แนะนำ 5 มอยเจอร์ไรเซอร์ บำรุงผิวชื่อดังที่ของมันต้องมี! ปี 2022

สำหรับใครรที่ยังรู้จักว่ามอยเจอร์ไรเซอร์คืออะไร มันคือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่ทาเพื่อปกป้องกันผิวหรือลดอาการผิวแห้ง ผิวลอก และผิวมีความนะคายเคือง โดยเจ้าตัวมอยเจอร์ไรเซอร์นั้นจะทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้า ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าของเรานั้นมีความอิ่มน้ำแลดูสุขภาพดี ซึ่งประเภทมอยเจอร์ไรเซอร์นั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น เนื้อโลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง น้ำ หรือจะแยกจากองค์ประกอบก็จะแยกเป็นมอยเจอไรเซอร์ประเภทฐานน้ำมัน (Oil-based moisturizer) และมอยเจอไรเซอร์ประเภทฐานน้ำ (Water-based moisturizer)  โดยแต่ละเนื้อของตัวมอยเจอร์ไรเซอร์นั้นจะเหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นเราควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง

✅ วิธีการเลือก มอยเจอร์ไรเซอร์ ให้เหมาะกับผิวหน้า

สภาพผิวของแต่ละบุคคลนั้นมีความแต่งต่างกันการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวก็ควรเลือกที่มีความเหมาะสมกับผิวของตนเองเพื่อให้ได้ผลที่ดี โดยการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะสมกับผิวนั้นเราสามารถยกสภาพผิวออกเป็น 4 ประเภทดังนี้

✨ ผิวปกติ (Normal skin)

ลักษณะผิวที่มีความสมดุลไม่มันเกินไปและไม่แห้งจนเกินไป ผิวปกติเป็นผิวที่มีลักษะณะเป็นผิวที่แข็งแรง มีจุดบกพร่องต่างๆ ของผิวน้อยเมื่อเทียบกับผิวชนิดอื่น ๆ  สามารถเลือกใช้มอยเจอไรเซอร์ประเภทฐานน้ำที่อยู่ในรูปแบบของเนื้อโลชั่น เพราะจะแห้งเร็วทำให้รู้สึกสบายผิว หรือจะใช้แบบมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทฐานน้ำมัน โดยเลือกใช้ตามสภาพอากาศ

✨ ผิวแห้ง (Dry skin)

ลักษณะผิวที่มีการขาดน้ำและค่อนข้างแห้ง เป็นผิวที่ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ โดยลักษณะผิวแห้งควรเลือกใช้แบบมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทฐานน้ำมัน เพราะแบบน้ำมันเคลือบผิวไม่ให้ความชื้นจากผิวระเหยออกไป ซึ่งเนื้อของผลิตภัณฑ์อาจมีความข้นหรือหนืดมากกว่าปกติ แต่ถ้าใครที่มีปัญหาผิวแห้งมาแนะนำให้เลือกเนื้อมอยเจอร์ไรเซอร์แบบขี้ผึ้งเพราะสามารถเคลือบผิวและทำให้มีความมันบนผิว แนะนำว่าควรทาก่อนนอนเพราะตอนกลางวันอาจทำให้ไม่สบายผิว

✨ ผิวมัน (Oily skin)

ลักษณะผิวที่มีการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมามากกว่าปกติ ผิวหยาบ ผิวมันวาว รูขุมขนกว้าง และมีแนวโน้มที่จะมีสิวอักเสบหรือสิวอุดตัน ควรเลือกใช้แบบมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทฐานน้ำที่อยู่ในรูปแบบของเนื้อโลชั่นชนิดเหลวจะลดอาหารเกิดสิวน้อยกว่า หลายคนอาจคิดว่าผิวมันไม่ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ แต่จริง ๆ แล้วลักษณะผิวเช่นนี้ก็ต้องการความชุ่มชื่นเช่นกัน

✨ ผิวผสม (Combination skin)

ลักษณะผิวที่มีการผสมระหว่างผิวแห้งและผิวมันอาจมีผิวแห้งบางบริเวณ และผิวมันบางบริเวณ อย่าง T-zone ควรเลือกใช้แบบมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ให้มีความหนืดและให้ความชุ่มชื่นที่พอดีไม่มากไม่น้อยไป เช่นเนื้อโลชั่นกึ่งครีม ไม่ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์แบบน้ำมันเพราะอาจทำให้ส่วน T-zone เกิดสิวอุกตันได้

✅ แนะนำ 5 มอยเจอร์ไรเซอร์ บำรุงผิวชื่อดัง

1. ✨ MizuMi Dry Rescue Intense Melt-In Cream

เป็นโลชั่นที่เหมาะสำหรับคน ผิวแห้ง ผิวปกติ เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ที่จะช่วยเก็บละเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานกว่า 48 ชั่วโมง ในรูปแบบของเนื้อครีมบางเบา ซึมเข้าผิวได้ง่าย บำรุงให้ผิวมีความชุ่มชื้นและผิวมีความอิ่มน้ำ แถมยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้

2. ✨ Physiogel Daily Moisture Therapy Cream

เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทฐานน้ำมันชนิดครีม มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวและเชียบัตเตอร์ที่จะช่วยกันให้ผิวของคุณชุ่มชื้นอิ่มน้ำ ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขม เสริมสร้างปราการป้องกันการสูญเสียน้ำของผิวจาก Ceramide 3 ทั้งยังสามารถช่วยปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะหรือสิ่งแปลกปลอม เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง

3. ✨ Neutrogena Hydro Boost Water Gel

สำหรับผิวผสม ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์อย่าง Neutrogena Hydro Boost Water Gel ที่เป็นมอยเจอร็ไรเซอร์เนื้อเจล ซึมเข้าสู่ผิวไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะผิว นอกจากนั้นยังช่วย เคลือบผิวชั้นบนเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ พร้อมช่วยมอบผิวที่อิ่มน้ำไม้ให้มีความแห้งกร้าน และเหมาะกับผู้ที่มีอาการระคายเคืองแพ้ง่าย

4. ✨ Hada Labo Hydrating Perfect Gel

มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล เหมาะสำหรับคนผิวมัน ผิวผสม ช่วยเติมเต็มและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก และยังดูดซับความชุ่มชื้นพร้อมป้องกันการระเหยน้ำในผิวเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นยาวนาน แถมยังฟื้นฟูผิวที่แห้งเสียให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

5. ✨ Cetaphil Daily Facial Moisturizer SPF15 PA++

สำหรับใครที่กังวลเรื่องสิวตัวนี้ถือว่าเหมาะอย่างมาก เป็นมอเจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่นชนิดครีม แต่มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่ทำให้ผิวหน้ามันเยิ้ม หรือก่อให้เกิดการอุดตัน แถมยังซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนานห่างไกลจากปัญหาผิวแห้ง และมีคุณสมบัติพิเศษยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ซึ้งคนเป็นสิวใช้ได้อย่างแน่นอน

มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิว ทำให้ผิวของเรานั้นมีความชุ่มชื่น หรือพูดง่าย ๆ คือ มอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยเติมน้ำกับผิวเพื่อให้ผิวดูอิ่มน้ำและสุขภาพดี สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าควรทาตอนไหน มอยเจอร์ไรเซอร์ควรทาหลังทำความสะอาด เพราะผิวจะดูดซึมได้ดีที่สุด และถ้าอยากได้ผลดีมากขึ้นแนะว่าควรทาโทนเนอร์ก่อนลงมอยเจอร์ไรเซอร์ ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวควรทำการทดสอบที่ข้อพับ หรือหลังหูก่อนเพื่อให้รู้ว่าเรามีอาการแพ้หรือไหม

📚 อ้างอิง (Reference Sites)

📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)

เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม