ต้อนรับบรรยากาศต้นปี ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เริ่มต้นปีด้วยการไปทริปท่องเที่ยวทั่วไทยกันเลยดีกว่า ยิ่งในช่วงเดือนมกราคมที่มีวันหยุดยาวติดกันหลายวันยิ่งเหมาะกับการไปหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ เอาไว้ผลักดันการใช้ชีวิตในปีนี้ ที่เที่ยว เดือนมกราคมที่น่าสนใจ จะมีที่ไหนบ้างเราได้รวมแลนด์มาร์คสุดฮิตจากทั่วทุกมุมของประเทศไทยมาให้ทุกคนได้เลือกและวางแพลนทริปวันหยุดยาวในเดือนมกราคมกันแล้ว
ปักหมุด 6 แลนด์มาร์ค ที่เที่ยว เดือนมกราคมห้ามพลาดกับทริปวันหยุดยาวต้นปี
ที่เที่ยว เดือนมกราคม ที่เรารวมมาให้นี้มีทั้งแบบ ไปสัมผัสบรรยากาศลมหนาวในเดือนแรกของปีบนเขา หรือจะไปชมทะเลท้องฟ้าสดใส ตะลุยไหว้พระกับวัดดัง ๆ ตกแต่งสวยงาม หรือจะไปชมดอกไม้ที่พร้อมใจกันบานสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคม เรียกว่าครบจุใจไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นก็ไม่หวั่น แน่นอนว่าทุกแลนด์มาร์ค ที่เราปักมาให้จะทำให้คุณได้ผ่อนคลาย ชื่นชมธรรมชาติสวย ๆ สุดฟินกันแบบเต็มอิ่ม อย่ารอช้า ไปดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง
- แลนด์มาร์คที่ 1 ม่อนจอง
ปักหมุดแลนด์มาร์คที่ 1 กับ ดอนม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่ที่อยู่ภายใต้เขตรับผิดชอบรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย สำหรับสายเดินขึ้นดอยต้องห้ามพลาด เพราะดอยม่อนจองนี้จะเปิดให้เข้าไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี แค่ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ถ้าพลาดโอกาสปีนี้คงต้องรอไปถึงปีหน้าเลยกว่าจะได้มาสัมผัสประสบการณ์ขึ้นดอยที่มีระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1929 เมตรแห่งนี้
ใครที่กำลังมองหาจุดชมวิวสวย ๆ บนยอดดอยต้องลองที่นี่ ระหว่างทางขึ้นไปคุณก็จะได้พบกับจุดพักหลากหลายจุดและจะมีลานทุ่งหญ้าสีทองหรือสนามกอล์ฟช้างที่เป็นทั่งหญ้าสีทองสวยอร่ามกว้างสุดตา และเดินขึ้นไปอีกหน่อยจะเป็นเนินที่ชันที่สุดของดอยแห่งนี้จนได้ชื่อว่าเนินหมาหอบ จุดที่จะท้าทายความสามารถของเหล่าคนพิชิตยอดดอย ซึ่งถ้าคุณผ่านเนินหมาหอบไปได้จะเจอกับยอดดอยที่สวยจนบรรยายออกมาเป็นตัวหนังสือไม่ได้กับยอดหัวสิงห์
นอกจากนี้คุณสามารถพักได้ที่เที่ยวมกราคม กางเต็นท์ค้างคืนได้ 1 คืนเพื่อพักผ่อนเอาแรง นอนชมท้องฟ้าที่เห็นดาวไปทั่วทั้งท้องฟ้า นอนสบาย ๆ ชิล ๆ พร้อมตื่นมารับแสงแรกของวัน ชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในช่วงเช้าที่จะทำให้คุณสดชื่นเติมพลังเต็มหลอดกันเลยทีเดียว ใครที่สนใจอยากมาเที่ยวที่ดอยม่อนจองจะต้องลงทะเบียนกับหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอก่อนเท่านั้น ไม่งั้นมาถึงแล้วจะอดขึ้นเอาล่ะ
- แลนด์มาร์คที่ 2 รวมจุดชมดอกพญาเสือโคร่ง
มาถึงจุดเช็คที่ 2 นั่นคือการไปชมดอกพญาเสือโคร่งหรือต้นไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นซากุระเมืองไทย ดอกไม้สีชมพูที่จะบานสะพรั่งในช่วงฤดูหนาวของไทยนั่นคือช่วงเดือนมกราคมนั่นเอง และนี่ทำให้การไปชมดอกพญาเสือโคร่งกลายเป็น 1 ในแลนด์มาร์ค ที่เที่ยว เดือนมกราคม ที่ต้องไปให้ได้นั่นเอง
ในประเทศไทยได้มีการปลูกต้นไม้สีชมพูนี้ไว้เยอะมาก เราได้รวมจุดชมยอดฮิตมาให้แล้ว ได้แก่ที่แรกคือภูลมโล จังหวัดเลย ที่มีการปลูกต้นซากุระเมืองไทยนี้ไว้มากถึง 1000 ไร่ เรียกว่าหันไปทางไหนก็มีแต่สีชมพู ถัดมาจะเป็นที่เที่ยวมกราคม ณ เชียงใหม่ที่จะมีจุดชมหลายจุดเช่น ขุนช่างเคี่ยนจะอยู่ใกล้เมืองเชียงใหม่มากที่สุด และ ดอยอ่างขาง ที่ตลอดสองข้างทางที่คดเคี้ยวริมถนนจะมีสีชมพู กลายเป็นถนนสุดโรแมนติกประจำเชียงใหม่ไปเลย
นอกจากนี้ยังมีที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ขุนแม่ยะ ที่นี่ปลูกดอกพญาเสือโคร่งคลุมไว้ทั้งดอย จนได้ชื่อว่าเป็นดอยสีชมพูของจังหวัดนี้ และจุดสุดท้ายที่เราเลือกมาให้นั่นคือปางขอน จังหวัดเชียงราย แหล่งปลูกกาแฟอาราบิกาที่สำคัญของไทย นอกจากจะมีกาแฟหอม ๆ แล้วยังมีดอกซากุระเมืองไทยชมพูไปทั่วทุกมุมอีกต่างหาก อย่าลืมว่าดอกพญาเสือโคร่งนั้นจะบานแค่ในช่วงฤดูหนาวเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น อย่าได้รอช้ารีบเลือกจุดที่คุณอยากไปแล้วไปถ่ายรูปเช็คอินกันเลย
- แลนด์มาร์คที่ 3 ตะลุยวัดเชียงราย
มาถึงครึ่งทางแล้วกับแลนด์มาร์คที่ 3 การตะลุยไหว้พระในวัดสวยๆจังหวัดเชียงราย ในช่วงเดือนมกราคม อากาศกำลังหนาว ๆ เป็นจังหวะที่ดีสุด ๆ สำหรับการไปทริปไหว้พระแบบไม่ต้องกลัวร้อน ไม่ต้องกลัวเหงื่อออกจัวเหนียวก็สามารถเก็บครบวัดในจังหวัดเชียงรายได้แบบชิล ๆ ที่นี่มีวัดสวย ๆ หลายแห่งที่แค่พูดชื่อทุกคนก็ต้องร้องอ๋อ
เริ่มกันที่วัดวัดกลางเวียง ที่แปลว่ากลางเมืองเพราะวัดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงรายพอดิบพอดี ภายในวัดจะมีเสาหลักเมืองเชียงรายซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดแห่งนี้เลย นอกจากนี้ยังมีต้นจันทร์แดงโบราณต้นใหญ่ที่เป็นร่มไม้ให้วัดนี้ดูร่มเย็น พร้อมกับการตกแต่งวัดตามแบบล้านนาประยุกต์ที่งดงามทุกมุมจนทำให้วัดกลางเวียงกลายเป็นวัดสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของเชียงรายเลยก็ว่าได้
ถัดมาเป็นวัดร่องขุ่น วัดสีขาวประจำจังหวัดที่โด่งดังไปไกลทั่วโลกของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ไม่ว่านักท่องเที่ยวจากที่ไหนมา จะต้องเข้ามาเช็คอินและชื่นชมความสวยงามของวัดแห่งนี้กันทุกคน ประติมากรรมโบสถ์สีขาวสะอาดตาแต่งลวดลายกระจกสีเงิน ในบรรยากาศหนาว ๆ เย็น ๆ โบสถ์สีขาวและท้องฟ้าสดใส ช่างสวยงามจนหาที่ไหนเทียบไม่ได้เลย
ต่อมาเป็นวัดร่องเสือเต้น ที่ตกแต่งตามวัฒนธรรมล้านนา โดยลูกศิษย์ชื่อดังของอาจารย์เฉลิมชัย ที่ได้มีการตกแต่งตัวโบสถ์ด้วยสีน้ำเงินตัดกับสีทองอร่าม ควบคู่กับบันไดพญานาคที่สวยงามตรงทางขึ้น ทำให้โบสถ์แห่งนี้ดูแตกต่างและงดงาม ที่สำคัญคือมีพระประธานสีขาวมุกองค์ใหญ่ที่สูง 20 เมตรตั้งอยู่ในโบสถ์แห่งนี้ด้วย เรียกว่าทั้งสี องค์พระ ประติมากรรมต่างๆทำให้วัดแห่งนี้สวยงามไม่แพ้วัดอื่น ๆ เลย
วัดสุดท้ายที่เราหยิบมาให้นั่นคือ วัดห้วยปลากั้ง วัดที่มีพระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิมสีขาวมุกสะดุดตาขนาดใหญ่ สูงถึง 69 เมตรตั้งอยู่ รวมถึงมีโชคธรรมเจดีย์ มหาเจดีย์สูง 49 เมตร ทั้งหมด 9 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะมีประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ไว้ให้ผู้คนได้เข้าไปสักการะบูชาและชื่นชมความสวยงามของวัดกันแบบทุกซอกทุกมุม
- แลนด์มาร์คที่ 4 ทะเลบัวแดง
แลนด์มาร์คที่ 4 กับทะเลบัวแดง จังหวัดอุดรธานี สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัด เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่กว่า 22500 ไร่ หรือประมาณ 36 ตารางกิโลเมตร เรียกกว่ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเลย ในบึงน้ำจืดนี้เป็นแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ที่อุดมไปด้วยพืชพันธุ์น้ำนานาชนิดและนกน้ำกว่า 70 สายพันธุ์ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมบรรยากาศธรรมชาติและวิถีชีวิตของเหล่าสัตว์น้ำและนกน้ำที่อุดมสมบูรณ์
แน่นอนว่าต้องมีดอกบัวแดงเต็มทั่วทั้งบึงขนาดใหญ่นี้จนได้ชื่อว่าเป็นทะเลบัวแดง โดยดอกบัวจะเริ่มเป็นดอกตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงช่วงพีคที่จะบ่นสะพรั่งเต็มทั้งบึงในเดือนมกราคม และจะบานในช่วงเช้าจนถึงเวลาประมาณ 11 โมงเท่านั้น ลองนึกภาพว่าคุณล่องเรืออยู่กลางบึงที่เต็มไปด้วยดอกบัวแดงที่กำลังบานอยู่รอบ ๆ คงจะทำให้เรารู้สึกดีและตื่นตาตื่นใจไปกับสิ่งนี้ไม่น้อยเลย
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือและล่องเรือไปชมดอกบัวแดงและชมนกน้ำได้ในช่วงเช้า ช่วงเวลาที่เหมาะสุด ๆ จะเป็นช่วง ตี 5 จนถึง 9 โมงเช้า เพราะถ้าอากาศเริ่มร้อน ดอกบัวก็จะหุบลง จะมีท่าเรือให้เลือกใช้บริการ 3 ท่า คือท่าเรือท่าเดียว ท่าเรือเชียงแหว และท่าเรือดอนคง โดยจะมีเวลาล่องเรือตั้งแต่ 45 นาที ไปจนถึง 1.30 ชั่วโมง เรียกว่าใครที่อยากไปถ่ายรูปบนเรือกับทะเลบัวแดง ชมนกชมไม้ท่องเที่ยวธรรมชาติแบบสบาย ๆ ยามเช้าก็จัดไปเลยเต็ม ๆ
- แลนด์มาร์คที่ 5 เชียงคาน
แลนด์มาร์คที่ 5 คือ เชียงคาน ในจังหวัดเลย ด้วยความที่เป็นเมืองแห่งความเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่ว่าใครต่างต้องสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความชิล เมืองที่เหมาะสำหรับการหลีกหนีชีวิตเร่งรีบแล้วลองมาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ลองทำกิจกรรมและไปเที่ยวแบบสบาย ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศเก็บทุกโมเมนต์ความทรงจำได้แบบเต็ม ๆ
เชียงคานจะมีสถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆอย่างถนนคนเดินเชียงคานที่จะเป็นตลาดนัดริมโขง มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของกันเต็มทั้งสองข้างทาง บวกกับจะมีบ้านไม้เก่าเต็มทั้งถนนจนทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นภาพจำของใครหลายๆคน อาจจะเห็นจากภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง ที่รับรองได้เลยว่าถ้าไปเห็นของจริงจะสวยยิ่งกว่าในหนังเสียอีก มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร โรงแรม เกสต์เฮ้าส์ต่าง ๆ คอยบริการนักท่องเที่ยวแบบไม่ให้ขาด
นอกจากนี้ก็จะมีสกายวอล์ค เชียงคานที่เพิ่งเปิด จุดเช็คอินใหม่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน เป็นสกายวอล์คที่สูงเท่ากับตึก 30 ชั้น ทางเดินทำจากกระจกที่ยาวกว่า 100 เมตร ให้คนได้ไปลองเดินผ่านเพื่อสร้างความตื่นเต้นสุดหวาดเสียวกันเลย และแน่นอนว่าทำให้จุดนี้กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยงามสุด ๆ สามารถมองเห็นวิวและสามารถแวะสักการะ พระใกญ่ภูคกงิ้ว ข้าง ๆ ได้ด้วย
- แลนด์มาร์คที่ 6 หลีเป๊ะ
แลนด์มาร์คจุดที่ 6 แลนด์มาร์คที่สุดท้ายที่เราได้เลือกมานั่นก็คือ หลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เที่ยวทะเลเดือนมกราคมจัดว่าเป็นสิ่งที่ฟินสุดไปเลยเพราะจะเป็นช่วงที่น้ำทะเลใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไม่มีพายุมากวนใจ เรียกว่าเป็นการท่องเที่ยวธรรมชาติแบบเต็มอิ่มสุด ๆ เพราะหลีเป๊ะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่ติดอันดับสวยที่สุดในอันดับต้น ๆ ของไทยเลยทีเดียว
การเดินทางก็จะเป็นการลงเรือไปยังเกาะต่างๆ เช่น เกาะหินงาม เกาะไข่ เกาะราวี ก่อนจะไปถึงเกาะหลีเป๊ะ และจะมีจุดให้ทำกิจกรรมดำน้ำตื้นที่เรียกว่า ร่องน้ำจาบัง ที่จะสามารถเห็นสัตว์ทะเลและพืชทะเลสวยงามมากมายกันเลย และเมื่อมาถึงเกาะหลีเป๊ะคุณก็จะได้พบกับบรรยากาศและความงดงามของธรรมชาติ ทะเลใส หาดทรายขาวของไทยที่ใครๆต่างต้องตกหลุมรัก สายทะเลต้องห้ามพลาดที่นี่เลย
มัดรวม ที่เที่ยว เดือนมกราคม ในไทยที่คนท้องถิ่นอย่างเราต้องไปสัมผัสซักครั้งในชีวิต
รวม 6 แลนด์มาร์ค ที่เที่ยว เดือนมกราคม ของไทยที่โด่งดังมีชื่อเสียง ไม่ว่านักท่องเที่ยวจากที่ไหนมาต่างก็ชื่นชมความงดงามของที่เที่ยวในบ้านเรา ท่องเที่ยวธรรมชาติกันแบบจุใจ ป่าสวย ดอยสวย ทะเลสวย ทุกอย่างครบครัน คนท้องถิ่นอย่างเราจะไม่ไปก็เสียชื่อ ลองไปดูซักครั้งแล้วคุณจะรู้สึกว่าสถานที่ท่องเที่ยวของไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลกเลยจริง ๆ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎