” หากใครกำลังหมดไฟกับการใช้ชีวิตในแต่ล่ะวัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือ การพบเจอกับอุปสรรคในเรื่องของการงาน การเรียน หรือ เรื่องอื่นในชีวิต จนทำให้สิ่งต่างๆสะดุดหยุดลง หรือ ทำในสิ่งที่ต้องการจะทำได้ช้าลงกว่าเดิม จนก่อให้เกิดความมึนงง อึนๆ และทำให้ร่างกายอยากพักผ่อนมากขึ้นกว่าเดิม หรือ กลายเป็นผู้คนที่ไม่มีไฟจะทำเรื่องต่างๆต่อได้อีก เรามักจะเรียกอาการเหล่านี้ว่า “ความขี้เกียจ” ความขี้เกียจที่ก่อตัวขึ้นรอบๆตัวเรานั้นเกิดมาไม่ได้อย่างง่ายดาย พอๆกับไฟในการใช้ชีวิตในบางครั้งที่จุดให้ติดก็ไม่ได้ง่ายเช่นกัน “หากเพื่อนๆมีปัญหาอยากวางแผนอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานให้ตรงเป้าที่วางไว้ หรืออ่านหนังสือให้สอบผ่านทำคะแนนในแต่ล่ะเทอมให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่กลับมีอุปสรรค อย่างความขี้เกียจมาปิดกั้น และอยากรู้ว่าจะทำยังไงให้ชนะความขี้เกียจเหล่านี้ดี เราก็ได้รวบรวม วิธีเอาชนะความขี้เกียจ ฉบับนักขี้เกียจมืออาชีพ มาฝากทุกคนกันเลย
How to วิธีเอาชนะความขี้เกียจ ให้หายไปทันตาเห็น
แบ่งเวลาให้เป็น ช่วยให้หายขี้เกียจ
วิธีเอาชนะความขี้เกียจวิธีแรก ก็คือ การแบ่งเวลาให้เป็น หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า การแบ่งเวลานี่จะเกี่ยวอะไรกับคาถาไล่ความขี้เกียจกันบ้าง บอกเลยว่าเกี่ยวแบบเต็มๆเลยล่ะ เพราะถ้าหากเพื่อนๆสามารถแบ่งเวลาได้อย่างพอเหมาะพอดีก็จะทำให้สามารถทำสิ่งต่างๆได้ตรงตามเป้าได้แบบไม่เหนื่อยหน่าย แถมยังมีกำลังใจทำงาน อ่านหนังสือหรือทำหน้าที่ในแต่ล่ะวันของตัวเองให้ลุล่วงสำเร็จไปได้ด้วยดีอีกด้วยล่ะ
การแบ่งเวลาที่แนะนำก็คือ หน้าที่ : พักผ่อน : สิ่งที่ต้องทำ : งานอดิเรก
หน้าที่ก็คือ การงานอาชีพ หรือ การเรียน รวมทั้งสิ่งที่ทำเพื่อดำรงชีพอยู่ทุกวันอยู่แล้วเมื่อแบ่งเวลาทำสิ่งเหล่านั้นสำเสร็จ จากนั้นก็จะข้ามเข้าสู่วงการ การพักผ่อนได้อย่างสมใจ จะดูหนัง ฟังเพลง หรือ งานอดิเรกก็ได้หมดเช่นกัน เพื่อช่วยคลายเครียด ผ่อนคลายสมอง หรือ พักผ่อนละลายความขี้เกียจไปในตัวได้อย่างสมใจ ส่วนอีกช่วงเวลาก็คือ สิ่งที่ต้องทำต่อ อาจจะเป็นการทบทวนบทเรียน อ่านหนังสือ การฝึกฝนสิ่งที่ชอบ รวมทั้งการเพิ่มสกิลต่างๆก็ได้ ส่วนงานอดิเรกก็คือสิ่งที่ทำแล้วมีความสุข ก็ถือเป็นการพักผ่อนอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน หากเพื่อนๆแบ่งช่วงเวลาให้สลับกันและได้อย่างเหมาะสมก็จะช่วยให้สมองผ่อนคลาย และสลัดความขี้เกียจทิ้งได้ในทันทีเลยล่ะ
ไม่ทำหลายๆสิ่งในเวลาเดียวกัน
แม้ช่วงเวลาจะเร่งรีบ หรือ กดดันขนาดไหน เพื่อนๆก็ไม่ควรนำหลายๆเรื่องมาทำ หรือ มาคิดผสมปนแปกันในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะอาจจะทำให้สมองล้าและความขี้เกียจที่อยากสลักไปนั้นคืบคลานเข้ามาหาแบบทันควันได้อีกครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุของความขี้เกียจ เพราะการทำหลายๆอย่างพร้อมกัน นอกจากจะไม่สามารถแบ่งเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังมีส่วนทำให้ต้องใช้ความคิดเยอะและสมองล้าหลังจากโหมงาน หรือ ทำหลายๆอย่างจนหนัก และทำให้ตกอยู่ในห้วงของความรู้สึกขี้เกียจไม่อยากทำอะไรในระยะเวลานานๆหลังจากนั้นได้ แถมยังมีโอกาสเสี่ยงจะทำทุกสิ่งไม่สำเร็จลุล่วงตามที่คิดไว้อีกด้วย ใครที่ไม่อยากเพิ่มพื้นที่ให้ความขี้เกียจเติบโตมากไปกว่านี้ ก็ไม่ควรโหมร่างกาย หรือ ทำหลายๆเรื่องในเวลาเดียวกันเลยล่ะ
หากรู้สึกสมองล้าระหว่างทำงาน ให้พักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆได้
แม้ในบางครั้งเราอาจจะแบ่งเวลาไว้อย่างถูกต้อง ถูกวิธีและคิดว่าเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับตัวเองที่สุดแล้ว แต่เนื่องด้วยคนเรามีภาวะความรู้สึกและฮอร์โมนที่มีส่วนทำให้อารมณ์ ทำให้มีนิสัยคนขี้เกียจสภาวะและความรู้สึกในช่วงนั้นๆเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว การรู้สึกสมองล้าเบลอระหว่างทำงานก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน หากเพื่อนๆมีความรู้สึกเหล่านั้นเกิดขึ้น ก็ควรที่หยุดและพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการหาอะไรดื่ม หรือ ขนมทานแบรก หรือ จะฟังเพลงก็ได้ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผ่อนคลายได้อย่างไม่ยากแล้วล่ะ
ให้รางวัลตัวเอง ในการทำสิ่งต่างๆสำเร็จ
การให้รางวัลก็ถือเป็นแรงจูงใจอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้เพื่อนๆสลักความขี้เกียจ และรีบทำสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้รางวัลโดยใช้เวลาระยะยาว อย่างเช่นการสอบ หรือ การตั้งใจจะทำสิ่งที่ชอบให้สำเร็จ การทำงาน การเรียน โดยให้รางวัลตัวเองไปเที่ยวช่วงหยุดยาว หรือ ซื้อของที่ชอบก็ได้ หรือจะให้รางวัลในช่วงสั้นๆ เช่นถ้าหากทำบางสิ่งเสร็จไม่ว่าทำงาน เรียนหลังเลิกงานเลิกเรียน หรือหลังอ่านหนังสือได้ตรงเป๋า ก็อาจจะให้รางวัลตัวเองโดยการออกไปหาอะไรอร่อยๆกิน หรือ ซื้อของที่ชอบก็ได้เช่นกัน รวมทั้งการทำกิจกรรมพักผ่อนก็ถือเป็นการให้รางวัลตัวเองด้วยล่ะ การอยากมีไฟในการทำงาน หรือ ทำสิ่งต่างๆก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้กันได้เช่นกัน
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับวิธีสลักความขี้เกียจ ของนักขี้เกียจมืออาชีพ หากเพื่อนๆนำวิธีที่แนะนำไปปรับใช้ในชีวิตแต่ล่ะวัน ไม่แน่เพื่อนๆก็อาจจะสลักความขี้เกียจได้อย่างหมดจดได้แบบทันตาเห็นกันได้ง่ายๆเลยล่ะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม