ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า คุณเต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เป็นผู้กำกับที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยทีเดียว จุดเด่นของเขาก็คือการสร้างเรื่องราวจากสิ่งที่ใกล้ตัว และเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตของทุกคน ซึ่งผู้เขียนเองก็มีโอกาสได้ดูผลงานของเขาด้วยเช่นเดียวกัน และคนๆนี้ก็ทำผลงานออกมาได้ดีมากๆด้วย เมื่อได้ดูหนังทั้งสามเรื่องนี้จบ มันจะติดอยู่ในหัวไปสักพักหนึ่งเลย มันเป็นหนังที่จบแต่คนไม่จบจริงๆ ซึ่ง 3 เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่อยากมาแนะนำมากๆ เพราะถึงแม้จะมีอารมณ์ที่ต่างกัน แต่มันก็มีจุดที่หนังสามเรื่องนี้มันเชื่อมโยงถึงกันด้วย ซึ่งในบทความนี้จะมาวิเคราะห์ให้ได้อ่านกัน มันจะเป็นอย่างไร มาติดตามได้ในบทความนี้กัน
คำเตือน! บทความนี้มีการเผยของเนื้อหาภาพยนตร์เรื่อง ฮาวทูทิ้ง, Die Tomorrow, และ Fast & Feel Love หากต้องการอ่านแบบไม่เสียอรรถรส กรุณาไปรับชมมาก่อนผ่านทาง Netflix
เนื้อเรื่องย่อ Happy Old Year : ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
เป็นเรื่องราวของคนๆหนึ่งที่อยากจะทิ้งบางสิ่ง เพื่อก้าวข้ามต่อไปอย่าง “จีน” ที่ต้องการจะรื้อบ้านใหม่ที่มันเลอะเทอะ และไร้ระเบียบเพื่อที่จะทำเป็นออฟฟิศ การทิ้งของจึงได้เริ่มต้นขึ้น ของเก่าๆที่ไม่ได้ถูกใช้งานนานจึงไปสะกิดความทรงจำอีกครั้ง แต่คงจะมีของบางอย่างที่มีค่าและมีความเกี่ยวเนื่องกับ “เอ็ม” แฟนเก่าของจีน
เธอต้องพบเจอกับอุปสรรคหลายอย่างเช่นคนเป็นแม่ที่อยากเก็บทุกอย่างไว้ และความรู้สึกของเธอที่มีต่อแฟนเก่า รวมถึง “มี่” แฟนใหม่ของเอ็มอีกด้วย และการขุดสิ่งเก่าๆขึ้นมาทั้งของทั้งความรู้สึกนั้นก็มีราคาที่ต้องจ่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

เนื้อเรื่องของ Die Tomorrow
เป็นเรื่องเล่าผ่านสถานการณ์ 6 สถานการณ์ที่ไม่มีความเชื่อมโยงต่อกันของคนในเรื่อง และมีฟุตเทจสัมภาษณ์ด้วย ซึ่งถ้าให้เล่าเรื่องแบบรวมๆ มันคือวิดีโอที่เราจะไม่มีทางรู้มาก่อนว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เป็นเหมือนการเล่าเรื่องผ่านคนหลายวัย หลายอาชีพ ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจในคำว่าความตายมากขึ้น

เนื้อเรื่อง Fast & Feel Love : เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ
เป็นเรื่องราวของ “เกา” ชายหนุ่มผู้มีความหลงใหลในกีฬาสแตก ที่อาจจะไม่ได้ฮิตมากในประเทศไทย ซึ่งคือกีฬาเรียงแก้วนั่นเอง ในตอนนี้ลมหายใจทั้งเข้าและออกกลายเป็นกีฬานี้ไปแล้ว และในเมื่อกีฬานี้มันสนแต่ความเร็วและการทำลายสถิติ มันจึงทำให้พลาดอะไรหลายต่อหลายอย่างไป หนึ่งในนั้นคือ “เจ” แฟนสาวของเกา ที่ต้องมาทำทุกอย่าง เป็นมือเป็นเท้าให้ตั้งแต่งานบ้านงานเรือน ทำอาหาร จนกระทั่งความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้แตกหักลง เกาต้องมาจัดการทุกอย่างเอง ทั้งค่าใช้จ่ายในบ้าน ปัญหาในชีวิตประจำวัน และนั่นทำให้เขานั้นสูญเสียสมาธิและความเร็วไป ซึ่งนั่นก็ทำให้เกาต้องเจอกับอุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต อย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

หนังทั้งสามเรื่องกับการเล่าเรื่องผ่านแก่นแท้ของชีวิต ที่ทุกคนนั้นต้องเจอในชีวิต อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Happy Old Year : ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ
แก่นหลักของเรื่องนี้คือ เราทุกคนต่างเป็นคนเลวในสายตาคนอื่น และคนอื่นต่างก็เป็นคนเลวในสายตาเราเช่นเดียวกัน ซึ่งนั่นหมายถึงหนึ่งในปัจจัยที่ก่อให้เกิดนั่นคือความเห็นแก่ตัวนั่นเอง ซึ่งจะมากจะน้อยก็แล้วแต่คนกันไป อย่างตัวละคร จีน ต้องการที่จะทิ้งของ แต่ทว่าการทิ้งของนั้นมันไปสะกิดถึงความรู้สึก เช่น การอยากจะไปขอโทษ การอยากที่จะทำให้ตัวเองสบายใจโดยที่อาจจะไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนอื่น รวมถึงมี่และเอ็มที่ต้องมาพลอยได้รับผลกระทบถึงสิ่งๆนี้ด้วยเช่นกัน การตัดสินใจทิ้งสิ่งหนึ่งไป หรือการที่จะเก็บสิ่งๆนั้นไว้ผ่านความเจ็บปวด ผ่านประสบการณ์ของแต่ละคนที่พบผ่านมา ที่เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอมา ยิ่งใครที่มีประสบการณ์เหล่านี้ มันจะขยี้คนดูและทิ้งคนดูไว้กลางทาง ผ่านความขมขื่นของชีวิตที่ซัดเราแบบไร้ความปราณี ด้วยบรรยากาศ ด้วยเสียง ด้วยภาพ ด้วยการแสดง ผ่านความเชื่อที่ถูกที่ผิดของตัวละครหลายๆตัว ซึ่งเชื่อว่ามันจะต้องเชื่อมโยงกับผู้อ่าน หรือผู้ดูหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คู่พระนาง ได้เคยฝากผลงานไว้กับหนังเรื่องก่อนๆของเต๋อ นวพล รวมถึงในจักรวาล Die Tomorrow อีกด้วยอย่าง “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์” และ “ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง” ที่คราวนี้มาฝากผลงานการแสดงอีกด้วย

Die Tomorrow
ในหนังเรื่องนี้ก็ได้บอกทุกอย่างเป็นประจักษ์ชัดเจนแล้วว่า ความตายคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ใน 1 วัน ก่อนความตายมาเยือน มันก็เป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่ง เราไม่มีทางรู้เลยว่าใครจะจากเราไป หรือเราจะจากโลกนี้ไปตอนไหน วันพรุ่งนี้อาจจะไม่มีจริงแล้วก็ได้ โทนหนังและอารมณ์ของหนังมันให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งฟังธรรมะไปจนจบเรื่อง มันเป็นหนังที่เล่าช้า แต่เข้าใจง่าย และต้องใช้สมาธิในการดูพอสมควรเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าจะน่าเบื่อเพียงไหน ทว่าหนังก็ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องของเวลาว่าเราจะใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด อย่าได้เสียไปกับสิ่งที่เปล่าประโยชน์ เพราะนาฬิกาชีวิตมันได้นับถอยหลังลงไปทุกวินาที
และผู้กำกับอย่างเต๋อ นวพล ก็ใช้ความพิเศษในการรวมตัวนักแสดงที่เคยร่วมมือกันในภาพยนตร์เรื่องผ่านๆมา มาร่วมเล่นเสียจนนึกว่าเป็น Avengers ในจักรวาลหนังเต๋ออย่าง “Mary is happy, Mary is happy” หรือ “Freelance ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” ที่หลายๆคนคุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง “จรินทร์พร จุนเกียรติ”, “ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย” หรือ “วิโอเลต วอเทียร์” มาร่วมเล่นด้วย ก็ถือว่าทำให้หายเบื่อไปได้ประมาณหนึ่งเลย

Fast & Feel Love : เร็วโหด เหมือนโกรธเธอ
แก่นเรื่องของเรื่องนี้ ก็น่าจะเชื่อมโยงกับอะไรหลายๆอย่างกับตัวคนดูเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความฝันชัดเจน อย่างในเรื่องตัวละครเกาที่มีความฝันที่ชัดเจนมาก ว่าอยากเป็นนักกีฬาสแตก ท่ามกลางตอนต้นเรื่องที่มีการพูดถึงอาชีพแปลกๆที่ดูเหมือนขัดหูขัดตาอาจารย์แนะแนว อย่างเช่น แร็ปเปอร์, ช่างแกะสลักหิมะ เช่นเดียวกันกับอาชีพกีฬาสแตก เกาเองที่เป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง เรื่องของความฝันของตัวเอง จนลืมไปเลยว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร ไม่เคยคิดจะมาช่วยเหลือคนอื่นเลยจนกระทั่งเจ แฟนสาวของเกาตัดสินใจเลิกรากันไป เพราะความฝันของเธอมีเพียงแค่ความฝันธรรมดาที่อยากจะมีลูก มีบ้าน มีครอบครัวแบบคนธรรมดา แบบมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินทั่วไป ซึ่งขัดสวนทางกับอุดมการณ์ของเกา ที่มีความต้องการเอาชนะความเร็ว เอาชนะสถิติบ้าๆแบบนี้ไปให้ได้ และเมื่อคนที่เป็นมือเป็นเท้าอย่างเจไม่อยู่แล้ว เกาก็ต้องมาทำทุกอย่างเอง ทั้งโทรจับงู จ่ายค่าไฟ ซ่อมแซมบ้าน ทำให้เขาต้องหาวิธีในการจัดการชีวิตของตัวเอง และรับมือกับความเร็ว และสมาธิที่เปลี่ยนไปด้วยตัวของเขาเอง
ซึ่งเรื่องนี้เราได้คู่พระนางอย่าง “ณัฏฐ์ กิจจริต” และ “อุรัสยา เสปอร์บันด์” มารับบทคู่กันเป็นครั้งแรกนั่นเอง

ก็จบไปแล้วสำหรับการวิเคราะห์หนังทั้งสามเรื่องทั้ง ฮาวทูทิ้ง, Die Tomorrow, และ Fast & Feel Love ในหนังสามเรื่องนี้ความจริงแล้ว มันได้ซ่อนความเป็นปรัชญาในการดำเนินชีวิตแบบเข้าใจง่าย และสามารถเป็นเหมือนบทเรียนสอนใจเราได้ดีอีกนัยหนึ่งได้ด้วย กับสัจธรรมของชีวิตที่ทำให้เราต้องมาคิดพิจารณาถึงสิ่งที่เป็นอยู่ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราสมควรต้องทำ และสิ่งที่เราต้องการจะทำในอนาคต ขึ้นชื่อว่าหนังเต๋อ นวพล ผู้กำกับคนนี้เมื่อได้จับ เมื่อได้ทำในสิ่งที่ถนัดมือ ก็เป็นธรรมดาที่จะทำออกมาได้ดีในแบบที่มันเป็น ซึ่งตอนนี้ทาง Netflix ก็มีหนังทั้งสามเรื่องฉายแล้วเช่นเดียวกัน แล้วคุณผู้อ่านอยากจะชมภาพยนตร์เรื่องไหนบ้าง แล้วอยากจะแนะนำพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน คนรู้จัก หรือแฟนเรื่องไหนบ้าง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขอให้มีความสุขกับหนังทั้งสามเรื่องนี้
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎