หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบ หนังแนวบู๊ แอคชั่น ต่อสู้แบบบ้าระห่ำ เชื่อว่าคุณต้องชอบหนังแนวสงครามอย่างแน่นอน ซึ่งหนังสงครามที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิงนั้นบางเรื่องก็เป็นหนังที่ถูกสร้างมาจากเรื่องจริง มักจะมีจุดประสงค์ที่จะถอดบทเรียนของสงครามนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านกลยุทธ์การวางแผน การเสียสละของทหารก็จะมีให้เราดูตลอด นอกจากนี้ในหนังสงครามบางเรื่องก็ยังมีการใส่เนื้อหาของมิตรภาพของเหล่าเพื่อนๆ ในกองทัพ ทำให้ภายในเรื่องก็จะลดความตึงและความกดดันของตัวหนังลง ในวันนี้เรามาดูหนังสงครามที่น่าสนใจกันดีกว่าว่าจะหนังเรื่องไหนน่าดูกันบ้าง จะมีของประเทศไหนบ้าง ไปดูกันเลย
7 หนังสงครามน่าดู เป็นที่นิยม ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด
1.The Hurt Locker
หนังสงครามน้ำดีที่ทำให้คนดูนั้นต้องหยุดหายใจในเกือบทุกฉากกับเรื่อง The Hurt Locker ซึ่งหนังแนวสงครามเรื่องนี้เป็นหนังระทึกขวัญแบบลุ้นสุดๆ ถ้าได้ดูไปเรื่อยๆ ก็จะรู้สึกว่ามันน่าหวาดเสียวมากๆ เพราะมันเกี่ยวกับการกู้ระเบิด โดยในเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องของทหาร EOD ที่มีหน้าที่ในการกอบกู้ระเบิด ตอนที่สงครามที่อิรัก โดยก่อนหน้านี้ทุกคนในหน่วยนั้นได้สูญเสียหัวหน้าจากอุบัติเหตุในครั้งที่แล้ว ทำให้ต้องมีหัวหน้าคนใหม่ที่คอยมาสั่งการ แต่กลับกัน หัวหน้าที่มาใหม่นั้นเขากลับชอบทำงานคนเดียวหรือพูดง่ายๆ คือไปกู้ระเบิดคนเดียว ซึ่งทุกคนมองว่าเขาเป็นคนที่ชอบและเป็นผู้กล้าที่จะแบกรับความเสี่ยงต่างๆ ไว้คนเดียว แม้ว่าจะเป็นความเสี่ยงนั้นจะเป็นความเสี่ยงที่ต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
อย่างที่บอกเลยว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังน้ำดี เพราะว่าตัวหนังสามารถสะท้อนภารกิจที่เหล่าผลของการมีสงครามและต้องสูญเสียผู้คนออกมาได้ดีที่สุด การันตีด้วย 6 รางวัลที่คว้ามาจากเวทีออสการ์ได้ เชื่อว่านี่ก็คงเป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่คอแนวหนังสงครามดูแล้วจะต้องชอบอย่างแน่นอน
2.Zero Dark Thirty
Zero Dark Thirty หนังสงครามที่มีการอ้างอิงมาจากประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และยังมีการผสมผสานแนวสืบสวนสอบสวนออกมาได้เป็นอย่างดี สำหรับหนังเรื่องนี้จะเป็นสร้างจากเหตุการณ์จริงที่เจ้าหน้าที่ CIA ต้องทำภารกิจไล่ล่า และต้องทำการจับกุม บิน ลาดิน ให้ได้ เพราะว่าทางการของสหรัฐเชื่อว่าเหตุการณ์วินาศกรรม 911 ตึกแฝดในสหรัฐโดนถล่มนั้นเป็นฝีมือของเขา และยังเชื่ออีกว่าตอนนี้เขาได้หลบซ่อนอยู่ในประเทศปากีสถาน สหรัฐเลยให้ CIA ร่วมทำงานกับหน่วยซีลที่ที่ม 6 เพื่อออกตามล่าหา บิน ลาดิน
ภายในเรื่องมีจุดที่ผู้เขียนชอบมากคือการเอาเบื้องหลังการทำงานของเจ้าหน้าที่ CIA ที่เครียดมากแถมยังมีแรงกดดันอีก และในเรื่องนี้ก็ยังมีการแบ่งองก์ย่อยๆ อีก เพื่อให้เรามองเห็นเส้นทางตามที่เขาในวางมาไว้ ดูแล้วย่อยง่าย และที่สำคัญเลยในเรื่องก็ไม่ได้มีการนำเสนอเพียงแต่ด้านที่ออกตามล่าบิน ลาดิน เท่านั้น ในเรื่องก็ยังมีบางส่วนที่ยิงมุกจิกกัดอเมริกาด้วย ทำให้เรื่องราวของ Zero Dark Thirty นั้นก็มีรสชาติที่ค่อนข้างหลากหลาย
3.Lone Survivor
หนังสงครามน่าดูที่ได้ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดี สร้างขึ้นมาเป็นหนังสงครามที่ไม่ค่อยเครียดหรือกดดันมากเท่าไหร่ แต่จะเน้นหนักๆ ไปทางลุ้นแบบหยุดหายใจต่างหาก เพราะว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวกับนาวิกโยธิน หรือหน่วยซีล 4 คนที่ถูกโจมตีจากกองกำลังตาลีบันที่มีอาวุธครบมือและล้อมไว้รอบ ในระหว่างที่ทั้ง 4 คนได้รับภารกิจลับให้มาต่อต้านผู้นำกลุ่มอัคไคด้า ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจึงทำให้หน่วยซีลทั้ง 4 นายนั้นต้องพยายามรักษาความเข็มแข็ง ความกล้าหาญและความุ่งมั่นเอาไว้ เพื่อต่อสู้และเอาชีวิตรอดไปให้ได้ในที่สุด
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนังสงครามเรื่อง Lone Survivor จะได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 2 สาขา เพราะด้วยความที่โปรดักชั่นต่างๆ ก็ค่อนข้างแน่นทั้งด้านภาพและเสียงรวมไปถึงเนื้อเรื่องที่ได้ถูกหยิบยกเรื่องจริงเอามาทำ ก็ทำให้คนดูนั้นอาจจะรู้สึกอินไปกับหนังด้วย บวกกับการที่เอามาผสมสานกับบู๊แอคชั่นแบบดุดัน ใส่กลิ่นดราม่าเข้าไปเล็กๆก็ยิ่งช่วยส่งตัวหนังให้สนุกและมีความกลมกล่อมของเนื้อเรื่องมากยิ่งขึ้น พอหยิบมาดูแล้วก็จะเชื่อเลยว่านี่แหละหนังที่มีคุณภาพจริงๆ
4.12 Strong
หนังสงครามอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายขายดี และเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์วินาศกรรม 911 ที่ทุกคนต่างรู้จักกันเป็นอย่าง ซึ่งจะในหนังจะเป็นการเล่าต่อหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นโดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยที่ไหนมาก่อน เมื่อทางสหรัฐเองได้มีคำสั่งส่งทหารหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์เข้าไปยังเขตอัฟกานิสถานจำนวน 12 นาย เพื่อเจรจาและติดต่อหาพันธมิตรที่นั่น และต้องเข้ายึดเมืองมาซาร์ อี ชารีฟ คืนจากตาลีบัน เนื่องจากตรงนั้นเป็นของพันธมิตร และเพื่อที่จะไม่ให้กลุ่มตาลีบันนั้นขยายอำนาจมาโจมตีสหรัฐได้ จึงทำให้พวกเขาทั้ง 12 คนนั้นต้องเสี่ยงชีวิตถือปืนอยู่บนหลังม้าสู้กับปืนกลรถถัง
นี่ก็น่าจะเป็นหนังสงครามน้ำดีที่ต้องบอกเลยว่ามันส์สุดๆ สาดกระสุนกันแทบจะหยุดหายใจและยังมีการเซ็ตสนามรบที่เราอาจจะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะว่าเรื่องนี้เขาได้วางสมรภูมิรบให้อยู่ท่ามกลางภูเขาหิน ประเทศอัฟกานิสถานทำให้เราเห็นฉากเทือกเขาที่มีความสวยงานของทัศนียภาพผสมกับความหล่อเท่ของทหารที่อยู่ในฉากเดียวกันเลย และถ้าหากว่าใครอยากดูหนังสงครามเรื่องนี้แล้วกลัวจะเครียดทั้งเรื่อง บอกเลยว่าไม่ใช่กับหนังเรื่องนี้แน่นอน เพราะว่าอารมณ์ในหนังก็ไม่ได้มีแค่การสาดกระสุน การนองเลือด เพียงอย่างเดียว แต่เขายังใส่ความคอมเมดี้ ยิงมุกตลกเอาไว้ด้วย ทำให้คนดูนั้นสามารถผ่อนคลายในหนังได้ในเวลาเดียวกัน ถือว่าเป็นหนังที่ทำออกมาดีจริงๆ
5.Dunkirk
หนังสงครามที่อ้างอิงประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นจริงอย่างสงครามโลกครั้งที่สอง ที่จะเล่ามุมมองของฝ่ายสัมพันธมิตรที่ได้ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “ยุทธการดันเคิร์ก” ในปี 1940 ซึ่งต้องบอกเลยว่าหนังสงครามน้ำดีเรื่องนี้ก็เล่าเรื่องออกมาได้อย่างบีบคั้นเข้าถึงอารมณ์มาก ทั้งๆ ที่ในเรื่องก็แทบจะไม่มีการสาดกระสุน ปาระเบิดตู้มตามเลย ทำให้คนดูนั้นรู้สึกอินและหดหู่กับเหตุการณ์ที่บอกเล่าผ่านหนังได้เป็นอย่างดี
สำหรับหนังสงคราม Dunkirk นั้นจะบอกเล่าเรื่องราวการอพยพของทหารฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 จำนวนมากถึง 400,000 นาย ให้ออกจากหาดดันเคิร์กที่โดนทหารเยอรมันนั้นปิดล้อมเอาไว้ให้ทันเวลา โดยการอพยพนั้นต้องใช้เวลามากกว่า 10 วันทำให้พวกเขาต้องอาศัยพลเรือนต่างๆ เข้ามาช่วย ให้ได้
6.13 Hours-The Secret Soldiers of Benghazi
หนังสงครามที่อ้างอิงเหตุอุกอาจที่เรียกได้ว่าเป็นการสะเทือนขวัญไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ในวันที่ 11 ก.ย. 2012 หลังเกิดเหตุการณ์ 911 เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น ซึ่งมีเหตุก่อการร้ายขึ้นโดยกลุ่มอาสาสมัครติดอาวุธได้เข้ามาบุกโจมตีกงสุลสหรัฐในประเทศลิเบีย หมายชีวิตท่านทูตสหรัฐประจำที่ประเทศลิเบียในขณะนั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ 6 รายนั้นต้องทำการคุ้มกันและปกป้องท่านทูตให้ปลอดภัยท่ามกลางความกดดันตลอดการต่อสู้หลายชั่วโมง จะบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ลุ้นระทึก ในทุกฉาก มีการใช้เอฟเฟคได้อย่างคุ้มค่ามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงและภาพ ก็ทำออกมาได้อย่างสมจริง ใครที่ชอบหนังแนวนี้บอกเลยว่าเรื่องนี้เหมาะมากกับการที่จะต้องไปดู
7.Hacksaw Ridge
เรื่องสุดท้ายของหนังสงครามที่จะเอามาแนะนำขอยกให้กับ Hacksaw Ridge หนังที่เรียกได้ว่าครบเครื่องและครบรสมาก ในการดำเนินเรื่องไม่มีความน่าเบื่อเลยแม้ว่าจะมีความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง สำหรับ Hacksaw Ridge นั้นจะเป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของ เดสม่อน ดอส ชายหนุ่มผู้ที่ไม่ชอบใช้ความรุนแรง รักสันติมากๆ แต่ในช่วงเวลานั้นเขาได้ถูกบังคับให้เป็นทหารเข้าร่วมในสงคราม ด้วยความที่นิสัยเขาเป็นคนรักสงบเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ใช้ปืนในการฆ่าคนแต่เขาเลือกที่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนในสงครามแทน จนเขาถูกกล่าวขานให้เป็นตำนานในการช่วยเหลือเหล่าเพื่อนทหารโดยไม่ใช้ปืนเลย หลังจากสงครามในครั้งนั้นเขาได้รับการยกย่องถึงวีรกรรมที่เขาทำ และได้รับเหรียญกล้าหาญอีกด้วย
สงครามเหตุการณ์ที่มีแต่ความสูญเสีย
และนี่ก็เป็น 7 หนังสงครามที่เราเอามาฝากเพื่อนๆ กันในวันนี้ บอกเลยว่าแต่ละเรื่องที่เราได้คัดสรรมานั้นก็เป็นหนังสงครามน้ำดีที่ได้เข้าชิงรางวัลในเวทีโลกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนังน่าดูที่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องจริงอีกมุมที่เราไม่เคยเห็น ทั้งมิตรภาพในสนามรบ ความปรองดอง หรือการวางกลยุทธ์ต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสงครามอีกหลากหลายเรื่องที่ก็สร้างมาเพื่อให้คนดูได้สัมผัสอีกด้านเหมือนกัน ก็ต้องหามาดูกันให้ได้ และสุดท้ายนี้ผู้เขียนเชื่อว่าจุดสุดท้ายของการแก้ปัญหาก็ไม่ควรที่เป็นสงคราม เพราะสิ่งนี้มันจะทำให้ทุกฝ่ายล้วนมีการสูญเสียด้วยกันทั้งสิ้น
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.patsonic.com/movie/lone-survivor/
- https://www.patsonic.com/movie/zero-dark-thirty/#
- https://movie.kapook.com/view264203.html
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://wall.alphacoders.com/by_sub_category.php?id=229846&name=Lone Survivor Wallpapers&lang=German
- https://www.kwanmanie.com/hacksaw-ridge-review/
- https://ew.com/article/2016/01/14/13-hours-ew-review/
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม