การจะจีบใครสักคนให้ประสบความสำเร็จอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นการที่คนสองคนจะมีใจที่ตรงกันจนอยากที่จะเริ่มขยับความสัมพันธ์ไปสู่การเป็นคนรัก หรือเริ่มต้นที่จะศึกษาดูใจกันในฐานะคนรักนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้ดั่งใจหวัง เพราะฉะนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะมองหาเทคนิคการพิชิตใจหนุ่มในฝันด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการมูกับสิ่งศักดิ์สิทธิ การเปลี่ยนตัวเองเพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับอีกฝ่าย การเข้าทางบเพื่อนหรือคนรอบตัวของอีกฝ่าย
ตลอดจนการใช้เทคนิคทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชาย ซึ่งเป็นวิธีทางจิตวิทยาที่สาว ๆ นิยมนำเอามาใช้เป็นตัวช่วยให้การจีบใครสักคนให้เห็นผลได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะมีรายละเอียดอย่างไร หรือจะช่วยให้ทุกคนสมหวังได้อย่างไร มาติดตามอ่านไปพร้อมกันได้เลย บอกเลยว่างานนี้ใครที่อยากจะออกจากเฟรนด์โซนหรือต้องการที่จะเดินหน้าจีบใครสักคนอย่างจริงจังต้องห้ามพลาดเลย
ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายคืออะไร
เดิมทีหากไม่ได้ศึกษาเรื่องราวของทฤษฎีที่ว่า ตัวของผู้เขียนเองก็พอจะเคยได้ยินเรื่องของการใช้ทฤษฎีในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน เพื่อช่วยในการลดน้ำหนักหรือช่วยในการพัฒนาตนเองมาบ้าง แต่เมื่อทำการศึกษาลงลึกไปจริง ๆ ถึงได้รู้ว่าทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายมีข้อดีที่สามารถช่วยสาว ๆ ทุกคนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังสามารถนำเอาไปปรับใช้กันในชีวิตประจำวันได้ง่าย ๆ เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจึงได้นำเอาเรื่องราวของทฤษฎีดังกล่าวมาแนะนำให้ทุกคน
ซึ่งต้องบอกกก่อนว่าทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายนั้นไม่ใช่ทฤษฎีที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อใช้ในการจีบผู้ชายเท่านั้น เพราะเดิมทีมันเป็นทฤษฎีที่ถูกเขียนขึ้นมาตามหลักของจิตวิทยา ซึ่งตีพิมพ์เอาไว้อย่างเป็นทางการบนหนังสือที่ชื่อว่า Psycho-Cybernetics โดย ดร. แมคเวล มอลท์ (Dr. Maxwell Maltz) ศัลยแพทย์ชาวอเมริกัน โดยหัวใจหลักของทฤษฎีดังกล่าวเป็นการนำเอาหลักการทำซ้ำ ๆ จนเป็นนิสัยมาใช้เพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งในหนังสือจะมีการกล่าวเอาไว้ว่าหากเราทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลาทั้งสิ้น 21 วัน พฤติกรรมนั้นก็จะกลายมาเป็นนิสัยใหม่ของเราไปโดยปริยาย และทำให้เรามีความคุ้นชินที่จะกระทำกิจกรรมนั้น ๆ ตลอดไปจนเป็นนิสัยได้นั่นเอง
เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นการใช้หลักการของทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการสร้างนิสัยรักการออกกำลังหาย การสร้างนิสัยรักการอ่าน หรือจะเป็นการทดลองนำงานอดิเรกอะไรสักอย่างหนึ่งก็ได้อีกด้วยและแน่นอนว่าหลักการดังกล่าวก็สามารถนำเอามาปรับใช้เป็นทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายที่หลายคนลองทำแล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน ว่ามันช่วยเพิ่มแนวโน้มในทิศทางที่ดีขึ้นได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
เพราะการที่เราทุกคนทำการจีบใครสักคนเป็นเวลาติดต่อกันยาวนานถึง 21 วัน นอกจากมันจะช่วยตอกย้ำความรู้สึกของตัวเราเองว่าชอบและสนใจในตัวของอีกฝ่ายจริงหรือไม่แล้ว มันก็ยังเป็นการสร้างความคุ้นชินและความผูกพันให้กับอีกฝ่ายได้เช่นเดียวกัน หากทั้งคู่เกิดความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกัน รวมไปถึงมีความคิดถึงซึ่งกันและกัน มันก็คงจะเป็นเสมือนแนวโน้มที่จะบอกได้ว่าความสัมพันธ์ในรูปแบบคู่รักคงกำลังจะเบ่งบานในอีกไม่นานนี้แล้วนั่นเอง
ก่อนใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายต้องจำสิ่งนี้ให้ขึ้นใจ
ถึงแม้ว่าการนำเอาหลักการของทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายไปใช้ในการจะสานสัมพันธ์กับใครสักคนจะช่วยให้สาว ๆ มีเปอร์เซ็นต์สมหวังได้ประมาณหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่ทุกคนจะนำเอาหลักการนี้ไปใช้ก็จำเป็นจะต้องตั้งเป้าหมาย รวมถึงย้ำเตือนกับตัวเองให้แน่นอนว่าจะใช้หลักการนั้นเพื่ออะไร และจะมีความตั้งใจในการทำสิ่งนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ มากกว่าการนำเอาไปใช้ในเชิงคุกคามอีกฝ่าย โดยสิ่งที่เราอยากจะให้ทุกคนจำให้ขึ้นใจก่อนนำเอาทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายก็จะมีอยู่หลัก ๆ 3 ข้อ ดังนี้
-
อย่าลืมตัวตนของตัวเอง
สิ่งที่จะช่วยให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายได้มากที่สุด ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็คืออย่าพยายามฝืนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนของตัวเองเด็ดขาด ขอให้ทุกคนเลือกทำในสิ่งที่ไม่ฝืนเราจนเกินไป เพื่อให้ทั้ง 21 วันนั้นเป็นระหว่างทางที่มีความสุขกับตัวเราเองมากที่สุด ไม่เพียงเท่านั้นการเป็นตัวเองก็จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถแสดงความจริงใจให้กับหนุ่มที่เราปิ๊งรักอยู่ได้ดีมากที่สุดอีกด้วย เช่น ถ้าปกติแล้วเราไม่ใช่คนนอนดึก การที่จะฝืนนอนตีสองตีสาม เพื่อรอคุยกับอีกฝ่ายก็อาจจะไม่ใช่วิธีการที่ดี แต่เราสามารถเลือกทักทายอีกฝ่ายในช่วงก่อนนอน หรือช่วงเช้าของวัน เพื่อให้ในทุกวันของบอีกฝ่ายรับรู้การมีอยู่ของเราก็ได้นั่นเอง
-
เคารพความรู้สึกของตนเอง
ในลำดับต่อมาสิ่งที่อยากจะให้ทุกคนยึดถือเอาไว้เลยก็คือการที่จะต้องเคารพความรู้สึกของตนเอง เพราะถึงแม้ว่าแรกเริ่มเดิมทีเราอาจจะมีความรู้สึกชอบพอและสนใจในตัวของชายหนุ่มที่แอบเฝ้ามองมานาน แต่เมื่อได้ลองขยับความสัมพันธ์และมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ตลอดจนได้มีโอกาสคุยกับอีกฝ่ายบ้างแล้ว หากรู้สึกว่ามันอาจจะไม่ใช่ความสุขที่ตนเองตามหา หรืออีกฝ่ายเริ่มมีท่าทีซึ่งไม่ได้ให้เกียรติกับเรามากพอ ก็อย่าลืมที่จะหันมารักษาความรู้สึกของตัวเองและบอกลาอีกฝ่ายในทันที เพื่อตามหาคนที่จะเป็นความสุขให้กับเรา รวมถึงเห็นคุณค่าในตัวเราได้มากกว่ากันด้วย
-
ไม่ก้าวก่ายชีวิตของอีกฝ่ายมากจนเกินไป
การใช้งานทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายที่ดีที่สุดนอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเองเป็นหลักแล้ว ก็อย่าลืมว่าการกระทำของเราก็จำเป็นจะต้องตั้งอยู่บนการให้เกียรติอีกฝ่ายที่เรามีความรู้สึกดี ๆ ด้วย โดยเราจะต้องเดินหน้าจีบอีกฝ่ายอย่างสม่ำเสมอโดยคำนึงว่าจะต้องไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอึดอัดเด็ดขาด ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชายเราก็จำเป็นจะต้องให้เกียรติไม่ต่างจากผู้หญิงเลยนั่นเอง เช่น ไม่ควรทักหาอีกฝ่ายซ้ำ ๆ จนรบกวนอีกฝ่าย, ไม่ควรสืบข้อมูลส่วนตัวของอีกฝ่ายมากจนเกินไป ไม่ควรเปิดเผยสถานะหรือบอกกล่าวในที่สถานะว่าตนเองกำลังจีบอีกฝ่าย เพราะอาจจะทำให้อีกฝ่ายอึดอัดได้ เป็นต้น
สอนเทคนิคง่าย ๆ ของทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชาย
เมื่อทุกคนเตรียมความพร้อมและเริ่มที่จะอยากรู้แล้วว่าวิธีใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายต้องทำอย่างไรกันบ้าง เราก็มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลยว่าวิธีการใช้ทฤษฎีดังกล่าวเพื่อจะได้สานสัมพันธ์กับชายที่เราทุกคนหมายปองนั้นจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง ซึ่งก็บอกก่อนเลยว่าวิธีการที่เราได้นำมาแบ่งปันกันในบทความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการที่สาว ๆ นิยมนำเอาไปใช้กัน และก็ต้องบอกอีกว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ ทุกคนจะต้องทำให้สม่ำเสมอเป็นเวลา 21 ถึงจะช่วยยืนยันได้ดีที่สุดด้วยนั่นเอง
พยายามทักทายอีกฝ่ายตลอด 21 วัน
หลักการแรกที่ต้องจำเอาไว้ให้ขึ้นใจ หากใครต้องการที่จะใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายก็คือต้องพยายามทักทายอีกฝ่าย หรือแสดงถึงความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้อย่างสม่ำเสมอตลอด 21 วัน เนื่องจากมันเป็นหลักการสำคัญของวิธีการดังกล่าวที่จะทำให้ทั้งเราและอีกฝ่ายเกิดความผูกพันและชัดเจนในความรู้สึกได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความไปหา, แสดงความเป็นห่วงในเรื่องทั่วไป, บอกรัก, บอกฝันดี, ทักทายยามเช้า, ส่งจดหมายความในใจ, มอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ, ทำขนมไปฝาก, ทำอาหารไปให้, หรือจะเป็นการทักทายอีกฝ่ายต่อหน้า ซึ่งทุกคนสามารถเลือกวิธีการที่จะแสดงออกกับชายในดวงใจได้ตามความสะดวกได้เลย
คุยแต่เรื่องที่เป็นไปในเชิงบวกเป็นหลัก
หลักการในข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นจะต้องจำเอาไว้ให้ดี ไม่เพียงเฉพาะแต่คนที่ต้องการใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายเท่านั้น แต่สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มจะทำความรู้จักกัน ตลอดจนคนที่เริ่มที่จะปลูกต้นรักกัน จำเป็นจะต้องระมัดระวังไม่ให้ตัวเองไปปล่อยเรื่องราวแย่ ๆ ตลอดจนปล่อยพลังงานเชิงลบให้กับคนที่เราคุยด้วยมากจนเกินไปอย่างไม่รู้ตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการขอคำปรึกษาหรือระบายปัญหาชีวิตให้กันฟังก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผิด เพียงแต่อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนั่นเอง หากคุณทั้งสองคนเริ่มที่จะมีความสนิทสนมกันมากขึ้น ก็อาจจะค่อย ๆ เพิ่มระดับของเนื้อหาที่พูดคุยกันก็ยังไม่สายเกินไปนะ
มีความชัดเจนว่าเรารู้สึกอย่างไรกับอีกฝ่ายตลอด 21 วัน
เคยเจอประสบการณ์แบบนี้กันมาก่อนหรือไม่ ว่าคุยกันมาตั้งนานแต่เป็นได้แค่พี่น้อง นั่นก็เพราะว่าหลายครั้งถึงแม้ว่าเราทุกคนจะคุยกันมานาน แต่กลับไม่มีความจริงจังมากนักในความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเทคนิคสำคัญของการใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชาย คือสาว ๆ จำเป็นจะต้องแสดงความชัดเจนในความรู้สึกของตัวเองออกไปเลยว่า เราชื่นชอบในตัวของอีกฝ่าย อาจจะไม่จำเป็นต้องบอกไปตรง ๆ ในทุกครั้งว่า “ฉันชอบเธอ” หรือ “ฉันอยากเป็นแฟนกับเธอ” แต่แสดงออกด้วยคำพูดอื่น ๆ เพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ก็ได้นั่นเอง
ลองส่งเพลงหวานซึ้งเพื่อช่วยให้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายเห็นผล
ในบางครั้งการทักอีกฝ่ายทุกวัน หรือหาเรื่องคุยกับชายหนุ่มที่เราแอบหลงรักก็อาจจะทำให้สาว ๆ หลายคนรู้สึกเก้อเขินมากจนเกินไป เพราะฉะนั้นการลองมองหาเทคนิคที่จะเข้ามาช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ทฤษฎี 21 วันจีบผู้ชายให้เห็นผลได้ดี โดยไม่ต้องพยายามทำในสิ่งที่อาจจะยากเกินไป ก็คือการส่งเพลงแทนความในใจเพื่อบอกอีกฝ่ายว่าเรากำลังรู้สึกอย่างไรในตลอด 21 วันก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่สาว ๆ หลายคนเคยลองนำไปใช้แล้วประสบความสำเร็จกันมานักต่อนัก ซึ่งการจะเลือกใช้เป็นเพลงสากล เพลงไทย เพลงเกาหลี หรือเพลงไหนก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบส่วนตัวได้เลย
แจกเพลย์ลิสต์ทฤษฎี 21 วัน จีบผู้ชายเพลงไหนที่การันตีความหวาน
- ดาวตก – loserpop
- จีบก่อนผิดไหม – Natherine
- โคตรพิเศษ – Billkin
- บังเอิญเจอแต่ตั้งใจรัก – wish
- รักเธอ – โต๋ ศักดิ์สิทธิ์
- ขอจองได้ไหม – เอ๋ยเอ้ย
- เพลงรักเพลงหนึ่ง – ใหญ่ โมโนโทน
- ไม่มีแฟนได้ไง – Lipta feat. Kanom
- You And Me – Patrick Nattawat Finkler
- All Of Me – John Legend
- Best Part – Daniel Caesar
- A Thousand Years – Christina Perri
- I Love You 3000 – Stephanie Poetri
- Sugar – Maroon 5
- strawberry moon – IU
- Polaroid Love – ENHYPEN
- Forever – aespa
- Little Star- Standing Egg
- Everyday – Winne
- My Type – iKON