ในที่สุดก็มีความก้าวหน้ามาถึง เมื่อชาวกรุงเทพจะได้ลองใช้งาน ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทยโครงการพัฒนาของผู้ว่ากรุงเทพฯ ที่จะมาอำนวยความสะดวกสบายให้กับประชาชนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์ รถโดยสารประจำทาง ปรับปรุงป้ายรถเมล์รอบกรุงให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่น้อยหน้าต่างประเทศ เริ่มนำร่องสร้างป้ายรถเมล์อัจฉริยะกันแล้วในปี พ.ศ. 2563 แปลงโฉมป้ายรถเมล์ให้ทันสมัย ปลอดภัย ใช้งานง่าย ทำให้การใช้งานรถโดยสารประจำทางไม่ลำบากอีกต่อไป

ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทย สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชาวกรุงเทพในโครงการของผู้ว่า กทม. อัศวิน ขวัญเมือง

ผู้ว่ากรุงเทพฯ อัศวิน ขวัญเมือง นำทัพทีมทำงานร่วมกับ บมจ.แพลนบี สร้าง ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทย ปรับภูมิทัศน์ให้ชาวกรุงเทพอย่างการปรับปรุงศาลาที่พักโดยสารประจำทางให้เป็นป้ายรถเมล์อัจฉริยะ หรือ smart bus shelter โดยมี บมจ.แพลนบีเป็นบริษัทผู้รับสัมปทานและบำรุงรักษาโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะนี้ ยาวไปถึง 10 ปี ถือเป็นการแปลงโฉมป้ายรถเมล์ไทยที่ใช้ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงให้กลับมาพร้อมใช้งานและเพียบพร้อมมากขึ้น การรอรถเมล์ของชาวกรุงเทพจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเมื่อมีสิ่งนี้

ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทย จากโครงการของผู้ว่ากรุงเทพฯนี้จะเริ่มปรับปรุงป้ายรถเมล์แบบfull function ครบทุกรูปแบบจำนวน 100 หลังและแบบ light function อีก 200 หลัง รวมเป็น 350 หลังทั่วกรุงเทพฯ ทางด้านบริษัทที่รับสัมปทานบอกว่ามีป้ายรถเมล์ที่รับมาในโครงการทั้งหมด 691 หลัง แต่จะทำการนำร่องก่อน 350 หลัง และวางแผนว่าจะเร่งให้เสร็จภายในปี 2563 จำนวน 200 จุดและอีก 150 จุดจะแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2564

ป้ายรถเมล์แบบใหม่ในระบบ full function จะมีระบบที่สามารถติดตามและดูรอบรถของรถโดยสารประจำทางที่จะแสดงผลบนจอ LFD ขนาด 32 นิ้ว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้รถโดยสารสามารถคำนวณเวลาและดูรอบรถได้ นอกจากนี้จะมีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบกล้อง CCTV และระบบไฟฟ้าส่องสว่างในบริเวณป้ายรถเมล์ รวมถึงมีระบบแสดงข้อมูลข่าวสารบนจอขนาด 55 นิ้ว มีระบบชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ด้วยสาย USB และมี free WI-FI ให้บริการ

ส่วนแบบ light function จะใช้ระบบที่คล้ายกันเพียงแต่จะไม่มีจอแสดงข้อมูลข่าวสารและไม่มีfree Wi-Fi แต่ระบบความปลอดภัยและการติดตามรอบรถนั้นยังคงให้บริการเต็มรูปแบบ ทั้งกล้อง CCTVและระบบไฟฟ้าอำนวยความสะดวกรวมถึงยังมีพื้นที่ให้ประชาชนได้เข้ามาใช้สอย รอรถเมล์ได้อย่างสบายมากยิ่งขึ้น ถึงแม้กว่าจะเป็น light function แต่ระบบใช้งานแทบจะไม่ต่างกันเลยแม้แต่นิด รวมถึงอาจจะมีการพัฒนาต่อไปในอนาคตเพิ่มขึ้นอีก

ป้ายรถเมล์แบบใหม่นี้จะทำการติดตั้งไว้ทั่วกรุงเทพ ให้บริการกับประชาชนที่ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะอย่างรถเมล์ เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ กระจายความเจริญไปยังทุกจุดทั่วกรุงเทพฯเริ่มนำร่องสร้างแล้ววันนี้ จุดแรกที่เริ่มจะเป็นจุดหน้าเซนทรัลพระราม 9 เพื่อทดสอบป้ายรถเมล์นี้ก่อน ด้วยป้ายรถเมล์ที่มาพร้อมกับระบบและเทคโนโลยีอย่างดี ตอบโจทย์ความต้องการและอำนวยความสะดวกให้แก่ชาวกรุงเทพได้อย่างดี

• งบประมาณในโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทย

หลายคนคงกำลังคิดว่าป้ายรถเมล์ที่มีระบบบริการดีขนาดนี้จะต้องใช้งบประมาณสร้างเท่าไหร่นั้น วันนี้เรามีคำตอบมาให้แล้ว จากผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ บมจ. แพลนบี ผู้รับสัมปทานได้ออกมาเปิดราคาต้นทุนป้ายรถเมล์แบบ full function ที่มีระบบครบครันทุกอย่างทั้งจอแสดงผล 2 จอ ระบบ WI-FI ระบบชาร์จโทรศัพท์ ซึ่งจะตกอยู่ที่ หลังละ 750,000 บาท และป้ายรถเมล์แบบ light function ที่จะมีต้นทุนถูกกว่า อยู่ที่ 600,000 บาทต่อหลัง ยังไม่รวมค่าวางระบบไฟฟ้าในแต่ละหลัง

บมจ. แพลนบี ได้คำนวณคร่าว ๆ โดยรวมแล้วจะใช้เงินลงทุนในโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ จำนวน 350 หลังนำร่องให้แก่ชาวกรุงนี้ราว 700 ล้านบาท เป็นค่าวางระบบ 400 ล้านและค่าใช้สิทธิ์ป้ายรถเมล์ที่ต้องจ่ายให้กับกรุงเทพตลอด 10 ปีที่ได้สัมปทานรวมแล้วกว่า 300 ล้านบาท ตกอยู่ที่ปีละ 30 ล้านบาท เพื่อแลกกับการได้ค่าโฆษณาจากการขายพื้นที่โฆษณาบริเวณป้ายรถเมล์และป้ายโฆษณาของ กทม. กว่า 1,170 ป้าย แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการคำนวณค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาป้ายเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย

• ต้นแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะ

สำหรับใครที่ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ คุณอาจจะเห็นว่าในหลาย ๆ ที่ได้มีระบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเหล่านี้มานานมากแล้ว โดยเฉพาะในประเทศที่ให้ความสำคัญกับการใช้การขนส่งสาธารณะ คุณจะได้ใช้บริการจุดรอรถที่เพียบพร้อม พร้อมใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพ แถมยังดูสวยงามน่าใช้งาน สามารถนั่งรอ หลบฝน และดูรอบรถ ดูเวลา คำนวณเวลาการเดินทางได้อย่างแม่นยำ รถโดยสารมาตรงเวลาไม่มีเลท และในที่สุดชาวกรุงเทพก็ได้ต้นแบบป้ายรถเมล์อัจฉริยะเหล่านี้มาปรับใช้ที่บ้านเราบ้างเสียที

ตัวอย่าง ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ สิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ ๆ ประเทศไทยแบบที่ใช้เวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงในการบินไป แต่ความเจริญและเทคโนโลยีนั้นไปไกลกว่าเรามาก ๆ สิงคโปร์ถือเป็นประเทศแรก ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ปรับระบบเมืองให้เป็นเมืองอัจฉริยะSMART CITY มาตั้งแต่ปี 2558 เรียกว่ามีป้ายรถเมล์อัจฉริยะใช้งานก่อนไทยนานถึง 5 ปีกันเลย สมฐานะการเป็นเมืองที่เจริญก้าวไกลแบบก้าวกระโดดเลย

ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ สิงคโปร์ มีให้บริการทั้ง WI-FI ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ จอแสดงเส้นทางจราจร ระยะเวลาที่รถเมล์กำลังจะถึง นอกจากนี้ยังมีทั้งหนังสือ ต้นไม้ ชิงช้าและพื้นที่แสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นตามบริเวณป้ายรถเมล์ ถือเป็นป้ายรถเมล์ที่มีบริการอย่างครบครัน อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้งาน แถมยังเป็นจุดแสดงผลงาน เผยแพร่วัฒนธรรมของท้องถิ่นอีกด้วย ต้องชื่นชมและยกย่องการจัดการและการพัฒนาประเทศของสิงคโปร์จากใจจริงที่ทำให้เพื่อประชาชนได้ขนาดนี้

มาดูป้ายรถเมล์อัจฉริยะที่อาจจะเป็นต้นแบบต่อไปให้กับ ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทย อย่างป้ายของเกาหลี ที่ได้เปิดตัวป้ายรถเมล์ใหม่ไปในปี 2020 พลังงานแสงอาทิตย์พร้อมเทคโนโลยี internet of things (IoT) ที่นอกจากจะมีระบบเหมือนกับทุกที่แล้วจะช่วยป้องกันโควิด 19 ด้วยเพราะคุณจะต้องผ่านกล้องตรวจจับความร้อนก่อนจะเข้าไปในศาลารอรถเมล์ มีการให้บริการเจลล้างมือรวมทั้งคำแนะนำให้สวมหน้ากากและเว้นระยะห่างกัน ถือเป็นป้ายรถเมล์ที่ทันสมัยและน่าจับตามองว่าชาวกรุงเทพจะมีป้ายรถเมล์แบบนี้ในอีกกี่ปี

• ป้ายรถเมล์อัจฉริยะ มีที่ไหนบ้าง

ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทยจากโครงงานนี้จะเริ่มนำร่องจากบริเวณป้ายรถที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมากก่อน โดยจะเริ่มที่แรกคือที่เซ็นทรัลพระราม 9 เพราะนอกจากจะเป็นจุดที่ประชาชนใช้งานกันมากแล้วยังเป็นจุดที่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า อาคาร ตึกสำนักงาน รวมถึงเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า MRT และรถโดยสารหลายสาย เมื่อแล้วเสร็จจากจุดนี้ก็จะเริ่มขยายไปยังตามแนวถนนรัชดาภิเษก, สวนจตุจักร, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นไปตามแนวถนนพญาไทและถนนพหลโยธินจนครบทั้ง 350 หลังทั่วกรุงเทพฯ

ส่วนในต่างประเทศก็จะเห็นได้ทั่วไปทั้ง สิงคโปร์, เกาหลี, อินโดนีเซีย, จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย และที่อื่น ๆ ที่มีการขนส่งสาธารณะเป็นพื้นฐานอยู่แล้วนั่นเอง ในต่างประเทศได้ให้ความสำคัญกับประชาชนและระบบขนส่งที่ประชาชนใช้เป็นพื้นฐานนี้ค่อนข้างมาก จึงทำให้การพัฒนาในเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะก้าวล้ำกว่าไทยไปไกลพอสมควร และนั่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ไทยเราสามารถนำรูปแบบจากต่างประเทศมาพัฒนาและปรับใช้ให้เข้ากับของไทยเราเองได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น

นำความเจริญให้กรุงเทพกับ ป้ายรถเมล์อัจฉริยะในไทย นำร่องสร้างแล้ววันนี้ ปี 64 พร้อมใช้ทั่วกรุง

จากโครงการพัฒนานี้ตามที่ผู้รับสัมปทานและผู้ว่าได้บอกไว้ว่าจะนำร่องสร้างในปี 63 และจะแล้วเสร็จทั้ง 350 หลังทั่วกรุงภายในปี 64 นั้นจะทำได้จริงอย่างที่วางแผนไว้มั้ย ต้องมาติดตามกันต่อไป แต่อย่างน้อย ๆ ชาวกรุงก็ได้มีความหวังที่จะได้มีเทคโนโลยีและป้ายรถเมล์ดี ๆ ใช้งานอย่างประเทศอื่นเสียที หลังจากใช้ป้ายรอรถเก่ามานานนับสิบปี