การแคมป์ปิ้ง หรือ Camping คือกิจกรรมกลางแจ้งรูปแบบหนึ่ง โดยมีลักษณะเป็นการพักแรมค้างคืนที่ไหนก็ได้ซึ่งไม่ใช่บ้านของตนเอง ส่วนใหญ่จะนิยมไปค้างแรมตามสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่าง ๆ ซึ่งลักษณะของการตั้งแคมป์แบบนี้ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จากที่เดิมทีอาจจะเป็นลักษณะการท่องเที่ยวที่เฉพาะกลุ่ม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกางเต็นท์ที่บริเวณจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะมีความแตกต่างจากจุดกางเต็นท์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เนื่องจากสถานที่ที่เป็นอุทยานแห่งชาติจะเป็นสถานที่ซึ่งมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และยังคงมีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ ดังนั้นถึงแม้ความสะดวกอาจจะเทียบไม่ได้ แต่เชื่อเถอะว่านักท่องเที่ยวทุกคนที่ได้เยือนจะต้องได้รับพลังเต็มเปี่ยมจากธรรมชาติแบบแท้ ๆ กลับบ้านมาเต็มปอดแน่นอน
การปฏิบัติตัวเมื่อไปเที่ยวจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ
-
เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมอย่าหวังพึ่งน้ำบ่อหน้า
การเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมถือเป็นหลักการในข้อแรกที่นักท่องเที่ยวพึงปฏิบัติไม่ว่าจะไปเที่ยวในสถานที่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะการไปเที่ยวที่จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ ซึ่งจะต้องมีการเตรียมตัวเองไปให้พร้อมในระดับหนึ่ง เนื่องจากอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอาจจะไม่ได้มีมากมายนัก ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้หลายสถานที่ก็ได้เพิ่มการบริการให้ครอบคลุมกับผู้ที่เข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้นแล้ว เช่น มีห้องน้ำเอาไว้ให้บริการ มีบริการให้เช่าเต็นท์ มีอาหารแห้งจำหน่าย เป็นต้น แต่ถึงอย่างนั้นการเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อนก้จะทำให้ทุกคนสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวลมากขึ้น
-
เคารพนักท่องเที่ยวท่านอื่น
จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เปิดให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไปได้เข้ามาพักผ่อน และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสวยงามของธรรมชาติกันอย่างไม่มีแบ่งเชื้อชาติ หรือไม่มีการแบ่งชนชั้น ดังนั้นทุกคนที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้จึงมีสิทธิในการใช้บริการอย่างเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นทุกคนจึงควรให้เกียริตซึ่งกันและกัน ไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อกัน ไม่ส่งเสียงดังหรือสร้างความอึดอัดให้กับนักท่องเที่ยวท่านอื่น เพื่อให้การเข้ามาใช้สถานที่ร่วมกันในครั้งนี้เป็นความทรงจำอันสุดแสนพิเศษสำหรับตัวเองและนักท่องเที่ยวทุกคนนั่นเอง
-
อย่าสร้างความเสียหายให้ธรรมชาติโดยรอบ
เนื่องจากจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติคือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ของพรรณไม้และสัตว์ป่าหายาก ในบางสถานที่ก็ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้อย่างดีเพื่อให้ประเทศไทยของเรายังคงมีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ให้เคียงคู่กับผืนแผ่นดินต่อไป ดังนั้นการเข้ามาใช้บริการกางเต็นท์เพื่อหาความสุขส่วนตัวให้กับตัวเอง หรือการมาพักผ่อนจากความวุ่นวายและหวังว่าจะได้รับการปลอบประโลมจากธรรมชาตินั้น ก่อนอื่นทุกคนจำเป็นจะต้องพึงระลึกเอาไว้เสมอว่าเรามาในฐานะคนมาเยือน ดังนั้นตอนมามาอย่างไร ตอนกลับก็ควรกลับไปแบบนั้น อย่าได้สร้างความเสียหายหรือฉกฉวยสิ่งใดจากพื้นที่กลับไปด้วยเป็นอันขาด
-
กางเต็นท์ในบริเวณที่เจ้าหน้าที่กำหนดเท่านั้น
หลายครั้งบางคนอาจจะรู้สึกว่าการกางเต็นท์ที่สนุกและน่าสนใจมากที่สุดก็คือการแย่งชิงตำแหน่งในการกางเต็นท์ที่ดีที่สุด เห็นวิวได้ชัดที่สุด หรืออยู่ใกล้กับจุดที่สูงที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วทุกคนไม่สามารถจะทำแบบนั้นได้ เพราะพื้นที่ให้บริการซึ่งเจ้าหน้าที่ของจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติได้จัดเตรียมเอาไว้ให้นั้นคือพื้นที่ที่มีความปลอดภัย เช่น เป็นพื้นราบไม่เสี่ยงต่อการกลิ้งตก อยู่ห่างจากเส้นทางเดินเท้าของสัตว์ป่า ไม่ใกล้แหล่งน้ำมากจนเกินไป เป็นต้น ดังนั้นการเลือกจุดกางเต็นท์จากพื้นที่ที่มีอยู่จึงเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
-
ห้ามนำวัตถุที่มีไฟเข้าไปในเต็นท์เด็ดขาด
การที่หลายสถานที่ของ จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ ได้มีข้อห้ามที่ว่าด้วยการห้ามนำวัตถุที่มีไฟเข้าไปในเต็นท์โดยเด็ดขาดนัน้ เป็นเหตุผลมาจากวัสดุที่ใช้ทำเต็นท์นั้นค่อนข้างไวไฟ และอาจจะเกิดการลุกลามของไฟได้ง่ายหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับอุปกรณ์ที่ติดไฟซึ่งทุกคนได้นำเข้าไปไว้ในเต็นท์ นอกจากนั้นอากาศในช่วงกลางคืนของจุดกางเต็นท์ก็มักจะมีลมแรง เพราะฉะนั้นจึงมีความเสี่ยงมากที่ประกายไฟหรือจุดกำเนิดไฟเล็ก ๆ จะสร้างเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายที่ยากเกินว่าจะจินตนาการได้
-
ก่อกองไฟในขณะที่ได้รับการอนุญาตเท่านั้น
การก่อกองไฟเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ชาวแคมป์ชื่นชอบ และเป็นเสมือนกิจกรรมไฮไลท์ที่จะต้องทำทุกครั้งที่มีการไปกางเต็นท์ตั้งแคมป์กลางแจ้ง แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อทุกคนเลือกที่จะไปท่องเที่ยวยังจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติ นั่นหมายความว่าทุกคนจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามกฎและไม่สามารถทำตามที่ใจต้องการทุกอย่างได้ เพราะฉะนั้นควรปรึกษาหรือขออนุญาตในการจุดไฟกลางแจ้งก่อนทุกครั้ง เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้จัดหาบริเวณที่เหมาะสม ตลอดจนเตรียมการรับมือสำหรับอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง
-
ระวังสัตว์มีพิษในพื้นที่
แน่นอนว่าตามป่าตามเขาโดยเฉพาะจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติย่อมเต็มไปด้วยเหล่าสัตว์นานาชนิดที่อาศัยอยู่กันตามธรรมชาติ ดังนั้นเราที่เข้าไปพักผ่อนอาศัยชั่วคราวในพื้นที่ จึงจำเป็นจะต้องระแวดระวังและดูแลตัวเองด้วยความไม่ประมาท เช่น เมื่อจะต้องกางเต็นท์ให้ทำการเลือกบริเวณพื้นราบที่ไม่มีหญ้ารกทึบ หรือทำความสะอาดพื้นบริเวณที่จะกางเต็นท์ให้เรียบร้อยก่อนทุกครั้ง ป้องกันเหล่าสัตว์มีพิษที่อาจจะนอนหรือซ่อนตัวอยู่ตามพื้นนั่นเอง
แนะนำจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติน่าเที่ยวล่าสุด
จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติได้นั้นมีอยู่หลายสถานที่ เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอุทยานแห่งชาติเป็นจำนวนมาก โดยจากข้อมูลที่เราสามารถรวบรวมมาได้นั้น ทำให้เห็นข้อมูลที่น่าตกใจว่าประเทศไทยของเรามีอุทยานแห่งชาติมากถึง 131 แห่ง (ตามข้อมูลอาจจะมีเพิ่มขึ้นได้ขึ้นอยู่กับการแต่งตั้ง) ทั้งยังมีพื้นที่ซึ่งเตรียมการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติอีกมากมาย ดังนั้นจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามากางเต็นท์กันได้ ก็จะมีมากตามไปด้วย เช่น
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เรียกได้ว่าเป็นจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดแห่งหนึ่ง เนื่องจากกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างประมาณ 2,168 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 4 จังหวัด (สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก) มีความสวยงามของธรรมชาติ และเดินทางสะดวก โดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นหนึ่งในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ หรือ World Heritage Site ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน หรือ ASEAN Heritage Park อีกด้วย มีความอุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์ พรรณไม้ แหล่งน้ำ และพันธุ์สัตว์หายากหลายชนิด จึงไม่แปลกที่สุดท้ายแล้วอุทยานแห่งชาตินี้จะกลายมาเป็นเป้าหมายในการเดินทางของนักท่องเที่ยวหลายคนนั่นเอง
อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ครอบคลุมพื้นที่ในบริเวณของอำเภอวังทอง อำเภอนครไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ลากยาวไปถึงบริเวณของอำเภอเขาค้อ อำเภอวังโป่ง ของจังหวัดเพชรบูรณ์ กินพื้นที่โดยรอบประมาณ 1,262.40 ตารางกิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับความสวยงามนอกเหนือจากวิวสุดอลังการ เช่น ถ้ำ น้ำตก ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่
ตลอดจนเหล่าสัตว์หายากที่อาจจะออกมาเดินอวดโฉมให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกด้วย โดยช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมมายังสถานที่แห่งนี้มากที่สุดกก็คือช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เนื่องจากอากาศจะหนาวเย็นกำลังพอดี เหมาะกับการกางเต็นท์นั่นเอง
อุทยานแห่งชาติแม่ปิง
อุทยานแห่งชาติแม่ปิงคือจุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ครอบคลุมหลายอำเภอของหลายจังหวัด โดยครอบคลุมไปยังบริเวณอำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่, อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก ความโดดเด่นที่ทำให้นักท่องเที่ยวชื่นชอบสถานที่แห่งนี้นั่นก็คือวิวของทิวเขาที่ทอดยาวสลับซับซ้อนเกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่ตราตรึงใจทุกครั้งที่ได้เห็น นอกจากนั้นยังมีสายน้ำทางธรรมชาติมากมายที่ไหลผ่านบริเวณอุทยานแห่งชาติ เช่น ลำห้วยแม่หาด ลำห้วยแม่ก้อ และลำน้ำปิง เรียกได้ว่าได้เต็มอิ่มไปวิวของธรรมชาติทั้งภูเขา สายน้ำ และท้องฟ้าที่ครบจบภายในที่เดียวจริง ๆ
อุทยานแห่งชาติทับลาน
อุทยานแห่งชาติทับลานเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีลักษณะของภูมิประเทศแบบภูเขาใหญ่น้อยสลับซับซ้อนเรียงกันไปมา โดยมีภูเขาที่สูงที่สุดชื่อว่า ‘เขาละมั่ง’ มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 992 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีความสวยงามของธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น วิวธรรมชาติที่สามารถมองเห็นแม่น้ำสายสำคัญ หุบเขาตามธรรมชาติ เหว หรือน้ำตก
และนอกจากสถานที่แห่งนี้จะได้รับความนิยมและกล่าวขานว่าเป็นจุดกางเต็นท์ที่ควรจะมาเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิตแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังมีความสำคัญกับระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตมากมาย เนื่องจากอุทยานแห่งชาติทับลานคือจุดกำเนิดของสายน้ำที่สำคัญถึงสองสาย ได้แก่ แม่น้ำมูลและแม่น้ำบางปะกง
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
มาต่อกันที่จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติที่ใกล้กรุงเทพ และเหมาะกับการจัดทริประยะสั้นในช่วงที่ไม่ใช่วันหยุดพิเศษมาก ๆ อย่าง ‘อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน’ โดยอุทยานแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 2,915 ตารางกิโลเมตร กินพื้นที่บริเวณจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนั้นยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) เมื่อปีพุทธศักราช 2564 อีกด้วย
โดยความแตกต่างของจุดกางเต็นท์ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับอุทยานแห่งชาติอื่น ๆ ในภาคเหนือก็คือสภาพอากาศที่จะมีความชื้นมากกว่า เนื่องจากอากาศบริเวณป่าดิบชื้นนี้จะมีฝนตกชุกอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวจึงสามารถสัมผัสกับอากาศที่เย็นสดชื่นได้แบบเต็มที่ แต่ก็จะต้องมีข้อควรระวังในการมาเที่ยวในช่วงที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ ดังนั้นก่อนเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ควรมีการติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนเพื่อความรอบคอบก็จะเป็นการดีอย่างมากนั่นเอง
จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติที่เราได้นำมาแบ่งปันให้กับใครก็ตามที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ หรือชื่นชอบการจัดทริปแคมป์ปิ้งกันในช่วงวันหยุด บอกได้เลยว่าทุกคนไม่ผิดหวังกับความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติหลาหลายแน่นอน ที่สำคัญก่าการเดินทางไปเพื่อหาความสุขให้ตัวเอง ก็อย่าบืมที่จะใส่ใจนักท่องเที่ยวรอบข้าง และอย่าลืมที่จะช่วยกันดูแลสถานที่ไม่ให้เกิดความเสียหาย และมีความสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ เพื่อรักษาความสวยงามนี้ให้เราได้กลับไปเยือนใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าต่อไปเรื่อย ๆ กันด้วยนะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.ktc.co.th/ktcworld/travel-service/travel-story/thailand/9-camping-national-park
- https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=642