เชื่อว่าหนังแฟนตาซีที่เป็นแนวหนังเทพนิยายนั้นยังคงเป็นแนวหนังอันดับหนึ่งที่ครองใจทั้งน้องๆ หนูๆ ทั้งเด็กเล็ก และผู้ใหญ่อย่างเราๆ อย่างแน่นอน เพราะว่าด้วยความที่เป็นหนังแฟนตาซีที่คอยมาเติมเต็มจินตนาการของคอหนังอย่างเราๆ ทำให้ไม่ว่าจะกลับมาดูอีกสักกี่รอบก็ไม่มีวันเบื่อ ในวันนี้ก็เลยจะมาคัด 7 หนังเทพนิยายในดวงใจ ที่บอกได้เลยว่าเป็นที่สุดของหนังแนวนี้ทั้งเรตติ้งดี เนื้อเรื่องครบรส เข้มข้น และสนุก จนเราไม่สามารถหยุดดูได้เลย ซึ่งจะเอามาให้ดูถึง 7 เรื่องด้วยกัน จะเรื่องอะไรบ้างนั้นก็ตามไปดูกันได้เลย!

7 หนังเทพนิยาย 7 เรื่องราวที่จะพาคุณเข้าไปสู่โลกจินตนาการ

1.Maleficent

ช่องทางการรับชม Disney+ Hotstar

ความยาว 1 ชั่วโมง 37 นาที

“Maleficent กำเนิดนางฟ้าปีศาจ” เรื่องราวของแม่มดปีศาจอย่างมาลีฟิเซ้นต์ตัวร้ายจากหนังเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่คราวนี้จะมาหยิบยกเรื่องราวอีกมุมนึงของเธอนั้นมาเล่าเพื่อที่จะให้คุณนั้นได้รู้ถึงสาเหตุของการที่แม่มดอย่างมาลีฟิเซ้นต์จากคนที่มีจิตใจที่แสนดีกลับกลายเป็นคนที่ใจดำสุดอำมหิตนั้นเป็นเพราะใคร และสาเหตุมันก็มาจากพระราชาหรือพ่อของเจ้าหญิงออโรร่านั้นเคยหักหลังเธอด้วยความโลภ แถมยังถูกตัดปีกนางฟ้าจนทำให้เธอนั้นแค้นมากๆ พอออโรร่าเกิดมาลีฟิเซ้นต์ก็ได้ร่ายคำสาปให้เธอนั้นจะต้องเป็นเจ้าหญิงนิทราตอนอายุ 16 และต้องมีจุมพิตจากรักแท้เท่านั้นที่จะแก้คำสาปนี้ได้ ซึ่งในตอนสุดท้ายคนที่แก้คำสาปได้นั้นก็คือตัวเธอเองนั้นก็เพราะความสัมพันธ์ของมาลีฟิเซ้นต์และออโรร่าที่เป็นความรักที่ไม่ได้เกิดจากสายเลือดแต่เกิดจากการเลี้ยงดูของเธอนั้นเอง สำหรับหนังเทพนิยายเรื่องนี้ก็จะพาคุณเปลี่ยนมุมมองของตัวละครที่ทุกคนมองว่าร้ายได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบเจ้าหญิงออโรร่าก็อย่าลืมไปดูเรื่องนี้เลย

2.Alice in Wonderland

ช่องทางการรับชม Disney+ Hotstar

ความยาว 1 ชั่วโมง 48 นาที

“Alice in Wonderland อลิซในดินแดนมหัศจรรย์” หนังเทพนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่มีเนื้อหาสุดจินตนาการ ดูแล้วไม่เบื่อ อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่คอยให้ข้อคิดเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อคนที่เรารักและเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้อีกด้วย สำหรับหนังเทพนิยายเรื่องนี้ก็จะเล่าเรื่องราวของ “อลิซ” เด็กสาวอายุ 19 ปี ที่กำลังจะถูกชายหนุ่มของแต่งงานแต่เธอนั้นกลับปฏิเสธและได้วิ่งหนีตามกระต่ายที่ใส่ชุดยีนส์ตัวหนึ่งจนอลิซนั้นตกลงไปในโพรงไม้ใหญ่ ทำให้เธอนั้นต้องไปพบกับความพิศวงมากมายในดินแดน Wonderland แถมเธอนั้นก็ต้องหาทางช่วยทุกคนเพื่อที่จะทำให้ตัวเองกลับบ้านให้ได้ หนังเทพนิยาย Alice in Wonderland หากมองเผินๆ อาจจะเป็นเรื่องราวที่ดูสดใสแต่ลึกๆ แล้วมันยังมีเนื้อสุดดาร์กรอคุณอยู่

3.Into the Woods

ช่องทางการรับชม Disney+ Hotstar

ความยาว 2 ชั่วโมง 4 นาที

ต่อด้วย “Into The Woods (มหัศจรรย์คำสาปแห่งป่าพิศวง)” ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังที่รวบรวม 4 หนังเทพนิยายพื้นบ้าน Grimm 4 เรื่องที่คุณคุ้นเคยอย่างเรื่อง หนูน้อยหมวกแดง, แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์, ราพันเซล และซินเดอเรลล่า เอามาผูกไว้ในเรื่องเดียวกัน โดยยังคงเนื้อหาสำคัญๆ ของแต่ละเรื่องอยู่และนำทั้ง 4 เรื่องนั้นมาผสมผสานเชื่อมโยงกันจนกลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความน่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับหนังเทพนิยายเรื่องนี้จะมีเส้นเรื่องหลักอยู่ที่คู่สามีภรรยาที่มีอาชีพอบขนมปัง แต่พวกเขานั้นโดนคำสาปไม่ให้มีลูกได้ จนมีอยู่วันหนึ่งก็มีแม่มดมาเยือนพร้อมเปิดเผยเรื่องราวที่สามารถถอนคำสาปของพวกเขาได้ นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาต้องออกผจญภัยเพื่อหาของวิเศษจากเทพนิยายเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนูน้อยหมวกแดง, แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์, ราพันเซล และซินเดอเรลล่ามาแก้คำสาปของพวกเขาให้ได้

4.Shrek

ช่องทางการรับชม Netflix

ความยาว 1 ชั่วโมง 30 นาที

นี่ก็คืออนิเมชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเทพนิยายแต่กลับฉีกกฎเทพนิยายเดิมๆ ออกไปอย่างสิ้นเชิงเพราะว่าพระเอกนั้นไม่ใช่คนที่หล่อกลับกลายเป็นยักษ์เขียวที่ดูภายนอกนั้นดูน่าเกลียดแทน สำหรับ “Shrek” นั้นก็จะเล่าเรื่องราวของยักษ์เขียวที่ดูน่าเกลียดแต่ว่าภายในแท้จริงนั้นเขาเป็นคนที่งดงามและกล้าหาญมากๆ ซึ่งก็มีเพียงแค่เจ้าลา Donkey และเจ้าหญิงอย่าง Fiona เท่านั้นที่มองเห็นเห็นภายในที่แท้จริงของเขา โดย Shrek อนิเมชั่นเรื่องนี้นอกจากจะมอบความบันเทิงให้กับคนดูแล้วยังเป็นเรื่องที่สอนเราอีกว่าไม่ควรที่จะตัดสินคนจากแค่เพียงภายนอกที่เท่าที่เห็น

5.Frozen (ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ)

ช่องทางการรับชม Disney+ Hotstar

ความยาว 1 ชั่วโมง 42 นาที

อีกหนึ่งเรื่องที่เรียกได้ว่าเป็นอนิเมชั่นแห่งยุคและโด่งดังไปมากมายหลายประเทศ สำหรับอนิเมชั่น “Frozen” นั้นก็มีเนื้อหาดัดแปลงมาจากหนังเทพนิยายที่เกี่ยวกับราชินีน้ำแข็ง ซึ่งเรื่องนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เพลงประกอบและตัวละครที่ถูกออกแบบมาอย่างงดงามมาก โดยเรื่อง Frozen จะเล่าเกี่ยวกับเจ้าหญิงเอลซ่าผู้ที่มีพลังเกี่ยวกับน้ำแข็งแต่เกิดทำให้เธอนั้นต้องสวมถุงมือเพื่อป้องกันไม่ให้พลังนั้นไปทำร้ายผู้อื่น และอันนาน้องสาวของเธอที่คอยประสานความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานขึ้น ซึ่งวันหนึ่งเอลซ่านั้นก็ได้ทำผิดพลาดจนทำให้เมืองนี้นั้นกลายเป็นน้ำแข็งจนเธอนั้นต้องหนีไปอยู่ไกลๆ คนเดียว แต่ด้วยความสัมพันธ์ของพี่น้อง “อันนา” ก็ได้ออกตามหาเอลซ่าเพื่อร่วมมือกันทำให้เมืองของพวกเธอกลับมาเป็นปกติให้ได้

6.Cinderella

ช่องทางการรับชม Disney+ Hotstar

ความยาว 1 ชั่วโมง 11 นาที

หนังเทพนิยายที่ใครหลายๆ คนต้องรู้จักกับ “เจ้าหญิงรองเท้าแก้วหรือ Cinderella” นั่นเอง ซึ่งเป็นเรื่องราวที่หลายคนยกให้เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจจนถูกนำมาสร้างฉบับคนแสดงจริง สำหรับเทพนิยายเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงนางเอกที่ชื่อซินเดอเรลล่าที่ถูกเหล่าแม่เลี้ยงและพี่น้องใจร้ายคอยกลั่นแกล้ง แถมให้เธอเป็นคนใช้ประจำบ้าน วันหนึ่งก็มีประกาศงานเลี้ยงของเจ้าชาย ซึ่งเธอก็หวังว่าจะได้เข้าร่วมแต่ว่าก็ถูกกีดกันจากแม่เลี้ยงอยู่ดี สุดท้ายเธอก็ได้รับความช่วยเหลือจากนางฟ้าให้เธอไปงานพร้อมชุดสุดๆ และรองเท้าแก้ว โดยมีข้อแม้ว่าเธอสามารถอยู่งานได้แค่เที่ยงคืนเท่านั้น

7.Enchanted (มหัศจรรย์รักข้ามภพ)

ช่องทางการรับชม Disney+ hotstar

ความยาว 1 ชั่วโมง 47 นาที

และหนังเทพนิยายเรื่องสุดท้ายที่เอามาฝากกันในวันนี้นั่นก็คือ “Enchanted มหัศจรรย์รักข้ามภพ” ที่จะมาเล่าเรื่องราวของ Giselle นางเอกที่สุดจะเพ้อฝัน เธอมักจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี ชอบร้องเพลงและที่สำคัญรักสัตว์ทุกชนิด แต่อยู่ๆวันนึงเธอกลับต้องมาผจญภัยอยู่ในโลกความเป็นจริง เพราะแม่มดใจร้ายนั้นต้องการที่จะขัดขวางความรักระหว่างเธอและเจ้าชาย ดังนั้นเธอจึงต้องขอความช่วยเหลือจากพ่อหม้ายลูกติดอย่าง Robert เพื่อพาเธอกลับไปในที่ที่เธอจากมา สำหรับใครชื่นชอบหนังแฟนตาซีแบบฉบับเทพนิยายที่ทำออกมาในแนวของมิวสิคัลต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้ บอกเลยว่าเพลงที่ร้องในเรื่องคือเพราะจริงๆ ฟังแล้วติดหูสุดๆ

7 เรื่อง 7 รสชาติความสนุก

และนี่ก็เป็นหนังเทพนิยายทั้ง 7 เรื่องที่เราตั้งใจเอามาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ คิดว่าก็น่าจะถูกใจคอหนังสายเจ้าหญิงหรือสายแฟนตาซีอย่างแน่นอน เพราะแต่ละเรื่องก็ถือได้ว่าเป็นเดอะเบสที่สุดในดวงใจ ใครจะหาเรื่องไหนมาเทียบก็คงจะโค่นไปไม่ได้ และสำหรับใครที่มีเวลาว่างๆ ในวันหยุดแล้วไม่รู้จะหยิบหนังเรื่องไหนขึ้นมาดู ก็ลองเอาหนึ่งในทั้ง 7 หนังเทพนิยายที่เราเอามาวันนี้ดูก็ได้นะ เผื่อจะได้ย้อนวันวานกลับไปเหมือนตอนที่เราเคยเป็นเด็กอีกครั้งนึง