หนุ่มๆคนไหนที่เบื่อหน่ายกับลุคแบบเดิมๆในปี 2565 ก็เป็นโอกาสดีที่จะเปลี่ยนทรงผมใหม่ด้วยการมองหา ทรงผมชาย เพื่อเปลี่ยนลุคในปีใหม่นี้ โดยบางคนอาจจะเคยตัดแต่ทรงเดิมมาอยู่ตลอดยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงลุคของตัวเองซึ่งต้องบอกเลยว่าอะไรที่คิดว่าดีแล้วก็อาจมีสิ่งที่ดีกว่าก็ได้ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะในยุคนี้ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงที่สวยเท่านั้นผู้ชายก็สามารถตัดผมให้หล่อได้ โดยในบทความนี้เราก็รวบรวมลุคสำหรับหนุ่มมาฝากกันอีกด้วยจะมีลุคไหนบ้างหนุ่มๆที่ยังคิด ทรงผมชาย ที่จะตัดยังไม่ออกต้องเข้ามาดูกันเลย
10 ทรงผมชายยอดนิยม ประจำปี 2565 แนะนำตัดทรงไหนดีในปีนี้
จะตัดทรงไหนดี เลือกทรงผมชายทรงไหนดีเรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดนิยมที่หลายๆท่านสงสัยกันเป็นอย่างมาก ซึ่งในบทความนี้เราเราก็ได้ทำการรวบรวม 10 ทรงผมชาย ที่มาแรงเป็นอย่างมากในปี 2565 มาฝากทุกท่าน ใครที่กลัวว่าตัดผมผิดชีวิตเปลี่ยนก็ควรที่จะเข้ามาเลือกทรงที่เหมาะสมกับตัวเองกันก่อนรับรองว่าได้ทรงถูกใจไม่รู้สึกผิดที่ตัดอย่างแน่นอน โดย 10 ทรงผมชาย ที่เราได้นำมาฝากจะมีทรงไหนบ้างไปดูกันเลยดีกว่า
1. ทรงผมแบบเปิดข้าง UNDERCUT
สำหรับทรงผมแรกที่เราจะแนะนำก็คือการตัดผมแบบเปิดข้างหรือที่หลายๆคนบอกร้านว่าให้ตัดทรง UNDERCUT ซึ่งสำหรับทรงนี้เรียกได้ว่าเป็นทรงกันตายของหลายๆคนเลยทีเดียวเพราะตัดออกมากี่รอบก็ดูดีตลอด อีกทั้งยังจัดทรงผมได้ง่ายไม่ต้องใช้เวลานานอีกด้วย จึงทำให้ทรง UNDERCUT เป็นทรงผมชายยอดนิยมมาในทุกๆปีแล้วปี 2565 ก็ยังคงติดอันดับอยู่อีกด้วย หนุ่มคนไหนอยากได้ลุคที่ดูคลาสสิก สุขุม หล่อเท่ ต้องลองไปตัดกันดูรับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
2. ทรงผมหน้าม้าสไตล์เกาหลี
ใครที่กำลังมองหาทรงผมชายแบบเกาหลีการตัดหน้าม้าก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ที่สำคัญยังเป็นทรงยอดฮิตยอดนิยมที่เห็นกันได้ทั่วทุกพื้นที่เลยทีเดียว โดยเฉพาะในแหล่งรวมวัยรุ่นอย่างสยามก็เห็นผู้ชายตัดหน้าม้าสไตล์อปป้าเกาหลีกันเพียบ ใครที่มีปัญหาหน้าผากกว้างหรือมีสิวบริเวณหน้าผากเยอะก็ตัดปิดสิวทำให้ได้ลุคที่ดูละมุนเพิ่มเติมอีกด้วย ดังนั้นถ้าหากใครที่อยากลองเปลี่ยนลุคของตัวเองแล้วยังคิดไม่ออกว่าจะตัดทรงไหนดีหน้าม้าแบบอปป้าก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลย
3. ทรงผมดัดลอนแสกกลางผม
ถ้าหากดูภาพยนตร์ฝรั่งหรือว่าซีรีส์ของทางยุโรปจะเห็นทรงนี้กันบ่อยมาก ขอเรียกว่าเป็นทรงนักเรียนนอกเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นหนึ่งในทรงผมยอดฮิตที่มาแรงในทุกๆปีกับการดัดผมให้ดูลอนเล็กๆเป็นธรรมชาติและแสกกลางให้ความรู้สึกว่าเป็นผู้ชายที่ดูหล่อละมุนจนต้องเอามาจัดอยู่ในทรงผมชายเทรนด์มาแรงประจำปี 2565 เลยทีเดียว ใครที่อยากตามเทรนด์ทรงนี้ต้องห้ามพลาดเลยเปลี่ยนลุคให้เห็นได้ชัดเจนอย่างแน่นอนเชื่อได้เลยว่าถ้าหากตัดมาสาวๆหลงรักเห็นแค่รูปโปรไฟล์ก็ทักเข้ามาไม่หยุดแล้ว
4. ทรงผมชายแบบสไปกี้
ทรงสไปกี้เหมาะแก่ผู้ชายที่เบื่อการเซ็ตผมเพราะว่าทรงนี้จะมีลูกเล่นด้วยการตัดผมแบบซอยด้านบนทำให้ตอนเซ็ตผมแค่จับให้ตั้งก็พอไม่ต้องปวดหัวว่าจะปัดผมไปทางซ้ายหรือปัดผมไปทางขวา อีกทั้งยังเป็นทรงที่ตัดออกมาได้มีลูกเล่นเป็นอย่างมาก ใครที่อยากได้ลุคแบบแนวๆเป็นผู้ชายที่ดูเท่ระเบิดออกแนวแบดบอยหน่อยๆต้องทรงนี้เลย ที่สำคัญยังเป็นทรงผมชายที่สายแฟชั่นทั้งหลายจับตามองกันเป็นอย่างมากและถ้าหากใครที่คิดว่ายังเท่ไปพออยากจะเพิ่มลวดลายให้มีรายละเอียดมากกว่าเดิมก็ทำได้เช่นเดียวกัน ใครที่ยังไม่เคยลองเปลี่ยนลุคเลยสักครั้งต้องลองดูสักครั้งแล้วจะติดใจ
5. ทรงผม MEDIUM SIDE SWEPT
สำหรับทรงผม MEDIUM SIDE SWEPT ผู้ชายหลายคนจะรู้จักกันในชื่อทรงผมเปิดข้างซึ่งบอกเลยว่าเป็นลุคที่สาวๆเห็นแล้วต้องเลี้ยวมองเลยทีเดียวเพราะหล่อเกินต้าน หล่อแบบสะเทือนใจเลยทีเดียว โดยเป็นการแสกผมไปไว้ด้านข้างซึ่งจะอยู่ที่แต่ละท่านเลือกว่าชอบมุมหน้าด้านไหนของตัวเองมากกว่ากัน แต่บอกเลยว่า 100 ทั้ง 100 ใครที่รู้สึกว่าตัวเองหน้าไม่หล่อยังไม่เท่พอตัดทรงนี้แล้วเข้าได้กับทรงหน้าทุกรูปแบบเลยทีเดียว ขอยกให้เป็นทรงผมชายลุคหล่อสะกดสายตาที่ดูงดูดสาวๆให้หันมองได้อย่างแน่นอน
6. ทรงผมเซ็ตแสกข้าง
อีกหนึ่งทรงผมชายที่ไม่ว่าใครตัดก็รอดทั้งนั้นก็คือการเซ็ตแบบแสกข้างที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ยังดูรอดอยู่ดีขนาดไม่เซ็ตผม ดังนั้นใครที่เป็นคนไม่ชอบอะไรยุ่งยากอยากที่จะอาบน้ำสระผมเป่าผมและออกจากบ้านได้เลยทันทีเราต้องขอแนะนำทรงนี้เลย โดยถ้าจะไปบอกร้านให้ตัดก็บอกว่าให้สไลซ์ผมด้านหน้าแบบไล่ระดับและเลือกแบบแสกข้างขวาหรือข้างซ้ายไปตามมุมหน้าที่ตัวเองชื่นชอบ โดยสำหรับลุคนี้จะเลือกปล่อยไปตามธรรมชาติให้ได้ลุคแบบหนุ่มเกาหลีหล่อละมุนแบบหน่อยๆ หรือใครที่อยากได้ลุคที่ดูทางการขึ้นมาหน่อยก็สามารถใช้เจลหรือสเปรย์เซ็ตผมด้วยการยกโคนขึ้นมาก็จะดูทางการมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
โดยต้องแอบบอกเลยว่าทรงผมชายประจำปี 2565 ที่ขึ้นชื่อว่าตัดแล้วรอดที่สุดก็คือทรงนี้เลย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาทรงผมที่หล่อถูกใจแต่กลัวและไม่อยากให้ดูแฟชั่นมากจนเกินไปทรงผมเซ็ตแสกข้องก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรตัดทิ้งเลยอาจจะกลายเป็นผมทรงโปรดของทุกท่านเลยก็ได้
7. ทรงผมชายแบบคอมม่า
บางท่านได้ยินชื่อแล้วอาจจะงงกันว่าทรงคอมม่าคืออะไร ก่อนอื่นเราจะอธิบายลักษณะของทรงคอมม่าให้เข้าใจกันก่อน โดยให้นึกภาพสัญลักษณ์คอมม่านั้นก็คือ ‘ คอมม่า ’ ซึ่งจะตัดผมหน้าหมาให้ดูโค้งเข้าหาใบหน้าต้องยอมรับเลยว่าเป็นทรงยอดนิยมที่ฮิตเป็นอย่างมากในเกาหลี ใครที่อยากตัดผมให้ดูเป็นหนุ่มเกาหลีเราขอแนะนำทรงคอมม่าเลยรับรองว่าถูกใจอย่างแน่นอน ที่สำคัญยังเป็นทรงที่ตัดแล้วทำให้ทรงหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
วิธีการเซ็ตทรงผมชายทรงนี้ก็ไม่ยากแค่เน้นที่ความลอนแบบเป็นธรรมชาติพยายามไม่ทำให้ดูตั้งใจจนเกินไปแต่ให้ผมดูโค้งแบบหน่อยๆก็สร้างลุคที่อปป้าถูกใจอย่างแน่นอน ดังนั้นสำหรับในปีนี้ใครที่เบื่อทรงชายไทยอยากเปลี่ยนไปเป็นสายเกาหลีก็สามารถลองไปตัดผมแบบทรงคอมม่ากันดูได้แล้วจะให้ลุคที่ดูแปลกตามากยิ่งขึ้นแถมยังมีคมชมไม่ขาดปากด้วยอย่างแน่นอนว่าดูมีสไตล์เป็นอย่างมาก
8. ทรงผมคอมบ์โอเวอร์
สำหรับทรงผมชายที่เห็นได้บ่อยในหมู่ชายไทยก็คือทรงคอมบ์โอเวอร์โดยเป็นสไตล์ที่คงความคลาสสิกเอาไว้แต่ก็ยังมีความทันสมัยอยู่เรียกว่าเป็นวินเทจแบบร่วมสมัยก็ได้ โดยใครที่ปกติชอบเซ็ตผมกันอยู่แล้วทรงคอมบ์โอเวอร์จะเหมาะสมเป็นอย่างมาก แต่ต้องแนะนำก่อนว่าทรงนี้จะเหมาะกับคนที่หน้าผากไม่กว้างจนเกินไปไม่งั้นอาจจะทำให้หมดความมั่นใจได้เนื่องจากตอนเซ็ตจะปาดผมขึ้นไปด้านบนทั้งหมด โดยเป็นทรงที่ช่วยเพิ่มความดุดัน ความร้อนแบบชายไทยที่ดูเป็นคนสุขุม
ถ้าหากใครที่เป็นคนผมน้อยผมบางทรงนี้จะยิ่งเหมาะอย่างแน่นอนเพราะการที่ตัดผมสั้นและปาดขึ้นไปด้านบนช่วยอำพรางเรื่องผมน้อยได้เป็นอย่างดี ถ้าหากตัดผมทรงนี้จะแต่งตัวสไตล์ไหนก็เข้าทั้งนั้นแถมยังเซ็ตผมได้ง่ายเอาเจลหรือสเปรย์ฉีดใส่หวีและปาดขึ้นด้วยการเสยผมสักข้างนี้เพียงเท่านี้ก็ได้ทรงผมที่สุดเท่แล้ว
8. ทรงผมแบบหนุ่มญี่ปุ่น
ถ้าหากบอกว่าเป็นทรงผมชายแบบหนุ่มญี่ปุ่นหลายๆท่านอาจจะยังนึกภาพไม่ออก ดังนั้นให้เริ่มจากการนึกภาพว่าเป็นผู้ชายอ่อนโยน หล่อละมุนกันก่อนเพราะทรงผมนี้อธิบายโดยรวมออกมาได้ประมาณนั้นเลย โดยจะเน้นไปที่ความยาวผมแบบระดับกลางไม่ยาวจนเกินไปและตัดหน้าม้าปิดหน้าผากและใส่รายละเอียดด้วยสไลซ์ผมหรือดัดผมสักหน่อยเพื่อให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยถ้าหากใครที่เป็นผู้ชายหน้าหวานกันอยู่แล้วตัดทรงผมแบบหนุ่มญี่ปุ่นออกมารับรองว่าจะอยู่หล่อละมุนมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แต่สำหรับคนที่หน้าดูเข้มก็ไม่ต้องเสียใจเพราะว่าตัดออกมาแล้วก็จะช่วยลดความเข้มเพิ่มความละมุนได้อย่างแน่นอน โดยเป็นทรงผมชายที่ไม่ต้องเซ็ตเยอะแค่พยายามทำให้ดูเป็นธรรมชาติก็ดูดีแล้ว ใครที่กำลังมองหาทรงผมน่าตัดตามอยู่เราขอแนะนำเลยว่าทรงนี้ก็ไม่ควรพลาด
10. ทรงผมแบบเจนเทิลแมน
ทรงผมชายทรงสุดท้ายที่เราจะแนะนำก็คือทรงผมแบบเจนเทิลแมนที่ดูเป็นสุภาพบุรุษมากๆ ซึ่งหนุ่มๆคนไหนที่อยากดูหล่อแบบสุภาพ หล่อแบบผู้ดี หล่อแบบเป็นผู้ใหญ่ทรงนี้จะเหมาะสมเป็นอย่างมาก โดยจุดเด่นของทรงนี้ก็คือการเซ็ตผมให้ดูเนี๊ยบเพราะว่าเราจะเน้นความเป๊ะ ความทางการเป็นหลัก ใครที่อยากลองดูว่าตัวเองเหมาะกับทรงนี้หรือไม่ก็สามารถลองเซ็ตผมกันดูก่อนได้
แต่ถ้าหากลองเซ็ตแล้วรู้สึกว่าเป็นทรงผมชายที่ถูกใจและเข้ากับรูปหน้าของตัวเองได้ก็สามารถเอารูปไปชี้ให้ช่างตัดผมดูกันได้เลยว่าอยากได้ทรงนี้ รับรองว่าตัดออกมาแล้วจะเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
บทสรุปส่งท้าย
ทรงผมชาย แต่ละทรงที่เราได้รวบรวมมาฝากจะเห็นได้เลยว่ามีทรงผมเยอะไม่ต่างจากผู้หญิงเลย ดังนั้นใครที่แต่ก่อนเคยแต่ตัดผมในทรงเก่าๆไม่มีการเปลี่ยนแปลงต้องเริ่มลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่กับทรงผมชายต้อนรับปี 2565 กันแล้ว รับรองว่าทรงผมถูกใจมีให้เลือกเยอะตัดออกมาถูกใจอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นลุคเท่ ลุคคลาสสิก ลุคชิคๆ ลุคเกาหลี ลุคญี่ปุ่น เรารวมมาฝากทุกรูปแบบเลือกทรงที่ถูกใจแล้วไปจิ้มให้ร้านดูกันได้เลย
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎