เรื่องราวของภาพยนตร์แอ็คชั่นที่นำมาเล่าสู่กันฟังกันในวันนี้ น่าจะเป็นหนึ่งในความทรงจำวัยเด็กของใครหลายๆคน ในวัยเด็กที่ทุกคนนั้นเต็มไปด้วยจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ และในยุคที่ภาพยนตร์แอ็คชั่นมีออกมาแบบกลาดเกลื่อน ภาพยนตร์อย่าง “Transformers” กลายเป็นหนึ่งในภาพจำที่ดีของเหล่าบรรดาคนดูภาพยนตร์ทุกคนได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะมีตัวละครเอกเป็นชายวัยรุ่นที่ถือว่าน่าจดจำแล้ว ตัวละครหุ่นยนต์ทั้งฝังร้ายและฝั่งดีก็เป็นอะไรที่เท่ น่าหลงใหล และเติมเต็มความเป็นภาพยนตร์ และเติมเต็มคนดูได้อย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย และในวันนี้นั้น ผู้เขียนจะหยิบมาเล่าสู่กันฟัง จะเป็นอย่างไร น่าตื่นเต้น ขนาดไหน ขอให้ติดตามการผจญภัยนี้ไปพร้อมๆกันได้เลย
Transformers : มหาวิบัติจักรกลสังหารถล่มจักรวาล
เนื้อเรื่องนี้จะเป็นเนื้อเรื่องต้นกำเนิดไปหลายปีก่อนที่มีการปะทะกันของสองฝ่ายอย่าง “Autobots” ที่เป็นฝ่ายดี และ “Decepticons” ที่เป็นฝ่ายชั่ว จนกระทั่งสงครามนี้เกิดขึ้นกับโลก ซึ่งเป็นเรื่องราวเป็นจุดเริ่มต้นของชายหนุ่มวัยรุ่นมัธยมปลายนามว่า “Sam Witwicky” ที่กำลังอยากได้รถคันใหม่ และดูเหมือนว่าคนเป็นพ่อจะตามใจเสียด้วย ด้วยการไปซื้อรถจนได้เจอ Chevrolet และก็ได้ขับกลับบ้านจนได้ และนั่นก็ทำให้เขานั้นได้เจอกับ “Mikaela Banes” สาวสวยสุดเซ็กซี่ขยี้ใจหนุ่มๆ ที่กำลังจะกลับบ้าน แต่ไม่มีรถกลับ สุดท้ายก็ต้องอาศัยรถพระเอกขับกลับไป แต่ทว่ารถนั้นก็ดันเสียจนได้ แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ อยู่มาวันหนึ่งนั้นรถคันนั้นก็ได้ติดและขับรถออกไปเอง และรถคันนั้นก็ได้กลายสภาพเป็นหุ่นยนต์ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้ไปพบเจอกับ Autobot จนได้พบเจอกับ “Optimus Prime” ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า The Cube ซึ่งเป็นแหล่งพลังงาน โดยที่ฝั่งตรงข้ามอย่าง “Megatron” มีความต้องการที่จะเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นหุ่นยนต์เพื่อที่จะสร้างกองทัพ
Transformers : Revenge of The Fallen : ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น
จบภาคแรกก็มีภาค 2 ตามมา โดยในภาค 2 นั้น ตัวเอกอย่าง Sam จะเปลี่ยนจากเด็กมัธยมปลายกลายเป็นหนุ่มน้อยมหาวิทยาลัยไปเสียแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขานั้นต้องบอกลาหุ่นยนต์สุดรัก “Bumblebee” รวมถึงสมาชิกในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเขานั้นไม่ง่ายเสียเลย เพราะใน Transformers นั้นเขาต้องการที่จะเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาเพียงเท่านั้น และพระเอกของเรานั้นไปแตะชิ้นส่วน The Cube แต่ทว่าสงครามนั้นมันก็เกิดขึ้นจนได้ เพราะว่าตัวร้ายอย่าง “The Fallen” อาจารย์ของ Megatron นั้นเกิดฟื้นคืนชีพและได้ปลุก Megatron จึงเกิดการล้างแค้น ซึ่งนั่นทำให้ The Fallen ถูกปลดปล่อย และ Optimus Prime ตาย และ Sam นั้นต้องอยู่ท่ามกลางสงครามของสองฝั่งอีกครั้ง ซึ่งนั่นทำให้ Optimus Prime ถูกชุบชีวิต และทั้งสองฝั่งก็ได้ต่อสู้กันในที่สุด
Transformers : The Dark of The Moon : ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 3 : ดาร์ค ออฟ เดอะ มูน
สำหรับภาค 3 นั้น Sam นั้นเติบโตจากในรั้วมหาวิทยาลัยกลายเป็นวัยทำงานในที่สุด ซึ่งเขานั้นกำลังเดินเตะฝุ่น เพราะไม่มีบริษัทไหนรับชายคนนี้เข้าทำงาน รวมถึงได้มีแฟนใหม่อย่าง “Carly” ซึ่งนั่นเป็นแรงบันดาลใจทำให้ชายหนุ่มคนนี้หางานทำจนได้ เพราะเขานั้นคงไม่อยากจะกลายไปเป็นขี้แพ้และถูกมองว่าไร้ค่าในสายตาใครในที่สุด การถูกลดศักดิ์ศรีนั้นไม่ใช่เรื่องตลก ส่วนชีวิตในส่วนของ Autobot นั้นยังคงทำงานกับกระทรวงกลาโหมตามเดิม แต่ทว่า Optimus Prime หัวหน้าของ Autobot เกิดไปพบชิ้นส่วนในระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ Ukraine และ “Mearing” ได้ไปพบกับผู้บริหารของทางอวกาศที่ไปมีความสัมพันธ์กับ “Buzz Aldrin”แต่ทว่าโซเวียตได้พบกับชิ้นส่วนบางอย่างจากดวงจันทร์ ซึ่ง Optimus Prime ก็มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
Transformers: Age of Extinction : ทรานส์ฟอร์มเมอร์ส 4 มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์
สำหรับในภาค 4 นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น เมื่อพระเอกในภาคนี้ คือการเปลี่ยนพระเอกอย่าง Sam Witwicky เป็น “Cade Yeager” พ่อม่ายลูกหนึ่งที่มีอาชีพเป็นนักประดิษฐ์ที่กำลังตามหาเศษเหล็กมาประดิษฐ์สิ่งของ และเขาได้พบกับรถบรรทุกคันหนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยกระสุน แต่หารู้ไม่ว่ารถคันนี้เป็นหุ่นยนต์ ทว่าเหตุผลนั้นที่ทำไปนั้นเป็นเพราะเขาต้องการนำเงินนั้นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกสาวที่ตอนนี้นั้นกำลังเรียนมหาวิทยาลัย เหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ หน่วยทางเหนือนั้นได้หักหลัง Optimus Prime และเหล่า Autobot เพื่อที่จะไปเข้าร่วมกับหน่วย Lockdown ซึ่งได้รับคำสั่งให้มารับตัว Optimus Prime กลับไป เมื่อทางเหนือนั้นจับสัญญาณของ Optimus Prime ได้จึงระเบิดบ้านของ Cade Yeager ทิ้งไปทั้งหลัง และหลังจากนั้น Optimus Prime ก็ได้ไปที่ซ่อนส่วนตัวของ Bumblebee
Transformers The Last Knight : ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 5 อัศวินรุ่นสุดท้าย
สำหรับภาค 5 นั้นก็ยังคงได้พระเอกคนดีคนเดิมมาเล่นซึ่งคราวนี้ จะเป็นการผจญภัยที่เป็นจักรวาลที่ย้อนอดีตไปไกลมากๆ เลยทีเดียว ที่เรียกว่าข้ามไปหลายปีเลยทีเดียว ที่คราวนี้ Cade Yeager และ Optimus Prime ต้องหาชิ้นส่วนสำคัญอีกแล้ว ในยุคอัศวินโต๊ะกลม ที่เชื่อมโยงไปยังยุคพ่อมดที่ถึงแม้ว่า Optimus Prime จะเอาชนะเหล่า Decepticons ไปได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างนั้นจะจบลง เหตุเพราะเหล่า Decepticons มีเป้าหมายที่จะไปออกนอกจักรวาลเพื่อหาผู้สร้างเหล่า Transformers เพื่อที่จะเจรจาไม่ให้มาบุกโลก ซึ่งภาคนี้ Optimus Prime เกิดเปลี่ยนใจเป็นตัวร้าย ซึ่งก็คล้ายๆกับ “John Connor” ใน “Terminator Genisys” แต่สุดท้ายแล้วตัวละครในภาคนี้ก็กลับตัวกลับใจกลับมาเป็นคนดีเหมือนเดิม และสุดท้ายผู้ร้ายก็หนีไปได้
นี่คือภาพยนตร์ที่ย่อยง่าย นี่คือภาพยนตร์ที่เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อน แต่ทว่าก็เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ฮิตมากๆในช่วงหนึ่ง โดยเฉพาะวัยรุ่นในยุคนั้น ซึ่งทางผู้เขียนเองก็เคยมีประสบการณ์เช่นเดียวกัน จำได้ว่าในสมัยมัธยม ตอนสมัยชุดนักเรียน ผู้เขียนเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน ในสมัยนั้นที่รอคอยการมาของภาคต่อไป ที่จะมาพร้อมกับฉากแอ็กชั่นที่ตระการตา กับนางเอกของเรื่องที่น่าจดจำ ซึ่งโชคดีเหลือเกินที่ในตอนนี้สามารถรับชมได้แล้วผ่านทางหลายช่องทางแบบถูกลิขสิทธิ์เช่น Netflix, Apple TV, Google Play Movies จริงๆแล้ว หากย้อนเวลากลับไป ก็เป็นอะไรที่เป็นความทรงจำอันแสนหวานเหมือนกัน เพราะภาพยนตร์หุ่นยนต์ ภาพยนตร์แอ็คชั่น มันมีความบูมมากๆ ในช่วงหนึ่ง ซึ่งในตอนนี้นั้น อาจจะไม่ได้มีมากเท่าเมื่อก่อน แต่ก็ถือว่าน่าจดจำในช่วงเวลาหนึ่งได้ดี
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://www.imdb.com/title/tt0418279/
- https://www.imdb.com/title/tt1055369/?ref_=tt_sims_tt_i_2
- https://www.imdb.com/title/tt2109248/?ref_=tt_sims_tt_i_3
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม