ธีมงานแต่ง แบบไหนดีถึงจะโดดเด่น เก๋ เท่ ทันสมัย และสร้างความประทับใจ
ธีมงานแต่ง ถือเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในพิธีแต่งงาน ที่ช่วยให้บรรยากาศเป็นไปตามรูปแบบที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ และยังรวมไปถึงองค์ประกอบต่าง ๆ พิธีทางศาสนา โปรแกรม ทุกอย่างทั้งหมดไปในทิศทางเดียวกันอย่างลงตัวและกลมกลืนที่สุด ทำให้งานแต่งมีความโดดเด่น และบ่งบอกให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับรู้ถึงความหมายของความรักของคู่บ่าวสาว
แต่ก่อนที่เราจะไปถึงการเลือกธีมแต่งงาน เรามาดูเกี่ยวกับสีของธีมกันก่อน เพราะสีบรรยากาศในงานมีความแตกต่างกันออกไป การเลือกสีก็อาจจะเป็นสีที่คุณทั้งสองชอบ หรือให้ความหมายดี โดยสีธีมไม่ควรให้เกิน 2 สี หรือมากสุดก็ไม่ควรเกิน 4 สี เพื่อให้สามารถคุมโทนได้ง่าย อย่าลืมว่าถึงแม้เราจะใช้เพียงแค่สีเดียวก็ยังสามารถปรับสีได้หลายเฉด ทั้งสีอ่อนและสีเข้ม
สีของธีมนอกจากจะใช้เป็นสีหลักในงานแล้ว ยังใช้เป็นสีของชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว พิธีกร และในปัจจุบันก็ยังนิยมให้แขก ผู้ร่วมงาน เพื่อนฝูง ได้แต่งชุดไปในธีมเดียวกันเพื่อให้รู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมกับงาน
โดยสีของ ธีมงานแต่ง ก็จะให้ความรู้สึก และบรรยากาศและความรู้สึกดังต่อไปนี้
- สีแดง หรือสีแดงอ่อน – ให้ความรู้สึกให้ความตื่นเต้น เร้าใจ และยังเป็นสีที่หมายถึงความรัก สีแดงยังเป็นสีมงคล ความโชคดี ยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ ตามความเชื่อของชาวจีนอีกด้วย แต่หากเลือกใช้เป็นสีแดงอ่อน ๆ ก็มีความหมายถึงความอ่อนหวาน ความสุข ความละมุนละไม และเยือกเย็น
- สีเงิน สีทอง – เป็นสีแห่งความทรงคุณค่า ทำให้งานดูมีรสนิยม ดูหรูหรา เลิศหรูอลังการ
- สีชมพู – จะทำให้ภายในงานเต็มไปด้วยความรู้สึกหวานโรแมนติก อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความสุขของหนุ่มสาว บ่งบอกถึงความรักที่อ่อนโยน
- สีน้ำเงิน – ธีมงานแต่ง สีน้ำเงิน เป็นสีแห่งความเชื่อมั่น หนักแน่น สุภาพอ่อนโยน อ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความรู้สึกมีพลัง
- สีฟ้า สีน้ำเงินอ่อน – ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงความสดใส ร่มเย็น ราบรื่น ผ่อนคลาย
- สีส้ม สีเหลือง – จะทำให้บรรยากาศงานโดดเด่นดูทันสมัย ให้ความรู้สึกสว่างสดใส แจ่มใสร่าเริง
- สีเขียว สีเขียวอ่อน – มีความหมายสื่อถึง การเริ่มต้น ธรรมชาติ ให้ความรู้สึกเบิกบาน สดชื่นแจ่มใส
- สีเทา สีเงิน สีขาว – สีของ ธีมงานแต่ง ที่มีความหมายถึงความสุภาพ สงบ บริสุทธิ์ ทำให้บรรยากาศดูเป็นทางการ ทรงคุณค่า
- สีม่วง – จะทำให้งานโดดเด่นมีเสน่ห์น่าหลงใหล ให้ความรู้สึกสดชื่น เล่นโทนสีอ่อนบ้างเข้มบ้าง ก็จะทำให้ดูมีหลายมิติเพิ่มขึ้น
หลังจากที่ได้ดูสีของ ธีมงานแต่ง เพื่อเป็นแนวทางในการจัดงานกันไปแล้ว ต่อไปก็คือธีมในการจัดงานที่ถือเป็นหัวใจสำคัญว่าทิศทางบรรยากาศของงานจะไปทางไหน ซึ่งในปัจจุบันก็มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ การเลือกธีมก็ไม่ใช่ว่าต้องดูดี หรูหรา เป็นสถานที่ดัง ๆ เท่านั้น ยังต้องมีการคำนึงถึงการเลือกธีมให้เข้ากับสถานที่ บ่าวสาวก็ควรช่วยกันเลือกให้ตรงกับความฝัน (แต่ส่วนใหญ่เจ้าสาวจะเป็นคนตัดสินใจ 90 %) ให้กลมกลืนตรงกับไลฟ์สไตล์ให้มากที่สุด
ซึ่งหากใครยังคิดไม่ออกว่าจะใช้ ธีมงานแต่ง แบบไหนดีให้ได้ความรู้สึกดี ๆ แบบโดน ๆ และเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจของตัวเองและผู้ร่วมงาน และรู้สึกดีอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่นึกถึง หรือเมื่อเปิดรูปถ่ายออกมาดู ก็สามารถเลือกได้ตามที่เราแนะนำดังต่อไปนี้ได้เลย
ธีมรัสติก (Rustic Theme)
ธีมแต่งงานที่นิยมใช้มากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นอมตะเพราะถูกใช้อย่างแพร่หลายมายาวนาน (โดยเฉพาะในต่างประเทศ) ตั้งแต่ในอดีตยาวมาถึงปัจจุบัน จุดเริ่มต้นมาจากต่างประเทศที่ออกแนวคันทรี ชนบทเล็ก ๆ สไตล์เวสเทิร์นย้อนยุค เป็นการจัดที่คู่รักไม่ได้เน้นความหรูหรามากมาย มีความเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติท่ามกลางแสงแดด โรงนา ทุ่งหญ้า ชายป่า
ธีมงานแต่ง สไตล์รัสติกเป็นแนวที่เน้นความเป็นธรรมชาติในชนบท ภายในงานจะตกแต่งออกแบบให้มีความวินเทจหน่อย ๆ โทนสีจะกลมกลืนกับธรรมชาติ ออกแนวเอิร์ธโทน สีเบจ สีเขียว วัสดุที่ใช้ควรจะเป็นพวกไม้ เช่น โต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ เชือกฟาง กระดาษสีน้ำตาล ผ้ากระสอบ ไม้กระดาน สีน้ำตาล เป็นต้น ภายในงานจะไม่ใช้ดอกไม้ที่ดูใหญ่ ๆ อลังการ แต่มักจะใช้ดอกไม้กำเล็ก ๆ ใส่ในแจกันดอกไม้ หรือแจกันแฮนด์เมด ให้ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นอ่อนหวาน
หากใครคิดจะใช้ ธีมงานแต่ง แบบนี้ การเลือกสถานที่ควรจะเลือกจัดในบ้านไม้ ร้านอาหารที่เป็นไม้ หากจัดในโรงแรมก็ได้เช่นกัน แต่ต้องตกแต่งมากหน่อย หรือหากจะจัดกลางแจ้งก็อย่างเช่นในสวน ที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากที่สุด ในส่วนของชุดก็ไม่เน้นความหรูหราดูฟู ๆ รุ่มร่าม แต่จะเป็นชุดดูแล้วสบาย ๆ แนวแคชชวล การจัดเลี้ยงก็สามารถจัดได้ตามความต้องการ แต่ควรให้กลมกลืนกับธีมเช่น Long Table Buffet หรือจะเป็นแนวค็อกเทลก็ได้เช่นกัน การจัดงานแต่งแบบนี้ยังเป็นธีมที่สามารถจัดได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ธีมงานแต่ง แบบโบฮีเมียน (Bohemian Theme)
การจัดงานแต่งธีมนี้เหมาะกับคู่รักสายอินดี้เป็นอย่างมาก เพราะมีความเป็นอิสระในสไตล์การจัดงานงานสูง ให้ความรู้สึกสบาย ๆ ไม่เลิศหรูมาก ดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โดดเด่นไปด้วยดอกไม้สดต่าง ๆ ที่สำคัญงานรูปแบบโบฮีเมียนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะก็คือตาข่าย ซึ่งของตกแต่งภายในงานก็สามารถหาได้ได้ง่าย ๆ แล้วแต่ว่าจะมีแนวคิดหรือไอเดียแบบไหน หากจะให้แนะนำก็ควรเลือกที่จะใช้ของแฮนด์เมดก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว
การเลือกสถานที่ ธีมงานแต่ง แบบโบฮีเมียนจะนิยมจัดกลางแจ้ง ท่ามกลางแสงแดดอ่อน หากจัดกลางคืนก็จะใช้แสงไฟสีส้มให้ดูมีความอบอุ่น มักจะจัดท่ามกลางธรรมชาติ เช่น ชายหาด ในสวน กลางทุ่งหญ้า ที่ให้ความรู้สึกอิสระชิล ๆ สบาย ๆ มีการผสมผสานความเป็นชนเผ่าพื้นเมือง เน้นสีสัน ออกแนวฮิปปี้ การเลือกชุดก็จะไม่เน้นความอลังการ ดูหรูหรา แค่จะเน้นไปที่ชุดแบบลูกไม้สวยเรียบ ๆ การแต่งตัวแบบนี้เจ้าสาวต้องสวมมงกุฎดอกไม้ก็จะช่วยให้เข้ากับธีมเพิ่มขึ้น
การสร้างบรรยากาศ ธีมงานแต่ง แบบโบฮีเมียนสามารถใช้ของเก่าพื้นเมืองสวย ๆ มาปรับใช้ได้เลย รวมไปถึงของแฮนด์เมด ของวินเทจ ที่มีสีสันสดใสสวยงาม การเพิ่มความโดดเด่นของงานโดยนำของชิ้นใหญ่ตั้งไว้กลางงานเป็นกิมมิค เพียงเท่านี้ก็จะเป็นธีมงานแต่งที่สร้างความพิเศษ และความโดดเด่นให้กับงานของคุณได้ไม่แพ้ธีมอื่น ๆ เลย
ธีมงานแต่ง แบบแกสบี้ (Gatsby Theme)
เป็นธีมที่มีความย้อนยุคสมัย 1920s ที่มีความหรูหรา ให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน สไตล์ปาร์ตี้แบบจัดเต็ม พร็อพที่ใช้ก็เน้นไปที่โทนสีขาว สีทอง และสีเงิน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคลาสสิค หรูหราดูอลังการ ส่วนประกอบอื่น ๆ ของ ธีมงานแต่ง แบบแกสบี้สามารถใช้เป็นเครื่องประดับ ไปตกแต่งโดยนำไปวางไว้ตามมุมต่าง ๆ ก็อย่างเช่น ขนนก ไข่มุก คริสตัล อาจจะมีการปรับใช้ขนนกปักแจกันแทนดอกไม้ เพิ่มความหรูหราให้กับเค้กโดยใช้เม็ดมุกน้ำตาลตกแต่ง ส่วนของใช้ต่าง ๆ บนโต๊ะอาหารก็เลือกของที่ดูเงาแวววาว ส่วนประกอบอื่นอย่างเช่นผ้าปูโต๊ะ แจกัน เชิงเทียน กรอบรูป ควรออกโทนสีทอง เงิน ดำ ขาว ผสมกับกากเพชร และกลิตเตอร์บ้างเล็กน้อย
หากต้องการให้ธีมมีความโดดเด่นมากขึ้น การเลือกเพลงที่ใช้ในงานควรจะเป็นเพลงคลาสสิคแนวย้อนยุคเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้แขกที่มาร่วมงาน เช่นแนวเพลงแจ๊ส หรือเพลงที่ใช้เครื่องเป่าต่างๆ เช่น แซกโซโฟน ทรัมเป็ต ออร์แกน เป็นต้น (ยกเว้นขลุ่ยเพราะจะผิดธีมเอาได้) เพียงเท่านี้ก็จะทำให้งานแต่งของคุณสนุกสนานสร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้อย่างแน่นอน
ธีมงานแต่ง สไตล์วินเทจ (Vintage Theme)
ธีมสไตล์วินเทจ ในปัจจุบันถือเป็นธีมที่ได้รับความนิยมจากคู่บ่าวสาวเป็นอย่างสูง เพราะดูมีความเรียบง่าย มีความเป็นกันเอง สบาย ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่น การตกแต่งภายในงานนิยมใช้ของเก่า ของสะสมโบราณ หรืออาจจะเลือกใช้สถานที่จัดงานที่เป็นร้านแนววินเทจที่ปัจจุบันก็มีเยอะแยะมากมาย ก็จะทำให้การตกแต่งง่ายมากยิ่งขึ้น สำหรับการเลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับ ธีมงานแต่ง สไตล์วินเทจ เจ้าสาวควรจะเลือกชุดยาวช่วงบนเข้ารูป ปล่อยชายกระโปรงกรุยกราย รวมไปถึงการใช้ชุดแบบปีกค้างคาวยกไหล่ มีเครื่องประดับบนศีรษะ
ในส่วนของการตกแต่งโต๊ะอาหารแน่นอนว่าเมื่อเป็นธีมสไตล์วินเทจ ก็ควรต้องมีกลิ่นอายโบราณย้อนยุคเล็กน้อย อาจจะใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ ดูเก๋ แปลกตามาประดับ หากจะประดับด้วยดอกไม้ ก็ควรเลือกแจกันแบบวินเทจใบใหญ่ ดอกไม้ควรเลือกดอกไม้ที่มีสีสันให้ความรู้สึกอบอุ่นดูสบายตาเช่นดอกไม้ที่มีสีม่วงอ่อน สีชมพู สีขาว หรือสีเหลืองอ่อน ซึ่งดอกไม้สีแบบนี้จะเพิ่มบรรยากาศ ธีมงานแต่ง แบบวินเทจได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังคุมโทนสีให้เข้ากับส่วนอื่น ๆ ของงานได้ง่าย และอย่าได้ลืมเค้กแต่งงาน ถ้าหากไม่มีก็คงจะเป็นงานแต่งธีมสไตล์วินเทจที่ไม่สมบูรณ์แบบ
หลังจากได้แนวทางทั้งธีมของสีที่ควรเลือกใช้กับ ธีมงานแต่ง แล้ว โดยทั้งสองอย่างถือเป็นองค์ประกอบหลักทั้งหมดของธีม แต่มีเคล็ดลับที่จะนำมาฝากกันก็คือการเลือกสีที่ใช้ หากต้องการให้งานแต่งดูดีและโดดเด่น ควรเลือกใช้สีหลักเพียงแค่สีเดียวคือสีที่เราชื่นชอบ บ่งบอกถึงตัวเรา และคู่รักของเรา และคิดว่าเหมาะสมมากที่สุด หากเลือกเป็นสีโทนร้อนอย่างสีแดงเข้ม สีแสดเข้มแสบทรวง ก็ไม่ควรใช้ในงานทั้งหมดแบบ 100 % ควรจะมีสีโทนเย็น ๆ ผสมเข้าไปประมาณ 20 % เพื่อให้ ธีมงานแต่ง ดูกลมกลืนดูแล้วไม่ขัดตา (เช่นหากใช้สีหลักเป็นสีแสดเข้ม อาจจะใช้สีโทนเย็นเป็นสีเหลืองอ่อน หากเป็นสีแดง สีรองลงมาอาจจะเป็นสีชมพู) แต่หากใช้สีโทนเย็นก็ให้ใช้การตกแต่งในสัดส่วนเดียวกัน
ธีมงานแต่ง แต่ละสไตล์จะมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคู่รักควรปรึกษากันให้รอบคอบเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ กว่าจะได้เจอกัน รักกัน แล้วลงเอยด้วยการแต่งงานไม่ได้เป็นเรื่องง่าย ๆ การแต่งงานจึงถือเป็นวันที่พิเศษที่สุดวันหนึ่งในชีวิต เพื่อบอกให้ทุกคนรู้ว่าเรากำลังจะเริ่มใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ธีมยังเป็นการส่งความรู้สึกไปถึงทุกคนที่มาร่วมงาน ดังนั้นทุกขั้นตอนต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าจะสามารถจัดธีมแต่งงานได้อย่างที่ตัวเองต้องการ ทางที่ดีควรปรึกษาหรือจ้างผู้ที่รับจัดงานก็จะดีที่สุด
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://www.pexels.com/th-th/photo/3352398/
- https://www.pexels.com/th-th/photo/3014860/
- https://www.pexels.com/th-th/photo/5005252/
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎