สีเป็นสิ่งที่สามารถสื่อได้ถึงหลาย ๆ อย่าง โดยถ้าเรานำแม่สี หรือพื้นฐานของสีมาใช้ในการผสมสีได้เป็นสีอื่น ๆ ซึ่งถึงแม้ในปัจจุบันจะมีสีวางจำหน่ายที่ค่อนข้างเยอะ แต่การรู้หลักการผสมสีเอาไว้ก็จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่ากิจกรรมยามว่างของแต่ละคนในช่วงนี้ มีเรื่องงานศิลปะเกี่ยวข้องอยู่อย่างแน่นอน เพราะสามารถนำไปสู่การสร้างสร้างสรรค์จินตนาการได้ แถมยังทำให้มีสมาธิมากยิ่งขึ้น หากใครเริ่มสนใจเกี่ยวกับงานศิลปะก็สามารถเข้ามาศึกษาเรื่องพื้นฐานอย่างการรู้จักใช้สีก่อนได้ เราได้รวบรวมเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับการผสมสีมาฝากด้วย รับรองว่าเป็นเรื่องที่สามารถนำไปต่อยอดได้อย่างแน่นอน
หลักการผสมสี ใช้สีอะไรผสมได้เป็นสีอะไรบ้าง?
การเรียนรู้เกี่ยวกับการผสมสีเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นฐานที่จะทำให้ได้สีใหม่ ๆ มาใช้ หากเป็นวิชาศิลปะในช่วงวัยเด็ก หลักการพื้นฐานที่ทุกคนต้องเคยเรียนรู้ก็คือ ตารางผสมสี ซึ่งจะบอกว่าแม่สีผสมกันได้สีอะไรบ้าง เพราะถ้าเรารู้เรื่องนี้ ต่อให้ไม่ได้มีสีครบทุกแบบก็สามารถใช้สีอื่น ๆ ได้จากการผสม 2 สีเข้าด้วยกัน ดังนั้นเราจะพาไปดูหลักการผสมสีกันว่ามีอะไรบ้าง
- สีแดงผสมกับสีเหลือง = สีส้ม
- สีแดงผสมกับสีน้ำเงิน = สีม่วง
- สีเหลืองผสมกับสีน้ำเงิน = สีเขียว
- สีแดงผสมกับสีส้ม = สีแดงส้ม
- สีแดงผสมกับสีเขียว = สีน้ำตาล
- สีแดงผสมกับสีม่วง = สีม่วงแดง
- สีน้ำเงินผสมกับสีเขียว = สีน้ำเงินเขียว
- สีเหลืองผสมกับสีเขียว = สีเขียวเหลือง
- สีเหลืองผสมกับสีส้ม = สีส้มเหลือง
- สีแดงผสมกับสีขาว = สีชมพู
- สีแดงผสมกับสีดำ = สีดำอมแดง
- สีเหลืองผสมกับสีดำ = สีดำอมเหลือง
- สีน้ำเงินผสมกับสีขาว = สีฟ้า
- สีน้ำเงินผสมกับสีดำ = สีดำอมน้ำเงิน
- สีเหลืองผสมกับสีเขียว = สีเขียวอ่อน
- สีน้ำเงินผสมกับสีเขียว = สีน้ำเงินทึบ
- สีม่วงผสมกับสีน้ำเงิน = สีม่วงอ่อน
- สีเหลืองผสมกับสีส้ม = สีเหลืองทึบ
- สีขาวผสมกับสีม่วง = สีม่วงอ่อน
จะเห็นได้เลยว่าการผสมสีสามารถสร้างสรรค์สีใหม่ ๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสีโทนอ่อน หรือสีโทนเข้มก็สามารถทำได้ทั้งนั้น โดยสีหลัก ๆ ที่เอามาใช้ผสมก็คือ แม่สี นอกจากนี้ก็สามารถนำสีอื่นที่ผสมจากแม่สีมาผสมต่อให้เป็นสีใหม่ได้อีกด้วย ใครที่ชอบด้านศิลปะการมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับแม่สีเอาไว้จะได้ใช้ประโยชน์อย่างแน่นอน ซึ่งแม่สีของวัตถุธาตุที่ได้นำมาใช้ผสมค่อนข้างบ่อยก็คือ สีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง สีเหล่านี้จะทำให้เกิดวงจรสีโดยธรรมชาติและพัฒนาออกมาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะต่าง ๆ ได้
เจาะลึกจิตวิทยาเกี่ยวกับการเลือกสี สร้างแบรนด์ให้น่าสนใจ
บางคนอาจคิดว่าเรื่องของการผสมสีเป็นเรื่องพื้นฐานธรรมดา ทั้งทีจริง ๆ แล้วเรื่องนี้มีประเด็นที่น่าสนใจหลากหลายอย่างเลยทีเดียว เริ่มต้นตั้งแต่การใช้สีสำหรับสร้างแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเลยคือ โลโก้ธนาคาร โลโก้ร้านอาหาร รวมไปถึงการทาสีสำนักงาน ทำให้เห็นว่าแต่ละแบรนด์มีจุดยืนที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งการใช้สีก็เป็นตัวการสำคัญที่สื่อสารการตลาดในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ใครที่อยากจะเรียนรู้ศาสตร์ของสีและจิตวิทยาให้มากยิ่งขึ้น สามารถเข้ามาศึกษากันก่อนได้เรารวมมาฝากแล้วมีดังนี้
- ความหมายของสีน้ำเงิน
สีแรกที่เราจะแนะนำก็คือ สีน้ำเงิน สำหรับความหมายด้านจิตวิทยาของสีน้ำเงินก็คือ ความหนักแน่น ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ แสดงให้เห็นถึงความปลอดภัย ดังนั้นเราจะมักเห็นโลโก้ของแบรนด์เกี่ยวกับการเงิน การลงทุน หรือแบรนด์ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่มักจะเลือกใช้สีนี้ เช่น Facebook เพราะต้องการสื่อถึงความปลอดภัยในการใช้บริการ
- ความหมายของสีเหลือง
สีต่อไปที่เราจะแนะนำก็คือ สีเหลือง ซึ่งสำหรับบางคนอาจมองว่าสีนี้ค่อนข้างฉูดฉาดเลยทีเดียว แต่จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งในสีที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้เป็นอย่างดี เพราะสีนี้ทำให้รู้สึกถึงความกระตือรือร้น มองโลกในแง่ดี เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้บางแบรนด์ได้รับความนิยม เช่น Mc Donal’s ซึ่งคนจะจดจำแบรนด์นี้ในรูปที่มีโลโก้ตัวอักษรสีเหลือง และเป็นร้านอาหารฟาสฟู้ดที่มีมากกว่า 36,000 ร้านเลยทีเดียว
- ความหมายของสีส้ม
สีส้มเป็นหนึ่งในสีที่ค่อนข้างโดดเด่น และหลาย ๆ แบรนด์ไม่กล้าที่จะเลือกใช้เพราะคิดว่าเป็นสีที่ฉูดฉาด แต่ความหมายด้านจิตวิทยาของสีนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะสื่อถึงความเป็นมิตร ทำให้แบรนด์ดูเข้าถึงผู้คนได้ง่ายมากขึ้น แต่ก็มีความหรูหราแฝงเอาไว้ ทำให้เข้าได้กับทุกช่วงวัยเลยทีเดียว ที่สำคัญเป็นสีที่ดึงดูดผู้คนในตลาดบนได้เป็นอย่างดี ถ้าหากพูดถึงแบรนด์ที่ใช้สีส้มแล้วได้รับความนิยมเป็นอย่างมากต้องยกให้สองแบรนด์นี้เลย คือ แบรนด์ Nike และแบรนด์ Hermes
- ความหมายของสีแดง
อีกหนึ่งสีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ สีแดง ความหมายด้านจิตวิทยาของสีแดงคือ การแสดงถึงความเป็นตัวเอง สร้างความตื่นเต้น และเพิ่มความหลงใหลในตัวสินค้า โดยแบรนด์ที่ใช้สีแดงอย่างยาวนานก็คือ โคคา โคล่า แต่ก็ไม่ได้ใช้สีแดงเพียงอย่างเดียว แต่เลือกที่จะผสมสีอื่นเข้าไปเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้มากยิ่งขึ้น เช่น YouTube ที่เลือกใช้สีแดงกับสีขาวเข้าด้วยกัน หรือ Netflix ที่เลือกใช้สีแดงกับสีดำ
- ความหมายของสีเขียว
สีต่อไปที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ สีเขียว เพราะสีนี้แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ หรือการรักษ์โลกมักจะเลือกใช้ โดยเป็นแบรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าซื้อสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเอง ซื้อสุขภาพให้กับตัวเอง อีกทั้งยังทำให้รู้สึกถึงความอิสระอีกด้วย สำหรับแบรนด์สีเขียวที่เรามักจะเห็นกันบ่อยก็คือ Starbucks หรือ Land Rover ความหมายด้านจิตวิทยาของสีเขียวคือ สุขภาพ ความสดชื่น การใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความสงบสุข
- ความหมายของสีม่วง
สีม่วงเป็นสีที่บางคนรู้สึกไม่ถูกชะตา เพราะอาจรู้สึกถึงความหม่นหมอง แต่ต้องยอมรับว่าเป็นสีที่สื่อถึงจินตนาการได้เป็นอย่างดี มีความแข็งแกร่ง ความชาญฉลาดแฝงเอาไว้ โดยโลโก้สีม่วงก็ได้รับความนิยมในหมู่แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรม ความบันเทิงและร้านอาหารจำนวนมาก สำหรับคนที่ชื่นชอบความทันสมัยมักจะถูกดึงดูดโดยแบรนด์ที่มีโลโก้สีม่วงได้อยู่เสมอ
- ความหมายของสีชมพู
ถ้าหากพูดถึงความหมายด้านจิตวิทยาของสีชมพู สิ่งที่ได้ก็คือ ความโรแมนติก, ความละเอียดอ่อน, ความเยาว์วัย เป็นสีที่สามารถสื่อถึงความละเอียดอ่อนได้เป็นอย่างดี โดยเราจะเห็นว่าแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงมักจะเลือกใช้สีชมพูเป็นหลัก โดยบอกถึงความสดใส และความทันสมัยอีกด้วย โดยแบรนด์ที่เป็นสีชมพูและได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ บาร์บี้
- ความหมายของสีดำ
ถ้าพูดถึงเรื่องความหรูหรา สีดำเป็นสีที่สื่อถึงในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นแบรนด์ที่บ่งบอกความเป็นผู้ดี ความมีฐานะทางสังคม จึงทำให้หลาย ๆ แบรนด์เลือกใช้สีดำเป็นสีหลักของโลโก้ เช่น Uber Black ที่ต้องการสื่อถึงการเป็นผู้ให้บริการยานพาหนะแบบหรูหรา หรือว่าบัตรเครดิต Centurion ที่เปิดรับสมาชิกที่มีตัวเลขในบัญชีอยู่ในยอดที่สูงเท่านั้น
- ความหมายของสีขาว
สีขาวเป็นหนึ่งในสีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะสื่อถึงความโปร่งใส สะอาดสะอ้าน และเป็นแบรนด์ที่ถ่ายทอดข้อมูลให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าพูดถึงโลโก้สีขาว เชื่อว่าคนจะนึกถึงแบรนด์ Apple ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีทั้งมือถือ, iPad, Macbook, Airpods และอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมาย แม้ว่าจะดูว่าสีขาวเรียบง่าย แต่ต้องยอมรับว่าแฝงไปด้วยความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ต้องยอมรับว่าหลักการเกี่ยวกับการผสมสีเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใกล้ตัวสำหรับทุกคน เพราะว่าศิลปะเป็นวิชาพื้นฐานที่ต้องผ่านกันมาอยู่แล้ว ในบางครั้งเราก็ไม่ได้มีสีครบทุกสีสำหรับใช้งาน ดังนั้นถ้าเรารู้เรื่องหลักการผสมสีเอาไว้ แค่มีบางสีก็สามารถผสมเป็นสีอื่นเอาไว้ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายซื้อสีจำนวนมาก ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้ใช้ทั้งหมด นอกจากนี้หลักการเกี่ยวกับสีก็มีผลต่อจิตวิทยาของผู้บริโภค ใครที่อยากสร้างแบรนด์หรือสร้างโลโก้ของตัวเอง และต้องการที่จะดึงดูดลูกค้า แนะนำว่าไม่ควรมองข้ามเรื่องหลักการของสีต่าง ๆ เลย โดยสามารถเข้ามาอ่านจากบทความที่เรานำมาฝากกันได้ คุณจะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องสีมากยิ่งขึ้น
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.shutterstock.com/th/blog/color-psychology-brands/
- https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2087730
- https://ake-remake.blogspot.com/2016/05/mix-color.html
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://ia.eferrit.com/ia/dc800773377533b8.jpg
- https://i2.wp.com/homius.ru/wp-content/uploads/2018/06/2-12.jpg
- https://www.terrabkk.com/images/news/0000194430/c2e4f41d9ce6cf43fb281f0cab89b5ab.png
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม