การถอดบทเรียนเกี่ยวกับเหตุผลที่เลิกกันซึ่งเราจะนำมาเรียบเรียงให้ได้อ่านกันในบทความนี้นั้น ไม่ใช่เพื่อเป็นการซ้ำเติมหรือดูถูกความสัมพันธ์ของใครทั้งสิ้น เพียงแต่เราต้องการที่บอกเล่าเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดเหล่านี้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนซึ่งอาจจะกำลังประสบพบเจอกับปัญหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในลักษณ์เดียวกันนี้อยู่นั่นเอง แต่ใครคนนั้นอาจจะยังไม่สามารถที่จะบอกเลิกหรือยอมรับการเลิกลากับคนรักได้ บางทีหากเรื่องราวเหล่านี้ผ่านตาของคนที่กำลังเจอความทุกข์ระทม เขาเหล่านั้นก็อาจจะเข้มแข็งและลุกขึ้นมารักตัวเองได้ไม่มากก็น้อยด้วยนั่นเอง
ทำไมต้องเรียนรู้เหตุผลที่เลิกกัน
เหตุผลที่เลิกกันของบรรดาคู่รักมากมายบนโลกนี้ คงไม่อาจจะยกขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับทุกคนได้หมด และหลายคนก็อาจจะเกิดความสงสัยว่า “แล้วเราจะไปอยากรู้เรื่องของคนอื่นทำไม” ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ในทางกลับกันบางครั้งเจ้าของเรื่องราวดังกล่าวก็มีความประสงค์ที่จะแบ่งปันอดีตที่แสนเจ็บปวดนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับทั้งตัวเอง และคนอื่นอีกด้วย เนื่องจากมันสามารถเป็นบทเรียนที่ล้ำค่าในด้านต่าง ๆ ได้ ดังนี้
1.เพื่อเป็นบทเรียนให้กับตัวเอง
การเรียนรู้เรื่องราวหรือเหตุผลที่เลิกกันเป็นเรื่องปกติของการทำความเข้าใจ ยอมรับ เรียนรู้ ไม่ยึดติด และเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่จะสอนให้เราทุกคนโตขึ้น ตลอดจนมีมุมมองเกี่ยวกับความรักที่กว้างมากขึ้น ไม่ได้สนใจแค่เรื่องของการรัก การเลิก แต่พยายามที่จะทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยหลักการและเหตุผล ทำให้ตัวเองสามารถจดจำและพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้อีกด้วย
เช่น หากคุณเลิกกันเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอารมณ์ร้อน คุณก็จะได้เรียนรู้ว่าในสถานการณ์ทีคล้ายคลึงกันนี้หากคุณใช้อารมณ์เข้าสู้ แน่นอนว่าผลที่เกิดขึ้นก็อาจจะไม่ได้ดีต่อใครเลยนั่นเอง หรือหากคุณเป็นคนไม่พูด ชอบคิดไปเองคนเดียวโดยไม่ได้เชื่อใจคนรักของคุณแม่แต่น้อย จนเก็บเอาตะกอนของความไม่สบายใจเอาไว้กับตัว และพานทำให้รอยร้างของความสัมพันธ์เด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดก็ปล่อยให้มันลุกลามกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลิกกันไปในที่สุด
2.เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับบุคคลอื่น
การแบ่งปันเรื่องราวเหล่านี้ให้กับคนอื่นได้ศึกษานั้นไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะเชื่อเถอะว่าประสบการณ์ความรักของแต่ละคนนั้นล่วนแล้วแต่แฝงไปด้วยข้อคิด หรือมุมมองที่แตกต่างกันออกไป แต่ถึงอย่างนั้นเหตุผลที่เลิกกันของแต่ละบุคคลกลับสามารถเป็นบทเรียนเพื่อทำให้คนทั่วไปเรียนรู้ตัวอย่างจากเรื่องราวของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้จุดจบของความสัมพันธ์ดำเนินมาอย่างในเรื่องที่พวกเขาเหล่านั้นเจอมา พวกเขาก็จะเริ่มเรียนรู้ ปรับตัว และพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่จะทำให้กระทบต่อคู่ของตัวเองนั่นเอง
3.เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการยุติความสัมพันธ์
เนื่องจากทุกความสัมพันธ์การจะต้องเลิกลากันไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนักสำหรับบางคน และนั่นก็คงเป็นเหตุผลที่การออกมาแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘เหตุผลที่เลิกกัน’ ของใครที่กล้าจะเผชิญหน้ากับความจริงและถอยหลังให้กับความเจ็บปวด ซึ่งกัดกินร่างกายและจิตใจของตัวเองมาเป็นเวลานานได้สักที เราจะเห็นได้เลยว่าหลายครั้งที่มีคนเสียน้ำตาเพียงแค่อ่านเรื่องราวของอีกคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนเสียด้วยซ้ำ แต่กลับเคยเจอเรื่องราวหรือความทุกข์จากความสัมพันธ์ในลักษณะเดียวกัน จนในที่สุดหลายคนที่อาจจะเคยกลัวการเลิกกับคนรักที่ทำร้ายตัวเองอยู่เสมอ ก็กล้าที่จะยุติความสัมพันธ์และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้งเลยด้วย
ยกตัวอย่างเหตุผลที่เลิกกันซึ่งพบได้บ่อยที่สุด
เหตุผลที่เลิกกันเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเกิดมาจากปัจจัยจากคู่ของเราเองหรือจะเกิดจากปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ซึ่งเข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์ จนสุดท้ายทั้งสองคนก็ไม่อาจจะเดินไปบนเส้นทางของชีวิตคู่ได้อีก เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือ สังคมในการใช้ชีวิต นอกจากนั้นยังมีรูปแบบของความสัมพันธ์อีกมากมายซึ่งเป็นตัวตัดสินความสัมพันธ์ ทั้งยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมากอีกด้วย ซึ่งตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่สร้างบาดแผลและเป็นเหตุผลที่เลิกกันซึ่งพบได้บ่อยที่สุด ก็ได้แก่
-
Toxic Relationship
Toxic Relationship หรือก็คือความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อทั้งสองฝ่าย หรือความสัมพันธ์ที่สร้างความรู้สึกอึดอัด ทรมาน ไม่สบายใจ ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ยากต่อการเลิกลา และก็เป็นหนึ่งในรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ทำให้คนเลิกกันมาที่สุดอีกด้วย เนื่องจากลักษณะของคนในสมัยนี้มักจะมีความคิดเป็นของตัวเอง รักในตัวเอง เคารพตัวเอง และค่อนข้างที่จะรักอิสระเป็นอย่างมาก
ดังนั้นหากใครคนใดคนหนึ่งในความสัมพันธ์นี้เริ่มที่จะมีพฤติกรรมอันนำมาซึ่งความไม่สบายใจ เช่น ตามสืบข้อมูลของเราจากคนรอบตัวเพราะอาการหึง, จำกัดเวลากลับบ้านที่เข้มงวดจนเกิดไป, ไม่เปิดโอกาสให้ใครคนใดคนหนึ่งไปมีสังคมกับกลุ่มเพื่อนหรือคนภายนอกเลย ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เชื่อหรือว่าสุดท้ายแล้วอาการทั้งหมดที่กล่าวมาจะกลายมาเป็นรูปแบบของความสัมพันธ์แบบ Toxic Relationship และทำให้คู่รักต้องแยกทางกันในที่สุด
-
Sexual Harassment Relationship
Sexual Harassment หรือการคุกคามทางเพศเกิดขึ้นได้กับหลายสถานะ ไม่เฉพาะแต่กับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกันมาก่อนนั้น เพราะจากเหตุการณ์ที่เคยเห็นกันได้ทั่วไปในสังคมเราจะสามารถเห็นตัวอย่างเลยว่า การSexual Harassment หรือการคุกคามทางเพศเกิดขึ้นได้กับความสัมพันธ์ระหว่างคนรักก็ได้ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากความหมายของการคุกคามทางเพศก็คือ การกระทำซึ่งมีเจตนาไม่ดีต่อเพศตรงข้าม หรือเพศเดียวกันเพื่อผลประโยชน์ในเชิงชู้สาวหรือเรื่องเพศ โดยไม่ได้รับการยินยอมจากอีกฝ่าย สามารถแบ่งออกเป็น
Verbal Conduct หรือ การคุกคามทางเพศด้วยวาจาหรือคำพูด
Visual Conduct หรือ การคุกคามทางเพศด้วยกิริยา ท่าทาง สายตา
Physical Conduct หรือ การคุกคามทางเพศด้วยการกระทำ การสัมผัส
Written Conduct หรือ การคุกคามทางเพศด้วยการเขียนจดหมาย การคอมเมนต์ในโซเชีล เป็นต้น
-
Disrespectful Relationship
Disrespectful Relationship หรือเหตุผลที่เลิกกันโดยเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน โดยความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้มักจะสร้างความอึดอัด หรือความทุกข์ทรมานในใจให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอย่างมาก ในบางเคสความสัมพันธ์รูปแบบนี้อาจจะบีบให้เกิดการทำร้ายตัวเอง เก็บตัว ไม่เข้าสังคม จนอาจจะเกิดการคินสั้นเลยก็เป็นได้ โดยการให้เกียรติซึ่งกันและกันถือเป็นหลักการพื้นฐานของการใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคน หรือเป็นหลักการพื้นฐานง่าย ๆ ในการใช้ชีวิตร่วมกันกับใครก็ตามในสังคมของเรา เนื่องจากแต่ละคนต่างก็มีความแตกต่าง มีความต้องการ ตลอดจนมีข้อจำกัดในชีวิตที่ต่างกันออกไป การเรียนรู้หรือยอมรับในความแตกต่างและลองที่จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ก็เป็นวิธีที่หลายคนก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะทำให้เราและคนรักสามารถคบกันได้ยืนยาวมากกว่าการมาคอบระแวงกันด้วย ซึ่งการให้เกียรติซึ่งกันและกันสามารถกระทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
- ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยคำพูด
- ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยการกระทำ
- ให้เกียรติซึ่งกันและกันการแสดงออก
- ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วยการให้อิสระกับอีกฝ่าย
-
Infidelity Relationship
Infidelity Relationship หรือความสัมพันธ์ในรูปแบบของการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดการนอกใจไปมีใครอีกคนโดยที่เราไม่ได้ยินยอม เรียกได้ว่าเป็นเหตุผลที่เลิกกันซึ่งสามารถพบได้บ่อยมากที่สุดเหตุผลหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกจากนั้นความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ยังสามารถสร้างแผลใจที่บาดลึกให้กับอีกฝ่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากกระทำอันสุดแสนจะเห็นแก่ตัวนี้เอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างจะต้องจบและต้องกลายเป็นเพียงอดีตที่แสนเจ็บปวด เมื่อมีการเลือกที่จะนอกใจเกิดขึ้นนั่นเอง โดยปัจจัยที่อาจจะทำให้เกิดการนอกใจก็มีอยู่มากมาย (ข้อมูลจากคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) เช่น
1.เพศ
จากข้อมูลดังกล่าวมีการระบุเอาไว้ว่าเพศเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการนอกใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลิกกันของหลายๆ คู่ โดยเพศชายมีพฤติกรรมนอกใจมากกว่าเพศหญิง ซึ่งมีการอธิบายเอาไว้ว่าลักษณะพฤติกรรมในปัจจัยข้อนี้ตรงกับสภาพของสังคมไทย ที่มองว่าการนอกใจของเพศชายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เนื่องจากค่านิยมที่สืบต่อมาจากในสมัยอดีตที่ผู้ชายหนึ่งคนสามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งคน แตกต่างจากเพศหญิงที่จะต้องมีการรักนวลสงวนตัว เป็นแม่บ้านแม่เรือน เป็นต้น
2.การอยู่ก่อนแต่ง
ค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่ยังคงยึดโยงกับหลักการเกี่ยวกับการ ‘แต่งก่อนอยู่’ หรือก็คือการไม่อนุญาตให้คู่รักไม่ว่าจะเพศไหนอยู่กินด้วยกันก่อนที่จะเข้าพิธีแต่งงาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการอยู่ก่อนแต่งนั้นทำให้อัตราการนอกใจที่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เลิกกันลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากคู่รักจะได้เริ่มใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน และเริ่มที่จะได้เรียนรู้ลักษณะนิสัย ตลอดจนมีเวลาอยู่ด้วยกัน เสมือนตอนแต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันก่อนการตัดสินใจแต่งงาน
3.รสนิยมเรื่องเพศสัมพันธ์
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็คงไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเรื่องของ ‘เพศสัมพันธ์’ เป็นเรื่องใกล้ตัวที่บางครั้งสังคมไทยเราก็ผลักให้มันเป็นเรื่องไกลตัวไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่มีผลต่อชีวิตคู่ ทั้งยังส่งผลต่อเหตุผลที่เลิกกันของหลายคู่อีกด้วย เนื่องจากรสนิยมในเรื่องเพศเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงมาก เมื่อมีการคบหรือ หรือใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว แต่เรื่องดังกล่าวกลับไม่สามารถเข้ากันได้อย่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดเอาไว้ แน่นอนว่ามันก็จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการนอกใจ ด้วยการไปมี‘เพศสัมพันธ์กับใครอีกคนที่ไม่ใช่คนรักของตัวเอง
4.การผูกมัด
การผูกมัดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในความสัมพันธ์เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการนอกใจได้ง่ายมากที่สุด เนื่องจากมนุษย์เรามีจิตใต้สำนึกที่ไม่ชอบถูกกดขี่ ดังนั้นเพื่อเป็นการปลดปล่อยตัวเอง และหาความสุขให้กับตัวเองจึงได้เกิดการนอกใจขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการนอกใจก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม หากสุดท้ายชีวิตคู่หรือความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่สามารถไปต่อกันได้ ก็ควรจะยุติทุกอย่างด้วยความเข้าใจก่อนที่จะไปเริ่มต้นใหม่กับใครคนอื่นนั่นเอง
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Sexual_Harassment
- https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/49575
- https://www.alljitblog.com/การให้เกียรติ/