ประเทศไทยของเรานั้นค่อนข้างที่จะรับวัฒนธรรมการแต่งตัวและแฟชั่นมาจากหลากหลายประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีวัฒนธรรมย่อยด้านแฟชั่นมากมายแถมยังเป็นกระแสได้รับความนิยมไปทั่วโลก และยิ่งในช่วงยุคสมัยปี 2000 นั้นก็ยิ่งเป็นยุคทองของแฟชั่นญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็น สไตล์สาวฮาราจูกุ สไตล์โลลิต้า แฟชั่นแบบผลไม้สีสันสดใส รวมไปถึงแฟชั่นแบบสาวแกล แต่สาวเกลนั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรในประเทศไทย ทำให้หลายๆคนไม่ค่อยรู้จักกับเทรนด์สตรีทแฟชั่นของญี่ปุ่นนี้ ในครั้งนี้พวกเราจึงจะมาแนะนำเทรนด์สตรีทแฟชั่นของญี่ปุ่นอย่างแกลกันว่าแท้จริงแล้ว สาวแกล คืออะไร
สาวแกล คืออะไร นั้นก็คือความสุขแบบที่ไม่เหมือนใคร
สาวแกล คืออะไร คำว่าแกลนั้นคาดเดาว่าเป็นคำที่มาจากการทับศัพท์แบบคาตาคานะของคำภาษาอังกฤษ Gel หมายถึงหญิงสาวที่ได้รับความนิยมสองประการคือจากแบรนด์แฟชั่นอเมริกันอย่าง Levis และ Wrangler ทั้งสองมักใช้คำว่า Gals ในการโฆษณาแนวสินค้าสำหรับผู้หญิงในช่วงยุคปีหกสิบตอนปลายและเจ็ดสิบต้น บวกกับการเพิ่มขึ้นของความเป็นอิสระที่ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายของสตรีและแฟชั่นตะวันตกที่เกิดในยุคเดียวกันนั่นเอง
แล้วแฟชั่นจริงๆ ของสาวแกล คืออะไร ซึ่ง “สาวแกล” นั้นก็คือสไตล์ที่รับแฟชั่นตะวันตกในสมัยนั้น และมาแบบเสริมความเข้มข้นมากขึ้นด้วยการแต่งกายแฟชั่นสไตล์ของญี่ปุ่น ที่จะเป็นการแต่งตัวผมสีบลอนด์ฟอกขาวมักจะถูกม้วนหรือขลิบผมพร้อมด้วยการย้อมหรือต่อผมเพื่อเพิ่มเอฟเฟกต์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเรียกวิธีทำแบบนี้ว่า สุจิโมริ (スジ盛り / Sujimori) ที่มีความหมายสั้นๆว่า เส้นผมคละสี โดยส่วนมากจะใช้เจลในการย้อมเส้นผมสีต่างๆ นอกจากเอกลักษณ์เรื่องสีผมแล้ว จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของสาวแกลที่หลายคนจะนึกถึงเป็นอันดับแรกเลยนั้นคือ “ผิวสีแทน” ที่จะเป็นกุญแจสำคัญของสไตล์นี้ บรอนเซอร์สีเข้ม อายไลเนอร์สีดำ และขนตาปลอมหรือต่อขนตายาวเฟื้อยรวมไปถึงคอนทัวร์สำหรับผู้ที่อยากจะสร้างลุคแบบตะวันตก สำหรับคนที่ตั้งใจจะไปให้สมจริงกว่านั้น สาวแกลแท้จำนวนมากจะสวมคอนแทคเลนส์สีหรือเลนส์วงกลมที่จะสร้างรูม่านตาให้มองเห็นสีเข้มในดวงตาได้ชัดเจนขึ้น ถ้าให้แนะนำอาจจะแต่งคล้ายๆ วัยรุ่นไทยสมัย 2000 ที่จะมีการใส่บิ๊กอาย นั้นเอง
ส่วนเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ย่อย ซึ่งแต่ละสไตล์ก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป การผสมผสานระหว่างแบรนด์ตะวันตกและญี่ปุ่นกลายเป็นเรื่องปกติ แบรนด์หรูเป็นตัวเลือกยอดนิยมแต่จะเป็นแกลได้ก็ต่อเมื่อมีการผสมและจับคู่กับชิ้นอื่น ซึ่งศูนย์กลางของวัฒนธรรมแกลคือ Shibuya 109 ห้างสรรพสินค้าที่เน้นแฟชั่นวัยรุ่น ส่วนมากแบรนด์ที่แกลยอดนิยมจะเป็นพวก Love Boat, SLY, Shake Shake และ Moussy
นอกจากการแต่งตัวทั่วไปของสาวแกลแล้ว ยังมีการแต่งตัวที่แตกต่างของสาวแกลด้วยนะ ซึ่งจะได้แก่
แกลโอะ (ギャル男 /- Gyaru-o)
จะเป็นสไตล์ของผู้ชายสายแกลซึ่งมักจะคงไว้ซึ่งผมทรงและผิวสีแทนตามสาวแกล ควบคู่ไปกับสไตล์แฟชั่นที่เลือกสรรมาอย่างดีตามสไตล์ผู้ชาย
แกลมาม่า (ギャルママ / Gyaru-mama)
สไตล์ของคนรุ่นเก่าแต่ยังใช้สไตล์แกลต่อไปแม้จะอายุมากขึ้น
ชิโรแกล (白ギャル /- Shirogyaru)
เหมือนเป็นสไลต์สาวแกลแบบมินิมอล โดยไม่ได้ทำให้ตัวเองเป็นผิวแทน และใช้สีสันที่น้อยหรือเบาลงมา
อเมคาจิ (アメカジ / Amekaji)
สไตล์ลำลองของอเมริกัน เน้นสีสันสดใสและไอเท็มสำคัญ แบบรองเท้าเทนนิส และเสื้อยืด
ฮิเมะแกล (姫ギャル / Hime Gyaru)
สไตล์แกลที่ไม่พบเห็นบ่อย จะเป็นการแต่งตัวแต่งหน้าที่ดูหรูหรา เกินจริง และลุคเจ้าหญิงที่เติมเต็มด้วยทรงผมที่ดูหรูหราฟุ่มเฟือย
ถ้าเพื่อนๆ ยังนึกไม่ออกว่า สาวแกล คืออะไร หน้าตาแต่งตัวแบบไหน เราจะมาแนะนำเหล่าไอดอลและนางเอกในอนิเมะ ผู้เป็นแม่แบบของสาวแกลที่ยุคนั้น พวกเธอนี้แหละคือผู้นำแฟชั่นอย่างแน่นอน
- นามิเอะ อามูโระ : ไอดอลแกลที่ใหญ่ที่สุดเป็นผู้ในการสร้างแรงบันดาลใจสไตล์แกล และเธอยังเป็นผู้สร้างแกลสไตล์ใหม่อย่าง อามุร่าแกล (アムラーギャル / Amuraa Gyaru) เธอเป็นนางแบบ นักร้อง นักแสดง และไอดอล ผู้นำแฟชั่นสไตล์สตรีท แบบรองเท้าบูทยาว กระโปรงสั้น และผมสีเข้มกว่าสาวแกลปกติ
- ฮามาซากิ อายูมิ : นักร้องและไอดอลยอดนิยมอีกคนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมแกล
- ไอฮาร่า ยูสุ : เด็กสาวผมทองแนวสาวเกล ผู้เป็นนางเอกอนิเมะเรื่อง Citrus (ซีตรัส)
- คิตากาวะ มาริน : สาวนักคอสเพลย์แต่งตัวสไตล์ชิโรแกล แต่งตัวแบบสาวแกลแต่เบากว่าปกติ เธอเป็นนางเอกจากอนิเมะเรื่อง Sono Bisque Doll Wa Koi Wo Suru หนุ่มเย็บผ้ากับสาวนักคอสเพลย์
แฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำซากและมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง
เป็นยังไงบ้างสำหรับความรู้เล็กๆ น้อยของมุมแฟชั่นกับ สาวแกล คืออะไร ถึงแม้ว่าสไตล์นี้จะลดลงอย่างมากตั้งแต่ช่วงปลายปี 2000 แต่ถ้าเพื่อนๆ ยังคงพบปะสาวแกลจำนวนมากที่ได้ในโตเกียว Shibuya 109 เป็นศูนย์กลางของสไตล์ที่มีกลุ่มสาว ๆ มากมายมาพบปะเพื่อช็อปปิ้ง พวกเราไม่ต้องเสียดายไปกับแฟชั่นที่เริ่มหายไปของแกล ทุกๆอย่างล้วนมีเกิดก็ต้องหายไป แฟชั่นก็เช่นกัน ทุกอย่างก็วนกลับมาเรื่อยๆ ไม่แน่อีกสิบข้างหน้าคุณอาจจะได้เห็นแฟชั่นแกลทั่วกรุงเทพก็ได้นะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://th.wikipedia.org/wiki/นามิเอะ_อามูโระ
- https://becommon.co/culture/fashion-gyaru/
- https://www.fun-japan.jp/th/articles/12777
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://becommon.co/culture/fashion-gyaru/
- https://exalandopurpurina1.blogspot.com/2015/05/o-que-sao-gyarus.html
- https://exalandopurpurina1.blogspot.com/2015/05/o-que-sao-gyarus.html