การเลิกกันเป็นอะไรที่แสนจะธรรมดาและเกิดขึ้นได้กับทุกคน เนื่องจากชีวิตคู่อันแสนหวานไม่มีอะไรที่จะมาการันตีได้เลยว่าทุกอย่างจะคงอยู่แบบนั้นได้ยืนยาวตลอดไป เพราะในวันหนึ่งที่เราก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ของชีวิตคู่ก็มักจะเกิดขึ้นได้กับหลายคู่เช่นกัน ดังนั้นในช่วงเวลาอันแสนเศร้าเสียใจนั้นอาจจะทำให้หลายคนจมอยู่กับความทุกข์ จนไม่สามารถที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราได้นำเอากฎ 1 เดือนหลังเลิกกันมาแนะนำให้ทุกคนลองทำตาม เพื่อที่จะมูฟออนจากความเศร้า และลืมความเศร้าจากคนรักเก่าให้ได้เร็วที่สุดมาฝากทุกคนนั่นเอง
ผลกระทบทางใจเมื่อต้องเลิกกับคนรัก
ก่อนที่จะมีการทำตามกฎ 1 เดือนหลังเลิกกัน เหตุการณ์ที่ต้องเลิกลากับคนรักถือเป็นเหตุการณ์ที่กระทบจิตใจเป็นอย่างมาก และมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีอาการทางอารมณ์ตามมา ไม่ว่าจะเป็น เศร้าผิดปกติ อารมณ์ฉุนเฉียว เบื่ออาหาร ไม่มีความสุขในชีวิต ไม่มีแรงในการเรียนหรือทำงาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งอาการที่คนทั่วไปมักจะเรียกกันจนติดปากว่า ‘ไม่มูฟออน’ ซึ่งเป็นผลกระทบทางจิตใจที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง นอกจากนั้นยังทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้อีกมากมายดังนี้
-
เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า
โรคซึมเศร้าเป็นอาการของโรคที่มีอัตราของผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งสาเหตุของโรคดังกล่าวก็เกิดขึ้นได้จากหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากสารเคมีทางสมองหรือปัจจัยภายนอกที่ผู้ป่วยพบเจอมากับตัวเอง ซึ่งการเลิกลากับคนรักก็คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สภาวะทางอารมณ์และจิตใจไม่มั่นคง และอาจจะสะสมจนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคดังกล่าวได้ด้วยนั่นเอง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงผลร้ายที่จะตามมาการลองทำตามกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันที่เราจะแนะนำในหัวข้อถัดไปก็คือวิธีที่น่าสนใจไม่น้อย
-
เบื่ออาหาร
อาการเบื่ออาหารคือการที่คนเรารู้สึกไม่อยากอาหาร ไม่หิว กินอาหารไม่ได้หรือกินได้ในปริมาณที่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ถือว่าเป็นอาการที่ส่งผลกระทบกับร่างกายเป็นอย่างมาก โดยสาเหตุของอาการเหล่านี้ก็เกิดได้จากหลายกรณี และอาการทางใจก็คือหนึ่งในปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดอาการเบื่ออาหารได้เช่นกัน เช่น ความเครียด ความกังวล และความเศร้าเสียใจ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากการเลิกกับคนรัก
-
วิตกกังวล
สำหรับใครที่มีอาการวิตกกังวลถือได้ว่าจำเป็นจะต้องใช้กฎ 1 เดือนหลังเลิกกันเป็นอย่างมาก เพราะคนที่เกิดอาการเหล่านี้คือคนที่ยังคงจมกับเรื่องเดิม ๆ เหตุการณ์เดิม ๆ และจินตนาการถึงเรื่องราวในแง่ร้ายมากมายจนกลายเป็นเกิดอาการกังวล เช่น คนรักเก่าจะพูดถึงคุณอย่างไร คนรักเก่าจะลืมคุณได้หรือยัง คนรักเก่าของคุณจะเจอคนรักใหม่แล้วหรือไม่ เป็นต้น จนสุดท้ายอาการเหล่านี้ก็จะสั่งให้คุณต้องตามไปส่องช่องทางสื่อสังคมออนไลน์มากมายของคนรักเก่า จนในที่สุดก็ไม่สามารถมูฟออนเพื่อไปมีความสุขในชีวิตของตัวเองได้เลย
-
จิตตก
อาการจิตตกหลังการเลิกลากันคือสภาวะของจิตใจที่ไม่เป็นปกติ มีความเศร้า เสียใจ ไม่เบิกบาน ตลอดจนคิดมากกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้ว และยังไม่เกิดขึ้น มักจะมีความคิดในด้านลบกับทุกเหตุการณ์ ตลอดจนอาจจะกลายเป็นการโทษตัวเองไปได้ในที่สุด ซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลเสียอย่างมากในด้านสุขภาพของจิตใจ เพราะฉะนั้นกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันจึงเป็นตัวช่วยเพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่อย่างมีความสุขได้ง่ายมากขึ้น
แนะนำกฎ 1 เดือนหลังเลิกกัน
กฎ 1 เดือนหลังเลิกกันเป็นเสมือนเทคนิคที่จะทำให้คนที่กำลังพบเจอกับความเศร้าเสียใจจากเหตุการณ์ดังกล่าว หรือกำลังพบเจอกับเหตุการณ์ ‘ไม่มูฟออน’ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพื่อลดโอกาสที่ทุกคนจะต้องจมดิ่งกับความเศร้าและเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาได้ด้วยนั่นเอง และนอกจากกฎเหล่านั้นจะช่วยในเรื่องของสุขภาพจิตที่ดีแล้วก็ยังช่วยให้ทุกคนมองข้ามความรู้สึกแย่ ๆ และมีความสุขไปกับเรื่องราวรอบตัวได้มากขึ้นอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น
1.ไม่ติดต่อ
สำหรับหลักการแรกของกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันที่หลายคนอาจจะยังทำไม่ได้เลยก็คือการพยายาม ‘ไม่ติดต่อ’ กับคนรักเก่า แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าหลักการนี้อาจจะใช้สำหรับใครที่เลิกลากันแบบไม่ค่อยดีนัก เช่น ทะเลาะวิวาทกัน เลิกกันเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้ความรุนแรง หรือเลิกลากันเพราะเป็นความสัมพันธ์แบบ Toxic Relationship เป็นต้น เพราะการกลับไปติดต่อกันอาจจะทำให้เราต้องกลับเข้าไปสู่วังวนเก่า ๆ ซึ่งแน่นอนว่าในวันหนึ่งมันก็อาจจะสร้างแผลใจให้กับตัวเองได้ไม่ได้จากตอนนี้นั่นเอง แต่สำหรับใครที่เลิกลากับคนรักด้วยดี และยังสามารถเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกันได้เสมอ การจะติดต่อกันบ้างเล็กน้อยตามความเหมาะสมก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไรนั่นเอง
2.ไม่อยู่คนเดียว
กฎ 1 เดือนหลังเลิกกันในข้อนี้เป็นกฎที่เขียนขึ้นมาเพื่อทำให้ทุกคนที่กำลังจมอยู่กับความเศร้าไม่จมดิ่งกับความรู้สึกเหล่านั้นเพียงลำพัง เพราะในบางครั้งการเลิกลากันอาจจะสร้างแผลใจขนาดใหญ่ที่ยากเกินกว่าจะข้ามผ่านมันไปได้ด้วยตัวคนเดียว การลองมองหาคนรอบข้างที่คุณไว้ใจได้ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน พี่ น้อง ครอบครัว หรือคนที่เคยเจอราวเช่นเดียวกับคุณ เพื่อแบ่งปันความเศร้าเสียใจเหล่านี้ด้วยกัน ก็เป็นวิธีที่จะทำให้ทุกคนสามารถมูฟออนจากควาเสียใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นการที่คุณได้พบเจอคนที่มากขึ้นก็อาจจะทำให้คุณสามารถพบเจอคนที่จริงใจ และพร้อมที่จะจับมือคุณให้ข้ามผ่านเรื่องราวอันน่าเสียใจนี้ไปได้เร็วขึ้นอีกด้วย
3.ไม่ยึดติดกับอดีต
หลักการต่อมาของกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันก็คือการไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งดี ๆ ที่ทำร่วมกันหรือความรู้สึกแย่ ๆ ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งมันจะทำให้คุณเอาแต่คิดถึงวันเก่าโดยไม่สามารถมูฟออนและเริ่มต้นใหม่ได้เลย แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าการไม่ยึดติดกับการไม่คิดถึงนั้นไม่เหมือนกัน เพราะทุกคนยังสามารถคิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นได้ เพียงแต่ต้องคิดว่าทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว และวันนี้เรื่องราวของคุณทั้งสองคนนั้นเป็นเพียงอดีตที่ผ่านเลยไป ในวันหนึ่งมันจะค่อย ๆ เลือนลางและจางหายไปตามกาลเวลา ในจณะที่คุณทั้งคู่จะได้เริ่มต้นการสร้างความทรงจำครั้งใหม่ของตัวเองกันต่อไป
4.ให้โอกาสตัวเองมีความสุข
เพราะการเลิกลากับคนรักนั้นแน่นอนว่าเป็นช่วงเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ต้องเสียน้ำตากันทั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นต้นเหตุของความเสียใจหนึ่งในไม่กี่เรื่องของหลายคนเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่อยากให้ทุกคนจำแต่ความรู้สึกโศกเศร้าจนลืมที่รักตัวเอง และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้มีความสุขไปกับวันเวลาต่อจากนี้ เพราะฉะนั้นกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันในข้อนี้จึงเป็นการให้ทุกคนลองลืมเรื่องราวของความเศร้าสักพัก และลองทำให้สิ่งที่สร้างความสุขให้ตัวเอง เช่น ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เล่นเกม เป็นต้น
5.ออกไปเจอโลกภายนอก
หลายครั้งที่เมื่อใครก็ตามมีการเลิกลากับคนรักมักจะเก็บตัวอยู่คนเดียว ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ใช่เรื่องผิด เพราะทุกคนต่างก็มีวิธีในการฮีลใจที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบที่จะออกไปสังสรรค์เพื่อลืมความเศร้า บางคนชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้เต็มที่ แต่ไม่ว่าอย่างไรหากคุณทำการเก็บตัวอยู่คนเดียวแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น การลองใส่รองเท้าแล้วเดินออกไปสูดอากาศ หรือหาของอร่อย ๆ ทานข้างนอกบ้าง ก็จะช่วยให้คุณสามารถลืมความเศร้าไปได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน
6.ไม่ส่องคนรักเก่าในทุกช่องทาง
อาการหลัก ๆ ของคนที่ ‘ไม่มูฟออน’ และเป็นหนึ่งในอาการที่ทำให้คุณไม่สามารถมีความสุขได้เสียทีก็คือการยังคงตามส่องคนรักเก่าในทุกช่องทาง ถึงแม้ว่าการทำแบบนั้นอาจจะทำให้คุณสามารถลืมความเจ็บปวดไปได้ แต่รู้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่ที่แฟนเก่าของคุณเปิดตัวคนรัก เมื่อนั้นที่เราบอกได้เลยว่าอาการความเศร้าโศกของคุณจะวนลูปกับมาแบบเท่าทวีคูณเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก คุณไม่จำเป็นต้องรับรู้เหตุการณ์ของเขาอีกต่อไป แต่จงใช้ชีวิตของคุณให้มีคุณค่าและมีความสุขที่สุดจะดีกว่านั่นเอง
ประโยชน์ของการตั้งกฎ 1 เดือนหลังเลิกกัน
อย่างที่เห็นแล้วว่าการเลิกกับคนรักนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือจิตใจก็ตาม ยิ่งถ้าคุณไม่สามารถมูฟออนจากความเสียใจเหล่านั้น และไม่มีกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันตามที่เราได้แนะนำเอาไว้ในเบื้องต้น ยังคงคอยคิดถึง ยังคงตามส่องคนรักเก่า ยังคงยึดติดกับเรื่องราวในวันวาน ก็จะยิ่งทำให้คุณห่างไกลจากคำว่ามูฟออนขึ้นไปมากเรื่อย ๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น เราได้จำแนกข้อดีของการทำตามกฎดังกล่าวออกมาเป็นข้อ ๆ ไว้ดังนี้
- มูฟออนได้แบบมีความสุข
- อยู่กับตัวเองได้มากขึ้น
- ไม่จมอยู่กับความเศร้า
- รักตัวเองได้มากขึ้น
- มองเห็นความสุขรอบตัวมากขึ้น
- ไม่ปล่อยให้คนอื่นมีผลกับความสุขของตัวเองมากเกินไป
- ไม่ยึดติดกับความสัมพันธ์ที่จบไปแล้ว
- พร้อมรับการเริ่มต้นใหม่
- ไม่ปิดกั้นตัวเอง
- ไม่ทำให้ตัวเองและคนรักเก่าต้องอึดอัดใจต่อกัน
- สามารถเป็นเพื่อนที่ดีกับคนรักเก่าได้
- มองเห็นความสำคัญของตัวเอง
- เห็นค่าของเวลาในการทำสิ่งที่ชอบมากขึ้น
โดยวิธีการของกฎ 1 เดือนหลังเลิกกันอาจจะไม่ได้ตรงกับเหตุการณ์ของใครหลายคน แต่ก็ยังสามารถเอาหลักการเหล่านี้ไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเองได้ เพราะจริง ๆ แล้วหลักการทั้งหมดที่เราได้กล่าวมายืดยาวนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของการรักตัวเองให้มากขึ้น และปล่อยวางสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้ผ่านไป พร้อมที่จะเปิดใจเพื่อเริ่มต้นใหม่กับความสุขที่เกิดขึ้นมาในแต่ละวันนั่นเอง เพราะการจมอยู่กับอดีตและความเศร้าเหล่านั้นวันหนึ่งมันจะกลายเป็นเชื้อร้ายที่สะสม และกัดกินจิตใจของทุกคนให้อ่อนแอจนยากที่จะมองเห็นความสุขซึ่งซ่อนอยู่รอบตัวเองนั่นเอง
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://intrend.trueid.net/article/รีวิวการใช้กฎ-no-contact-เพื่อให้คนรักกลับมา-เสียเวลาหรือว่าใช้ได้จริง-trueidintrend_255588
- https://th.wikihow.com/ใช้กฎไม่ติดต่อหลังเลิกกับแฟน
- https://www.istrong.co/single-post/seven-ways-to-thrive-after-divorce