เกร็ดความรู้เล็กๆ และรายละเอียดยิบย่อยจากชุดไปรเวทที่เราอาจจะมองข้าม

ชุดไปรเวทคืออะไร?

หลายคนคงจะนึกสงสัยในใจลึก ๆ เมื่อทางองค์กรเขียนกล่าวถึงชุดลำลองหรือชุดไปรเวท หรือบางคนก็อาจจะกำลังคิดไม่ตก ว่าจะแต่งตัวอย่างไรในชีวิตแต่ละวันให้ออกมาดูดีและตามเทรนด์ให้ทันในปัจจุบันดี เพราะดูแล้วตอนนี้ก็มีหลายเทรนด์หลายสไตล์ให้ตามได้อย่างหลากหลาย ซึ่งบางครั้งเราก็อาจจะมีงุนงงกันบ้างเป็นธรรมดา

ก่อนที่เราจะมาอัพเดตเทรนด์ใหม่ ๆ วันนี้ เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่า “ชุดลำลอง” หรือที่เรียกได้อีกชื่อหนึ่งคือ “ชุดไปรเวท” ว่ามีอะไรที่น่ารู้บ้าง ซึ่งขอกระซิบบอกกันอีกซักนิดว่าอาจจะมีน้อยคนที่รู้เรื่องนี้

ชุดไปรเวทนั้น พูดง่ายๆ ก็คือชุดที่ไม่ได้ทางการ และไม่มีตัวกำหนดที่ตายตัว ซึ่งการแมทช์ชุดไปรเวทเหล่านี้ ก็จะทำโดยที่ไม่ต้องเคร่งเครียดกับมันมากนัก เพื่อลุคที่ออกมาดูเก๋ น่าสนใจ แต่ก็มีความรู้สึกสบายตลอดการสวมใส่ ไม่ว่าจะออกไปทำธุระข้างนอก ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ไปนั่งจิบกาแฟอยู่ที่คาเฟ่ หรือแม้แต่นอนอยู่บ้านก็คือชุดไปรเวทเช่นกัน 

วิธีแมทช์ชุดไปรเวทด้วยตัวเองให้ดูมีสไตล์และตามเทรนด์ได้ทัน

หากใครที่คิดจะไปช้อปปิ้งเพื่อแมทช์ชุดลำลองต่าง ๆ ให้ได้ตามเทรนด์อย่างสมบูรณ์ บางทีคุณอาจจะลองเปิดตู้เสื้อผ้าและลองแแหวกเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่คุณไม่ค่อยได้ใช้ดู เพราะอาจจะมีเสื้อผ้าที่คุณสามารถเอามาแมทช์แบบใหม่ๆ ได้อย่างไม่ยากเลย โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนไปห้าง หรือไม่จำเป็นต้องควักเงินไปซื้อที่ไหนแม้แต่บาทเดียว ก่อนอื่นเรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่เราควรทำ หรือไม่ควรทำเพื่อสร้างลุคของชุดไปรเวทที่น่าสนใจ 

สิ่งที่ควรทำเมื่ออยากสร้างลุคชุดไปรเวทด้วยตัวเอง

1. ลองหาเสื้อผ้าเก่าๆ ในตู้เสื้อผ้าดู หรือซื้อเสื้อผ้าที่สามารถใช้ได้หลายโอกาส และใช้ได้นานตลอดปี อีกอย่างก็อาจจะถือว่าเป็นการลงทุนในระยะยาวก็เป็นได้
2. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ยับง่ายและต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ เพราะแทนที่จะรู้สึกสบายๆ ก็อาจจะกังวลเรื่องการดูแลรักษาแทน 
3. แต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ กรีดอายไลเนอร์นิดหน่อยเพื่อเพิ่มความคมให้กับตา และแตะบลัชออนเล็กน้อย เพื่อให้หน้าดูเลือดฝาดมีสุขภาพดี 
4. ไม่ควรสวมกางเกงรัดรูป และกระโปรงทรงแคบ เพื่อดึงความสนใจไปที่ความเรียวของขา 
5. ลุคชิลๆ อาจจะมีเส้นบาง ๆ ระหว่างความมีสไตล์ และความโทรม ดังนั้นควรระวังข้อนี้ไว้
6. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีสีฉูดฉาด หรือสีสันสดใส เพราะอาจจะทำให้แมทช์กับเสื้อผ้าอื่นได้ยาก 

หลังจากที่เราได้รู้กันคร่าว ๆ กันแล้วว่าชุดไปรเวทคืออะไร ทีนี้เรามาดูกันว่าวิธีแมทช์ชุดเหล่านี้ที่ถูกต้องและมีสไตล์จริง ๆ มันเป็นอย่างไร ข้อนี้อาจจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับคนที่แต่งตัวไม่เก่ง หรือบางคนก็อาจจะลองแหวกแนวให้ดูมีลุคที่สบายๆ มากขึ้น โปรดจำไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นนั้นมีแต่ข้อดีกับเราทั้งนั้น

นอกจากชุดลำลองจะเป็นชุดที่ใส่แล้วสบายๆ และได้ลุคชิลๆ แล้ว  ก็ยังสามารถแมทช์ได้ง่ายอีกด้วย เนื่องจากเป็นการผสมผสานระหว่างเสื้อยืด กางเกงขายาว กระโปรงบาน เสื้อคลุม รองเท้าใส่สบายที่ดูสะอาด และอื่นๆ ซึ่งก็เป็นไอเทมที่สามารถจับคู่ได้หลายลุค ลายโทนทีเดียว ชุดลำลองเหล่านี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับทุกเพศทุกวัย เรามาดูกันว่ามีวิธีแมทช์อย่างไรกันบ้าง

การจับคู่ชุดลำลองสำหรับผู้หญิง

หากคุณเป็นสาวคนหนึ่งที่ชอบออกไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนๆ หรือเป็นคนที่แต่งตัวได้ไม่เก่ง นี่คือทริคเล็กๆ ที่จะทำให้คุณมีลุคชุดไปรเวทที่ทันสมัยและน่าสนใจ คุณอาจจะลองเปิดตู้เสื้อผ้าดู ไม่แน่ว่ามันอาจจะซ่อนอยู่ก็ได้ 

1. เสื้อ: อาจจะลองเป็นเสื้อที่มีผ้าเนื้อดี และมีรายละเอียดเล็กๆ ที่น่าสนใจ เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์ เสื้อยืดธรรมดาที่คนใส่แล้วรู้สึกสบาย ผ้าฝ้ายเนื้อดีที่ใส่แล้วไม่ร้อน เหมาะกับอากาศประเทศไทยเป็นอย่างดี หรือเสื้อยืดเรียบ ๆ ที่มีกราฟิกปรากฏให้เห็น
2. กางเกง หรือกระโปรง: แน่นอนว่าการแต่งชุดไปรเวทนั้นจะต้องเป็นชุดที่ใส่แล้วสบายตัว ฉะนั้นกางเกงหรือกระโปรงสำหรับชุดลำลองนั้นควรเป็นไอเทมที่มีทรงหลวม ไม่รัดกับเนื้อตัว ไม่คับ และควรเป็นเนื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่ควรเป็นผ้าไหม เช่นกางเกงชิโน่ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี หรือกระโปรงก็ควรเป็นกระโปรงทรงเอที่ไม่แคบมาก และใส่แล้วไม่ยับง่ายจนเกินไป
3. รองเท้า: แน่นอนว่าไม่ควรเป็นส้นสูง หรือรองเท้าบัลเล่ต์ที่ใส่ไปไหนมาไหนแล้วอาจจะมีอุปสรรคมากมายตามมา ดังนั้นมันควรจะเป็นรองเท้าวิ่ง รองเท้าผ้าใบ ที่ใส่แล้วรู้สึกสบายทุกก้าวที่เดิน แต่อย่าลืมว่ารองเท้าผ้าใบนั้นต้องไม่สกปรกเกินไป 
4. ชุดเดรส: บางครั้งชุดลำลองก็อยู่ในรูปแบบของชุดเดรส ที่ผู้สวมใส่จะมีลุคเป็นผู้หญิงจ๋า ที่ใส่แล้วสบายตัวไม่แคบมาก อาจจะเป็นจั้มสูท เดรสเสื้อเชิ้ต หรือเดรสสเวตเตอร์ และอาจจะลองเพิ่มความเก๋ด้วยการคาดเข็มขัดสักหน่อยให้ดูน่าสนใจ

การจับคู่ชุดลำลองสำหรับผู้ชาย

เชื่อว่าหนุ่ม ๆ ที่เข้ามาอ่านบทความนี้อาจจะกำลังกังวลเรื่องการแต่งตัวอยู่ไม่มากก็น้อย อาจจะเพราะอยากจะอัพเดทแฟชั่นการแต่งตัวในปัจจุบัน หรือมีโอกาสพิเศษที่จะต้องตั้งใจแต่งตัว อย่างเช่นการออกเดทเป็นครั้งแรกให้ดูน่าประทับใจ เรามาดูกันว่ามีวิธีการแต่งชุดไปรเวทวิธีไหนกันบ้าง

1. เสื้อ: เสื้อเชิ้ตติดกระดุมเป็นไอเทมที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย จะทำให้ดูเป็นหนุ่มอบอุ่นและละมุนได้ หรือเสื้อยืดที่จะทำให้ดูขี้เล่นและเป็นหนุ่มสายสตรีทแฟชั่นสุดหล่อ อาจจะมีการสวมเสื้อกั๊กหรือเสื้อฮู้ดทับข้างบนก็จะดูดีไม่น้อย
2. กางเกง: กางเกงชิโน่ กางเกงเดรส หรือกางเกงสแล็คล้วนเป็นตัวเลือกที่ดี หากคุณต้องการใส่กางเกงยีนส์ ให้เลือกกางเกงยีนส์สีเข้มหรือสีดำทรงเข้ารูปที่ไม่มีลวดลายมากหรือรอยขาด
3. รองเท้า : รองเท้าไม่มีส้นและรองเท้าออกซ์ฟอร์ด เป็นรองเท้าลำลองที่ดูดีมีสไตล์ เลือกใช้เครื่องหนังเพื่อให้ดูเป็นคุณชายสักนิด หรือสวมรองเท้าผ้าใบสีสะอาดตาที่ใส่แล้วสบายเท้า แต่ควรหลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าที่ลำลองเป็นพิเศษ เช่น รองเท้าแตะ รองเท้าวิ่ง หรือรองเท้าผ้าใบที่สกปรก 
4. ไอเทมเสริม : การเพิ่มเครื่องประดับหนึ่งหรือสองชิ้นจะช่วยยกระดับเครื่องแต่งกาย และทำให้ดูเป็นสายแฟชั่นได้ดีมาก อาจจะเป็นนาฬิกาหรือสร้อยข้อมือที่ดีและเรียบง่าย ก็เป็นวิธีที่ดีเช่นกัน

ชุดไปรเวทแบ่งออกเป็น 6 แบบหลักๆ ตามรูปแบบเสื้อผ้า และโอกาสการสวมใส่ มีแบบไหนบ้าง

หากจะพูดถึงชุดไปรเวทหรือชุดลำลองที่เรารู้จักกันนั้น ในเชิงลึกแล้ว จริง ๆ มันก็มีสไตล์และรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน แต่จะให้พูดถึงทั้งหมดนั้นก็คงไม่ไหว วันนี้เราจึงยกมาเพียง 6 หมวดหมู่ของชุดไปรเวท ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนี้ อาจจะลองดูสักหน่อยว่าอยากจะแต่งสไตล์ไหนดี ซึ่งก็มีหลากหลายสไตล์ให้เลือก และหลากหลายลุคที่มีผลต่อรูปลักษณ์ของเรา แต่ก็อย่าลืมสิ่งสำคัญที่ว่า การแต่งตัวนั้นก็เป็นจุดบ่งบอกลักษณะความเป็นตัวตนของเราได้ดีเช่นกัน 

ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการแต่งตัวนั้น ก็คือการแต่งตัวให้เป็นตัวเองที่สุด ไม่อึดอัด ไม่กดดันตัวเองจนเกินไป เรามาดูกันว่าชุดไปรเวทที่ว่านี้ แบ่งเป็นประเภทหลักๆ อะไรบ้าง

1. 
   

   ชุดไปรเวทสายแอคทีฟ (Active Casual)

ประเภทของชุดไปรเวทนี้ อาจจะเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นการออกกำลังกายในยิม ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การเล่นสเก็ตบอร์ด ปั่นจักรยาน เทนนิส หรือกีฬาต่างๆ ที่ต้องใช้ความกระฉับกระเฉงเป็นพิเศษ ดังนั้นชุดลำลองประเภทนี้ควรจะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่สบาย เหมาะกับการเคลื่อนไหว และมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง โดยที่ไม่ใช่เสื้อผ้าที่รัดรูปจนยากจะเคลื่อนไหว ตัวอย่างของชุดไปรเวทประเภทนี้ คือ ชุดจ๊อกกิ้ง ชุดวอร์มอัพ กางเกงวิ่ง หรือเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย เป็นต้น 

2. 
   

   ชุดไปรเวทสายลุย (Rugged Casual)

ชุดไปรเวทสายลุย ซึ่งการแต่งตัวประเภทนี้จะออกแนวสายลุย หรือสายเท่ ที่ถ้าจะลองแต่งดูแล้วก็ไม่เลวเช่นกัน โดยไอเทมการแต่งตัวประเภทนี้คือ ถุงเท้าหนา รองเท้าบูท เสื้อเชิ้ตผ้าแฟลนเนล กับกางเกงยีนส์หรือสีกากีแบบหนา เสื้อลายพรางหรือเสื้อสเวตเตอร์ แต่เสื้อผ้าทุกชิ้นก็ควรเป็นเสื้อผ้าที่ทนทานต่อการเคลื่อนไหวหนักๆ หรือกีฬาที่ต้องใช้แรงเยอะ เช่น ตกปลา เลี้ยงสัตว์ การล่าสัตว์ ปีนเขา เดินป่า แบกเป้ เป็นต้น

3. 
   

   ชุดไปรเวทสายสปอร์ต (Sport Casual)

หลายคนอาจจะเคยผ่านตามาบ้างแล้วกับการแต่งตัวเหล่านี้ที่เรียกว่าสายสปอร์ต บางครั้งก็แอบเป็นแฟชั่นสนามบินของศิลปินดังต่างๆ หรือบางครั้งผู้คนก็ใช้การแต่งตัวลักษณะนี้ในชีวิตประจำวันด้วย โดยไอเทมประเภทนี้ก็จะเน้นไปที่เสื้อผ้าแนวสปอร์ต แต่ก็ไม่ใช่เสื้อกีฬาที่จะต้องใช้เพื่อเล่นกีฬา เพราะคุณก็ใช้ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน อย่างไปเที่ยวในที่ต่าง ๆ ก็เป็นการแต่งตัวที่กระฉับกระเฉงเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะนิยมใส่ กางเกงยีนส์ กางเกงขากระบอก กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น กางเกงผ้าฝ้าย ที่ใส่คู่กับเสื้อยืด เสื้อสเวตเตอร์หนาๆ เสื้อเชิ้ตแบบติดกระดุม หรือโปโล เข็มขัด รองเท้าเทนนิส เป็นต้น

4. 
   

   ชุดไปรเวทสายสมาร์ท

อีกหนึ่งสไตล์การแต่งตัวที่นับได้ว่ากำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันไม่แพ้ประเภทที่กล่าวมาข้างต้นเลย ซึ่งชุดไปรเวทประเภทนี้ จะเลื่อนขั้นขึ้นมาจากต่างๆ ประเภทที่กล่าวไว้ ซึ่งจะทำให้ผู้สวมใส่ดูเป็นคนที่สมาร์ทมากขึ้น สามารถสวมใส่เพื่อไปกินอาหารดินเนอร์สุดหรูได้อย่างเข้ากับสถานที่ที่ไป โดยชุดไปรเวทประเภทนี้ก็ได้แก่ กางเกงขายาวหรือขาสั้น เสื้อเชิ้ตแขนยาว เนคไท รองเท้าหนัง หรือรองเท้าแบบสวม เข็มขัดปลายแหลม หรือหากเป็นผู้หญิงก็อาจจะสวมกางเกงสแล็ค กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อคอเต่า เข็มขัด แจ็คเก็ต เสื้อกั๊ก โดยใส่คู่กับรองเท้าส้นขนาดกลาง และเครื่องประดับเล็กน้อยให้ดูมีอะไรสักนิด

5. 
   

   ชุดไปรเวทสายสำอาง

ชุดไปรเวทประเภทนี้ก็จะมีการเลื่อนขั้นขึ้นมาอีกหนึ่งขั้นเช่นกัน โดยคุณสามารถสวมใส่ชุดลำลองประเภทนี้เข้าไปในงานเลี้ยง ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับชุดไปรเวทแบบสมาร์ท  แต่จะต่างตรงที่ไม่มีกางเกงยีนส์ และจะมีรองเท้าที่มีโทนสีที่สุภาพกว่า เสื้อผ้าที่จะดูสมบูรณ์มากกว่า และดูมีการใส่ใจในการแต่งตัวมากกว่า หากเป็นผู้หญิง ก็จะแต่งตัวด้วยชุดกางเกง ชุดเดรส ผ้ากึ่งเดรสที่มาคู่กับเครื่องประดับเล็กน้อยให้ดูดีมากขึ้น ส่วนผู้ชายก็จะเป็นกางเกงขายาว เสื้อคอเต่า เสื้อเชิ้ต เนคไท และแจ็คเก็ต

6. 
   

   ชุดไปรเวทสายธุรกิจ

ชุดไปรเวทระดับธุรกิจ จะเป็นชุดไปรเวทที่อยู่ในระดับสูงสุด และมีความสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งจะเป็นชุดไปรเวทประเภทเดียวที่สามารถใส่เนื่องในโอกาสเชิงธุรกิจได้ โดยชุดไปรเวทประเภทนี้จะมีการผสมผสานเสื้อผ้าที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะมากกว่าประเภทอื่นๆ ซึ่งคนที่แต่งลุคนี้ก็จะดูเป็นนักธุรกิจมืออาชีพได้ไม่ยากเลย 

สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับไอเทมการแต่งตัวชุดลำลอง หรือชุดไปรเวท ซึ่งจะเห็นได้ว่า ชุดประเภทนี้มีการแบ่งย่อยออกมาหลายประเภท โดยมีความแตกต่างด้านเสื้อผ้า โอกาสในการสวมใส่  คุณภาพของเสื้อผ้า และการผสมผสานอย่างลงตัว เป็นสไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถใช้ได้ในโอกาสที่แตกต่างกันไป