กาลครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติซีรีส์ไทย ได้เคยมีประวัติศาสตร์ชาติซีรีส์อยู่เรื่องหนึ่ง ที่เรียกได้ว่าในสมัยก่อนถ้ามีการดูคู่กรรม หรือบ้านทรายทองแล้วล่ะก็ วัยรุ่นยุคนั้นก็จะหยุดดู “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” อย่างแน่นอน มันสร้างปรากฏการณ์อะไรหลายๆอย่าง ให้แก่วงการบันเทิงบ้านเราเลยทีเดียว ถึงซีรีส์นี้จะจบไปนานแล้ว แต่ก็มีอะไรที่ควรค่าแก่การนึกถึง พูดถึง และกลับไปดูอีกครั้ง เพื่อเก็บรายละเอียดและประเด็นต่างๆ ที่บางประเด็นถือได้ว่ามาก่อนกาลก็ว่าได้ รวมถึงความสัมพันธ์ของตัวละครที่เรียกได้ว่าพันกันยั้วเยี้ยซะยิ่งกว่าสายไฟระโยงระยางในประเทศเราเสียอีก ซึ่งบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกันว่าทำไมกัน ซีรีส์นี้ถึงได้กลายเป็นซีรีส์ขวัญใจคนไทย โดยเฉพาะวัยรุ่นจวบจนปัจจุบัน
คำเตือน! บทความนี้มีการสปอยล์เนื้อหาของ Hormones วัยว้าวุ่น ทั้ง 3 ซีซั่น หากต้องการอ่านแบบไม่เสียอรรถรส กรุณาไปรับชมมาก่อนผ่านทาง Netflix และ Youtube ช่อง GTHchannel
ซีรีส์ที่ตีแผ่ความวัยรุ่นได้ดียังไม่มีใครสามารถทำได้ในยุคนั้น
หากให้ย้อนกลับไปในสมัยนั้นยังไม่มีซีรีส์เรื่องไหนที่สามารถเป็นซีรีส์ที่กระแสมาแรงแล้วแรงอีก จนโซเชียลมีเดียถล่มทลายกันเลยทีเดียว ไหนจะความบอกต่อกันแบบปากต่อปากกันแบบไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะมีมาแล้วกี่ซีซั่น ยิ่งเป็นซีรีส์เกี่ยวกับวัยรุ่นที่เปรียบเสมือนกำลังซื้อหลักแล้ว กระแสก็จะยิ่งดีมากขึ้นไปอีก ถึงขนาดที่ว่าในบางครั้งบุคคลที่เป็นพ่อคนแม่คนก็สามารถรับรู้ถึงปัญหาของลูกได้ผ่านทางซีรีส์เรื่องนี้ ถือว่าเป็นซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่เรียกได้ว่าการดูพร้อมกันกับครอบครัวเป็นสิ่งที่ควรทำ
รายละเอียดในแต่ละซีซั่น
Hormones วัยว้าวุ่น Season 1
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่แจ้งเกิดนักแสดงหลายๆคนก็ว่าได้ เช่น “จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล”, “ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล”, “ธนภพ ลีรัตนขจร”, “สุภัสสรา ธนชาต”, “เสฎฐวุฒิ อนุสิทธิ์” และ “เขมิศรา พลเดช”
ถ้าหากจะให้ลงลึกถึงทุกเนื้อเรื่อง เชื่อว่าสิบหน้าก็คงจะเล่าไม่หมด แต่ทว่าทุกตัวละครนักเรียนในเรื่องนี้ต่างมีปัญหา และบาดแผลเป็นของตัวเอง ผ่านความเจ็บปวดที่ต้องฝ่าฟันเพื่อการเติบโตไปสู่ผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกัน หลักๆเลยก็คงหนีไม่พ้นเรื่องความรัก เช่น ความสัมพันธ์ของ ตัวละครต่างๆ นั่นคือ “วิน”, “ของขวัญ”, “หมอก”, “ต้า”, “เต้ย”, “ไผ่”, “สไปรท์”, “ภู”,“ธีร์” และ “ดาว”
เริ่มต้นกันกับซีซั่นแรกที่เปรียบเสมือนภาคเปิดไปสู่ความโกลาหลของชีวิตวัยรุ่น ทั้งความรัก ความสัมพันธ์ การแอบชอบ หรือลามไปหน่อยก็อาจจะเป็นเรื่องราวของการเปิดเผยถึงรสนิยมทางเพศซึ่งในภาคแรก สิ่งที่ชูโรงเลยคือความรักแบบชายรักชายของตัวละครภูและธีร์ ที่เรียกได้ว่าไม่ได้ทำมาเพื่อสาววายเท่านั้น แต่กลับมีอะไรแอบแฝงอยู่ ประเด็นต่อมาคือประเด็นความสัมพันธ์ของดาวและ “ดิน” ที่เกินเลยไปจนไปสู่สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการสอดแทรกเรื่องการเตรียมพร้อมก่อนมีเพศสัมพันธ์และป้องกันได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับตัวละครสไปรท์หญิงสาวที่ดูจะเป็นผู้หญิงที่ง่ายและแรดแต่ก็ป้องกันตัวเองได้ดีทุกครั้งเวลาจะมีเพศสัมพันธ์กับใคร รวมถึงตัวละครวินที่สุดโต่งในการกระทำจนนำพาไปสู่การมีปัญหามาให้อย่างไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในด้านความสัมพันธ์ และ เต้ยกับความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ได้ง่ายเหมือนโรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ
แต่ทว่านอกจากความรักและความสัมพันธ์แล้ว เรื่องของความเดือดก็มีไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกับซีซั่นแรกกับตัวละครไผ่ที่เรียนไม่ยุ่งมุ่งแต่ตี ตีจนได้เรื่อง ตีจนมีปัญหากับผู้หญิง จนมีปัญหากับเพื่อน จนมีปัญหากับครอบครัว จนกระทั่งไผ่ได้กลายสภาพเป็นบุคคลในชุดผ้าเหลืองในที่สุด
ประเด็นต่อมาที่ค่อนข้างน่าสนใจคือ เรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่ดูจะเพอร์เฟกต์ไปหมดซะทุกเรื่องอย่างของขวัญที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายในครอบครัวของเธอ ก็ทำเอาเธอถึงกับไปไม่เป็นอยู่เหมือนกัน และนำไปสู่พฤติกรรมที่เธอไม่คิดจะทำนั่นคือการโกงข้อสอบ ในขณะที่นักเรียนคนอื่นตั้งใจอ่านหนังสือเท่าที่จะทำได้ เรียกได้ว่าในซีซั่นแรกก็มีประเด็นทางสังคมมากมายให้พูดถึงแล้ว
Hormones วัยว้าวุ่น Season 2
ต่อมาที่ซีซั่นที่สอง ความพิเศษมันอยู่ตรงที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้เปิดโอกาสให้มีการออดิชั่นนักแสดงจากทางบ้าน โดยมีการเฟ้นหานักแสดงเหล่านี้เกิดขึ้นภายใต้โครงการ Hormones The Next Gen โดยเป็นการแจ้งเกิดนักแสดงทั้ง 5 คนด้วยอย่าง “ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์”, “ธิติ มหาโยธารักษ์”, “นรีกุล เกตุประภากร”, “ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ” และ “กัญญาวีร์ สองเมือง”
กับเรื่องราวในซีซั่น 2 ที่จะเพิ่มความวินาศสันตะโรมากขึ้นไปอีก เริ่มต้นที่ดาวและ “ก้อย” ที่ดูเหมือนจะเกินคำว่าเพื่อนเล่น ซะจนอาจจะกลายเป็นคำว่าเล่นเพื่อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่หัวใจของดาวยังคงมีรอยแผล ขวัญและหมอกที่ความสัมพันธ์ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็อาจจะมีปัญหากันในท้ายที่สุด สไปรท์และไผ่ที่ในที่สุดก็เคลียร์ใจกันได้ แต่ความสัมพันธ์ก็เริ่มมีปัญหาเมื่อสไปรท์ได้ไปถ่ายนิตยสาร ทำให้มีผู้ชายมากมายเข้าหาเธอ ส่วนวินพอได้ไปอยู่ที่อเมริกาก็ได้ไปเจอกับ “เจน” ที่จะทำให้ชีวิตของวินเปลี่ยนไป รวมถึงสาวน้อยอย่าง “ขนมปัง” ที่กำลังจะมาทำให้ชีวิตของต้าเปลี่ยนไป และหลังจากที่ความสัมพันธ์ของภูกับธีร์ที่ระหองระแหง สุดท้ายก็ดูเหมือนจะมี “นน” มาเป็นหนึ่งตัวละครที่ดามใจและมีบทบาทในซีซั่นนี้ “ซัน” หนุ่มน้อยตัวแสบที่จะทำให้ความสัมพันธ์ตัวละครสั่นคลอนเช่นเดียวกัน แต่คงจะไม่มีตัวละครไหนที่จะพีคไปกว่า “ออย” ที่ทำให้ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงไปหมดโดยเฉพาะกับสไปรท์
ปมปัญหาที่สอดแทรกไว้ในซีซั่นนี้ สิ่งที่เป็นตัวชูโรงได้ดีก็คงจะหนีไม่พ้นความสัมพันธ์ของก้อยดาวที่เกินเลย รวมถึงหมอกที่สูญเสียทุกอย่างไป ทั้งพ่อที่ตายไป และความรักที่ไม่สมหวัง รวมถึงตัวละครออยที่สร้างเรื่องจนกระทั่งกลายเป็นตัวละครเพียงตัวเดียวในซีซั่น 2 ที่มีตอนเป็นของตัวเอง แตกต่างจากในตอนอื่นๆที่ใช้ตัวละครในภาคแรกโดยการทำบัญชีสไปรท์ปลอมขึ้นมา เพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดบางอย่างของตัวเอง ดาวที่ทนพฤติกรรมบางอย่างของผู้ปกครองไม่ไหวจนระเบิดอารมณ์ออกมาทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องมานั่งเปิดอกคุยกัน สิ่งที่น่าจะเป็นกุญแจหลักๆก็คือ การหันหน้ามาคุยกัน มีอะไรก็เปิดอกแลกเปลี่ยนกัน และปัญหาที่วัยรุ่นพวกนี้ต้องแก้ปัญหากันเอาเอง เพื่อที่จะได้โตไปเป็นผู้ใหญ่ในภายภาคหน้า
Hormones วัยว้าวุ่น Season 3 : The Final Season
กลับมาที่ซีซั่นนี้ที่เป็นการประกาศของซีซั่นสุดท้าย กับการมาของนักแสดงใหม่ในจักรวาลฮอร์โมนเช่น “ชานน สันตินธรกุล” “วงศ์รวี นทีธร” “ณัชพัณณ์ ปรมะเจริญโรจน์” “นฤภรกมล ฉายแสง” “จิรายุส ขาวใบไม้” “สาริษฐ์ ตรัยเลิศวิเชียร” “ธนบดี ใจเย็น”, “ธีธัช รัตนศรีทัย”, “ภาวดี คุ้มไพศาล”
กับคราวนี้ที่รุ่นพี่ต่างจบการศึกษาและเข้ามหาวิทยาลัยไปแล้ว แต่คนที่ยังอยู่ที่โรงเรียนนาดาวบางกอกก็ต้องพบเจอกับปัญหาใหม่ๆ ภายใต้การทำโปรเจกต์กีฬาสี ซันที่ขึ้นมาเป็นนักร้องนำของวง ออยและขนมปังที่ตัดสินใจเคลียร์ใจกันหมด การกลับมาของเจนจากอเมริกาสู่เมืองไทย “บอส” กับ “นน” ที่นิสัยต่างกันอย่างสุดขั้ว “เฟิสต์” ที่ดูเหมือนเป็นคนเฮฮาทั่วไปแต่กลับซ่อนปัญหาของครอบครัวเอาไว้ได้อย่างน่าสงสาร ออยที่ยังคงสร้างปัญหาไม่หยุดและดูเหมือนว่าจะหนักกว่าซีซั่นที่แล้วหลายเท่าตัว ออยกับขนมปังที่ดูแลใจกันและกัน และยังมีตัวละครอีกมากที่ยังมีปัญหา ทว่าจุดแข็งของสิ่งที่ซีซั่นนี้ต้องการจะสื่อคือ ความรับผิดชอบ การทำงานร่วมกัน การทำงานกันเป็นทีม และการปรับตัวเข้ากับสังคมมากขึ้น ผ่านผู้คนที่ต่างนิสัยและต่างความคิด เฉกเช่นกับโลกแห่งการทำงานในความเป็นจริง
การตอบรับของสังคมที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ
แน่นอนว่าซีรีส์ที่แรงขนาดนี้ ย่อมมีกระแสที่ดีและแย่ปะปนกันไป เริ่มจากด้านกระแสที่ดีที่ซีรีส์มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก แถมยังได้รับรางวัลและการเสนอชื่อหลายครั้งเลยทีเดียว แต่ทว่ากระแสในแง่ลบก็ถือว่ามีมากเช่นเดียวกัน เพราะมีการเปรียบเทียบถึงซีรีส์ดังในต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งในสายตาของผู้ปกครองบางคนรวมถึง กสทช. ที่มองว่าไม่เหมาะสมกับเยาวชน อีกทั้งยังมีเนื้อหาที่ล่อแหลม ทำให้ช่วงเวลานั้นมีการตรวจสอบถึงเทปที่ยังไม่ได้ถ่ายทำโดยละเอียด ทว่าผลออกมาโดยในที่สุดก็คือเปลี่ยนเรทผู้ชมเป็นอายุ 18 ปีขึ้นไปและออกอากาศตั้งแต่เวลา 22.00 น.
กิจกรรมพิเศษที่ออกมาต่อยอดหลังจากที่ซีรีส์ฮอร์โมนประสบความสำเร็จ
นอกจากกิจกรรม Hormones The Next Gen แล้ว ทาง GTH ก็ได้มีกิจกรรมมากมายอีกเช่น Frozen Hormones ทริปว้าวุ่น 0 องศาที่พาสมาชิกนักแสดงหลายสิบชีวิตไปเที่ยวและทำภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีทั้งหมด 13 ตอนด้วยกัน รวมไปถึงกิจกรรม Hormones Day & Night ว้าวุ่นวันยันค่ำ ที่เป็นคอนเสิร์ตที่ให้เหล่าบรรดาแฟนคลับมาสนุกกัน หรือแม้กระทั่ง Hormones Prom Night ที่เปรียบเสมือนงานเลี้ยงที่ให้นักแสดงมาแต่งหล่อแต่งสวย ร้องเพลง เต้นรำ ฟังดนตรีกันอย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในกิจกรรมที่ฟินตัวแตกได้ดีเลยทีเดียว แต่ที่ทำให้แฟนคลับมีความสุขแบบขั้นสุดก็คือ Hormones Talk ว้าวุ่น Reunion ที่พานักแสดงหลายคนมาพูดคุยกันในระบบ Talk From Home ถึงวันวานเก่าๆ เช่น การเตรียมตัวก่อนการแสดง การอ่านบท การแสดง และตัวละครจะทำอะไรต่อในอนาคต ซึ่งเรียกว่าเป็นการกลับมาให้แฟนๆได้คิดถึงกันอีกครั้งหนึ่ง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับซีรีส์ในตำนานเรื่องนี้ ที่เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือวัยไหนก็ควรดูสักครั้งในชีวิต เอาจริงๆ ซีรีส์เรื่องนี้ก็เปรียบเสมือนหนังสือเรียนวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิตและสร้างเสริมลักษณะนิสัยได้เลยทีเดียว ในบางประเด็นทางสังคมที่ซีรีส์เรื่องนี้ที่จะเล่าก็ถือว่ามาก่อนกาล และถือได้ว่าบางทีก็ยังคงสามารถนำมาเป็นประเด็นวิพากษ์และสอนใจได้จนถึงปัจจุบัน เชื่อว่าวัยรุ่นก็คือวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ วัยที่หุนหันพลันแล่น วัยที่ต้องการการเข้าใจ วัยที่ต้องการการรับฟัง ซึ่งอย่างที่ได้บอกไปว่าซีรีส์เรื่องนี้เหมาะแก่การดูกับครอบครัวเพื่อที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพราะเชื่อว่าการพูดคุย คือการที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ทำงานกับคนดูอย่างแท้จริง ซึ่งถ้าอยากดูแบบถูกลิขสิทธิ์แล้ว สามารถรับชมได้ผ่านทาง Netflix และ Youtube ช่อง GTHchannel ได้เลย
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://mgronline.com/drama/detail/9560000088459
- https://entertainment.trueid.net/synopsis/QweL00QlBrlx
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://thestandard.co/poponthisday18052556-2/
- https://www.sanook.com/movie/39281/
- https://entertainment.trueid.net/synopsis/QweL00QlBrlx
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎