หลาย ๆ คนคงยังไม่มีความคุ้นเคยหรือคุ้นชินกับคำ ๆ นี้ เพราะเป็นคำที่มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่คำ ๆ นี้ จะมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราในยุคปัจจุบันแน่นอน แล้วเคยสังเกตกันไหมว่าชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักมีความตั้งใจทำงาน ไม่เลือกงาน รักในงานที่ทำ ดูมีความสุขกับการได้ทำงานของตัวเองในแต่ละวัน พนักงานบริการที่มีหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พนักงานช่วยเหลือที่ทำหน้าที่คอยช่วยเหลือบริการประชาชน ที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ไม่แสดงท่าทีในด้านลบ หรือความรู้สึกแย่ ๆ ออกมาให้เราเห็นกันเลยนั่นเป็นเพราะ ชาวญี่ป่น มี อิคิไก เป็นของตนเองและฝังรากลึกกันมายาวนาน ฝังลึกลงจิตใจ และส่งผลให้ชีวิตของชาวญี่ปุ่นมีความสุข ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่หรูหรา แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจนั่นเอง
อิคิไก คือ หลักปรัชญาชีวิตแขนงหนึ่งของคนญี่ปุ่นที่ฝังลึกลงไปในวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น อิ คิ ไก แก่นความสุขของคนญี่ปุ่น มีใจความสำคัญว่าด้วยเรื่องของ เหตุผลของการมีชีวิตอยู่ เป็นแนวคิดที่ช่วยเติมเต็มพลังใจ เสริมสร้างกำลังใจให้กับคนที่กำลังเจอเรื่องแย่ ๆ ทำให้เสียพลังใจในการใช้ชีวิต เพื่อให้คนได้รับรู้ถึงคุณค่า ถึงความหมายของชีวิต โดยการชื่นชมความงามของสิ่งรอบตัว รักในสิ่งที่ทำอยู่ เชื่อว่าทุกวันเป็นวันที่ดี ด้วยการสร้างความสุขทั้งทางกายทางใจ และจิตวิญญาณ ผ่านการรู้สึกตัวและการค้นพบตัวตน
อิคิไก คือ ความสมดุลของชีวิต สิ่งเล็ก ๆ ที่อาจไม่ยิ่งใหญ่ แต่ตอบโจทย์ความสุข
คำว่า อิคิไก (Ikigai) เป็นคำที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในคนญี่ปุ่น ความหมายของ อิคิไก คือ คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ที่แท้จริง หรือ จุดประสงค์ของการมีชีวิตอยู่ โดย อิคิไก มาจากคำว่า อิกิ (Iki) แปลว่า การมีชีวิต และคำว่า ไก (gai) แปลว่า คุณค่า พอนำ สองคำมารวมกัน อิคิไก หมายถึง จุดมุ่งหมายของปรัชญานี้ที่ต้องการให้คนตระหนักรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณมีเช้าที่สดใสในทุก ๆ วัน พร้อมรับและพร้อมสู้กับปัญหาหรือสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน
โดยทุกคนล้วนมี อิคิไก เป็นของตัวเองอยู่แล้ว ทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกับอิคิไก ขึ้นอยู่กับว่า ใครที่จะสามารถค้นพบอิคิไกของตัวเองได้เร็วหรือช้า ค้นพบได้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ซึ่งอย่าลืมว่า อิคิไก คือ สมดุลการใช้ชีวิต ความสุขในการตื่นมาใช้ชีวิตในแต่ละวัน หากเราเจอ อิคิไก ของตัวเราเองได้เร็วเท่าไหร่ จะทำให้เรามีความสุขได้เร็วมากเท่านั้น และวันนี้เราจะพาทุกคน ไปหาอิคิไกของตัวเองให้เจอกัน หลังจากอ่านบทความนี้จบลง เราเชื่อว่า ทุกคน จะค้นพบ อิ คิ ไก ในการ ทำงาน ของตัวเองได้อย่างแน่นอน
หลักการ ของ อิ คิ ไก (Ikigai) ซึ่งเป็นขั้นแรกของการใช้ชีวิต คือการตอบคำถาม 4 ข้อพื้นฐาน เพื่อตอบคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ในแต่ละวัน ดัง 4 ข้อต่อไปนี้
-
สิ่งที่เรารักคืออะไร (What you love)
คือ สิ่งใดที่เรามีความสุขกับมัน เราทำอะไรแล้วมีความสุข เราก็จะอยากทำสิ่งนั้น เพื่อทำให้เราได้พัฒนาศักยภาพของตัวเราเองได้ดีมากยิ่งขึ้น และทำให้เกิดการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างในกรณีของการสมัครงาน เราควรจะมีสิ่งที่เรารักและอยากที่จะทำในเนื้องานนั้น ๆ ของงานที่เราจะสมัครก่อน เพื่อที่หากเราเข้าไปทำงานในตำแหน่งนั้น เราจะสามารถทำงานนั้นได้อย่างเต็มที่ ชอบและรักที่จะทำ เราก็จะทำงานนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข นั่นเอง
-
สิ่งที่เราทำได้ดีคืออะไร (What you are good at)
คือ สิ่งใดที่เราสามารถทำได้ดีโดดเด่นมากกว่าสิ่งอื่น ๆ หรืออาจจะเรียกกันว่า Hard skill นั่นเอง คือทักษะความรู้ความสามารถที่ใช้ในการทำงาน เกิดจากการฝึกฝน ทำบ่อย ๆ จน เกิดเป็นความชำนาญ และจะเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในท้ายที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การที่เรามีพรสวรรค์หรือทักษะความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ อาจจะไม่ต้องเป็นความสามารถตรงกับงานที่เราทำก็ได้ แต่อาจจะเป็น Hard skill ที่ทำให้เรามี อิคิไก ในชีวิต และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข
-
สิ่งที่เราทำแล้วทำให้เกิดรายได้ (What you can be paid for)
คือ สิ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเรา ทำให้เรามีรายได้เลี้ยงชีพ สามารถดำรงชีวิตได้ ยกตัวอย่างเช่น การที่เราหาอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถ ทักษะความเชี่ยวชาญและคุณสมบัติของเรา ทำให้เรามีงานประจำที่มั่นคง สร้างรายได้ที่ยั่งยืน และทำให้เรามีความสุข ในการดำเนินชีวิต
-
สิ่งที่โลกต้องการ (What the world needs)
คือ สิ่งที่โลกหรือสังคมต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อโลกและสังคมของเรา ตลอดไปจนถึงบริษัทหรือสถานที่ทำงานที่เราทำอยู่ ยกตัวอย่างเช่น การที่เรามีทักษะ ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว สามารถที่จะช่วยเหลือ องค์กรของคุณ หรือโลกและสังคมได้หรือไม่ในอนาคต หากคุณมีทักษะที่จะช่วยเหลือได้ในอนาคตแล้ว แสดงว่าคุณค้นพบอิคิไกของตนเองแล้วข้อหนึ่งนั่นเอง
อิคิไกจะไม่มีประโยชน์สำหรับเราเลย ถ้าหากว่าเรายังไม่สามารถตอบคำถามถึงความสำคัญของ อิคิไก ทั้ง 4 ข้อนี้ได้ อิคิไก คือ สัญญาณในรูปแบบของคำถามที่ทำให้เราตระหนักถึงเป้าหมายและคุณค่าของชีวิต ถ้าหากว่าเรายังไม่มี หรือตอบคำถามยังไมได้ มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือเรื่องที่แย่อะไรมากมาย แต่ถ้าหากในวันนี้คุณยังไม่สามารถตอบคำถามมันได้ ขอให้เริ่มต้น พิจารณา คิด ทบทวน ถึงคำถามทั้ง 4 ข้อเหล่านี้ เพื่อที่จะพยายามหาคำตอบ หาคำตอบไปทีละข้อ ไม่ต้องรีบร้อน ถ้าหากสามารถหาเจอจนครบ 4 ข้อ ก็จะเจอความสุขเป้าหมายของการใช้ชีสิตได้อย่างมีคุณค่านั่นเอง
เรียนรู้ ทฤษฎีของอิคิไก กับวงกลม 4 วง
เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจ ทฤษฎีของอิคิไก อย่างลึกซึ้งและเข้าใจถ่องแท้มากยิ่งขึ้น โดยให้ทุกคนลองพิจารณา กับรูปวงกลม 4 วงด้านล่างตามภาพ
เป็นวงกลม 4 วงที่มีการวางซ้อนทับกัน เมื่อเรามีการพิจารณา 4 ข้อพื้นฐานของการใช้ชีวิตได้อย่างเข้าใจแล้ว สามารถนำไปสู่ ผลลัพธ์ 4 ข้อ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนผลของการทำงาน
เมื่อเรานำวงกลม ทั้ง 4 วง มาผสานกัน จะเกิดองค์ประกอบเพิ่มขึ้น จากคำตอบที่เราได้ระบุลงไป ตาม 4 ข้อดังนี้
-
สิ่งที่เรารัก (What you love) + สิ่งที่เราทำได้ดี (What you are good at) = ความหลงใหล (Passion)
เช่น เมื่อเรารู้ตัวว่าเราชอบทำงานอะไร ทำงานประเภทไหน ที่เราสามารถทำมันออกมาได้ดี มันก็จะเกิดมาเป็นความหลงใหลจนกลายเป็นแรงผลักดัน ที่จะทำให้เราสามารถทำงานนั้น ๆ ได้ออกมาดีเยี่ยมและมีประสิทธิภาพ ในกรณีของบางคน ที่ไม่มี Passion ในการทำงาน ทำให้ในแต่ละวันที่ต้องตื่นไปทำงาน ก็จะไม่มีความสดใส ไม่มีแรง ไม่มีความฮึกเหิมในการทำงาน ด้วยอาจจะเกิดจาก งานที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบัน ยังไม่ตอบโจทย์กับชีวิต ยังไม่ชอบ และยังทำมันออกมาไม่ได้ดีเท่าที่ควร ดังนั้น ข้อนี้จึงเป็นข้อที่สำคัญ ควรพิจารณาถึงสิ่งที่เรานั้นรัก และสามารถทำมันออกมาได้ดี เพื่อเป็นแรงผลักดันในการทำงาน จนก่อให้เกิดงานที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม
และมีอีกกรณี คือ อาจจะไม่ได้ทำงานในสิ่งที่รัก แต่สามารถทำสิ่งนั้นหรืองานนั้นได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเป็นงานที่ถนัด หรือ มีความสามารถเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น แต่แรงจูงใจให้อยากกระทำมักจะน้อยกว่าได้ทำในสิ่งที่รัก อาจจะส่งผลให้เกิดอิคิไก หรือสมดุลการใช้ชีวิตได้ช้ากว่า การได้ทำในสิ่งที่รักไปพร้อม ๆ กับ เป็นงานที่เราถนัดแน่นอน ดังนั้นเราควรจะสร้างแรงผลักดันและความสมดุลที่จะสร้างให้เกิดการได้ทำในสิ่งที่รัก และเป็นสิ่งที่เราถนัดและทำได้ดีเพื่อทำให้เกิด PASSION ในการทำงาน โดยมีคำแนะนำว่า เราอาจจะลองเปลี่ยนสิ่งที่เราทำมันได้ดี และดีมาก ๆ ให้มาเป็นสิ่งที่เรารักด้วย เพื่อสร้างความสุขและความสมดุลในการทำงาน
-
สิ่งที่เรารัก( What you love ) + สิ่งที่โลกต้องการ( What the world needs ) = หน้าที่ (Mission)
เช่น เราได้ทำงานในสิ่งที่เรารัก และหน้าที่การงานที่เราทำอยู่นั้น เป็นอาชีพหน้าที่ ที่ตลาดแรงงานของประเทศของโลกขาดแคลนและกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก ถือเป็นอาชีพที่เป็นแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การทำงานนั้นของเราก็จะทำให้กลายเป็น หน้าที่ ที่เราต้องทำเป็นประจำ เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม และเมื่อเราได้คำนึงถึงภาระความรับผิดชอบต่าง ๆ ที่ต้องทำประโยชน์ต่อสังคมและคนอื่น ๆ เราก็จะมองเห็นถึงคุณค่าของสิ่งนั้น และจะพยายามทำสิ่งนั้นให้สำเร็จและบรรลุเป้าหมาย เพื่อความสุขของส่วนรวมนั่นเอง และถ้าหากใครที่ค้นพบอิคิไกข้อนี้สำหรับตนเองแล้ว ก็ถือว่าได้ทำในสิ่งที่รักไปพร้อม ๆ กับการได้ทำความดี ได้ช่วยเหลือสังคมและประเทศ เป็นทั้งผู้ให้ความสุขแก่คนอื่น และรับความสุข จากการได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักอีกด้วย
-
สิ่งที่โลกต้องการ(What the world needs) + สิ่งที่ทำให้เกิดรายได้(What you can be paid for) = ทักษะวิชาชีพ (Vocation)
คือ หากงานที่เราทำนั้น เป็นงานที่สังคมมีความต้องการสูงหรือเกิดความขาดแคลนในงานนั้น งานนั้นอาจจะสร้างรายได้มากมายมหาศาล จากที่มีรายได้ประจำอาจพบว่า งานนั้นสร้างรายได้เสริมเพิ่มเติมให้กับเราอีกเป็นมหาศาล ยกตัวอย่างอาชีพในปัจจุบันที่เป็นอาชีพที่โลกต้องการ และเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดรายได้มากมาย นั่นคือนักเขียนโปรแกรม หากเราจะลงทุนทำธุรกิจอะไรซักอย่างหนึ่ง แต่เราสามารถเขียนโปรแกรมเกี่ยวกับธุรกิจของตัวเองได้ ทำให้เราสร้างธุรกิจได้แบบลดต้นทุนการจ้างนักเขียนโปรแกรมวึ่งอัตราการจ้างในแต่ละครั้งล้วนใช้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงนั่นเอง เป็นการผสานระหว่าง การได้งานที่โลกต้องการและสร้างรายได้เพิ่มเติม เกิดเป็นทักษะวิชาชีพในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขนั่นเอง
-
สิ่งที่เราทำได้ดี(What you are good at) + สิ่งที่ทำให้เกิดรายได้(What you can be paid for) = อาชีพ(Profession)
เช่น การที่เรามีประสบการณ์การทำงานมาอย่างหลากหลายสถานที่และหลากหลายหน้าที่แล้ว เราก็จะรู้ถึงความสามารถและทักษะความเชี่ยวชาญของตัวเราที่ทำได้ดีมากกว่าทักษะไหน ๆ งานที่เราสามารถทำได้ดีคืออะไร เช่น เราเก่งและทำได้ดีในเรื่องของการทำบัญชี เราก็สามารถนำทักษะความสามารถความเก่งของเราไปเสริมสร้างรายได้จากงานประจำที่มั่นคง ทำงานประจำที่ได้ทำในตำแหน่งที่ตอบโจทย์กับความสามารถของเรา นั่นคือ พนักงานบัญชี นั่นคือ อิคิไก คือ การผสานระหว่างงานที่เรารักและทำได้ดีมาสร้างรายได้จากการทำอาชีพอย่างมากมายนั่นเอง
เมื่อนำ สิ่งที่รัก + สิ่งที่ถนัด ก็จะเกิดเป็น ความหลงใหล (Passion) เอา สิ่งที่รัก + สิ่งที่โลกต้องการ จะเป็น หน้าที่ (Mission) เอา สิ่งที่โลกต้องการ + สิ่งที่สร้างรายได้ ก็จะเท่ากับ งาน (Vocation) เอา สิ่งที่ถนัด + สิ่งที่สร้างรายได้ ก็จะได้เป็น อาชีพ (Profession) อิคิไก คือ ส่วนที่อยู่ตรงกลาง ระหว่างวงกลม 4 วง หากขาดสมดุลที่ลงตัวก็จะทำให้เรารู้สึกไร้ค่า ว่างเปล่า ไม่มั่นคง และไม่มั่งคั่ง จนไม่ทำให้เกิดเป็นอิคิไกนั่นเอง แต่ถ้าหากเราเจอเส้นทางชีวิตหรือเป้าหมายที่มีส่วนประกอบทั้ง 4 นี้ เป็นการพิสูจน์แล้วว่าชีวิตของเรานั้นมีความหมาย
ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ 5 สิ่งที่จำให้คุณค้นพบอิคิไก ของตนเองได้เร็วมากขึ้น
- เริ่มต้นทำสิ่งเล็ก ๆ โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ง่าย ๆ ที่เป็นพื้นฐานง่าย ๆ รอบตัว ที่เราสามารถทำได้ตามศักยภาพของตนเองที่มีอยู่ ลงมือทำทีละขั้นตอน ไม่ต้องรีบเร่ง และมุ่งไปสู่ความสมบูรณ์แบบ สั่งสมความสำเร็จไปเรื่อย ๆ ช้า ๆ แต่ได้พร้าเล่มงาม จึงจะเกิดความสุข และจะมีกำลังใจที่จะมุ่งมั่น และ ต่อยอดความสำเร็จมากยิ่งขึ้น
- ละวางตัวตน ให้สลัดตัวเองออกจากการคิดหรือยึดติดอัตตาการเป็นตัวเองออกไป แล้วใจจดจ่ออยู่กับงานหรือกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ ทำให้เกิดสภาวะลื่นไหล จนสิ่งอื่นใดรอบตัวก็ไม่เป็นสิ่งสำคัญจนมารบกวน และทำให้เรามีความสุขกับงานที่ทำนั่นเอง เมื่อมีความสุขกับงานที่ทำ ทำให้การใช้ชีวิตเริ่มมีความหมาย ไม่อมทุกข์ ต้องทน กล้ำกลืน ทำในสิ่งที่ตนเองไม่ได้รักหรือชอบ ก่อให้เกิดการใช้ชีวิตที่ไม่มีความสุข แล้วหลังจากนั้น ความสุขของงานที่ทำ ก็จะพาให้ได้รับ ค่าตอบแทน ที่เปรียบเสมือนของแถม ที่ได้มาทั้งความสุขและรายได้ นั่นเอง
- มีความสุขกับเรื่องง่าย ๆ เช่น การตื่นนอนในตอนเช้าแล้วพบว่า การได้ดื่มกาแฟหอม ๆ รสชาติกลมกล่อม ก็สามารถทำให้เช้าวันนั้นเป็นการเริ่มต้นที่สดใสของตลอดทั้งวัน หรือการได้ทานขนมที่ชอบในช่วงพักเบรค คลายความเหนื่อยล้าของสมองและพลังกาย หลังจากได้ทางของโปรดที่แสนอร่อยก็ทำให้มีไฟในการทำงานต่อไปอย่างมีความสุข มองหาสิ่งเล็ก ๆ รอบตัวที่ทำให้เรามีความสุขได้เรื่อย ๆ แล้วจะพบกับทางไปสู่อิคิไก นั่นเอง
- อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ละทิ้ง ปล่อยวางอดีต ที่ทำให้เราไม่มีความสุข และพยายามชื่นชม และจิตใจอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด ปัจจุบันที่ได้ทำงานในสิ่งที่รัก ได้ทานของอร่อย ได้ดูหนังเรื่องที่ชอบ ได้ทำกิจกรรมที่ชอบนั่นเอง
ใช้ชีวิตให้มีความหมาย ค้นพบ ให้เจอ เพราะ อิคิไก คือ สมดุลของชีวิต กำจัดความทุกข์ เพิ่มไฟในการใช้ชีวิต
ในยุคปัจจุบัน ทุกคนล้วนอยากจะตามหา อิคิไก ของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะ อิคิไก คือสมดุลของชีวิต คือความสุขในการมีชีวิตอยู่ คือกำลังใจในการใช้ชีวิตนั่นเอง เพราะในปัจจุบัน หลาย ๆ คนมักจะมีชีวิตที่ไม่มีความสุขกับการทำงานของตัวเอง หาสมดุลในการใช้ชีวิตในการทำงานไม่ได้ รู้สึกหมดไฟ เหนื่อยล้า ไม่มีพลัง ไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรือไอเดียใหม่ ๆ ในการต่อยอดงานที่กำลังทำ ตื่นเช้ามาแบบไม่สดใส รู้สึกไร้ความหมาย ตื่นไปวัน ๆ ไม่มี Passion ไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากไปเจอสังคม นั่นคือการได้ใช้ชีวิตในแต่ละวันแบบที่ควรจะเป็นแล้วจริง ๆ ไหม เราควรจะรีบหาคำตอบ เราควรจะหาอิคิไก ของตัวเองให้เจอ เพราะ ประโยชน์ของ อิ คิ ไก มีมากมายเพื่อที่จะแก้ปัญหาการใช้ชีวิตแบบเรื่อยเปื่อยไปได้ อิคิไก คือความสุขที่จะมาเติมเต็มชีวิตที่ว่างเปล่า ดูไร้ค่า และสร้างสมดุลชีวิตให้กับเราได้แน่นอน
โดยความสุขที่เราต้องการ หรือ อิคิไก ที่เราต้องหาให้เจอนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทอง ของมีค่า เกียรติยศ หรือ ชื่อเสียง แต่ อิคิไก คือ สิ่งเล็ก ๆ ที่สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สามารถตื่นเช้ามาเจอวันที่สดใส การมีสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ บ้านสะอาด อากาศสดชื่น การได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่รัก มีงานการที่มั่นคง รายได้ที่เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้ ใช้ชีวิตแบบไม่เดือดร้อนผู้อื่น และมีความสุขที่สุดในแบบฉบับของตัวเราเอง แค่เพียงเท่านี้ ก็ถือว่า เราประสบความสำเร็จในชีวิต ค้นพบ อิคิไก ที่ใช่สำหรับเราแล้วนั่นเอง โดยไม่ต้องนำ ชีวิตของตัวเองไปแข่งหรือเปรียบเทียบกับใครอีกแล้ว
ชาวญี่ปุ่นมักจะเชื่อว่า ทุกคนนั้นล้วนมีอิคิไกเป็นของตัวเอง มีความพิเศษ มีความแตกต่าง มีพรสวรรค์หรือความสามารถที่ไม่เหมือนใคร เราสามารถหา อิคิไกของตัวเองเจอได้ แต่ต้องเกิดจากการทบทวน คิด พิจารณาตัวเองอย่างหนักอย่างถี่ถ้วน โดยต้องนึกถึงเพียงตัวเราทั้งสิ้นเพราะทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นที่เรา และจบลงที่เรา ทั้งความสุข ทั้งความสบายใจ รายได้ นำมาเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ล้วนเป็นความสำเร็จที่ให้ตัวเองทั้งนั้น
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.yuvabadhanafoundation.org/th/ข่าวสาร/บทความทั่วไป/อิคิไก-ความหมาย-ชีวิต/
- https://thestandard.co/piti-ekkamai/
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎