ในวันหยุดที่ผู้คนอยากจะหาอะไรที่จะดูเพื่อความผ่อนคลายความเครียดจากสิ่งต่างๆรอบตัว ผู้เขียนเองก็เช่นเดียวกัน จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปหาอะไรดูตามสื่อต่างๆ จนกระทั่งไปพบกับโปรเจกต์หนึ่งของทางนาดาวบางกอกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยก็ว่าได้นั่นคือ “กักตัว Stories” ที่ทำขึ้นภายใต้สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงอย่างหนักในประเทศไทยเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้ค่ายคุณภาพอย่างนาดาวบางกอกย่อท้อในการผลิตคอนเท้นท์แต่อย่างใด จึงผลิตหนังสั้นออกมามากถึง 10 เรื่องด้วยกัน โดยใช้นักแสดงและทีมงานจากนาดาวบางกอกเป็นวัตถุดิบหลักของโปรเจกต์นี้ ซึ่งจากข้อมูลแล้ว กระแสตอบรับก็ถือว่าดีเลย และวันนี้เราจะมาเล่าถึงตอนต่างๆของโปรเจกต์นี้กัน
คำเตือน! บทความต่อไปนี้มีการสปอยเนื้อหาของเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นถ้าอยากอ่านบทความนี้ แบบไม่เสียอรรถรสควรไปรับชมมาก่อน ซึ่งสามารถรับชมได้ทาง Youtube ช่อง Nadao Bangkok
กักตัว Stories เรื่องที่ 1 : ประสบการณ์เสียวจากทางบ้าน
เรื่องแรกนั้นคือเรื่องที่นักแสดงนำคือ “โอบนิธิ วิวรรธนวรางค์” และ “ต้นหน ตันติเวชกุล” ผู้กำกับคือ “พิชย จรัสบุญประชา” กับเรื่องราวของ “หนึ่ง” เน็ตไอดอลหนุ่มคนหนึ่งที่มียอดคนติดตามร่วมหลักแสน มีความจำเป็นต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันในคอนโดใหม่ที่ได้ซื้อต่อมา ทว่าความประหลาดก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อมีแฟนคลับชอบเข้ามาทักว่ามีบางคนอยู่กับเขา ทั้งๆที่เขานั้นอาศัยอยู่คนเดียว เขานั้นจึงมีความจำเป็นต้องโทรหา “สอง” น้องชายของเขา เพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยความที่กลัวจนสุดขีดแต่ก็ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะสถานการณ์โควิด ในเรื่องแรกของโปรเจกต์นี้นั้นจะมาในแนวตลกผสมสยองขวัญ ที่เล่นกับบรรยากาศในที่ปิดได้เป็นอย่างดี
กักตัว Stories เรื่องที่ 2 : Lovers on the Street
เรื่องต่อมานั้นคือเรื่องที่นักแสดงนำคือ “กานดิศ วรรณอรุณ”, “ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช” และ “เขมิศรา พลเดช” ผู้กำกับคือ “จิรัศยา วงษ์สุทิน” กับแก่นของเรื่องที่ต้องกราบไอเดียในความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้ผู้เขียนนึกถึงหนังไอเดียล้ำอย่าง “Searching : เสิร์ชหา….สูญหาย!?” กับเรื่องราวของ “เต้ย” กับ “แอมมี่” สองคู่รักที่หวานหยดย้อยปานน้ำผึ้งเดือนห้า ต้องทำการ Social Distancing เพราะสถานการณ์โควิด-19 และแล้วความคิดถึงก็ได้ก่อตัวขึ้นจนได้ เมื่อเต้ยได้ชวน “เฟม” เพื่อนสนิทเพศเดียวกัน มาเล่นอะไรสนุกๆ ด้วยการใช้ Google Street View ไปที่ที่อยู่ของแฟนหนุ่ม แต่ทว่าความพีคก็ได้เกิดขึ้น เมื่อในรูปนั้นได้เห็นว่าแอมมี่นั้นอยู่กับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เต้ย และดูเหมือนว่าเสื้อที่ฝ่ายหญิงใส่ในรูปจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมากกกว่านั้น
กักตัว Stories เรื่องที่ 3 : เดอะทวงส์
เรื่องที่สามนั้นคือเรื่องที่นักแสดงนำคือ “ณภัทร โชคจินดาชัย” และ ผู้กำกับคือ “ชยนพ บุญประกอบ” ผู้กำกับมากความสามารถจาก “ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ”, “เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ”, “Friend Zone ระวัง..สิ้นสุดทางเพื่อน” กับเรื่องราวแนวน่าตื่นเต้น เสียดสีสังคมในตอนต้น และจบลงด้วยความตลกเป็นการหักมุมแบบคาดไม่ถึง ชนิดที่ว่าเป็นหนึ่งในตอนที่คนดูหลายคนโหวตกันว่าชอบที่สุดเลยก็ว่าได้ กับเรื่องราวของ “กุลวิทย์” กับอาชีพนักดนตรีที่ต้องมาตกอับ เพราะสถานการณ์โควิด-19 กับเงินจำนวน 5,000 บาทที่ “เจ๊จูน” รุ่นพี่ที่คณะนั้นได้ยืมไป แต่จนแล้วจนเล่า จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนเลย หนำซ้ำลูกหนี้อย่างเจ๊จูนยังอัพรูปตัวเองนั่งกินวากิวอย่างสบายใจ งานนี้เจ้าหนี้ก็คงทนไมได้ ต่อสายหาเจ๊จูนเพื่อเริ่มต้นทวงเงินโดยทันที แต่มีเหรอว่าจะได้เงินคืนง่ายๆ กุลวิทย์จึงจัดการเอาคืนเจ้าหนี้อย่างสาสม
กักตัว Stories เรื่องที่ 4 : DAY 10
เรื่องต่อมานั้นคือเรื่องที่นักแสดงนำคือ “อทิตยา เครก”และ “อวัช รัตนปิณฑะ” ผู้กำกับคือ “วรรณแวว หงษ์วิวัฒน์” และ “แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์” กับเรื่องราวของ “เอ๋” ชายหนุ่มผู้มีอาชีพนักหาโลเคชัน ผู้ที่มีชะตากรรมไม่ต่างอะไรไปจากคนอื่น นั่นคือต้องมากักตัว 14 วันอยู่ที่คอนโดกับความเหงาที่ค่อยๆมาเกาะกินหัวใจ แต่ทว่าก็เหมือนฟ้ามาโปรดเพราะเขานั้นได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งจากระเบียงห้องข้างๆ จากความเหงาของเขา นำพาไปสู่การเริ่มต้นบทสนทนาของคนทั้งสอง ซึ่งนั้นก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองก่อตัวขึ้น
หนังสั้นเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นการเล่าแบบธรรมดาราบเรียบ เปรียบเสมือนไดอารี่ของเอ๋ที่ผ่านไปวันต่อวันกับความเหงา ที่ต้องการจะผ่าน 14 วันแห่งความทรมานไปให้ได้สักที แต่ทว่าหนังเรื่องนี้ก็ได้เสิร์ฟความหวานแบบไม่ยัดเยียดและเป็นธรรมชาติเหลือเกิน แต่ก็ทำให้คนดูสามารถฟินจิกหมอนไปได้ไม่แพ้กัน
กักตัว Stories เรื่องที่ 5 : Pumpkin call (เทรนหัวใจ ยัยตกงาน)
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาต่อกันที่เรื่องที่ 5 กันต่อเลยดีกว่า กับเรื่องที่นักแสดงนำคือ “นฤภรกมล ฉายแสง”และ “พลวิชญ์ เกตุประภากร” ผู้กำกับคือ “ธนีดา หาญทวีวัฒนา” กับอารมณ์ของหนังที่มาในอารมณ์หวานกันอีกครั้งหนึ่ง ที่เรียกว่าฟินจนหมอนขาดพอๆกับเรื่องที่แล้วได้เลย กับเรื่องราวของ “ซีซี” พนักงานสาวในบริษัทอีเวนต์แห่งหนึ่งต้องมาประสบปัญหาเพราะอีเวนต์หาย บริษัทเจ๊ง ทำให้เธอต้องมาพลอยตกงาน แต่แล้วเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อแฟนหนุ่มของเธอก็ดันหนีกลับราชบุรีเพื่อที่จะไปปลูกผัก และโดนบอกเลิกอีกต่างหาก กับผนวกกับช่วงเวลาเดียวกันที่ “เคน” เทรนเนอร์หนุ่มก็ได้โทรมา เพื่อที่จะให้เธอได้ออกกำลังกาย และปรับพฤติกรรมการกิน แต่ทว่าการโทรมาของชายคนนี้ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอนั้นได้ก่อตัวขึ้น
กักตัว Stories เรื่องที่ 6 : CLOSE FRIEND
เดินทางมาสู่ครึ่งหลังกันแล้ว กับเรื่องที่ 6 ที่อยากจะพาทุกคนให้มาติดตามกัน กับหนังสั้นที่เล่นประเด็นเรื่องของความสัมพันธ์ได้อย่างเจ็บแสบเรื่องหนึ่งเลย รวมถึงอารมณ์ของหนังที่มาครบเลยทีเดียวทั้ง โรแมนติก ตลก และดราม่าจนคนดูน้ำตาไหลได้เลย กับเรื่องที่นักแสดงนำคือ “กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม” และ “ปณชัย ศรีอาริยะรุ่งเรือง” ผู้กำกับคือ “ทศพร เหรียญทอง” กับเรื่องราวความสัมพันธ์ที่นำไปสู่ตอนจบอันไม่คาดคิดของ “เหมง” กับลีลาการจีบสาวในระดับต่ำ ที่โทรไปขอความช่วยเหลือจาก “ก็อต” ที่เป็นเกย์ผู้มากเสน่ห์เจ้าของฉายาอายุน้อยร้อยเมีย แต่ทว่าการปรึกษาในครั้งนี้ กลับส่งผลเสียอันไม่คาดคิดกับคนทั้งสอง เมื่อปรึกษาไปปรึกษามา ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ถึงคราวต้องเปลี่ยนไป และอาจจะทำให้ใครคนหนึ่งไม่เหมือนเดิมอีก
กักตัว Stories เรื่องที่ 7 : เพราะเรารู้ว่าคุณจำเป็นต้องออกจากบ้าน
สำหรับเรื่องที่ 7 นั้นก็ถือว่ากระชากอารมณ์จากความโรแมนติกมาสู่ความจริงจัง แบบเนิร์ดแตก และถือว่าดึงความเป็นคาแรกเตอร์ของนักแสดงได้ออกมาค่อนข้างชัดเลย กับเรื่องที่นักแสดงนำคือ “สาริษฐ์ ตรัยเลิศวิเชียร” และ “เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์” ผู้กำกับคือ “เกรียงไกร วชิรธรรมพร” ดีกรีผู้กำกับซีรีส์วัยรุ่นขึ้นหิ้งอย่าง “Hormones วัยว้าวุ่น” กับเรื่องราวของ พนักงานแบงก์นามว่า “ตึ๋ง” ที่ถึงแม้ว่าจะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดสักแค่ไหน แต่เขาก็ต้องออกจากบ้านอยู่ดี แถมเขาต้องมาคอยเป็นเหยื่อทดลองให้กับคนจอมเนิร์ดอย่าง “กิต” ผู้มีอาชีพเป็นดีไซเนอร์ที่ชื่นชอบการประดิษฐ์ รวมถึงยังได้ประดิษฐ์อุปกรณ์มาทำให้ตึ๋งในเวลาที่ออกจากบ้านอีกด้วย แต่ทว่าด้วยปัญหาและมุมมองที่ต่างกันทำให้ทั้งคู่นั้นมีปัญหากันจนได้
กักตัว Stories เรื่องที่ 8 : Mother Distancing
สำหรับเรื่องที่ 8 นั้นเป็นเรื่องที่ความดราม่ายืนหนึ่งอีกหนึ่งเรื่อง กับเรื่องที่นักแสดงนำคือ “นรีกุล เกตุประภากร” และ “อิงครัต ดำรงค์ศักดิ์กุล” ผู้กำกับคือ “อวัช รัตนปิณฑะ” ซึ่งเรียกได้ว่าดราม่าจนต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว กับเรื่องราวของความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่นักของคนเป็นแม่และคนเป็นลูก เมื่อ “แบม” มีปัญหากับคนเป็นแม่มาอย่างยาวนาน จุดเริ่มต้นก็คือ เมื่อแม่ของแบมต้องการที่ให้แบมเรียนหมอ ทั้งๆที่เธอนั้นไม่อยากเรียน ซึ่งตอนนี้นั้นแม่ของแบมก็กำลังเป็นหมอที่ตอนนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด ที่สำคัญแม่ของเธอนั้นไม่มีวันเข้าใจเธอ กับความทรมานของเธอที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ โดยมี “ริว” ที่เปรียบเสมือนกาวใจที่ดูเหมือนจะต้องทำงานอย่างหนักเลยทีเดียว
กักตัว Stories เรื่องที่ 9 : The Coach จูนความคิด..ปิดความทุกข์
ไปกันต่อเลยสำหรับเรื่องที่ 9 ที่เรื่องนี้แอบชูประเด็นเสียดสีสังคมได้อย่างแนบเนียนอยู่เหมือนกัน กับประเด็นทางสังคมในสมัยนั้นอย่างเรื่องไลฟ์โค้ชนั่นเอง กับเรื่องที่นักแสดงนำคือ “กันต์ ชุณหวัตร” และ “ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล” ผู้กำกับคือ “จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์” กับเรื่องราวของ “ติวเตอร์” ชายหนุ่มอีกคนที่ประสบปัญหาตกงานเพราะไวรัสโควิด-19 เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเมื่อเขานั้นได้ไปฟังไลฟ์โค้ชมาจาก “โค้ชบอล”มา ซึ่งเขานั้นเห็นว่าอาชีพไลฟ์โค้ชนั้นน่าจะสามารถทำให้เขานั้นประสบความสำเร็จได้ จึงได้นำวิชาที่ได้ไปร่ำเรียนมา ไปใช้กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าในทีแรกนั้นวิชาของเขาจะได้ผล แต่ผลลัพธ์ในตอนท้ายนั้นนำไปสู่จุดจบที่ไม่คาดคิดก็ว่าได้
กักตัว Stories เรื่องที่ 10 : What happened last night?
ขึ้นชื่อว่าหนังสั้นปิดโปรเจกต์ทั้งที จะทำออกมาแผ่วได้อย่างไร ที่คราวนี้ตัวละครหลักไม่ได้มีเพียงแค่ 2 หรือ 3 คนแต่คราวนี้ยกขโยงกันมามากถึง 4 คนเลยทีเดียว กับเรื่องที่นักแสดงนำคือ “ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์” ผู้กำกับคือ “จิรัศยา วงษ์สุทิน” ซึ่งเป็นผู้กำกับ “กักตัว Stories เรื่องที่ 2” นั่นเอง กับเรื่องของการคุยวิดีโอคอล 4 คนถึงเหตุการณ์งานปาร์ตี้ในเมื่อคืนก่อนหน้านี้ ที่คนอย่าง “แป๋ม” ได้ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป ซึ่งเหตุการณ์นั้นส่งผลต่อความรู้สึกของเธอ กับความลังเลของความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแฟนหนุ่ม เรียกได้ว่าเดือดร้อนถึงบรรดาชาวแก๊งที่ต้องมาแก้ปัญหา คอยให้ความช่วยเหลือ และลดความไม่สบายใจของเธอ แต่ทว่าการปรึกษากันในครั้งนี้ ทำให้เธอนั้นได้ค้นพบตัวตนบางอย่างของเธอ
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบทความป้ายยาโปรเจกต์หนังสั้น กักตัว Stories จากค่ายคุณภาพอย่างนาดาวบางกอกที่ไม่เคยหยุดพัฒนาของดีสู่สายตาผู้บริโภคเลย ทั้ง “Hormones วัยว้าวุ่น”, “เลือดข้นคนจาง”, “แปลรักฉันด้วยใจเธอ”, “Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ” หรือแม้กระทั่ง “I Hate You, I Love You” ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้โปรเจกต์นี้จะจบลงไปแล้ว และค่ายนาดาวบางกอกเองก็กำลังเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของนักแสดง ผู้บริหาร รวมถึงประชาชนคนดูมาอย่างยาวนานหลายปี แต่ทว่าผู้เขียนเชื่อว่า แค่นี้ไม่สามารถทำให้ค่ายคุณภาพที่ชื่อว่านาดาวบางกอกนี้หยุดทำเนื้อหาคุณภาพเป็นแน่ จากอะไรหลายต่อหลายอย่างที่ผ่านมา ซึ่งผู้เขียนแอบไปเห็นว่ากำลังจะมีโปรเจกต์ต่อจากนี้ในอนาคตอีกด้วย
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎