ทำความรู้จักกับคำเรียกกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองในรูปแบบหนึ่ง กับคำว่า สลิ่ม ที่ไม่ใช่ขนมหวาน แต่เป็นคำแทนของกลุ่มคน วันนี้เราจะพาคุณปรู้จักกับโลกของคำนี้ ตามไปดูกันว่ามีที่มาจากอะไร แล้วทำไมถึงต้องเป็นคำนี้ มีความหมายจริง ๆ ว่าอย่างไร แล้วในปัจจุบันคำนี้ถูกใช้ไปในทิศทางไหนกันบ้าง รู้จักเรื่องราวแบบเจาะลึก คราวหลังได้ยินจะได้คุยกับคนอื่นแบบเข้าใจแจ่มแจ้ง ไม่มีอีกแล้ว ไม่รู้ความหมาย เข้าใจแต่ว่าเป็นขนมหวาน คนอื่นเขาจะมองแรงเอาแม่ ไม่เข้าใจคือเอาท์ขั้นสุด ต้องรู้เลย ห้ามพลาดเด็ดขาด!
ความหมาย และที่มาของสลิ่ม คำเรียกแทนกลุ่มคน ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ใครไม่รู้ต้องรีบอ่านกันแล้ว
สลิ่มคืออะไร คำถามที่หลายคนอาจจะสงสัย เพราะได้ยินอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้มาหาความหมายจริงจังสักที วันนี้เรานำมาฝากทุกคนแล้ว สลิ่มคือ คำที่ใช้เรียกแทนกลุ่มคน ในตอนแรกเริ่มสลิ่มจะใช้เรื่องกลุ่มเสื้อหลากสี ที่เป็นการรวมกลุ่มของคนที่หลากหลาย ใส่เสื้อสีแตกต่างกันออกไปเพื่อบ่งบอกตัวตนและเจตจำนงของตน โดยเกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการเมืองของไทย ราว ๆ ปี 2548 จนถึงปี 2553 ซึ่งคำว่า สลิ่ม ได้นำมาใช้เรียกแทนคนกลุ่มนี้ เพราะมีเสื้อหลายสี เหมือนขนมของหวาน สลิ่ม หรือ ซ่าหริ่มนั่นเอง
และคำว่า สลิ่ม ได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งในการเมืองไทยร่วมสมัย หรือช่วงยุคนี้นั่นเอง เริ่มกันตั้งแต่ปี 2020 ที่มีการประท้วงของคนที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย ไม่ต้องการการปกครองจากกองทัพ ทำให้ประชากรบางส่วนลุกฮือขึ้นมาต่อต้านคนกลุ่มนี้อีกที โดยมีการอ้างถึงเรื่องสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง บางครั้งก็มีการต่อว่าอย่างไร้เหตุผล ไม่สนใจในสิ่งที่อีกฝั่งต้องการจะสื่อ คนจึงได้นำคำว่า สลิ่ม กลับมาใช้กับคนกลุ่มนี้อีกครั้ง เป็นคำที่ใช้แทนบุคคลที่อยู่กับความศรัทธาจนไม่เปิดหูเปิดตารับฟังอะไร ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้อยู่บ่อยครั้ง
ช่วงแรก ๆ ของยุคเรา จะเห็นคำนี้อยู่บ่อย ๆ บนโลกทวิตเตอร์ ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย และสร้างภาพจำให้กับกลุ่มคนที่ใช้แทนได้อย่างชัดเจน เห็นได้จากการตอบโต้กันในทวิตเตอร์ บอกเลยว่าใครเป็นชาวทวิตต้องเคยเห็นกันอย่างแน่นอน เพราะบางครั้งเราก็แค่ทวิตบ่นขิงข่าของเราคนเดียว ก็จะมีคนเข้ามาทวิตพูดจาสุดงง มาฉะทั้งที่เรายังไม่ได้ทำอะไรให้เลย หรือบางครั้งกำลังถกเถียงในประเด็นใดประเด็นหนึ่งอยู่ คนกลุ่มมนี้ก็จะเข้ามาแสดงความคิดเห็นด้วย พอถูกต้อนให้จนมุม แล้วเถียงไม่ออกก็จะใช้ถ้อยคำหยาบคายกลับมา
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบของวงการนี้กับ IO หลายคนจะเริ่มสงสัยแล้วว่า ส ลิ่ม IO คืออะไร IO จะเป็นกลุ่มคนที่อาจจะถูกจ้างวาน หรือถูกใช้งานมาให้ปลุกปั่นกระแสในทวิตเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเทรนด์แท็กตอบโต้กับคนที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย เรียกร้องความเท่าเทียมให้ทุกคน การทวิตปลุกกระแสให้เกิดการทัวร์ลง หรือการไปรุมด่าที่ใครคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง และยังมีการทวิต คอมเมนต์ โพสต์ ส่งแชทไลน์แนบข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ส่งผลให้เกิดการเข้าใจผิดเป็นเป็นวงกว้างอีกด้วย
ลักษณะนิสัยของสลิ่ม ที่ใครหลาย ๆ คนก็เบือนหน้าหนี ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงไว้ก่อนเลยแม่
ส ลิ่ม คือ ของหวาน ก็จริง แต่คำนี้ในยุคสมัยปัจจุบัน ได้สร้างตำนานไว้มากมาย จนทำให้หลาย ๆ คนเอือม ใครเห็นสลิ่มก็เบือนหน้าหนีกันหมด ก็แบบว่าการกระทำบางอย่างมันน่าเดินหนีเสียจริง ทั้งการไม่ฟังเหตุผล อีโก้สูง คิดแต่ว่าตัวเองถูก ไม่สนใจว่าใครจะพูดอะไร เพราะฉันมั่นใจว่าความคิดฉันดีสุด บางคนก็ยังใช้ความรุนแรงเข้ามาปะทะ ไม่ว่าจะเป็นการด่าทอ หรือการใช้กำลัง ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายยังไม่ทันจะทำอะไรให้นักหนา แค่ถาม อธิบายดี ๆ ก็โดนสวนมาแล้ว คำว่า กะทิบูด สลิ่ม จึงได้กลายเป็นคำเสียสีคนเหล่านี้นั่นเอง
จริง ๆ แล้ว คำนี้ก็ยังมีบริบทที่น่าสนใจอยู่อีกหนึ่งบริบท บางครั้งคนก็ชอบนำไปใช้พูดเล่นกัน โดยใช้ตอนที่รู้สึกศรัทธา หรือคลั่งรัก คลั่งไคล้อะไรมากสักอย่างหนึ่ง เช่น เราอาจจะอินในตัวละครก้านกล้วยมาก ชอบจนไม่ไหว ชอบกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่ว่าเขาทำอะไรเราก็รู้สึกชอบไปหมด ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นสลิ่มกล้านกล้วยได้จ้า
ดังนั้นเวลาเห็นใครใช้คำนี้ก็ดูบริบทกันดี ๆ ก่อนเน้อ บางทีเขาอาจจะแค่แซวกันเองในกลุ่ม หรือพูดคุยเล่นกันแบบบันเทิง ๆ เท่านั้น แต่ถ้าเป็นแบบอื่นก็เตรียมตัวบายสลิ่ม ง่ายๆเลย ดีสุด เพราะบางครั้งการโต้ตอบก็จะทำให้คุณเหนื่อยเปล่า เขาไม่ได้เข้ามาเพื่อรับฟังความคิดเห็น หรือมีความคิดที่อยากจะเปลี่ยนแปลง เขาแค่ต้องการมาแสดงออกถึงสิ่งที่ตัวเองคิด โดยไม่ได้สนใจว่าคุณจะต้องการให้สิ่งดี ๆ กับเขาหรือเปล่า เราจึงอยากแนะนำเลยว่า ถ้าดูทรงแล้วเถียงกันไม่จบไม่สิ้นก็ไม่ต้องไปคุยให้เสียเวลา ไม่ต้องปวดหัวจะดีกว่าน้า
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎