คงไม่ต้องเสียเวลาให้ยืดเยื้ออีกต่อไป หรือต้องเล่าอะไรให้มากมายไปกว่านี้กับเรื่องราวความใหญ่ของค่ายซูปเปอร์ฮีโร่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Marvel Studios ที่สร้างความสุข สร้างความพีค สร้างความเพลิดเพลินสู่สายตาคนดูมากมายเป็นเวลาสิบปีแล้ว ตั้งแต่ยุค Iron Man ปี 2008 ผ่านร้อนผ่านหนาว หมดงบไปหลายต่อหลายล้าน ผ่านหนังกว่า 20 เรื่อง สู่บทตำนานอย่าง Avengers: Endgame ที่ฉายเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา กับกระแสตอบรับที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ และถึงแม้ว่าหนังจะจบไปแล้วแต่ความสนุกจากทาง Marvel ก็ยังไม่จบ ยังคงมีผลงานออกมาอีกเรื่อยๆ และในปัจจุบันก็นำเสนอ Phase 4 ออกมาได้อย่างสวยงามทั้ง “Shang-Chi”, “Eternals”, “Black Widow”, “Moon Knight”, “Dr.Strange in the Multiverse of Madness”, “Thor: Love and Thunder”, “Ms.Marvel”, “Spiderman: No Way Home” และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งในคราวนี้จะมีเรื่องอะไรบ้างเราจะหยิบยกมาเล่าแบบบางส่วนกัน

ส่งท้ายอย่างสวยงามและน่าจดจำเพื่อปูจักรวาลใหม่ให้เข้มข้นกว่าเดิม

เริ่มต้นกันเลย กับเดือนพฤศจิกายนนี้กับหนังภาคต่อจากซูปเปอร์ฮีโร่เสือดำอย่าง “Black Panther: Wakanda Forever” ที่ปล่อย Trailer ออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ที่เรียกได้ว่าแค่ตัวอย่างก็เรียกความสะเทือนอารมณ์แบบสุดๆ กับการเปิดมาเพื่อเป็นการไว้อาลัยและความเศร้าโศกเสียใจถึงกษัตริย์ “ทีชาลา” รวมถึงนักแสดงนำก็ได้จากไปแล้วในชีวิตจริง ด้วยโรคมะเร็ง สร้างความเศร้าโศกเสียใจมาสู่แฟนคลับจำนวนมากเลยทีเดียว แต่สำหรับในภาคนี้แฟนคลับหลายคนก็คาดเดาว่าอาจจะเป็นสงครามระหว่างวาคานด้ากับแอตแลนทิสที่นำทีมโดย “นามอร์” จากใต้บาดาล ภายใต้ความขัดแย้งและการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะคาดเดา ที่ครั้งนี้ชะตากรรมของวาคานด้ากำลังจะเปลี่ยนไป ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เชื้อเชิญให้ทุกคนไปพิสูจน์พร้อมเพรียงกันในโรงภาพยนตร์

อีกเรื่องหนึ่งเมื่อการปรากฏตัวของ Avengers รุ่นเดอะ ซึ่งตัวละครแต่ละตัวก็มีบทสรุปเป็นของตัวเองไปแล้วอย่าง Iron Man กับ Black Window ก็ได้ตายไปแล้ว “Captain America” และ “Hawkeye” ก็ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ รวมถึง Hawkeye ก็ได้มีซีรีส์เป็นของตัวเองแล้วในตอนนี้ “Thor” เองก็ได้มีหนังตัวเองร่วมกันกับ “Guardians of the Galaxy” ส่วนคราวนี้ก็ได้เวลาตัวละครตัวสุดท้ายที่จะไปร่วมโผล่ในซีรีส์ของ “She-Hulk: Attorney at Law” กับเรื่องราวของทนายสาววัยเลขสาม กับทางเลือกในด้านหน้าที่การงาน ความรัก และการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งจะสามารถรับชมกันได้ในเดือนสิงหาคม 2022 นี้

ซีรีส์และหนังในอนาคต

ต่อมาเรามาโฟกัสที่โปรแกรมที่จะโผล่มาใน Phase 5 กันดีกว่าเริ่มต้นกันที่ “Loki Season 2” หลังจากที่เรียกได้ว่าจบกันแบบค้างเติ่ง จนทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอว่าเมื่อไหร่ Season 2 จะโผล่มาสักที ซึ่งจะมีให้ได้รับชมกันในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า รอดูกันได้เลย

ต่อมาเลยก็คือ “Guardians of the Galaxy Vol. 3” กับเหล่าสหายเด็กกำพร้าพิทักษ์จักรวาลที่นำทีมความรั่วโดย “สตาร์ ลอร์ด” ที่ส่งต่อความฮามาแล้วถึงสองภาค แถมยังไปช่วยปราบ “ธานอส” ใน Avengers ทั้ง 2 ภาคก่อนหน้าอีกด้วย ที่สำคัญยังไปป่วนใน Thor: Love and Thunder อีกด้วย และตอนนี้ทาง Marvel ก็กำลังจะปล่อยหนังการ์เดี้ยนมาอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งเสียงลือเสียงเล่าอ้างบอกว่าอาจจะเป็นตอนสุดท้ายของเหล่าตัวละครพวกนี้ก็เป็นได้ ซึ่งจากข้อมูลของ Marvel เล่าว่าจะสามารถรับชมได้ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2023

ไปกันต่อกับอีกเรื่องหนึ่งอย่าง “Agatha: Coven of Chaos” ที่หลังจากที่ได้ปรากฏตัวในซีรีส์ WandaVision ที่ผ่านมาแล้ว ที่คราวนี้จะได้มีซีรีส์เป็นของตัวเองกันสักที ซึ่งคราวนี้จะได้รับชมกันในช่วงฤดูหนาวปี 2023 จากข้อมูลของทาง Marvel

ต่อมากับตัวละครที่ใครหลายต่อหลายคนรอคอยอย่าง “Daredevil” ด้วย “Daredevil: Born Again” ที่มีคนบอกว่าคราวนี้มีมากถึง 18 ตอนด้วยกัน ที่ได้นักแสดงชุดเดิมกลับมาร่วมแสดงกันอีกครั้ง ที่จะได้รับชมกัน ในปี 2024 นี้ซึ่งหลายคนก็คาดหวังว่าเรื่องนี้จะต้องสนุกกันแบบแน่ๆ

อีกเรื่องหนึ่งที่กำลังจะกลับมาให้แฟนๆ Marvel ได้หายคิดถึงกันคือเรื่องของ “Blade” นั่นเอง ที่เรียกได้ว่ามันกันแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยกันเลยทีเดียว ทำเอาแฟน Marvel หลายคนตาค้างกันไปตามๆกัน ซึ่งจะมีคิวเข้าฉายในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2023

อีกหนึ่งตัวละครที่ใครหลายคนโปรดปรานหลังจากที่จบ “Spiderman: No Way Home” ที่คราวนี้จะกลับมาในรูปแบบซีรีส์ให้ได้หายคิดถึงกันกับเรื่องของ “Spider-Man: Freshman Year” ที่ต้องมาดูกันว่าการขึ้นปีหนึ่งนี้มันจะวุ่นวายขนาดไหนกัน ซึ่งจะมีให้รับชมกันในปี 2024 นี้

ยัง! ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ “What If…? Season 2” กำลังจะคืนสู่จออีกครั้ง หลังจากที่ Marvel ได้ปล่อย “What If…?” ซีซั่นแรกออกมา และได้รับกระแสตอบรับถล่มทลาย ที่คราวนี้ก็กลับมาให้รับชมกันอีกครั้ง จะวายป่วงแค่ไหน สามารถติดตามได้ในตอนต้นปี 2023 นี้

แต่เชื่อเถอะ ว่า! ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการประกาศจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ก็คงจะหนีไม่พ้นการมาของ Fantastic 4 ที่จะเข้ามาฉายในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2024

และ Avengers ทั้ง 2 ภาค ทั้ง “Avengers: The Kang Dynasty” และ “Avengers: Secret Wars” ซึ่งเป็น Avengers 2 ภาคในปีเดียวที่แหกทุกกฎที่ Marvel เคยมีมา เรียกได้ว่าสามารถสร้างประวัติศาสตร์ให้กับจักรวาล Marvel Cinematic Universe กับการมาของ Phase 6 ที่สามารถจะเป็นมหกรรมหนังหยุดโลกได้เลย แต่ก็ต้องมาลุ้นกว่าจะสามารถหยุดโลกได้เท่า Avengers: Infinity Wars และ Avengers: Endgame ได้หรือเปล่า ก็คงต้องห้ามตาย จนกว่าจะได้พิสูจน์กัน

โดย Avengers: The Kang Dynasty จะฉายในวันที่ 2 พฤษภาคม 2025 และ Avengers: Secret Wars จะฉายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2025

นี่แค่เพียงส่วนหนึ่งที่หยิบยกมาเท่านั้น เล่นเปิดเผยหนังและซีรีส์ที่ฉายไปอีกหลายปีต่อจากนี้ เอาซะหนังจากค่ายอื่นดูหมองไปเลย ก็คงต้องบอกว่าห้ามตายจนกว่าจะได้ดู งานนี้เรียกได้ว่าสงสารและเห็นใจทีมงานทุกภาคส่วน ทั้งผู้กำกับ คนเขียนบท นักแสดง และที่สุดก็คงจะเป็นคนทำเอฟเฟกต์ที่เรียกว่าทำงานกันตาแตกกันเลยทีเดียว อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกๆคนด้วย และก็ขอให้กำลังใจคนดูทุกๆท่านที่กำลังตั้งหน้าตั้งตารอชมทุกเรื่องด้วยความตั้งใจด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบทความของหนังและซีรีส์ Marvel ในอนาคต ที่คงจะเปรียบเสมือนหมุดหมายการเดินทาง เปรียบเสมือนภารกิจที่ต้องไปตามเก็บ ตามทำให้หมด เฉกเช่นที่เราเคยทำเหมือนที่เคยเป็นมาเมื่อสิบกว่าปีก่อน เราค่อยๆรู้จักตัวละครต่างๆ ทั้ง Iron Man, Captain America, Hulk, Thor และอื่นๆรวมกันนับร้อยตัว จนเราคนดูค่อยๆอิน จดจำ และผูกพันไปในที่สุด กี่เรื่องแล้วที่เราหัวเราะ สนุก ลุ้นระทึก เอาใจช่วยและเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวเหล่านี้ และถ้าใครได้ดูเรื่องราวเหล่านี้ตั้งแต่สมัยเด็ก มันจะกลายเป็นความทรงจำอันแสนวิเศษ มันจะกลายเป็นการเดินทางอันน่าจดจำไปตลอด ซึ่งคราวนี้ทาง Marvel ก็ยังไม่หยุดพัฒนา พร้อมให้ตัวเราออกเดินทางต่อไป ซึ่งหนังและซีรีส์ที่ผ่านมา ก็สามารถรับชมได้แล้วผ่านทาง Disney Plus