คำว่าพร้อมของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ก็ควรจะมีแนวทางป้องกันการตั้งครรภ์เอาไว้ก่อนจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ท้องแบบไม่พร้อม จนนำไปสู่ปัญหาสังคมต่าง ๆ เช่น การมีคุณแม่วัยใสเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในบทความนี้เราจะนำเสนอแง่มุมรูปแบบใหม่ โดยพาทุกคนไปดูวิธีการคุ้มกำเนิดให้ปลอดภัย หลังมีเพศสัมพันธ์ควรจะทำยังไงไม่ให้ท้อง แต่ต้องขอเกริ่นเอาไว้ก่อนว่าการเตรียมตัวหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม หากเตรียมรับมือก่อนจะมีเพศสัมพันธ์จะดีที่สุด ดังนั้นเราจึงได้รวมวิธีการคุมกำเนิดรูปแบบต่าง ๆ มาฝาก หากใครอยากรู้แล้วว่ามีอะไรบ้างก็ตามมาอ่านเกร็ดความรู้ผ่านบทความนี้ได้เลย
แนะนำวิธีการคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ทำยังไงไม่ให้ท้อง?
ไม่ว่าจะช่วงวัยรุ่นหรือช่วงวัยไหน การมีเพศสัมพันธ์นับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด แต่การมีเพศสัมพันธ์โดยขาดความรู้เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมาในภายหลัง สำหรับบางคนก็ไม่ได้อยากท้อง หรือยังไม่พร้อมที่จะมีลูกในวัยนั้น หากอยากรู้ว่าหลังมีเพศสัมพันธ์ทำยังไงไม่ให้ท้องเราก็มีรวมมาฝากทั้งหมด 4 วิธี แต่ขอย้ำว่าวิธีเหล่านี้เป็นวิธีที่ทำหลังมีเพศสัมพันธ์ ส่วนวิธีการคุมกำเนิดโดยรวมทั้งหมดเดี๋ยวเราจะอธิบายเพิ่มเติมให้ในหัวข้อถัดไป โดยจะมีวิธีการคุ้มกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ทำยังไงไม่ให้ท้องบ้างลองตามไปดูก่อนเลยดีกว่า
- การหลั่งนอก
วิธีการแรกที่จะช่วยคุมกำเนิดในกรณีที่เริ่มต้นมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงยางอนามัยไปแล้วได้ก็คือ การหลั่งนอก โดยให้กลั้นอสุจิเอาไว้ไม่ให้ไหลเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะทำกัน จุดเด่นของการคุมกำเนิดแบบหลั่งนอก คือ สะดวก ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ต้องบอกก่อนว่าการหลั่งนอกแม้ว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับการคุมกำเนิด แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าอสุจิบางตัวอาจจะหลุดเข้าไปในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ได้ จึงเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่คุณภาพต่ำ หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรที่จะมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอก
- สวนล้างช่องคลอด
วิธีการถัดไปที่สาว ๆ หลายคนเลือกใช้คือ การสวนล้างช่องคลอด โดยใช้การฉีดน้ำเข้าไปในช่องคลอด เพื่อที่จะจัดการกับคราบอสุจิต่าง ๆ ซึ่งวิธีการนี้ขอเตือนเลยว่าไม่ควรทำ หากไม่จำเป็น เพราะเป็นวิธีการที่จะทำให้ช่องคลอดของคุณได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้อีกด้วย ถ้าหากน้ำเป็นด่างผสมเข้าไปก็จะทำให้ด่างในช่องคลอดเสียสมดุล นอกจากจะอันตรายแล้วความเสี่ยงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ก็มีสูง เพราะการสวนล้างช่องคลอดไม่ใช้วิธีการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง
- ปัสสาวะทันที
การปัสสาวะทันทีเป็นความเชื่อของหลาย ๆ คนว่าจะสามารถคุมกำเนิดได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้ววิธีการนี้ไม่ได้สามารถลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อให้กับทุกคนได้ ใครที่ไม่อยากติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หลังจากมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งควรที่จะปัสสาวะทันที
- วิธีการนับหน้า 7 หลัง 7
ทางการแพทย์เรียกวิธีการนับหน้า 7 หลัง 7 ว่า Fertility Awareness Method ซึ่งเป็นวิธีการนับวันก่อนมีประจำเดือน 7 วัน และหลังจากมีประจำเดือน 7 วัน แม้วิธีการนี้จะเป็นวิธีการคุมกำเนิดยอดฮิต แต่ต้องยอมรับว่าความเสี่ยงของการเกิดการตั้งครรภ์ก็มีสูง เหมาะแค่สำหรับคนที่ประจำเดือนมาตรงวันแบบสม่ำเสมอ เพราะถ้าใครประจำเดือนมาคลาดเคลื่อนก็อาจทำให้คุณนับวันพลาดและเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้
แนะนำ 10 วิธีการคุมกำเนิด ป้องกันการท้องแบบไม่พร้อม
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าการมีเพศสัมพันธ์ในวัยที่ไม่พร้อมอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาหลายอย่าง ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้แนะนำวิธีการหลังมีเพศสัมพันธ์ทำยังไงไม่ให้ท้อง รวมถึงความเชื่อผิด ๆ ของหลายคนที่คิดว่าทำตามวิธีเหล่านั้นแล้วจะไม่ท้องด้วย ส่วนในหัวข้อนี้เราจะแนะนำ 10 วิธีการคุมกำเนิด พร้อมบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้คุณได้ทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น โดย 10 วิธีที่เรานำมาฝากจะมีอะไรบ้างลองตามไปดูกันก่อนได้เลย
- การวัดอุณหภูมิร่างกาย
สำหรับบางคนอาจไม่รู้ว่าการวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถเช็กการตกของไข่ในร่างกายได้ โดยต้องวัดอุณหภูมิหลังการตื่นเลยทันที และต้องวัดในเวลาเดียวกันทุก ๆ วัน หากวันไหนไข่ตกอุณหภูมิในร่างกายจะสูงขึ้นจากปกติประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้ามีเพศสัมพันธ์หลังจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลง 3 วันก็จะไม่ทำให้คุณเสี่ยงกับการท้องแบบไม่พร้อม
ข้อดี : เป็นวิธีที่ไม่อันตราย
ข้อเสีย : เป็นวิธีที่ไม่แน่นอน ในกรณีที่มีไข้
- สังเกตมูลที่ปากมดลูก
วิธีที่สองที่เราจะแนะนำ คือ การสังเกตมูลที่ปากมดลูก ซึ่งเป็นตัวที่บ่งบอกได้ว่าตัวคุณมีภาวะไข่ตกหรือไม่ ถ้าหากสอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอดแล้วพบว่ามีมูลลักษณะใส ๆ และมีความเหนียว แปลว่าช่วงนั้นยังไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ เพราะมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์สูง
ข้อดี : เป็นวิธีที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่อันตราย
ข้อเสีย : ต้องคอยตรวจเช็กทุกวัน และอาจมีความคลาดเคลื่อนได้
- ยาคุมกำเนิด
สำหรับใครที่สงสัยว่าจะกินอะไรไม่ให้ท้องเราขอแนะนำ “ยาคุมกำเนิด” ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งสะดวก และลดโอกาสการเกิดการตั้งครรภ์ให้เหลือน้อยลง โดยวิธีการคุมกำเนิดรูปแบบนี้จะมีทั้งยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ดและแบบ 21 เม็ดขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน
ข้อดี : ยาคุมกำเนิดช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ และบางตัวยังช่วยให้หน้าใสไร้สิวอีกด้วย
ข้อเสีย : การกินยาคุมกำเนิดอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง และไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ
- ถุงยางอนามัย
สำหรับคนที่กังวลว่าจะเกิดการตั้งครรภ์ อีกหนึ่งวิธีการป้องกัน ซึ่งเป็นวิธียอดฮิตก็คือ “ถุงยางอนามัย” โดยวิธีการนี้จะสามารถป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไปในตัวของผู้หญิงได้ เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่สะดวก สามารถหาซื้อถุงยางอนามัยได้ตามร้านค้าต่าง ๆ หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ
ข้อดี : ช่วยป้องกันความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ข้อเสีย : ต้องตรวจสอบถุงยางอนามัยไม่ให้ฉีด ขาด และใช้งานให้ถูกวิธี
สำหรับใครที่พลาดแต่ไม่อยากท้อง อีกหนึ่งวิธีที่สามารถทำได้คือ การกินยาคุมฉุกเฉิน เพื่อยับยั้งการตั้งครรภ์ โดยควรกินทันทีหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มโอกาสที่ยาคุมฉุกเฉินจะไปลดโอกาสที่ตัวอ่อนของอสุจิกับไข่จะมีการปฏิสนธิกัน ในกรณีนี้แนะนำให้ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เพราะมีผลข้างเคียงต่อร่างกายหลายอย่าง
ข้อดี : ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้
ข้อเสีย : โอกาสที่จะคุมกำเนิดได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่กินเข้าไป
- วงแหวนคุมกำเนิด
วิธีการถัดไปที่จะสามารถคุมกำเนิดได้ก็คือ “วงแหวนคุมกำเนิด” ซึ่งวงแหวนนี้จะมีความยืดหยุ่น นุ่ม ใส ขนาดประมาณ 4 มิลลิเมตร ในแต่ละรอบจะถูกใส่เอาไว้ช่องคลอดประมาณ 3 สัปดาห์ ตัววงแหวนคุมกำเนิดจะมีการหลั่งฮอร์โมนออกมาตลอด 21 วันเพื่อป้องกันการปฏิสนธิของอสุจิกับไข่
ข้อดี : มีผลข้างเคียงน้อยกว่าการกินยาคุมกำเนิด
ข้อเสีย : อาจมีอาการระคายเคืองในช่องคลอด
- ห่วงอนามัย
สำหรับวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์แบบถัดไปที่เราจะแนะนำคือ การใช้ห่วงอนามัย ซึ่งเป็นห่วงที่มีหลากหลายรูปแบบ กลกไกลการทำงานของห่วงนี้อาศัยความเป็นพิษของวัสดุที่ใช้ทำ ซึ่งจะทำให้อสุจิไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดที่ค่อนข้างเห็นผล
ข้อดี : สามารถคุมกำเนิดได้นานตั้งแต่ 3 ปีไปจนถึง 5 ปี
ข้อเสีย : ต้องหมั่นตรวจเช็กห่วงคุมกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเลื่อนหลุด
- แผ่นแปะคุมกำเนิด
บางคนอาจยังไม่รู้จักวิธีนี้ ซึ่งเป็นการใช้แผ่นแปะสำหรับการคุมกำเนิด วิธีการคือ นำแผ่นแปะคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมไปแปะตามผิวหนัง เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่กระแสเลือด ก็จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่อยากกินยาคุม หรือรู้สึกว่าตัวเองลืมกินยาคุมบ่อย เพราะวิธีนี้จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้ค่อนข้างเยอะเลย โดยมีอัตราที่จะคุมกำเนิดได้อยู่ที่ร้อยละ 99.12
ข้อดี : แผ่นแปะคุมกำเนิดมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย
ข้อเสีย : ต้องคอยเปลี่ยนแผ่นแปะในทุก ๆ 7 วัน และไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวสูงกว่า 90 กิโลกรัม
- ฝังยาคุมกำเนิด
อีกหนึ่งรูปแบบที่ทางรัฐบาลรณรงค์และออกนโยบายเพื่อป้องกันการท้องก่อนวัยอันควร โดยการให้ฝังยาคุมกำเนิด เพราะการฝังตัวยาในร่างกายจะช่วยยับยั้งการตกไข่ได้ โดยจะป้องกันได้ตั้งแต่ 3 ปีไปจนถึง 5 ปี สำหรับการฝังยาคุมกำเนิดใต้ผิวหนังจะทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความข้นเหนียวและส่งผลให้อสุจิผ่านโพรงมดลูกเข้าไปได้ยาก
ข้อดี : ประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดค่อนข้างสูง
ข้อเสีย : อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือปวดจากการฝังยา
- ยาคุมแบบฉีด
สำหรับคนที่ไม่อยากท้องแต่ไม่อยากกินยาคุมอีกหนึ่งวิธีการคุมกำเนิดที่เราจะแนะนำคือ การฉีดยาคุม ซึ่งยาแบบฉีดจะช่วยยับยั้งการตกไข่ได้ โดยจะมีให้เลือกฉีดได้ทั้งหมด 2 แบบ แบบแรกคือ ฉีดยาคุมกำเนิดเพื่อควบคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว แบบที่สองคือฉีดยาคุมกำเนิดเพื่อควบคุมชนิดฮอร์โมนรวม โดยการฉีดยาคุมจะออกฤทธิ์ตั้งแต่ 8 สัปดาห์ไปจนถึง 10 สัปดาห์เลยสำหรับชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ส่วนชนิดฮอร์โมนรวมจะออกฤทธิ์ประมาณ 4 สัปดาห์
ข้อดี : เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมกินยา
ข้อเสีย : ผลข้างเคียงจากการฉีดยาคุมกำเนิดจะทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้น และเมื่อหยุดฉีดจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีถึงจะเริ่มต้นมีบุตรได้
นอกจากการคุมกำเนิดที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ก็ยังมีวิธีแบบอื่น ๆ อีก ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่กำลังพัฒนาขึ้นในอนาคต โดยบางวิธีก็สามารถใช้หลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อที่จะทำยังไงไม่ให้ท้องได้ แต่การป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การเตรียมตัวก่อนที่จะเริ่มต้นมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นกินยาคุมตามคำแนะนำของแพทย์ หรือว่าใส่ห่วงอนามัย ใส่ถุงยางอนามัย สิ่งที่ต้องย้ำกับทุกคนที่ต้องการป้องกันการตั้งครรภ์คือ ทุกวิธีไม่ได้ป้องกันได้ 100% ดังนั้นควรจะมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องเจอกับปัญหาท้องไม่พร้อม เพราะในปัจจุบันก็มีจำนวนคุณแม่วัยใสเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันเลย หากไม่รู้ว่าจะคุมกำเนิดด้วยวิธีไหนดีก็ดูจากวิธีต่าง ๆ ที่เรารวมมาฝากแล้วนำไปทำตามได้
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/วิธีคุมกำเนิด/
- https://health.kapook.com/view9227.html
- https://themomentum.co/contraceptive-methods/
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://image.dek-d.com/27/0348/6149/131497265
- https://health.campus-star.com/app/uploads/2016/09/bbcpills.jpg
- https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa3zEuzqJ2CSeXMuq0FBRKqm41ysR9KpkVZhOi3HVYgReBktyarpT.webp