ในยุคที่มีเศรษฐกิจแบบนี้แต่ก็ยังมีมหาเศรษฐีในไทยที่ติดอันดับรวยระดับต้นๆในประเทศ เป็นอะไรที่ทุกต่างก็อิจฉาและใฝ่ฝันที่อยากจะมีฐานะดีๆแบบนี้บ้าง สำหรับบางคนก็ยังคงแอบสงสัยกันอยู่ว่าคนที่สามารถรวยติดอันดับต้นๆของประเทศนั้น เค้าจะประกอบอาชีพอะไร เป็นใครมาจากไหนถึงได้รวยขนาดนี้

วันนี้ทุกคนก็จะได้รู้ไปพร้อมๆกันเลยค่ะ เราได้แอบไปสืบ 10 มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของไทยมาให้ทุกคนได้รู้จักกันว่า บุคคลเหล่านั้นเป็นใครมาจากไหน ทำอาชีพอะไรบ้างถึงรวยมหาศาลแบบนี้ วันนี้มีคำตอบมาให้ทุกคนหายสงสัย คำตอบเหล่านี้จะเป็นที่ประทับใจหรือเปล่า ไปดูเลยจ้า

ชวนรู้จัก 10 อันดับมหาเศรษฐีของไทย

 อันดับที่ 10 ครอบครัวโอสถานุเคราะห์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 2.5 พันล้านเหรียญ / 8.70 หมื่นล้านบาท

โอสถสภา เป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังที่ขายดีทุกช่วงเวลาอย่าง M-150 และทำธุรกิจขายสินค้าอุปโภคบริโภคมานาน เปิดไอพีโอในตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 17 เดือนตุลาค พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ เพชร โอสถานุเคราะห์ ยังเป็น CEO ของโอสถสภา เพชร เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของกิจการที่สืบทอดกันมายาวนาน  เริ่มต้นมาจากเปิดธุรกิจร้านขายยา ที่ในปัจจุบันรายได้ส่วนใหญ่นั้นมาจากการจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังเป็นหลัก นอกจากนี้ เพชร ยังเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งนั้นก่อตั้งโดยตระกูลนี้นั้นเอง จากที่ผ่านมาแผนการธุรกิจมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังคงความสามารถในการรักษาความเป็นอันดับ 1 ในตลาดได้อย่างเหนียวแน่น โดยเครื่องดื่ม Functional Drink อย่าง C-vid ที่เป็นเครื่องดื่มที่สามารถครองอับดับ 1 ได้ตลอดที่ผ่านมา

อันดับที่ 9 สมโภชน์ อาหุนัย และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3 พันล้านเหรียญ / 1.04 แสนล้านบาท

สมโภชน์ อาหุนัย เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด มหาชน  ในหลายปีที่ผ่านมาช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง บริษัทที่เค้าทำงานอยู่นั้นถูกบังคับขายให้กับต่างชาติ จึงรวบรวมเงินจำนวนหนึ่งแล้วนำไปซื้อบริษัทหลักทรัพย์ ชื่อในปัจจุบันคือบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า และได้ทำงานในอีกหลายๆบริษัท เช่น เป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในบริษัทโบรกเกอร์ของต่างชาติ บงล.บุคคลัภย์ และ บล.นวธนกิจ ในปี 2549 สมโภชน์ยังได้ก่อตั้งบริษัทซันเทคปาล์มออยล์ จำกัด จดทะเบียนเริ่มต้น 50 ล้านบาท หลังจากนั้นเค้าได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด และย้ายเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อันดับที่ 8 อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.5 พันล้านเหรียญ / 1.21 แสนล้านบาท

อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เป็นนักธุรกิจชาวไทย เป็นประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ในประเทศอังกฤษ บิดาของอัยยวัฒน์ยังเป็นเจ้าของธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีอากรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในปี พ.ศ. 2559 อัยยวัฒน์และครอบครัวได้ลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด มหาชน และได้เสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของธุรกิจ กิจการจากผู้ถือหุ้นทั้งหลาย จำนวน 2,918,411,714 หุ้น

อันดับที่ 7 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 3.8 พันล้านเหรียญ / 1.32 แสนล้านบาท

ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เป็นเจ้าของปราสาททองโอสถและกรุงเทพดุสิตเวชการ เป็นกลุ่มดูเรื่องสุขภาพของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และยังคงเป็นเจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

อันดับที่ 6 วานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.9 พันล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยราว 1.36 แสนล้านบาท)

วานิช ไชยวรรณ เป็นนักธุรกิจไทยประธานกิตติคุณ และในอดีตยังเป็นประธานกรรมการ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด มหาชน เป็นบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

อันดับที่ 5 สารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยราว 3.94 แสนล้านบาท)

สารัชน์ รัตนาวะดี ได้เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท กัลฟ์ อิเล็คตริก จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า โดยดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ในขณะอายุเพียง 29 ปี จากนั้นสารัชถ์ก็ได้จัดตั้งบริษัทอีกที่ใช้คำนำหน้าว่า กัลฟ์ เช่น กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น จำกัด ในปี 2539 บริษัท กัลฟ์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ในปี 2539 บริษัท กัลฟ์ ยะลา กรีน ในปี 2540 และบริษัท กัลฟ์ ไอพีพี จำกัด ในปี 2547 และยังรวมถึงบบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด มหาชน เป็นผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

อันดับที่ 4 ครอบครัวจิราธิวัฒน์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยราว 4.32 แสนล้านบาท)

เป็นตระกูลนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน เจ้าของกลุ่มเซนทรัล เป็นตระกูลที่มีความมั่นคั่ง ซึงประกอบธุรกิจทั้งในไทยและต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งหมด 9 หน่วยธุรกิจ รวมๆแล้วหลายสิบแบรนด์  นอกจากจะทำธุรกิจในเครือเซนทรัลแล้ว ยังได้เริ่มให้ความสนใจเริ่มสร้างธุรกิจคอนโดมิเนียมแกรนด์ดูเพล็กซ์ เป็นกรรมการบริหารผู้แทนบริษัทกลุ่มเซนทรัลแล้ว ยังรับหน้าที่เป็นกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงสไปซีดิสก์

อันดับที่ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยราว 4.74 แสนล้านบาท)

เป็นนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ประกอบธุรกิจหลากหลายแขนง เช่น อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และในปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ประธานบริษัท ทีซีซี แลนด์  แอสเสท เวิรด์ จำกัด บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด มหาชน บริษัทเบียร์ช้าง และบริษัทในเครือสมาชิกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ยังเข้าเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตันในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก และเจ้าของธุรกิจโรงแรมพลาซ่า แอททินี่ ในกรุงเทพมหานครและในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

อันดับที่ 2 เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.34 หมื่นล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยราว 1.16 ล้านล้านบาท)

เฉลิม อยู่วิทยา บริหารธุรกิจที่รู้จักกันเป็นวงกว้างนั้นคือ การดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม ไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่าย เครื่องดื่มสปาย ไวน์คลเลอร์ และเป็นผู้ผลิตไวน์ในชื่อ มอนซูน แวลลีย์ และ เครื่องดื่มแอปเปิ้ลไซเดอร์ล่าสุดภายใต้แบรนด์มูสในประเทศอังกฤษ

อันดับที่ 1 พี่น้องเจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยราว 1.18 ล้านล้านบาท)

เป็นตระกูลนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว มีธุรกิจมากมาย อาทิ เช่น ธุรกิจบริษัทข้ามชาติเครือเจริญโภคภัณฑ์ , บริษัทธุรกิจการเกษตรขนาดใหญ่ , บริษัทซีพี ออลล์ ,  สยามแม็คโคร , โลตัส , ทรู คอร์ปอเรชั่น , สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ , แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น , กลุ่มบริษัทดีทีจีโอ , โรงเรียนนานชาติคอนคอร์เดียน และบริษัทประกันภัยผิงอัน

สำหรับ 10 เศรษฐีของไทยมีแต่บุคคลที่มีหลากหลายมากมายในเรื่องของธุรกิจ ซึ่งแต่ละตระกูลแต่ละบุคคลในข้างต้นนั้นมีรายได้มากมายมหาศาลเลยทีเดียว ทุกคนไขข้อสงสัยกันบ้างหรือยังคะว่าบุคคลเหล่านี้ประกอบอาชีพอะไรกันบ้าง วันนี้เราก็หวังว่าทุกๆคนจะได้ความรู้และหายสงสัยกันไม่มากก็น้อยนะคะ