตอนเช้าลองดื่มน้ำอุ่นที่ผสมน้ำมะนาวเล็กน้อยและใส่มะนาวฝานลงไปด้วย ดื่มวันละแก้วเพื่อดีท็อกซ์และเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานมากขึ้น ทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลชัดเจนกว่าเดิม เพราะการดื่มน้ำอุ่นตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่ายนั่นเอง
4. ปรับการกินอาหารเช้าใหม่
จากที่เคยกินอาหารเช้าแบบเดิม ๆ อะไรก็ได้ ถ้าจะลดน้ำหนักให้ได้ผลก็ต้องปรับการกินใหม่ด้วยอาหารที่มีประโยชน์ ตัวอย่างเช่นอาหารเช้าประจำประเภทข้าวเหนียวหมูปิ้งหรือข้าวมันไก่ เปลี่ยนมาเป็นธัญพืชปริมาณ 1 ถ้วย คู่กับโยเกิร์ตรสธรรมชาติไม่มีน้ำตาลหรือนมอัลมอนด์ จะช่วยให้ย่อยง่ายขึ้นแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
5. เน้นโปรตีนในอาหารมื้อกลางวัน
มื้อกลางวันยังคงเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ แต่จะเน้นปริมาณโปรตีนสูงเป็นหลัก เช่น ไข่ต้ม 2 ฟอง อกไก่ กินคู่กับสลัดผักหรือผักสดที่ชื่นชอบ เพราะอกไก่และไข่ต้มนั้นมีไขมันต่ำและพลังงานต่ำ หรืออาจจะเป็นเมนูเกาเหลาที่ใส่ผักเยอะ ๆ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักหรือดูแลรูปร่าง
6. อาหารมื้อเย็นต้องให้แคลอรี่ต่ำ
อย่างที่เราทราบกันดีว่าอาหารมื้อเย็นคือตัวการสำคัญที่ทำให้เราลดน้ำหนักยาก ดังนั้นควรควบคุมอาหารโดยเลือกเมนูที่ให้พลังงานต่ำ หรือให้แคลอรี่น้อยสุดรองจากมื้อเช้าและมื้อกลางวัน กินมื้อเย็นเบา ๆ แต่อิ่มท้องก่อนเข้านอน 4 – 6 ชั่วโมง ถ้าช่วงดึกหิวจริง ๆ ให้กินผลไม้หวานน้อยและดื่มน้ำเปล่าแก้วโต ๆ จะช่วยลดความหิวได้เป็นอย่างดี
7. เพิ่มผักหรือใยอาหารในทุกมื้อ
ระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่ทำงานมีประสิทธิภาพดี จะช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลอย่างรวดเร็วมากขึ้น เพียงแค่เพิ่มผักใบเขียวและผลไม้ที่มีใยอาหารสูงในทุกมื้ออาหารก็จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น ส่วนระบบขับถ่ายพอทำงานอย่างเป็นระบบ รับรองว่าไขมันส่วนเกินในร่างกายจะหายไปอย่างแน่นอน
8. กินอาหารว่างวันละ 2 มื้อ
อาหารว่างที่ว่านี้หมายถึงผลไม้สดหวานน้อยหรืออาหารเบา ๆ ที่ให้พลังงานต่ำเท่านั้น ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวหรือของหวานที่เคยชื่นชอบ ถ้าอยากกินของหวานจริง ๆ ลองหันมากินอัลมอนด์ ธัญพืชอบกรอบ หรือขนมเจลาตินชนิด Sugar – Free โดยกินในปริมาณที่เหมาะสมแค่พออิ่มท้องระหว่างมื้อ
9. กินโซเดียมให้น้อยลง
เนื่องจากเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้อาหารมีรสชาติอร่อยขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีส่วนประกอบของโซเดียมไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นการปรุงรสอาหารมาก ๆ จะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะบวมน้ำและทำให้ลดน้ำหนักยากอีกด้วย
10. นอนหลับให้ครบ 8 ชั่วโมง
วิธีนี้อาจจะดูเหมือนไม่ได้ช่วยอะไร แต่หากเราสังเกตช่วงอดนอนบ่อย ๆ ให้ดีจะพบว่าน้ำหนักขึ้นพรวดพราดง่ายมาก อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ถ้าเรานอนหลับอย่างมีคุณภาพอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง ก็จะสามารถควบคุมน้ำตาลและไขมันจนสามารถลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพได้
11. เล่นโยคะบ่อย ๆ
ถึงเราจะขี้เกียจออกกำลังกายหรือไม่ค่อยมีเวลาก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่าการเล่นโยคะนั้นช่วยยืดเส้นยืดสายแก้ปวดเมื่อย ทั้งยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อแขน ขา และหน้าท้องได้ดี โยคะบางท่าก็ช่วยลดน้ำหนักโดยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานเป็นปกติ จะทำตอนดูซีรีส์หรือก่อนนอนประมาณ 15 นาทีก็ได้
12. ฝึกพฤติกรรมวิธีลดน้ำหนักที่ดี
หลายคนมีลักษณะนิสัยที่นำไปสู่โรคอ้วนได้ง่าย ดังนั้นเมื่อต้องการลดน้ำหนักก็ควรฝึกตัวเองให้มีพฤติกรรมการลดน้ำหนักที่ดี เช่น การเตรียมอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพไว้ใกล้ ๆ พอรู้สึกหิวก็กินแทนขนมขบเคี้ยวหรือของไม่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นถั่วอบแห้ง ธัญพืชอบกรอบ ผลไม้หวานน้อยแช่เย็น นอกจากจะมีใยอาหารสูงแล้วยังช่วยให้รู้สึกอิ่มไวด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องมีความมั่นใจและมุ่งมั่นที่จะอยากประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักให้ได้ เพราะฉะนั้นในเมื่อไม่อยากออกกำลังกายหรือไม่ค่อยมีเวลา ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปฏิบัติปรับใช้กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองกันนะคะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎