ปัญหาที่ว่าควรจะคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงเป็นสิ่งที่ค้างคาใจใครหลายคนมานานแสนนาน ถึงแม้ว่าจะเคยเห็นผ่านตามาบ้างตอนเรียนแต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่หลงลืมมันไปหมดแล้ว ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสิ่งซึ่งวนเวียนอยู่รอบตัวของคนเรามาตลอด โดยเฉพาะใครที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเองก็คงจะกำลังปวดหัวกับการคิดราคาโปรโมชันหรือการคิดราคาเปอร์เซ็นต์ของสินค้าต่าง ๆ ไม่เพียงเท่านั้นบุคคลทั่วไปที่เคยไปเดินจับจ่ายใช้สอยกันทั่วไป เมื่อเจอป้ายแดงอันล่อตาล่อใจที่มักจะระบุราคาส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์เอาไว้ ก็อาจจะเกิดความงุนงงว่าแล้วราคาที่แท้จริงของสินค้าเป็นเท่าไหร่ รวมไปถึงการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจน service charge ต่าง ๆ ที่มักจะมีการระบุเอาไว้เป็นเปอร์เซ็นต์ที่เราจะต้องจ่าย ซึ่งการที่เรารู้ว่าควรจะคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงก็จะทำให้เราสามารถคำนวณจำนวนเงินที่ต้องจ่ายได้อย่างไม่ต้องถูกเอาเปรียบด้วยวิธีคิดเปอร์เซ็นต์แบบง่าย ๆ ที่เราได้นำมาแบ่งปัน
การคิดเปอร์เซ็นต์คืออะไร
ในอันดับแรกก่อนที่เราจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงนั้น เราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ‘เปอร์เซ็นต์’ คืออะไร ซึ่งความหมายของคำนี้ก็คือจำนวนที่มีการนำมาเทียบเป็นสัดส่วนร้อยละ หรือถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือการนำเอาตัวเลขสุทธิมาแปลงเป็นส่วนต่อร้อย เช่น 10 เปอร์เซ็นต์ก็คือ 10 ส่วนจาก 100 ส่วน, 30 เปอร์เซ็นต์ก็คือ 30 ส่วนจาก 100 ส่วน เพื่อง่ายต่อการจัดกลุ่มของข้อมูลและเพื่อเป็นการบอกข้อมูลในรูปแบบร้อยละที่ง่ายและมีความสะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยจะมีการใช้สัญญลักษณ์เปอร์เซ็นต์ % ต่อท้ายเอาไว้เพื่อบอกว่าตัวเลขนี้ถูกแปลงมาเป็นสัดส่วนตามวิธีคิดเปอร์เซ็นต์จากยอดทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว
ตัวอย่างเช่นถ้าราคาของสินค้ามีการระบุเอาไว้ว่ามีการลดราคา 25% นั่นเท่ากับว่าราคาที่ลดจะเท่ากับร้อยละ 25 หรือทุก ๆ 100 บาทจะมีการลดไป 25 บาทนั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าเราอยากจะรู้ว่าราคาที่ต้องจ่ายจริงของสินค้า ตลอดจนราคาส่วนลดที่ได้จะต้องเป็นเท่าไหร่ เราก็สามารถมาเรียนรู้ไปพร้อมกันได้จากวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงที่เราจะนำมาสอนให้ในหัวข้อด้านล่างนี้ได้เลย
สอนวิธีคิดเปอร์เซ็นต์แบบง่าย ๆ ทำตามได้เลย
วิธีในการหาว่าคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงที่ง่ายมากที่สุดและนิยมใช้กันมาที่สุดก็คือการนำเอาตัวเลขเหล่านั้นมาคำนวณโดยคิดจากอัตราส่วนต่อร้อย ซึ่งหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าจะต้องเทียบอย่างไร และต้องนำเอาข้อมูลไหนมาคูณหรือหารกันบ้าง เพราะฉะนั้นวิธีการเทียบ ‘บัญญัติไตรยางค์’ จึงช่วยให้ใครที่อาจจะจำไม่ได้ว่าต้องใช้สูตรคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงสามารถเทียบข้อมูลได้ง่ายและถูกต้องมากยิ่งขึ้น
โดยบัญญัติไตรยางค์เป็นวิธีการเพื่อเปรียบเทียบสัดส่วนของข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลชุดที่ 1 และข้อมูลชุดที่ 2 เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลชุดที่ 3 ที่มีความสัมพันธ์กันทั้งในรูปแบบของความสัมพันธ์แบบแปรผันตรงและความสัมพันธ์แบบแปรผกผันนั่นเอง เพราะฉะนั้นการใช้ประโยชน์จากบัญญัติไตรยางค์เพื่อนำมาหาวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ แบบง่ายๆจึงช่วยให้หลายคนเข้าใจการคิดเปอร์เซ็นต์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น
นาย A ขายสินค้าอยู่ที่ราคา 25000 บาท แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี และขายสินค้าไม่ได้มาเป็นเวลานานแล้ว จึงมีความต้องการจะสร้างโปรโมชันส่วนลดให้กับลูกค้า จึงติดป้ายราคาว่าจะลดราคาสินค้าชนิดนั้นลงเป็นจำนวน 15% นาย B ที่เดินมาเห็นป้ายพอดี จึงมีความสนใจว่าสินค้าลดราคา แต่ไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ในกรณีนี้เราจะสามารถคำนวณหาราคาที่นาย B ต้องการจ่ายได้โดยการเทียบบัญญัติไตรยางค์ดังนี้
หากสินค้ามีราคา 100 บาทจะมีการลดราคาไป 15 บาท เท่ากับนาย B ต้องจ่ายค่าสินค้าอยู่ที่ (100 – 15) 85 บาท ในขณะเดียวกันถ้าสินค้าชิ้นนี้มีราคา 25,000 บาท นาย B จะต้องจ่ายราคาสินค้าเท่าไหร่ ซึ่งจะได้เท่ากับ
วิธีคำนวณ ให้นำราคาสินค้าเดิม x ราคาสินค้าจากส่วนลด(100 – เปอร์เซ็นต์ส่วนลด) ÷ 100 จะได้ตัวเลขของราคาสินค้าที่จ่ายจริง
25,000 x (100-15) ÷ 100 = ราคาสินค้าที่ต้องจ่าย
(25,000 x 85) ÷ 100 = ราคาสินค้าที่ต้องจ่าย
2,125,000 ÷ 100 = 21,250 บาท
เพราะฉะนั้นในกรณีนี้หากนาย B ต้องการซื้อสินค้าชนิดนี้จะต้องทำการจ่ายเงินค่าสินค้าทั้งหมด 21,250 บาท จากราคาเดิม 25,000 บาท นั่นเอง แต่ถ้าจะคิดกลับกันต่อว่าแล้วนาย A ทำการลดราคาสินค้าไปทั้งหมดเท่าไหร่ โดยการใช้วิธีคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงจากการเทียบบัญญัติไตรยางค์ก็จะได้เป็นดังนี้
หากสินค้ามีราคา 100 บาท นาย A ต้องการลดราคาของสินค้าลง 15 บาท เพราะฉะนั้นหากสินค้ามีราคา 25,000 บาท นาย A จะต้องทำการลดราคาสินค้าลงทั้งหมดเท่าไหร่
วิธีคำนวณ ให้นำราคาสินค้าเดิม x จำนวนส่วนลด ÷ 100 จะได้ตัวเลขของราคาส่วนลด
(25,000 x 15) ÷ 100 = ราคาสินค้าที่ต้องลด
375,000 ÷ 100 = 3,750 บาท
ตัวอย่างวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ส่วนลด
นางสาว B เป็นเจ้าของร้านขายกระเป๋าและเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เธอต้องการขายสินค้าพร้อม ๆ กับต้องการจำนวนสมาชิกที่เข้ามาสมัครใช้งานบัตรสมาชิกกับร้านของเธอ เธอเลยมีการคิดโปรโมชันในการเพิ่มส่วนลดให้กับลูกค้าที่ทำการสมัครสมาชิกในวันนั้น โดยจะมอบส่วนลดจำนวน 500 บาทให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่มีราคามากกว่า 2,000 บาทขึ้นไปและทำการสมัครสมาชิกด้วย โดยมีลูกค้าเข้ามาซื้อชุดเดรสราคา 2,500 บาท พร้อมสมัครสมาชิกเพื่อรับส่วนลด หากเราอยากรู้ว่านางสาว B ลดราคาสินค้าไปกี่เปอร์เซ็นต์จะต้องคิดโดย
สูตรวิธีคิดเปอร์เซ็นต์ส่วนลด 100 x ราคาส่วนลด ÷ ราคาสินค้าจริง = เปอร์เซ็นต์ส่วนลด
(100 x 500) ÷ ราคาสินค้าจริง = เปอร์เซ็นต์ส่วนลด
50,000 ÷ 2,500 = เปอร์เซ็นต์ส่วนลด
50,000 ÷ 2,500 = 20 เปอร์เซ็นต์
ในขณะเดียวกันเราสามารถหาจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจากเปอร์เซ็นต์ส่วนลดได้ด้วย เช่น นางสาว A ไปเดินห้างแล้วเจอกับงานมหกรรมลดราคาสินค้า เธอต้องการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบหนึ่ง ซึ่งมีราคาสุทธิอยู่ที่ 30,000 บาท แต่เมื่อสมัครสมาชิกกับทางร้านค้า เธอจะได้รับส่วนลดในการซื้อกระเป๋าใบนี้อยู่ที่ 7% หากนางสาว A ต้องการซื้อกระเป๋าและสนใจที่จะสมัครสมาชิก เธอจะต้องจ่ายเงินในการซื้อกระเป๋าทั้งสิ้นเท่าไหร่
สูตรราคาที่ต้องจ่ายจากเปอร์เซ็นต์ส่วนลด ราคาสินค้าเดิม x ราคาสินค้าจากส่วนลด(100 – เปอร์เซ็นต์ส่วนลด) ÷ 100 จะได้ตัวเลขของราคาสินค้าที่ต้องจ่ายจริง
ราคาสินค้าเดิม x (100 – เปอร์เซ็นต์ส่วนลด) ÷ 100 = ราคาสินค้าที่ต้องจ่ายจริง
30,000 x (100 – 7) ÷ 100 = ราคาสินค้าที่ต้องจ่ายจริง
(30,000 x 93) ÷ 100 = ราคาสินค้าที่ต้องจ่ายจริง
2,790,000 ÷ 100 = 27,900 บาท
ตัวอย่างวิธีคิดเปอร์เซ็นต์จากยอดขายว่าขายได้กี่เปอร์เซ็นต์
นาง A ได้รับการว่าจ้างให้เข้ามาสำรวจยอดขายของร้านอาหารในเครือเดียวกัน โดยนาง A จะต้องทำการสำรวจยอดขายทั้งหมดที่ทำไปได้ในไตรมาสที่ผ่านมา และจะต้องทำการสรุปข้อมูลว่ายอดขายที่ทำได้ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นหรือลดลงมาเป็นจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ของยอดขายในไตรมาสก่อน ซึ่งไตรมาสนี้ร้านอาหารที่นาง A มาทำการสำรวจสามารถทำรายได้ไปทั้งสิ้น 150,000 บาท ในขณะที่ไตรมาสก่อนร้านอาหารนี้ทำรายได้ไปทั้งสิ้น 85,000 บาท
สูตรวิธีคิดเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย 100 x ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ÷ ยอดขายเดิม จะได้เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ของจำนวนยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น
(100 x ยอดขายที่เพิ่มขึ้น) ÷ ยอดขายเดิม = เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่เพิ่มขึ้น
100 x (150,000 – 85,000) ÷ ยอดขายเดิม = เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่เพิ่มขึ้น
(100 x 65,000) ÷ 85,000 = เปอร์เซ็นต์ของยอดขายที่เพิ่มขึ้น
6,500,000 ÷ 85,000 = 76.47 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งวิธีสำหรับใช้ว่าคิดเปอร์เซ็นต์ยังไงโดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ตายตัว แต่ต้องปรับไปตามข้อมูลและลักษณะของตัวเลขที่อยากรู้ เช่น อยากรู้ว่าจากยอดขายต้องจ่ายเงินเป็นกี่เปอร์เซ็นต์, จากจำนวนค่าบริการที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่, จากส่วนต่างของจำนวนเงินเดิมและเงินที่เพิ่มมาคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น เพราะฉะนั้นสูตรจึงมีการสลับตำแหน่งกันไปได้ตลอดเวลา ตามลักษณะของข้อมูล ซึ่งถ้าจะให้จำทุกสูตรก็อาจจะเป็นการยาก ดังนั้นหากทุกคนเข้าใจหลักในการเทียบบัญญัติไตรยางค์แล้ว ก็จะเรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยรวมถึงวิธีคิดเปอร์เซ็นต์แบบง่าย ๆ ที่นำเอาไปปรับใช้ได้กับการหาเปอร์เซ็นต์ในทุกรูปแบบเลยนั่นเอง
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.sanook.com/campus/1413895/
- https://dict.longdo.com/search/เปอร์เซ็นต์
- https://gened.siam.edu/wp-content/uploads/2010/06/math-ppt10.pdf