หากย้อนกลับไปในปี 2019 ถือว่าเป็นปีทอง ปีแห่งปาฏิหาริย์เลยก็ว่าได้ แม้แต่หนังหยุดโลกอย่าง Avengers: Endgame ก็เข้าฉายในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งกวาดรายได้ไปมากกว่า 2.8 พันล้านด้วยกัน แต่ทว่าในปีเดียวกันกลับมีหนังรางวัล 3 เรื่องที่ลืมไม่ลง และได้รับกระแสที่ดีไปจากประชาชนชาวไทยอย่างล้นพ้น นั่นคือ “Where We Belong”, “Joker”, “Parasite” ที่น่าสนใจคือหนังสามเรื่องนี้มาจากสามประเทศ สามเรื่องนี้เข้าฉายปีเดียวกัน และที่สำคัญ เป็นหนังสามเรื่องที่สะท้อนปัญหาสังคม และความดาร์กของมนุษย์ได้อย่างถึงแก่น อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกได้ว่าหนังจบ คนไม่จบอย่างแท้จริง โดยที่หนังสามเรื่องนี้มีจุดเชื่อมโยงกันอย่างน่าสนใจ ซึ่งน่าจะเป็นรสชาติใหม่ๆ ให้คนอ่านได้อ่านกัน
คำเตือน!! บทความต่อไปนี้มีการสปอยเนื้อหาของเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นถ้าอยากอ่านบทความนี้ แบบไม่เสียอรรถรสควรไปรับชมมาก่อน ซึ่งสามารถรับชมได้ทาง Netflix
ก่อนอื่นเลยคงต้องเล่าเรื่องย่อของทั้งสามเรื่องก่อน เพื่อให้สามารถเข้าใจถึงจุดเชื่อมโยงของทั้งหมด
เรื่องย่อ Where We Belong : ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า
มันเป็นเรื่องราวของเด็กสาววัยหัวเลี้ยวหัวต่ออย่าง “ซู” เมื่อเธอรู้สึกว่าที่ๆเธออยู่นั้นมันไม่ใช่ที่ของเธอ เธอเกลียดพ่อ เกลียดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวของครอบครัว เกลียดที่ที่เธอเกิดมา จนกระทั่งเธอมีโอกาสได้ไปที่ต่างประเทศจากการสอบชิงทุน
ทำให้เธอนั้นชวนเพื่อนสนิทที่เป็นมากกว่าเพื่อนอย่าง “เบลล์” มาช่วยกันทำเช็กลิสต์ต่างๆ ทั้งการซื้อกระเป๋า จัดกระเป๋าเอาของที่จำเป็นไป รวมไปถึงการรับบทเพื่อนรับใช้ที่ต้องมาช่วยซูในการร่ำลาเพื่อน และให้เพื่อนกลับมาเล่นดนตรีเพื่ออำลา แต่ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกเสียใจกับการไปต่างประเทศของเธอ และเบลล์เองก็จะเป็นคนที่ห้ามซูไว้ไม่ให้ไปไหน แต่ความมุ่งมั่นของซูที่จะออกไปจากบ้านเกิด มันจะทำให้ความสัมพันธ์ของเบลล์เปลี่ยนไปตลอดกาล
เรื่องย่อ Joker : โจ๊กเกอร์
ชายหนุ่มวัยกลางคนนามว่า “อาร์เธอร์ เฟล็ค” ที่อาศัยอยู่ในก็อตแธม ซิตี้ เมืองที่เสื่อมโทรมถึงขีดสุด กับการประกอบอาชีพตลกรับจ้างรายวัน ในระดับล่าง เขานั้นมีความฝันที่อยากจะเป็นตลกมืออาชีพ เพื่อที่สักวันโลกจะได้หันมาสนใจเขาบ้าง แต่สภาพครอบครัวและสังคมของเขานั้นไม่ได้ทำให้เขามีความสุขเลย ทั้งการกดขี่จากหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงานที่รังแก คนรอบข้างที่กลั่นแกล้งสารพัด การอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนท์รูหนู การอาศัยอยู่กับแม่ที่ร่างกายโรยรา
แต่ทว่าเขาเองก็มีความฝันโดยมี “เมอร์เรย์ แฟรงคลิน” พิธีกรรายการตลกชื่อดัง และ “โทมัส เวย์น” มหาเศรษฐีที่เขาเชื่อว่าชายคนนี้คือพ่อบังเกิดเกล้า แต่ความจริงที่กำลังเล่นงานชีวิตเขา มันจะทำให้ชีวิตเขาเข้าสู่ด้านมืด และทำให้เขากลายเป็นคนละคนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพื่อเอาคืนสังคมที่ทำร้ายเขาตลอดมา
เรื่องย่อ Parasite : ชนชั้นปรสิต
ครอบครัวแห่งหนึ่งอาศัยอยู่ตรอกซอมซ่อ ตรอกแออัดในย่านคนจน ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต่างก็ตกงาน คนเป็นลูกก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ทำได้แค่เพียงพับกล่องพิซซ่าขายเท่านั้น แต่ว่า “คิมกีวู” ผู้เป็นลูกชายของบ้าน ได้รับโอกาสจากเพื่อนของเขาให้มาสอนภาษาอังกฤษที่บ้านคนรวยหลังหนึ่ง เมื่ออำนาจเงินมันครอบงำแล้ว เห็นว่าชีวิตของเขานั้นดีขึ้น เขาจึงมองหาลู่ทางโดยการให้น้องสาวอย่าง “คิมคิจอง” มาเป็นครูสอนศิลปะ และให้พ่ออย่าง “คิมกีแท็ก” มาเป็นคนขับรถ และให้ “คิมชุงซุค” มาเป็นแม่บ้านคนใหม่
อยู่มาวันหนึ่งครอบครัวไปเที่ยวทำให้ทั้งครอบครัวเข้ามาที่บ้านนี้ได้ พวกเขากำลังได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายเปรียบเสมือนอยู่ในฝัน แต่ทว่าแม่บ้านคนเก่าก็ได้กลับมา ความเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้น ทำให้ชีวิตครอบครัวนี้เปลี่ยนแปลงไป สมาชิกของครอบครัวนี้กำลังมาถึงจุดแปรเปลี่ยน
ตัวละครเลือกเกิดไม่ได้ หรือว่าความตายอาจเป็นปลายทางที่ดีที่สุดกันแน่
จะเห็นว่าตัวละครแต่ละตัวต่างรักตัวเองและเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งหมด จากสังคมที่ทำกับตัวละคร เพราะเขานั้นเลือกเกิดไม่ได้ แต่พวกเขาต้องดิ้นรนต่อไปท่ามกลางโลกที่ไม่ยุติธรรมกับตัวละครแต่ละตัว ทั้งความยากจน ความฝัน ความหวัง ชีวิตที่สู้กลับ ถึงแม้จะสู้ชีวิตอย่างสุดความสามารถแล้วก็ตาม จนรู้สึกว่าบางทีความตายอาจจะเป็นทางออกที่ง่ายกว่าสำหรับพวกเขาดีกว่าก็ได้ อย่างเช่นในบันทึกจาก Joker ที่ว่า “I hope my death makes more cents than my life” หรือแปลไทยได้ว่า “ฉันหวังว่าความตายของฉันคงจะมีค่ามากกว่าชีวิตของฉัน” หรือในหนังเรื่อง Where We Belong ก็มีการพูดถึงการการุณยฆาตไว้ในหนัง ได้อย่างถูกจังหวะอีกด้วย
ในเมื่อสังคมทำกับพวกเขา พวกเขาก็เลยต้องสู้สังคมกลับ
เมื่อตัวพวกเขานั้น โดนสังคมทำร้าย นานวันเข้า เขาก็ต้องหาทางออกให้กับชีวิตที่โหดร้ายนี้จนได้ ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไป อย่างครอบครัวคิมจาก Parasite ที่ทำทุกทางเพียงแค่หนีความยากจนเพียงเท่านั้น ซึ่งในเมื่อพยายามอย่างสุจริตแล้วไม่ได้มา พวกเขาเลยมีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น กับโชคชะตาที่แทบไม่เคยเข้าข้างเลย ในคืนที่ฝนตกมันอาจจะเป็นแค่คืนๆหนึ่งธรรมดาทั่วไป แต่สำหรับครอบครัวนี้มันคือหายนะ เพราะบ้านทั้งหลังโดนน้ำท่วมพังจนหมดไม่เหลืออะไรเลย วินาศสันตะโรไปหมดจนต้องไปนอนที่ศูนย์อพยพ แต่อย่างไรก็ตามสุดท้ายเขาก็ต้องไปทำงานในบ้านคนรวยอยู่ดี เพื่อความอยู่รอด เมื่อโชคชะตาไม่ปรานี ความรู้สึกแง่ลบในใจของครอบครัวนี้จึงถาโถมขึ้นเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับซูใน Where We Belong เมื่อโอกาสมาถึง เพื่อที่จะได้ไปจากบ้านเกิดเมืองนอน ครอบครัวที่ทำร้ายจิตใจเธอ แม่ที่ตาย ทำไมเธอถึงยังต้องลังเล ในเมื่อการไปที่อื่น อาจทำให้เธอไปมีชีวิตที่ดีกว่า มนุษย์เราต่างก็ต้องการความสุขกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเบลล์จะรั้งเธอไว้ และพยายามเข้าใจเธอมากแค่ไหนก็ตาม
ตัดภาพไปที่อาร์เธอร์จาก Joker เองที่ถูกกระทำชำเรา เป็นเหยื่อของการกระทำ จะหวังให้แสนดี ไม่มีทางที่จะเป็นแบบนั้นเด็ดขาดในมุมมองของเขา ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องลุกขึ้นมาเป็นผู้ล่าบ้าง ดั่งจะได้เห็นในฉากรถไฟใต้ดินที่ถูกพนักงานของเวยน์กลั่นแกล้งจนต้องควักปืนมายิงให้ตาย ให้สาสมกับที่ทำร้ายเขาก่อน กระสุนที่ยิงออกไป ดั่งความแค้นที่สั่งสมมา เขาได้รู้ว่าการปลดปล่อยมันดีขนาดไหน หลังจากนั้นเขาก็ไล่เก็บคนที่เคยทำร้ายเขา ไม่ว่าจะทั้งเพื่อน หรือแม้กระทั่งแม่บังเกิดเกล้า และการแก้แค้นของเขาจะไม่จบลงแค่นี้ เมื่อข้างในของเขาถูกปลดปล่อยเขาคงไม่มีทางจะหยุดได้โดยง่าย
ภาพยนตร์น้ำดีจนได้รับรางวัลไปเต็มกระเป๋า
ด้วยความเป็นหนังที่ทำงากับคนดูมากมายขนาดนี้ ก็สมควรแล้วที่จะได้รับรางวัลมากมายขนาดนี้ ทั้ง Parasite และ Joker ก็ได้รับรางวัลออสการ์และรางวัลอีกมากมายกลับบ้านไปนอนกอดนับสิบรางวัล โดยเฉพาะ Parasite ที่รางวัลยาวเหยียดเลยทีเดียว แต่ใช่ว่าของไทยเองจะน้อยหน้าเพราะกวาดรางวัลสุพรรณหงส์มานอนเหมือนกัน แถมยังได้มีโอกาสได้ไปโปรโมทมากมายหลายประเทศด้วยกัน สร้างแรงกระเพื่อมของหนังไทยได้ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังมันทำงานกับคนดูหนักมากนั่นเอง ความรู้สึกที่ค้างคาไปหลายวันหลังจากหนังจบแบบนี้ไม่ใช่ว่าหนังทุกเรื่องจะทำได้แบบนี้ ถือได้ว่าในปี 2019 เป็นอีกปีทองของวงการหนังเลยก็ว่าได้
เสน่ห์นอกจากเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ทั้งสามเรื่อง
ถึงแม้ว่าเสน่ห์ในด้านเพลงประกอบจะไม่ได้โฉ่งฉ่าง หรือมีการต่อสู้ที่บู๊สะบั้นหั่นแหลก ตามแบบฉบับหนังบล็อกบลาสเตอร์รายได้สูงอย่างที่หนังหลายเรื่องควรจะเป็น หรือตามมาตรฐาน แต่ทว่าสำหรับสามเรื่องนี้นั้นนอกจากเนื้อเรื่องที่เป็นจุดชูโรงสำคัญนอกจากเนื้อเรื่องที่เข้าไปกัดกินใจใครหลายคน เสน่ห์ที่ยิ่งกว่านั้นคือมุมกล้องและการถ่ายทำ องค์ประกอบของทั้งสามเรื่องนั้นเรียกได้ว่างามงดจนละสายตาไม่ได้ไปหลายฉากเลย ความดีงามนี้มันเป็นตัวช่วยที่ทำให้ตัวหนังน่าดูและชูเนื้อเรื่องให้มีความน่าสนใจหลายเท่า จนเรียกได้ว่า ถึงแม้ว่าคุณอาจจะไม่ใช่สายหนังแนวนี้ ไม่ว่าจะเหตุใดก็ตามแต่ แต่ผู้เขียนเชื่อว่านี่อาจจะเป็นรสชาติใหม่ที่อยากให้มาลิ้มรสกัน
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับการวิเคราะห์หนัง รวมถึงพาเราไปดูถึงหนังทั้งสามเรื่องแบบละเอียดยิบ แบบเจาะแต่ละเรื่องกันเลยทีเดียว เจาะกันถึงแก่น จนเข้าใจว่า สุดยอดหนังสามเรื่องนี้ สามารถมีจุดเชื่อมโยงกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แล้วคุณผู้อ่านชอบเรื่องเป็นพิเศษจากสามเรื่องนี้หรือไม่ ชอบเรื่องไหนมากกว่ากันแบบเรียงลำดับ หรือว่าชอบหมดทั้งสามเรื่อเสมอกัน ลองบอกมาได้
แต่สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสามเรื่องนี้เลยคือ สามเรื่องนี้ไม่ใช่หนังโลกสวยที่ดำเนินเรื่องแบบมีความหวังดั่งคำใครสอนว่า ความรักสวยงามเสมอ หรือความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น หรือที่ชูกันมากที่สุดอย่างคนทุกคนมีความเท่าเทียมกัน เพราะในโลกความเป็นจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลย มันตรงกันข้ามกันแบบไม่น่าเชื่อ แต่มันคือความจริงภายในโลกใบสีเทาๆ กับมนุษย์ปุถุชนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด ผ่านความรักตัวกลัวตายนั่นเอง และนานๆเข้า เราอาจจะไม่รู้จักมนุษย์ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะโลกใบนี้นั้นดาร์กกว่าที่คิดเยอะ ซึ่งทั้งสามเรื่องสามารถดูแบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้วผ่านทาง Netflix
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎