ไม่ใช่ว่าทุกชีวิตจะมีความสุข ไม่ใช่ว่าทุกความรักจะจบลงที่ความสมหวัง ไม่ใช่ว่าความพยายามจะนำมาซึ่งความสำเร็จ และไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะได้เจอกับสิ่งที่ตัวเองปรารถนา ชีวิตจริงมันก็เป็นแบบนี้ บ่อยครั้งที่ตอนจบของมันนำมาซึ่งความหดหู่ ความเสียใจ ความน่าสังเวชเช่นนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ทว่าโลกใบนี้ก็สุดแสนจะโหดร้ายเกินที่เราจะสามารถคาดเดาได้ เช่นเดียวกับในโลกของภาพยนตร์ที่เรื่องราวมันช่างโศกเศร้า หลากหลายตัวละครประสบพบเจอกับปัญหา และเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หยุดหย่อน จนทำให้คนดูอย่างเราๆ สามารถเสียน้ำตาให้กับเรื่องพวกนี้โดยง่ายเลย ซึ่งมีทั้งหนังไทย และหนังต่างประเทศด้วย เรียกได้ว่าแต่ละเรื่องนั้นหดหู่จนเรียกได้ว่าร้องไห้ให้กับตัวละครเลยทีเดียว แต่จะมีเรื่องไหนบ้างไปดูกันเลย
Transistor Love Story : มนต์รักทรานซิสเตอร์
ไม่ขอเสียเวลาอีกต่อไป ขอเริ่มกันที่เรื่องแรก ที่ทำเอาทุกคนเสียน้ำตาไปกับความเศร้าของเรื่องนี้ได้ดี กับเรื่องราวของผู้ชายพังๆ จากต่างจังหวัดอย่าง “แผน” ที่มีความสุขกับการร้องเพลงอยู่เสมอ จนกระทั่งเขาได้พบเจอกับ “สะเดา” นางเอกของเรื่อง ซึ่งทั้งสองคนนั้นได้แต่งงานกันไปในที่สุด โดยที่มีวิทยุทรานซิสเตอร์เป็นเหมือนของขวัญของฝ่ายชายที่มอบให้ฝ่ายหญิง
ชายหนุ่มอย่างแผนนั้นมีความฝันที่อยากจะเป็นนักร้องชื่อดัง ทว่าชีวิตพลิกผันเมื่อได้รับหมายเกณฑ์ทหารในขณะที่สะเดาก็ตั้งท้อง ชายหนุ่มหนีทหารเข้ากรุงเทพไปอยู่วงดนตรีที่มี “ป๋า” เป็นหัวหน้าใหญ่ แต่สิ่งที่ได้ทำมีเพียงแค่งานระดับล่าง ส่วน “ดาว” ที่สมัครมาพร้อมกัน กำลังจะมีอนาคตที่ดีกับเส้นทางนี้ แต่แผนก็ได้ขึ้นร้องเพลงจนได้ ในคืนเดียวกัน ป๋าชวนแผนดูวิดีโอโป๊ทว่าในหนังเรื่องนั้น ดาวเป็นนางเอกของเรื่อง และป๋าก็ได้ลวนลามแผน เขาตกใจจึงพลั้งฆ่าป๋าจนตายคาที่ เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชะตากรรมของแผนจะเป็นยังไงต่อ สามารถรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้วผ่านทาง Netflix
Where We Belong : ที่ตรงนั้น มีฉันหรือเปล่า
เรื่องที่ 2 ที่จะพูดถึงกันจะเป็นเรื่องราวของเด็กสาวกับโศกนาฏกรรมของความบริสุทธิ์และความเจ็บปวดของชีวิตวัยรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างเจ็บแสบ และสะเทือนอารมณ์ กับตัวหนังที่จะพาไปสำรวจชีวิตและความเป็นอยู่ของ “ซู” เด็กสาวที่รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาผิดที่ เกลียดสังคมที่อยู่ เกลียดที่ต้องมาขายก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงทุกวัน จนกระทั่งเธอได้สอบชิงทุนได้ไปต่างประเทศ
เธอจึงชวน “เบลล์” มาช่วยกันจัดเช็คลิสต์ต่างๆทั้งจัดกระเป๋า รวมถึงสิ่งที่เธอต้องทำ คนที่เธอต้องลา ซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อน คนรัก และครอบครัว ที่ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไป ให้กลับมาเปลี่ยนแปลอีกด้วย รวมถึงเบลล์เองที่เป็นเพื่อนตัวติดกันที่จะมีผลกับเนื้อเรื่องอย่างใหญ่หลวงอีกด้วย เพราะเธอนั้นเป็นคนฉุดรั้งไม่ให้ซูจากไป เพราะเพื่อนรักของเธออาจไม่กลับมาอีก ความเจ็บปวดของคนทั้งสองจึงเกิดขึ้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป จะเศร้าเคล้าน้ำตาแค่ไหน สามารถติดตามแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ผ่านทาง Netflix
Joker : โจ๊กเกอร์
หนังหดหู่เรื่องที่ 3 ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังนี้ เป็นการตีความวายร้ายตลอดกาลของแบทแมนใหม่ แบบที่ไม่อิงจักรวาลไหนๆเลย แต่เป็นการเล่าเรื่องในเมืองที่ชายวัยกลางคนอย่าง “อาร์เธอร์ เฟล็ค” ที่อาศัยอยู่ในเมืองก็อตแธม กับอาชีพตลกรับจ้างรายวัน โดยที่เขามีความฝันอยากเป็นตลกเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดัง แต่ทว่าชีวิตของเขานั้นต้องประสบพบเจอกับความลำบากในทุกมิติ ทั้งความยากจนที่ต้องอยู่อพาร์ตเมนท์รูหนู งานการที่ไม่มั่นคง เจ้านายที่กดขี่ ผู้คนที่คอยกลั่นแกล้ง แม่ที่ร่างกายใกล้โรยรา
เขามี “เมอร์เรย์ แฟรงคลิน” เป็นแรงบันดาลใจในการทำตามความฝันของเขา รวมถึง “โทมัส เวย์น” ชายหนุ่มที่เขาให้ความเคารพเหมือนกับพ่อ แต่ทว่าโชคชะตาที่ไม่เคยหยุดซ้ำเติมเขาเลย
สำหรับเรืองนี้นั้นต้องเตือนก่อนเลยว่า หนังเรื่องนี้คนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าไม่ควรดูด้วยประการทั้งปวง เพราะหนังมีสิทธิ์ทำให้คุณร้องไห้ จมดิ่ง และติดอยู่กับความรู้สึกหดหู่ไปยาวนานหลายวันได้เลย แต่ถ้าคิดมาดีแล้วว่าไหว ก็สามารถไปพิสูจน์แบบถูกลิขสิทธิ์ได้แล้วผ่านทาง Netflix แล้วคนดูจะได้สัมผัสว่าเมื่อยามหมาจนตรอก เสียงหัวเราะที่น่ากลัวที่แท้จริง เป็นอย่างไร และตอนนี้มีข่าวออกมาแล้วว่ากำลังจะมีภาค 2 มาให้ชมกันเร็วๆนี้
The Mist : มฤตยูหมอกกินมนุษย์
เรื่องที่ 4 ที่จะพาให้ทุกคนรู้จักกัน เป็นเรื่องราวที่จะเปิดเผยสันดานดิบของมนุษย์อย่างแท้จริง ที่สร้างจากนวนิยายอันยอดเยี่ยมของ “สตีเฟน คิง” กับเรื่องราวของอสูรกายในสายหมอกอันแน่นหนา ที่พร้อมจะฆ่าชีวิตของมนุษย์ที่มีอยู่ ผู้คนจำนวนหนึ่งได้เข้าไปหลบในซูปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเอาชีวิตรอด เหล่าผู้คนที่รักตัวกลัวตาย เมื่อคนเราถึงยามวิกฤติ พวกเขาจึงงัดทุกความรู้สึกมาอธิบายการกระทำของตัวเอง ทั้งความรัก ความกลัว ความเห็นแก่ตัว
ทั้งเรื่องนอกจากจะได้เห็นสันดานดิบที่แท้จริงของมนุษย์แล้ว เรายังจะได้ลุ้นถึงอันตรายที่เกิดขึ้นด้านนอกนั่นอีกด้วย กับตอนจบที่เรียกว่าทำเอาคนดูช็อกและเสียน้ำตากันไปหลายวันเลยทีเดียว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร อยากให้ทุกคนไปลองติดตามกัน รับรองว่ามีร้องไห้แน่นอน
Buried : คนเป็นฝังทั้งเป็น
หนังหดหู่เรื่องที่ 5 กล่าวถึงสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้น แต่แล้วความซวยมักไม่เลือกเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ที่แทบจะเป็นหนังโลเคชั่นเดียวเลยก็ว่าได้ กับเรื่องราวของ “พอล คอนรอย” ทีมีอาชีพเป็นคนขับรถก่อสร้างในอิรัก แต่หลังจากถูกโจมตี เขาก็กลับฟื้นขึ้นมาในโลงศพ ซึ่งเขามีเพียงแค่ไฟแช็ค และโทรศัพท์มือถือ กับอากาศในนั้นที่มีเพียงน้อยนิด กับการพยายามหาทางที่จะเอาตัวรอดไปให้ได้
ถึงแม้ว่าหนังจะมีเนื้อเรื่องที่ไม่ซับซ้อน ไม่หวือหวาอะไร แต่ทว่ามันกลับสร้างความรู้สึกต่อเราในการลุ้น การเอาใจช่วยชายหนุ่มคนนี้ให้เอาตัวรอดจากสถานการณ์อันโหดร้าย กับความกลัวที่พุ่งทะยานอย่างสุดขีด เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อยากให้ทุกคนลองสัมผัสสักครั้งในชีวิตกันดู
Funny Games : เกมวิปริต
หนังหดหู่เรื่องที่ 6 ที่จะพาทุกคนไปรู้จักกันนั้น สำหรับคนที่อยากเห็นความโรคจิต วิตถารของมนุษย์ นี่จะเป็นหนังที่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง หนังเรืองนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ทุนสูง เสียงดนตรีอลังการ หรือมุมกล้องที่พิสดาร แค่เนื้อเรื่องและการแสดงก็สามารถทำคนดูอย่างเราๆ เศร้าซึมและจิตตกไปนานหลายวันได้เลยทีเดียว กับเรื่องราวของครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยครอบครัวหนึ่ง ที่ไปพักร้อน จนกระทั่งเขาได้เจอกับ “ปีเตอร์” ที่มาขอไข่ที่บ้านหลังนี้ พร้อมกันกับ “พอล” แต่ทว่าเขานั้นก็ทำไข่แตกมากเรื่อยๆ จึงเกิดการทะเลาะกันครั้งใหญ่ จนเมื่อคนเป็นพ่อของครอบครัวนั้นได้กลับมา ซึ่งนั่นทำให้เกมโรคจิตนี้ได้เริ่มขึ้น
ต้องพูดเลยว่า โหดเหี้ยม และเล่นกันถึงตายเลยทีเดียว และเรื่องนี้นั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนขวัญอ่อนทางความรู้สึกอย่างแน่นอน
Se7en : เจ็ดข้อต้องฆ่า
ไหนๆ ก็เข้าสู่การรีวิวหนังหดหู่เรื่องที่ 7 แล้ว ก็เอาเรื่องที่เกี่ยวกับเลข 7 เลยก็แล้วกัน กับหนังหดหู่เรื่องนี้ ที่เล่นประเด็นเกี่ยวกับบาป 7 ประการได้อย่างถึงพริกถึงขิง แม้เวลาในเรื่องจะมีอย่างจำกัดก็ตาม กับเรื่องของ “เดวิด มิลล์ส” และ “วิลเลียม โซเมอร์เซต” สองตำรวจที่จับพลัดจับผลูมาร่วมกันสืบคดีฆาตกรต่อเนื่องอันสะเทือนขวัญ กับการตายของคน 7 คน กับตัวร้ายที่ฉลาดลึกและหลงตัวเอง กับหลุมพรางที่จะนำไปสู่จุดจบที่จะทำคนดูสะเทือนได้อย่างดี
สิ่งที่แตกต่างจากหนังหดหู่เรื่องอื่นๆก็คือ หนังเรื่องนี้มันสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิดและเหตุผลของคนร้ายที่ทั้งน่าเห็นใจและน่าสมเพชในเวลาเดียวกันได้เป็นอย่างดี และยังหักมุมไปมาอีกด้วย ถ้าหากสนใจเรื่องนี้สามารถรับชมได้ผ่านทาง Netflix, Apple TV, Google Play แบบถูกลิขสิทธิ์
The Boy in the Striped Pajamas : เด็กชายในชุดนอนลายทาง
เรื่องที่ 8 ที่จะมาเล่าให้ฟังนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หดหู่สาแก่ใจคนดู กับเรื่องของ “บรูโน” เด็กชายวัย 8 ขวบที่มีความฉลาดมาก เขามีพ่อเป็นทหาร ทว่าทั้งครอบครัวของบรูโนต้องย้ายที่อยู่ เนื่องจากความประสบความสำเร็จของคนเป็นพ่อที่ได้เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง ซึ่งที่อยู่ใหม่นั่นเป็นได้ย้ายมาประจำการที่ค่ายมรณะกักกันและสังหารชาวยิว ในสภาวะสงครามชาวยิวนั้นไม่ต่างอะไรจากเศษคน เป็นแรงงาน เป็นคนฐานันดรต่ำ ครอบครัวของเขาจะต้องพบเจอกับการเข้าออกของทหาร และแนวคิดทางการเมืองที่กรอกใส่หัวบรูโนและพี่สาวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เด็กชายได้ออกจากบ้านเพราะความเบื่อจนได้มาเจอกับ “ซมูเอล” เด็กน้อยในค่ายกักกันที่ทำให้เขาสงสัยในสิ่งที่ครอบครัวและครูสอนเขามาตลอด มิตรภาพข้ามลวดหนามของเขาทั้งสองจึงได้ก่อตัวขึ้นในที่สุด ทว่าบรูโนได้รับปากว่าเขาจะช่วยตามหาพ่อของซมูเอลในค่ายกักกันนรกนั่น จึงก่อกำเนิดเป็นตอนจบที่สุดแสนจะบีบหัวใจ และทำเอาน้ำตาไหลไม่รู้ตัว แต่ถ้าใครอยากลองสัมผัสเรื่องนี้ สามารถรับชมได้แล้วผ่านทาง Netflix
Gold : ทองกู
หนังหดหู่เรื่องที่ 9 ที่จะหยิบมาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องราวที่สะท้อนความเห็นแก่ตัวได้ดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความโลภที่ทำออกมาได้อย่างเจ็บแสบ โดยใช้สถานที่ในเรื่องเป็นตัวปอกเปลือกจิตใจจนถึงเนื้อเลยทีเดียว กับเรื่องของชายเร่ร่อน 2 คนที่เราไม่รู้จักชื่อ แต่ทว่า 2 คนนั้น มีเหตุจำเป็นให้ต้องออกเดินทางผ่านทะเลทรายที่ร้อนระอุ และแร้นแค้น
แต่ระหว่างทางนั้น มีเหตุให้พวกเขาต้องหยุดรถ และเนื่องจากเหตุการณ์นั้น ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกับทองก้อนมหึมา แต่ทว่าทองมันหนักเกินกว่าจะใช้รถขนออกไปได้ ทั้งสองจึงตกลงกันว่า จะมีอีกคนที่เป็นคนออกไปตามหาคนออกมาช่วย และจะมีอีกคนที่ต้องอยู่เฝ้าทองไว้ห้ามไปไหน เรื่องราวทั้งหมดจึงเริ่มขึ้นผ่านการร่วมมือ การระแวง และการหักหลังกันนั่นเอง
A Serbian Film : ฟิล์มวิปลาส
ไปต่อกันกับเรื่องที่ 10 ที่ถือว่าเป็นอีกสุดยอดหนังหดหู่อีกเรื่องหนึ่ง ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจและความยากจนมันน่ากลัวขนาดไหน กับเรื่องราวของ “ไมโล” ดาวโป๊ตกกระป๋องคนหนึ่ง ที่เกษียณมาอยู่กับภรรยาและลูก แต่ทว่าเมื่อเขากำลังจะถังแตกแล้ว เขาจึงต้องรับงานถ่ายหนังโป๊อีกครั้ง เพื่อแลกกับเงินก้อนโต แต่ทว่าความจริงมันการถ่ายสนัฟ ฟิล์ม หรือหนังที่เอาคนมาทรมานเพื่อความพึงพอใจของคนดู เมื่อเขาคิดจะหนี ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้แล้ว เพราะภรรยาและลูกได้มามีส่วนเกี่ยวเนื่องในแผนนี้แล้ว
การถ่ายทำภาพยนตร์ที่น่าสะอิดสะเอียนจึงเริ่มต้นขึ้น ด้วยหนังเรื่องนี้มีความหดหู่และความสะอิดสะเอียน จนทำให้ใครหลายคนไม่กล้าดูต่อกันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครดูไหวก็อยากจะแนะนำให้หามาดู
Die Tomorrow
เรื่องที่ 11 นี้อาจจะไม่ได้มีความหดหู่มากเท่าที่ควรแต่ทว่า มันก็สามารถทำให้เศร้าเคล้าน้ำตาได้กับ หนังสั้น 6 เรื่องที่กลายเป็นหนังยาวโดย “นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์” โดยหนังเรื่องนี้สร้างขึ้นจากเหตุการณ์จริง บนหน้าหนังสือพิมพ์ ผ่านสัจธรรมของชีวิตนั่นก็คือความตายนั่นเอง
ถึงหนังมันเป็นการเล่ากึ่งภาพยนตร์ กึ่งสารคดี กึ่งบทสัมภาษณ์ ผ่านคนหลายวัยตั้งแต่คนที่ลืมตาดูโลกได้ไม่กี่ปี จนกระทั่งคนแก่ไม้ใกล้ฝั่ง ที่ทำให้เราเปิดมุมมองกับความตายได้ดี และเรียกได้ว่าถ้าดูจบ มันจะติดตัวเราไปสักพักเลยทีเดียว ทว่าหนังไม่ได้เล่ายากจนเกินไป มันย่อยมาให้เราเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลย ถ้าอยากจะดูเรื่องนี้แบบถูกลิขสิทธิ์ สามารถดูได้แบบถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง Netflix
Requiem for a Dream : บทสวดศพแด่วันฝันสลาย
นี่ก็เข้าสู่หนังเรื่องที่ 12 เข้าให้แล้ว สำหรับหนังหดหู่ที่ทำเอาใครหลายๆคนเสียน้ำตาให้กับเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ กับด้านมืดของสารเสพติดที่ทำออกมาได้ถึงพริกถึงขิง กับเรื่องราวของ “ซาร่า” คุณแม่วัยแก่ที่ลูกชายไม่เคยหันมาเยี่ยมเยียนบ้างเลย สิ่งที่เธอทำมีเพียงแค่การดูรายการเกมโชว์และวาดฝันส่าสักวันจะต้องไปออกรายการนี้ให้ได้ และแล้วฝันของเธอก็เป็นจริง และยังมี “แฮร์รี่” ที่มักจะเอาทีวีไปจำนำเพื่อเอาเงินมาเสพยา ชายหนุ่มคนนี้พยายามหาทางสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อให้มีชีวิตที่ดี โดยมีเพื่อนอย่าง “ไทโรน” เพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่มีความฝันแบบเดียวกันจึงก่อตั้งธุรกิจค้ายาขึ้นมา ทว่าแฮร์รี่เองก็มีแฟนสาวอย่าง “แมเรียน” ที่อยากจะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง
โดยหารู้ไม่ว่าบุคคลทั้ง 4 กำลังจะก้าวเข้าสู่ โลกอันมืดมิดที่ยาเสพติดเป็นตัวฉุดให้ชีวิตตกระกำลำบาก คนดูจะจมดิ่งไปกับชะตากรรมของตัวละคร ที่พบเจอกับเรื่องราวที่น่าสะอิดสะเอียนและสะเทือนอารมณ์อย่างไม่น่าเชื่อ และหนังเรื่องนี้หดหู่มากจริงๆ แต่ถ้าคิดว่าไหวก็อยากจะให้หามาดูกันสักครั้ง สามารถดูได้ผ่านทาง Apple TV แบบถูกลิขสิทธิ์
Million Dollar Baby : ศึกแห่งฝัน วันแห่งศักดิ์ศรี
เรื่องที่ 13 นี้ที่อยากจะเล่าให้ฟังนี้เป็นเรื่องราวที่ “คลินต์ อีสต์วูด” ลงมือเป็นนักแสดง กำกับ รวมทั้งประพันธ์ดนตรีขึ้นมาอีกต่างหาก นับว่าเป็นคนที่เก่งๆมากคนหนึ่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เลยทีเดียว กับเรื่องของชายหนุ่มสันโดษอย่าง “แฟรงกี้ ดันน์” ผู้สันโดษที่มีอาชีพปั้นนักมวย และฝึกสอนมวยมาอย่างยาวนาน ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีคนที่อยู่ข้างเขา แต่ทว่าเขาก็ยังมี “สแครป” เพื่อนเพียงไม่กี่คนที่เขามี
ทว่าก็มี “แมกกี้ ฟิตเจ” นางเอกของเรื่องที่พกความมั่นใจและปณิธานอันแรงกล้ามาเต็มกระเป๋ากับเส้นทางสายสังเวียน กับความพยายามที่จะต้องทำให้ได้ แน่นอนว่าแฟรงกี้ปฏิเสธเธอ แต่แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน
เนื้อเรื่องดูเหมือนจะไม่มีอะไรก็จริง แต่เส้นเรื่องและการไต่อารมณ์เป็นที่สุดยอดมาก ทั้งฮึกเหิม ทั้งลุ้น ทั้งหดหู่ กับตอนจบที่ทำเอาสะเทือนกันไปหลายวันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าฉากจบนั้นช่างตราตรึงเสียเหลือเกิน อย่างไรก็ดี หากมีโอกาสก็อยากจะให้ทุกคนลองหามาดูกันให้ได้
ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ : Happy Old Year
เรื่องที่ 14 ที่อยากจะพาไปดูกันนั้น เป็นเรื่องราวของคนๆหนึ่งที่อยากจะทิ้งบางสิ่ง เพื่อก้าวข้ามต่อไปอย่าง “จีน” ที่ต้องการจะรื้อบ้านใหม่ที่มันเลอะเทอะ และไร้ระเบียบเพื่อที่จะทำเป็นออฟฟิศ การทิ้งของจึงได้เริ่มต้นขึ้น ของเก่าๆที่ไม่ได้ถูกใช้งานนานจึงไปสะกิดความทรงจำอีกครั้ง แต่คงจะมีของบางอย่างที่มีค่าและมีความเกี่ยวเนื่องกับ “เอ็ม” แฟนเก่าของจีน
เธอต้องพบเจอกับอุปสรรคหลายอย่างเช่นคนเป็นแม่ที่อยากเก็บทุกอย่างไว้ และความรู้สึกของเธอที่มีต่อแฟนเก่า รวมถึง “มี่” แฟนใหม่ของเอ็มอีกด้วย และการขุดสิ่งเก่าๆขึ้นมาทั้งของทั้งความรู้สึกนั้นก็มีราคาที่ต้องจ่ายอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร สามารถติตามได้ผ่านทาง Netflix แบบถูกลิขสิทธิ์
ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่
เรื่องที่ 15 ที่จะไปพูดถึงกันนี้เรียกได้ว่าดราม่าถูกใจคนไทยอย่างแน่นอน อีกทั้งยังสะท้อนสังคมด้านมืดและการเมืองของสังคมไทยออกมาได้อย่างเจ็บแสบ เรียกได้ว่าใครหลายคนอาจจะต้องเสียน้ำตาให้กับความบริสุทธิ์ของตัวเอกและความเน่าเฟะของสังคมได้เป็นอย่างดี กับเรื่องราวของ “พิเชษฐ์” ที่เลือกมาบรรจุราชการครูที่ต่างจังหวัดในชนบทห่างไกลความเจริญ โดยที่มี “ครูใหญ่ชาลี” เป็นครูสอนอยู่แล้ว ทว่าก็มี “ครูสมชาติ” และ “ครูแสงดาว” มาสอนด้วย แต่ก็ไม่ได้มาพร้อมความเต็มใจนัก เพราะว่าถ้าเลือกได้ทั้งสองก็อยากจะไปสอนในเมือง
แตกต่างจากครูพิเชษฐ์ที่ทั้งรัก ทั้งอุทิศตนในการสอนเด็ก จนเป็นที่รักของคนทั่วไป ทว่าเขาก็ได้ไปแฉขบวนการผิดกฎหมายของผู้มีอิทธิพล ซึ่งนั่นทำให้เขาถูกหมายหัวจากคนในนั้น ซึ่งนั่นทำให้ชะตากรรมของครูคนนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล
Parasite : ชนชั้นปรสิต
หนังเรื่องที่ 16 ที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันนั้น เป็นหนึ่งในเรื่องที่สะท้อนสังคมเกาหลีได้อย่างเจ็บแสบ กับชะตากรรมของตัวละครที่ขึ้นสูงลงต่ำ ราวกับเล่นรถไฟเหาะ กับเรื่องราวของครอบครัวตกอับ ทั้งคนเป็นและคนเป็นแม่ต่างไม่มีงานทำกันทั้งคู่ และลูกชายลูกสาวที่สอบมหาวิทยาลัยไม่ได้ ทั้งครอบครัวอยู่ในใต้ถุนในย่านเสื่อมโทรมและแออัด กับอาชีพพับกระดาษพิซซ่าส่ง
จนกระทั่ง “คิมกีวู” ได้รับงานจากเพื่อนเนื่องจากเพื่อนต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อไปสอนภาษาอังกฤษให้ตระกูลปาร์คที่ร่ำรวย เมื่อได้เงินมากมาย นโยบายหลอกลวงจึงเริ่มขึ้น และให้น้องสาวอย่าง “คิมคิจอง” มาเป็นครูสอนศิลปะ “คิมกีแท็ก” ผู้เป็นพ่อมาเป็นคนขับรถ และ “คิมชุงซุค” ผู้เป็นแม่มารับบทเป็นแม่บ้าน ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี งานนี้กำลังจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล จนกระทั่งแม่บ้านคนเก่าได้กลับมา และครอบครัวตระกูลปาร์คได้กลับมาจากการไปเที่ยว ซึ่งนั่นทำให้ชะตากรรมของทั้งครอบครัวนี้เปลี่ยนไปตลอดกาลราวฟ้ากับเหว เรื่องราวจะเป็นอย่างไรสามารถรับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Netflix และ Apple TV
Oldboy : เคลียร์บัญชีแค้นจิตโหด
หนังหดหู่เรื่องที่ 17 ที่อยากจะเล่าสู่กันฟังนี้ มีจุดเริ่มต้นมาจากความแค้น เมื่อพระเอกของเรื่องอย่าง “โอแดซู” ที่ครอบครัวถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม ถูกขังเดี่ยวเป็นเวลานานเกิน 10 ปี เมื่อออกมาได้เขาออกมากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือ ทว่าหลังจากถูกปล่อยตัวนั่นเอง ได้มีโทรศัพท์ประหลาดจากคนๆหนึ่งซึ่งสิ่งที่เขาหมายมุ่งที่จะทำคือ การตามล่าหาคนที่อยู่เบื้องหลังความบัดซบในชีวิตของเขาพร้อมกับการแก้แค้นและมี “มีโด” หญิงสาวผู้หนึ่งที่สัญญาว่าจะช่วยพระเอกของเรื่องแก้แค้นให้จงได้
แต่ทว่าอุปสรรคแห่งการแก้แค้นก็ยังคงมี มีโดได้ช่วยพระเอกของเรื่องจนได้ไปเจอกับเทปที่จะพาไปเจอกับต้นตอของปัญหา อย่างไรก็ตามเขากลับไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของบางสิ่ง ถ้าเรื่องนี้น่าสนใจก็อยากจะให้ทุกคนไปดูกัน
Schindler’s List : ชะตากรรมโลกไม่ลืม
อีกหนึ่งเรื่องที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง กับเรื่องราวของสงครามที่มนุษย์ทำกับมนุษย์กันเองได้อย่างโหดร้าย และทารุณ โดยเรื่องนี้ใช้โทนการเล่าเรื่องแบบขาวดำ เพื่อขยี้อารมณ์คนดูไปให้สุด และขยี้หนักกว่าเดิมด้วยการใช้การลงสีเพียงแค่ผู้หญิงชุดแดง เพียงเท่านั้น กับเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของ “อ็อสคาร์ ชินด์เลอร์” ที่ได้เข้ามาแสวงโชคโดยมาทำโรงงานภาชนะเครื่องเคลือบ โดยจ้างชาวยิว เพราะเห็นว่าค่าแรงถูก โดยมี “อิทแช็ก สเติร์น” ให้การช่วยเหลือ
ทุกอย่างจะเป็นไปได้สวยถ้าไม่มีการปรากฏตัวของ “อาม็อน เกิท” ร้อยตรีผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารและการยิงผู้คน จนเมื่อชินด์เลอร์เห็นเหตุการณ์ก็รู้สึกรับไม่ได้ และสะเทือนใจเป็นอย่างมาก จุดมุ่งหมายของเขาได้เปลี่ยนไปทันที นั่นคือการหาเงินมาประกันตัวทาสเหล่านี้ และปกป้องคนของเขา โดยการติดสินบนและวิ่งเต้นต่างๆนานา
ในช่วงเวลาสงครามที่โหดร้าย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็พยายามเอาตัวรอด เสียงปืนดังสนั่นอยู่ตลอด และความหวาดกลัวอันไร้ความหวังของผู้คน กับการช่วยเหลือคนจำนวนมากเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะขั้นตอนที่ยุ่งยาก ไหนจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แต่เขาก็ไม่ละทิ้งความพยายามเลย
สำหรับหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าไปสุดในทุกความรู้สึกเลยทีเดียว และทำให้คนดูเสียน้ำตามาแล้วหลายต่อหลายคน ถ้าต้องการจะดูเรื่องนี้สามารถติดตามชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Amazon Prime Video และ Apple TV แบบถูกลิขสิทธิ์ได้เลย โดยหนังเรื่องนี้เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมานั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับหนังหดหู่ที่ผู้เขียนเอามาเสิร์ฟให้แบบจัดหนักจัดเต็มจนต้องร้องชีวิต ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าดูทุกเรื่องต่อกันน้ำตาคงได้ไหลเป็นสายน้ำเป็นแน่
กับความดาร์กของชีวิตไม่ว่าจะทั้งความรัก ความฝัน ความหวัง ความตาย การเมือง อิทธิพลมืด หรือภัยอันตรายจากด้านนอก ผ่านหลายช่วงอายุของตัวละคร
กับชีวิตที่ขมยิ่งกว่ากาแฟ ดำยิ่งกว่าเฉดใดที่เคยมี สำหรับบางคนแล้วให้เรียกว่านรกบนดินก็คงจะน้อยเกินไป ชีวิตจริงก็เป็นแบบนี้ ที่ความเสียใจแทบจะพุ่งเข้าหาเราได้แทบจะทุกเสี้ยววินาทีที่เราหายใจ ต่อให้เราเตรียมพร้อมมามากแค่ไหนก็ตามดี และเชื่อเถอะว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ภาพยนตร์บางครั้งก็มาจากชีวิตจริง และชีวิตจริงบางครั้งก็ยิ่งกว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เคยผ่านตา สุดท้ายแล้วคงจะต้องบอกคนอ่านทุกคนว่า อย่าใช้ชีวิตบนความประมาทคงจะเป็นคำเตือนที่ดีที่สุดแล้ว
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎