หากใครเคยเรียนวิชาพระพุทธศาสนาหรือมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธโดยตรง คงเคยมีประสบการณ์การแผ่เมตตาหลังจากที่ทำการสวดมนต์หรือนั่งสมาธิเสร็จ ซึ่งบทสวดเหล่านั้นประกอบไปด้วยภาษาบาลีและสันสกฤต ซึ่งในฐานะที่เราเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่ได้เรียนภาษาเหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง คงจะไม่ทราบได้ว่ามันมีความหมายอย่างไร แต่พระสงฆ์ก็มักแนะนำให้ทำการแผ่เมตตาหลังจากที่เราได้ปฏิบัติคุณงามความดี ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำทานซึ่งหมายถึงการให้สิ่งต่าง ๆ แก่สรรพสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ อย่างไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งเป็นการทำความดีอีกชนิดหนึ่งที่สามารถทำได้ง่ายมากกว่าข้ออื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด หรือการรักษาศีล ซึ่งจริง ๆ แล้ววิธีการนี้มีหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นสำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไป สำหรับแม่ชี สำหรับสามเณรหรือแม้กระทั่งสำหรับพระภิกษุสงฆ์ อีกส่วนของการทำบุญที่ได้อานิสงส์มากกว่าข้อปฏิบัติอื่น ๆ ตามหลักคำสอนนั่นก็คือการเจริญสมาธิหรือภาวนาเพื่อเข้าถึงแนวทางปฏิบัติที่สำคัญของพระพุทธศาสนา อันเป็นวิถีทางที่จะเข้าไปถึงแก่นแท้ของความเป็นพุทธ ซึ่งเมื่อนำมารวมกันจะถูกเรียกว่าทาน ศีล ภาวนา ซึ่งเป็นวิธีการสั่งสมบุญที่ชาวพุทธควรกระทำและหลังจากที่ปฏิบัติเสร็จสิ้นแล้ว ควรทำการแผ่เมตตาทุกครั้งเพื่อแบ่งปันส่วนบุญต่าง ๆ ให้กับเพื่อนร่วมโลกด้วย
บท บทสวดมนต์แผ่เมตตา มีกี่แบบและพูดถึงอะไรบ้าง
จริง ๆ แล้วการแผ่เมตตานั้นจะเป็นภาษาบาลีสันสกฤต ซึ่งการค้นหาบทแผ่เมตตาที่มีคำแปลจะทำให้เราเข้าใจถึงความหมายของคำเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นและรู้ว่าในแต่ละบทสวดนั้นควรจะระลึกถึงอะไร อันจะทำให้เกิดอานิสงส์จากการแผ่ส่วนบุญได้ทั่วถึงมากที่สุด ซึ่งในวันนี้เราจะอธิบายถึงคำแปลและบทสวดแผ่เมตตาว่ามีกี่ประเภทที่เราควรทำความเข้าใจกันบ้าง
- แผ่เมตตาให้กับตนเอง ซึ่งในความหมายของมันจะเป็นการขอพรให้มีแต่ความสุขความเจริญและไร้ซึ่งผู้ที่ปองร้าย
- การแผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวรและบุคคลอื่นที่เรามีความประสงค์จะส่งต่อบุญกุศลให้ โดยความหมายของมันคือการขอพรให้สรรพสัตว์ทั้งหลายที่อยู่บนโลกใบนี้เข้าถึงความสุขและรสพระธรรมโดยไร้ซึ่งความทุกข์ทรมานอย่างสิ้นเชิง
- การแผ่เมตตาไปให้กับสิ่งมีชีวิตทั่วไป ซึ่งในคำแปลของบทสวดจะพูดถึงการขอให้เหล่าสรรพสัตว์ที่มีอยู่บนโลกใบนี้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่เบียดเบียนหรืออาฆาตมาดร้ายต่อกัน
นอกจากนี้ในบาง บทสวดมนต์แผ่เมตตา จะมีการกล่าวถึงเจ้ากรรมนายเวร ดวงวิญญาณต่าง ๆ ที่สิงสถิตอยู่ทั้งสามโลก บิดามารดาผู้มีพระคุณและครูบาอาจารย์ เพิ่มเติมเข้ามาด้วยเพื่อเป็นการส่งต่ออานิสงส์ไปยังบุคคลเหล่านี้ให้ได้รับซึ่งความสุขจากสร้างบุญกุศลด้วย
ข้อดีที่เห็นผลทันตาเห็นสำหรับคนที่ท่อง บทสวดมนต์แผ่เมตตา เป็นเนืองนิจ
สำหรับคนที่ทำท่อง บทสวดมนต์แผ่เมตตา หลังจากที่มีการปฏิบัติธรรมหรือได้ทำคุณงามความดีมาแล้ว จะเห็นได้ว่ามีสิ่งดี ๆ ตามมาหลังจากที่คุณมีกิจวัตรแบบนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราจะขอนำข้อดีของมันให้ทราบร่วมกันอย่างคร่าว ๆ ดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหาคนที่มีอาการนอนหลับยาก เพราะการแผ่เมตตานั้นถือเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่งคือการรวบรวมจิตใจเอาไว้ให้จดจ่ออยู่ที่การท่องบทสวด อีกทั้งยังมีการระลึกถึงสรรพสัตว์และสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างการสวดมนต์อีกด้วย จึงทำให้ผู้ที่แผ่เมตตามีจิตใจที่สงบและสามารถพักผ่อนนอนหลับได้อย่างปกติสุข
- สำหรับคนที่ทำการแผ่เมตตาเป็นประจำ จะทำให้การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างมีความสุข เพราะไม่คิดจะเบียดเบียนใครและติดนิสัยส่งต่อความดีอยู่เสมอ
- ในระหว่างการนอนหลับพักผ่อนหลังจากที่มีการแผ่เมตตานั้น คุณจะพบว่าคืนนั้นจะไร้ซึ่งเรื่องเลวร้ายหรือฝันร้ายต่าง ๆ ออกไปอย่างสิ้นเชิง
- ด้วยการขัดเกลาจิตใจจากบทสวดมนต์และการแผ่เมตตาอย่างใจกว้างนั้น จะทำให้คุณกลายเป็นที่ยอมรับและถูกรักจากบุคคลต่าง ๆ ที่อยู่ร่วมกันได้ง่ายขึ้น
- ผู้ที่ทำการแผ่เมตตาให้กับภูตผีปีศาจหรือปีศาจต่าง ๆ นั้นจะกลายเป็นที่รักและอาจจะถูกคุ้มครองจากสิ่งที่มองไม่เห็นด้วย
- แน่นอนว่าในการแผ่เมตตานั้นจะมีการส่งอานิสงส์ไปถึงเทวดาและนางฟ้าด้วย ซึ่งคุณจะถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้คุ้มครองดูแลให้พ้นจากภยันตรายทั้งหลายไปอย่างมีปาฏิหาริย์
- ด้วยคุณความดีต่าง ๆ ที่ปฏิบัติก่อนการแผ่เมตตา จะทำให้คุณรอดพ้นจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่งในทุก ๆ สถานการณ์
- คุณจะกลายเป็นคนที่มีความสงบอยู่ในจิตใจอย่างไม่ต้องฝึกฝนอะไรมากนัก เพราะในระหว่างการท่องบทสวดมนต์หรือแผ่เมตตานั้นถือเป็นการฝึกจิตใจให้ไร้ซึ่งการปรุงแต่งอยู่แล้ว จึงทำให้เรากลายเป็นคนที่มีความสงบสุขมากขึ้นกว่าเดิมไปโดยปริยาย
- เมื่อจิตใจมีความสุขจากการส่งมอบส่วนบุญไปให้สิ่งต่าง ๆ ด้วยแล้ว ก็จะทำให้สุขภาพหรือกายภาพภายนอกมีความอิ่มเอิบมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสังเกตได้จากผิวพรรณต่าง ๆ มีความผ่องใส โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องประทินผิวใด ๆ เลยทั้งสิ้น
- เมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิตเราจะเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ของการสวดมนต์และแผ่เมตตาเป็นประจำนั้นจะทำให้การก้าวไปสู่ความตายเป็นไปอย่างมีสติและสงบได้อย่างเหลือเชื่อ
นอกจากนี้ยังมีข้อดีจากการทั้งหมดสวดมนต์และแผ่เมตตาอย่างสม่ำเสมออีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่ามันจะทำให้จิตใจของผู้สวดมนต์นั้นมีความผ่องใสและสงบสุขขึ้นอันจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยความสงบสุขในทุก ๆ วันได้อย่างแน่นอน
ร่วมแหล่งฝึกท่อง บทสวดมนต์แผ่เมตตา ตามสถานที่ที่น่าสนใจ
จริง ๆ แล้วการทำความดีนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือกทำที่ไหนหรือสถานที่ใดเป็นพิเศษ เพราะมันสามารถปฏิบัติอยู่ภายในใจของผู้ที่มีความเชื่อถือได้ทุกที่ แต่หากพบว่าตนเองเป็นผู้ที่ไม่ค่อยมีสติในระหว่างการสวดมนต์มากนัก หรือเป็นคนสมาธิสั้นก็อาจเลือกใช้สถานที่ในการสวดมนต์มาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสงบสุขให้กับชีวิตได้ตามสถานที่ที่เราจะแนะนำดังต่อไปนี้
- วัด แน่นอนว่าวัดจะมีการประกอบพิธีทางศาสนาในทุก ๆ วันคุณอาจจะอาศัยช่วงที่พระกำลังทำวัตรหรือทำพิธีต่าง ๆ ของสงฆ์อยู่ เพื่อเข้าไปร่วมสวดมนต์และทำการแผ่เมตตาได้อย่างปกติสุข ซึ่งก่อนที่จะเดินทางเข้าไปนั้นควรทำการขออนุญาตและเดินทางเข้าไปร่วมสวดมนต์อย่างถูกกาลเทศะด้วย
- โรงเรียน จริง ๆ แล้วโรงเรียนในประเทศไทยมักจะเป็นโรงเรียนที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาพุทธโดยตรง จึงมีการบูรณาการเอาศาสนาและสถานศึกษาควบรวมเข้าด้วยกัน โดยจะเห็นได้ว่ามีวิชาที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องบทสวดมนต์และแผ่เมตตาอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่สนใจสามารถฝึกฝนบทสวดเหล่านี้ในโรงเรียนได้
- สถานปฏิบัติธรรม สถานที่ในข้อนี้มีความคล้ายคลึงกันกับวัดอยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างบุญกุศลจากการภาวนา จึงมีการท่องบทสวดมนต์และแผ่เมตตาอยู่เสมอ
- ห้องพระ สำหรับคนที่นับถือศาสนาพุทธมักจะมีการสร้างห้องพระแยกออกมาจากห้องอื่นๆอย่างชัดเจนซึ่งมีความสงบและเหมาะแก่การฝึกท่องบทสวดมนต์และแผ่เมตตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวเกี่ยวกับการท่อง บทสวดมนต์แผ่เมตตา ที่ชาวพุทธควรทำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งผลลัพธ์ของมันจะทำให้ชีวิตของผู้ปฏิบัติมีความเจริญรุ่งเรืองและสงบสุขอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน อย่างไรก็ตามสำหรับคนศาสนาอื่น ๆ ที่มีความสนใจอยากร่วมสร้างความสงบสุขให้กับจิตใจอย่างแข็งแกร่งก็สามารถค้นหาบทสวดมนต์และบทแผ่เมตตาทั้งแบบหนังสือธรรมดาหรือ e-book ที่มีอยู่ทั่วไปมาลองฝึกฝนแบบเริ่มต้นกันได้ รับรองว่าเมื่อปฏิบัติเป็นประจำเรื่องราวดี ๆ จะต้องเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณอย่างแน่นอน
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎