ปัญหาชีวิตคู่เริ่มจืดจางเป็นหนึ่งในปัญหาที่ต้องบอกเลยว่ามันมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้กับทุกคู่ เนื่องจากการเริ่มตกลงที่จะร่วมใช้ชีวิตคู่กับใครสักคนนั้น อาจจะไม่ใช่จุดสุดท้ายสูงสุดของยอดเขาแห่งความสัมพันธ์ เพราะจากประสบการณ์ของคนที่ผ่านมาก่อนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การเริ่มมาใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนนั้น มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความสุข ความทุกข์ และเรื่องราวมากมายในชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นเท่านั้นเอง
ซึ่งแน่นอนว่าจะสุขมากหรือทุกข์มากกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าจะทำให้ชีวิตคู่ออกมาในรูปแบบไหน เพราะฉะนั้นหากชีวิตคู่ของเราทุกคนเริ่มมีเค้าลางของความจืดจาง ก็ไม่อยากให้ทุกคนตกใจหรือวิตกกังวล และเก็บมาเป็นความทุกข์ให้กับตัวเองมากจนเกินไป แต่ให้พยายามตั้งสติและทำความเข้าใจตลอดจนเตรียมรับมือเพื่อหาทางแก้ไข และตกลงกับอีกฝ่ายเกี่ยวกับเส้นทางต่อจากนี้ของคุณทั้งสองคนนั่นเอง โดยในบทความนี้เราได้รวบรวมสาเหตุของการเกิดปัญหาความรักจืดจาง รวมไปถึง 5 สัญญาณเตือนที่ทุกคนควรเฝ้าระวังมาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกันแล้ว
สาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่เริ่มจืดจาง
ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ที่ชีวิตคู่เริ่มจืดจางอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคู่ แต่ก็ต้องบอกว่าคงไม่มีใครที่อยากจะให้มันเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกับคนที่เรารักแน่นอน เพราะเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว หากทั้งสองคนในความสัมพันธ์ไม่สามารถแก้ไขหรือหาทางจบปัญหาที่ดีที่สุดใน มันก็จะสร้างความเสียใจและเป็นบาดแผลที่จะติดตรึงอยู่ในใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปอีกนานแสนนานแน่นอน เพราะฉะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมความพร้อม รวมถึงหาทาทงปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดจุดอิ่มตัวของความรัก การพยายามทำความเข้าใจกันก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่เริ่มจืดจางมีอะไรบ้าง ก็จะสามารถช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย
-
ไม่มีเวลาให้กัน
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ชีวิตคู่เริ่มจืดจางก็คือการที่ทั้งสองคนอาจจะมีเวลาให้กันน้อยลง อย่างตัวอย่างที่เราจะเห็นได้มากที่สุดในบรรดาคู่รักซึ่งทำงานในวงการ โดยเฉพาะบุคคลที่มีชื่อเสียง เนื่องจากคนเหล่านี้จะต้องทำงานหนักและไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวมากนัก จึงไม่แปลกที่เวลาในการใช้ร่วมกับคนรักจะน้อยลงไปด้วย แน่นอนว่าเมื่อคนรักไม่ค่อยมีเวลาให้กัน จนท้ายที่สุดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มที่จะใช้ชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องมีอีกคนในชีวิตก็ได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าจุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์ได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วนั่นเอง
-
เกิดการนอกใจ
ไม่ว่าจะเป็นคนรักที่เพิ่งจะเริ่มขยับความสัมพันธ์หรือคนรักที่เริ่มอยู่ด้วยกันมานานหลายปี ต่างก็ไม่มีใครรับได้อยู่แล้วถ้ารับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายมีการนอกใจกันเกิดขึ้น ซึ่งจุดที่ทำให้ใครหลายคนเริ่มเกิดความระแคะระคายได้ก็คือเริ่มเห็นว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไป เริ่มมีความใส่ใจต่อกันน้อยลงและออกจากบ้านบ่อยมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นจึงสามารถบอกได้เลยว่าการนอกใจก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ความรักเกิดความจืดจาง และกลายเป็นปัยหาครอบครัวที่ทำให้ต้องเลิกรากันไปในที่สุด
-
รูปแบบการใช้ชีวิตต่างกัน
หลายคนน่าจะพอรู้กันมาอยู่แล้วว่าคนในสมัยนี้นิยมที่จะ ‘อยู่ก่อนแต่ง’ มากกว่า ‘แต่งก่อนอยู่’ เนื่องจากการที่คนสองคนรักกัน แต่ไม่เคนลองใช้ชีวิตด้วยกันมาก่อน ย่อมทำให้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าชีวิตและไลฟ์สไตล์ของเราทุกคนจะเข้ากันได้อย่างที่คิดจริงหรือไม่ เนื่องจากการใช้ชีวิตคู่คือการที่จะต้องใช้ชีวิตร่วมกันเกือบจะตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน เพราะฉะนั้นปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจ เกิดการทะเลาะกัน และสะสมจนกลายมาเป็นสาเหตุของชีวิตคู่เริ่มจืดจางได้ด้วย
-
ต่างฝ่ายต่างไม่ให้เกียรติกัน
หากทุกคนได้ยินประโยคที่ว่าต่างคนร้อยพ่อพันแม่ ย่อมยากที่จะคิดเหมือนกันไปเสียทุกอย่าง ก็คงจะเข้าใจความสำคัญของการให้เกียรติกันซึ่งกันและกันได้ดี เนื่องจากคนเราทุกคนมีความแตกต่างกัน ด้วยปัจจัยของการเลี้ยงดู ทัศนคติ มุมมองชีวิต และอีกมากมายที่ส่งผลให้คนเรามีวิธีในการใช้ชีวิต และการตอบสนองต่อปัญหาต่าง ๆ ได้ต่างกัน เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ และกลายเป็นการปะทะที่รุนแรงได้ไม่เฉพาะแค่กับความสัมพันธ์ของคนรักเท่านั้น ดังนั้นการพยายามปรับตัวและให้เกียรติกันกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ และแน่นอนว่าหากเมื่อไหร่ที่ทั้งสองคนเริ่มที่จะมองข้ามสิ่งนี้ นั่งก็คงเป็นเรื่องธรรมดาที่ความรักอันหวานชื่นจะไม่สามารถดำเนินไปต่อได้และเป็นสาเหตุของการที่ชีวิตคู่เริ่มจืดจางแล้วนั่นเอง
5 สัญญาณความรักจืดจางที่ไม่ควรมองข้าม
ใครที่อาจจะกำลังเจอเข้ากับปัญหาของการใช้ชีวิตคู่ รวมไปถึงมีความกังวลว่าคู่ของตัวเองกำลังเจอปัญหาชีวิตคู่เริ่มจืดจางแล้วหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างคู่ของตัวเองนั้นเป็นเพราะอะไร และควรจะรับมือกับมันอย่างไร ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ปัญหาเรื่องของความจืดจางและจุดอิ่มตัวของความรักลุกลามบานปลาย จนทำให้ทั้งสองคนมองหน้ากันไม่ติด ก็ควรที่จะเริ่มจับสังเกตกันตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยว่าสัญญาณความรักจืดจางที่กำลังเกิดขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้รีบปรับความเข้าใจกันโดยเร็วนั่นเอง
1. มีความสุขกับการออกนอกบ้านมากกว่า
สัญญาณเตือนในข้อแรกที่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าคนรักของเราเริ่มที่จะมีความรักให้กับเราน้อยลง และเป็นช่วงเวลาที่ชีวิตคู่เริ่มจืดจางแล้วก็คือการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองคนในความสัมพันธ์เริ่มที่จะมีความสุขกับการออกไปอยู่กับคนอื่นนอกบ้าน มากกว่าการกลับมาที่บ้านเพื่อใช้เวลาร่วมกัน ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ คืออีกฝ่ายจะเริ่มกลับบ้านช้า หาเรื่องออกนอกบ้าน หรือมักจะแสดงอาการมีความสุขเสมอที่จะได้ออกไปเที่ยวกับคนอื่นนอกบ้านนั่นเอง
2. ให้ความสำคัญกับวันพิเศษของอีกฝ่ายน้อยลง
จากที่เดิมทีเมื่อครั้งที่คยกันใหม่ ๆ ตลอดจนช่วงที่เพิ่งเริ่มจะขยับความสัมพันธ์ขึ้นมาในฐานะของคนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ทั้งสองคนต่างก็มีความสุขและรู้สึกเฝ้ารอคอยที่จะให้ถึงวันพิเศษของกันและกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดของบอีกฝ่ายหรือจะเป็นวันครบรอบที่เคยมีความสำคัญมากก็ตาม เมื่อเราสังเกตทั้งตัวเองและอีกฝ่ายได้แล้วว่าเริ่มมีความผิกปกติและเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าความสัมพันธ์ในตอนนี้กำลังเดินทางเข้าสู่ช่วงของชีวิตคู่เริ่มจืดจาง แต่ถ้าคู่รักคู่ไหนที่อาจจะไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องของการเฉลิมฉลองวันสำคัญต่าง ๆ กันอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่สามารถการันตีได้จากสัญญาณในข้อนี้นะ
3. เห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนรัก
อีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่บ่งบอกได้ว่าคนรักของเรา หรือความสัมพันธ์ของทั้งสองชีวิตเริ่มที่จะถึงจุดอิ่มตัวของความรักก็คือการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในความสัมพันธ์เริ่มที่จะไม่เห็นความสำคัญของกันและกัน แต่กลับไปใส่ใจความรู้สึกรวมทั้งให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่า ซึ่งเมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์เดินทางมาถึงจุดนี้ ก็จะทำให้ชีวิตคู่เริ่มไม่มีความสุข และทำให้บรรยากาศภายในบ้านเศร้าหมองได้มากกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย
4. พูดคุยกันน้อยลง
หากเรากลับมาบ้านหรือกลับมาใช้เวลากับคนรักแล้วสังเกตได้ว่าทั้งคุณและคนรักของคุณเริ่มที่จะพูดคุยกันน้อยลง ทั้งยังมีความเฉยชาที่จะแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันด้วยกัน แตกต่างจากตอนเริ่มคบกันใหม่ ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างก็มีความตื่นเต้นที่จะได้แชร์เรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ให้กับอีกฝ่ายได้รับรู้ ซึ่งผลเสียของการไม่พูดคุยกันนอกจากมันจะเป็นสัญญาณที่เตือนว่าชีวิตคู่เริ่มจืดจางได้แล้ว มันก็ยังทำให้ทั้งสองคนเกิดความไม่เข้าใจกันได้มากยิ่งขึ้นด้วย
5. ไม่สนใจที่จะทำเรื่องบนเตียงด้วยกัน
สำหรับสัญญาณเตือนในข้อนี้เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนเริ่มที่จะเข้าใจได้ชัดเจนมากที่สุดข้อหนึ่งว่าเริ่มเกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นแล้ว และอาจจะเกิดสิ่งที่เรียกว่าชีวิตคู่เริ่มจืดจางได้แล้วนั่นเอง เนื่องจากโดยปกติแล้วสิ่งที่คนรักจะต้องทำโดยธรรมชาติ คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าเรื่องบนเตียงก็เป็นสิ่งสำคัญ ถึงแม้ว่านานไปรูปแบบของการร่วมรักอาจจะต่างออกไปจากช่วงแรกที่รู้จักกันได้บ้าง แต่ก็ควไม่ใช่การห่างหายจากกันเป็นเวลานาน หรือหลีกเลี่ยงที่จะทำเรื่องดังกล่าวต่อกันเลยนั่นเอง
เมื่อชีวิตคู่เริ่มจืดจางควรจะต้องทำอย่างไร
หากเราพิจารณาแล้วว่าความสัมพันธ์ของคู่เรากำลังที่จะประสบปัญหาของชีวิตคู่เริ่มจืดจาง จากสัญญาณเตือนที่เรามองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเกิดมาจากตัวเราเองที่เปลี่ยนไปหรือจะเกิดมาจากการที่คนรักของเราเปลี่ยนไปด้วยสาเหตุและปัจจัยอะไรก็ตาม ขั้นตอนแรกที่เราควรทำไม่ใช่การมีปากเสียง และกล่าวโทษอีกฝ่ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ให้ทุกคนพยายามใจเย็น
ก่อนจะถามตัวเองให้แน่ใจว่าต้องการจะทำอย่างไรต่อไป ต้องการไปต่อหรือหยุดความสัมพันธ์เพียงเท่านี้ ก่อนจะเข้าไปคุยกับคนรักด้วยเหตุผลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากสุดท้ายแล้วทั้งสองฝ่ายเลือกที่จะสานสัมพันธ์กันต่อและเลือกที่จะปรับตัวเข้าหากันก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าความสัมพันธ์ไปต่อไม่ได้ ก็ขอให้ทุกคนจดจำความทรงจำดี ๆ ร่วมกันมา และเปลี่ยนความสัมพันธ์ให้อยู่ในรูปแบบของคนที่หวังดีต่อกันเรื่อยไปก็ได้
และนี่ก็คือทั้งหมดของเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาชีวิตคู่เริ่มจืดจาง ซึ่งเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวเราทุกคนมาก เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคู่ ทั้งยังเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป จนมันสร้างความเสียใจให้กับตัวเองไปตลอดชีวิตเพราะไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้วนั่นเอง เพราะฉะนั้นเราจึงหวังว่าสาระความรู้ที่เราได้เรียบเรียงมาให้ทุกคนได้อ่านกันในบทความนี้ จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ทุกคนสามารถรักษาความสัมพันธ์ รวมถึงความทรงจำที่มีความสุขของชีวิตรักเอาไว้ได้ตลอดไป หากทุกคนชื่นชอบเรื่องราวแบบนี้ของเราก็อย่าติดตามบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจบนเว็บไซต์ของเราได้เลย