สลิปเงินเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งเอกสารสำคัญที่ในบริษัท ห้างร้าน หรือนายจ้าง จะออกเป็น สลิปเงินเดือนพนักงาน ให้กับลูกจ้างในแต่ล่ะเดือน นอกจากจะแจ้งรายละเอียดข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ก็ยังสามารถเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคตได้มากกว่าที่เพื่อนๆคิดอีกด้วย ส่วนเอกสารอีกอย่างที่ทางนายจ้าง หรือ บริษัทห้างร้านที่จ้างสามารถออกให้กับเราซึ่งเป็นลูกจ้างได้เช่นกันก็คือ หนังสือรับรองเงินเดือนนั้นเอง หากเพื่อนๆอยากรู้ว่า เอกสารทั้งสองนั้นแตกต่างกัน และใช้ทำอะไรได้บ้าง ก็ไปดูกันเลย
สลิปเงินเดือน คืออะไร ?
สลิปเงินเดือน หรือ สลิปเงินเดือนพนักงาน แปลจากชื่อแล้วก็อาจจะแปลได้ตรงตัว คือ “ใบเสร็จ รับเงินเดือน” นั้นเอง หรือถ้าให้อธิบายรายละเอียดสลิปเงินเดือนอีกนิด สลิปเงินเดือนก็คือ เอกสารที่ทางบริษัท ห้างร้าน นิติบุคลต่างๆซึ่งเป็นผู้จ้าง รวมไปถึงนายจ้าง ได้ออกให้กับลูกจ้างๆในทุกๆเดือนพร้อมกับเงินเดือนที่โอนเข้าบัญชี หรือ ออกให้กับลูกจ้างในเดือนนั้นๆ นั้นเอง
โดยรายละเอียดในสลิปเงินเดือน ก็จะมีข้อมูล รายได้สุทธิในแต่ล่ะเดือน รวมทั้งข้อมูลที่แจกแจงเงินเดือนสุทธิที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนที่ได้ประจำทุกเดือน ไปจนถึงรายได้ที่ได้จาก OT ซึ่งเป็นการทำงานล่วงเวลา หรือ โบนัสต่างๆ ที่ได้นอกเหนือจากเงินประจำ นอกจากจะมีข้อมูลที่แจกแจงรายได้ที่ได้รับแล้ว ก็ยังมีข้อมูลค่าใช้จ่ายที่หักไปในเงินเดือนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าประกันสังคม ค่าหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือ ค่ากองทุนเลี้ยงชีพ ไปจนถึงกองทุนต่างๆที่มี ก็จะแสดงอยู่ในสลิปเงินเดือน ถือเป็นเอกสารที่แสดงถึงรายได้ของเพื่อนๆในแต่ล่ะเดือนได้ดีเลยล่ะค่ะ
สลิปเงินเดือน ประกอบไปด้วย อะไรบ้าง ?
- ชื่อเอกสาร เอกสาร สลิปเงินเดือน จะมีชื่อเอกสารระบุไว้บนหัวกระดาษว่าเป็นสลิปเงินเดือน หรือที่เรียกว่า Pay Slip นั้นเอง
- ข้อมูลบริษัท คือ ชื่อบริษัท และอาจจะหมายถึง สถานที่ตั้ง รวมทั้งเลขเสียภาษีของบริษัท ห้างร้านนั้นๆด้วย
- ข้อมูลพนักงาน ชื่อ รหัสพนักงาน ตำแหน่ง และอาจรวมไปถึง แผนกด้วย
- ระยะเวลาของการจ่ายเงินเดือน หรือ รอบของการจ่ายเงินเดือนนั้นเอง เช่น รอบเดือน วันที่ 2 มกราคม 2566 หรือ สำหรับวันที่ 2 มกราคม – 31 มกราคม 2566
- ข้อมูล วัน เดือน ปี ที่ทำการจ่ายเงินเดือน คือ การระบุ วันเดือนปีที่ออกเงินเดือน หรือ จ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานรายนั้นๆ นั้นเอง
- ข้อมูลของที่มาแหล่งรายได้ทั้งหมด ของพนักงานคนนั้น เช่น ค่าคอมมิชชั่น ค่า OT ทำงานล่วงเวลา ไปจนถึง โบนัส รายได้พิเศษ หรือค่ายังชีพต่างๆที่บริษัทออกให้พนักงานรายนั้นๆได้ด้วย
- ข้อมูล ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ถูกหัก ไม่ว่าจะเป็น เงินสมทบทุนกองทุนประกันสังคม, ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย หรือ ค่ากองทุนอื่นๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายเงินๆที่หักออกจากเงินเดือนที่ได้รับ
- ข้อสรุปรายได้สุทธิ คือเงินเดือนสุทธิที่รวมรายได้ทั้งหมด และหักค่าใช้จ่ายที่แจ้งไว้ตามรายการในใบเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นเอง
สลิปเงินเดือน จะมีข้อมูลเกี่ยวกับชื่อของพนักงาน หรือ ลูกจ้าง ไปจนถึงนายจ้าง หรือ บริษัทห้างร้านต่างๆที่จ้าง และยังมีการแจกแจงรายละเอียดที่มาของรายได้ รวมทั้งรายได้สุทธิแบบละเอียดเลยอีกด้วยล่ะ
รูปแบบสลิปเงินเดือน มีแบบไหน บ้าง ?
สลิปเงินเดือนที่เพื่อนๆหลายคนมักจะคุ้นชินกัน ก็คือ แบบฟอร์มสลิปเงินเดือนที่ถูกกรอกข้อมูลต่างๆ ลงในกระดาษคาร์บอนเล็กๆ ซึ่งถือเป็นสลิปเงินเดือนที่หลายบริษัท ห้างร้านมีการใช้กันมานาน เพราะสะดวก และมีขนาดพอเหมาะ เหมือนกับใบเสร็จรับเงินต่างๆ แต่ต่อมาในปัจจุบัน ได้มีการลดการใช้กระดาษคาร์บอนกันมากขึ้น บริษัทส่วนใหญ่ จึงเปลี่ยนจากการออกสลิปเงินเดือน บนกระดาษคาร์บอน มาเป็นใช้กระดาษ A4 ปกติแทน นอกจากจะอ่านได้ง่ายแล้ว ก็ยังสามารถเก็บไว้ได้นานอีกด้วย
ต่อมาก็มีโปรแกรม หรือ แอปพลิเคชั่นต่างๆโดยเฉพาะ ที่สามารถออกสลิปเงินเดือนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ แถมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางกฎหมายในปัจจุบันได้อีกด้วย จึงถือเป็นอีกวิธีที่บางบริษัทห้างร้านได้ใช้ออกสลิปเงินเดือนให้กับพนักงานกันมากขึ้น แถมยังช่วยลดการใช้กกระดาษได้อีกด้วยล่ะ
ประโยชน์ของสลิปเงินเดือน ใช้ทำอะไร ได้บ้าง ?!
ประโยชน์ของ สลิปเงินเดือน หลักๆแล้ว แบบฟอร์มสลิปเงินเดือน สามารถใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ กับธนาคาร หรือ สถาบันการเงินต่างๆได้นั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการ กู้ยืมเงิน การขอสินเชื่อส่วนบุคคล หรือ การขอสินเชื่อในการซื้อ บ้าน รถยนต์ต่างๆ ไปจนถึงการรีไฟแนนซ์ หรือ สมัครบัตรเครดิตเพื่อใช้บริการบัตรเครดิต ก็จะต้องใช้สลิปเงินเดือนที่ได้เช่นกันเลยล่ะ
ที่สำคัญสลิปเงินเดือนยังสามารถใช้ยื่นภาษี เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นจ่ายภาษีในทุกๆเดือน หรือ ย้อนหลัง ไปจนถึงใช้เป็นหลักฐานในการยื่นสมทบกองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากร ได้อีกด้วยล่ะ
แถมสลิปเงินเดือนยังใช้เป็นหลักฐาน แสดงให้เห็นว่า เพื่อนๆได้รับเงินเดือนและเป็นลูกจ้างของบริษัท หรือ ห้างร้านต่างๆ ใช้เพื่อยืนยันว่าเป็นลูกจ้างและเคยทำงานกับบริษัทดังกล่าวจริงๆได้ แถมยังใช้ยื่นเป็นหลักฐานในการสมัครงานใหม่ เพื่อยืนยันว่าเคยทำงานกับบริษัท หรือห้างร้านต่างๆได้อีกด้วยล่ะ
“หนังสือรับรองเงินเดือน” คืออะไร ? แตกต่างกับ “สลิปเงินเดือน” ยังไง ?
“หนังสือรับรองเงินเดือน” จะไม่เหมือนกับ “สลิปเงินเดือน” เนื่องจากหนังสือรับรองเงินเดือน คือ ใบรับรองเงินเดือน เพื่อบอกว่า เพื่อนๆได้ทำงานกับบริษัทจริง และบอกรายได้ รวมทั้งอายุการทำงาน แต่จะไม่มีการแจกแจง หรือ ระบุรายละเอียดรายได้แต่ล่ะเดือน รวมทั้งหนังสือรับรองเงินเดือน ไม่ได้ออกประจำทุกเดือน เพื่อนๆสามารถขอหนังสือรับรองเงินเดือนกับบริษัทได้ตลอดเวลา ก็จะได้ข้อมูลอัตราเงินเดือนในปัจจุบัน รวมทั้งแสดงให้เห็นว่าเพื่อนๆเป็นพนักงานของบริษัทจริงๆนั้นเอง
หนังสือ รับรองเงินเดือน ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
- ชื่อหนังสือ ที่ระบุว่า เป็นหนังสือรับรองเงินเดือน
- ชื่อ นามสกุล ของพนักงาน ที่ออกหนังสือให้
- ชื่อบริษัทที่พนักงานทำงานอยู่
- ตำแหน่ง หน้าที่งานที่ทำ
- ระยะเวลาในการทำงาน วัน เดือน ปี ที่เริ่มทำให้จนถึงวันที่ปัจจุบันที่ออกหนังสือรับรองเงินเดือนและยังทำงานอยู่ หรือ จนถึงวันที่ที่ได้ออกจากงานแล้ว ในกรณีที่ไม่ได้ทำงานที่นั้นแล้ว
- ระบุความต้องการ หรือ เหตุผล ว่าจะเอาเอกสารไปใช้ทำอะไร เช่น ใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ หรือ ขอสินเชื่อธนาคาร หรือ ใช้ในงานราชการต่างๆ
- วันที่ในการออกเอกสาร
- ลงชื่อผู้อออกเอกสาร พร้อมตำแหน่ง และลงชื่อหัวหน้างาน หรือเจ้าของที่มีอำนาจในการออกหนังสือเงินเดือน
- ลงตราประทับของบริษัท ในกรณีที่บริษัทจะต้องลงตราประทับสำคัญเพื่อให้มีผลทางกฎหมายได้ ทั้งนี้แล้วแต่กฎของบริษัทนั้นๆ
เรียกได้ว่ารายละเอียดของหนังสือรับรองเงินเดือนก็มีมากเช่นกัน แม้จะไม่ได้แจกแจงรายจ่ายเหมือน สลิปเงินเดือนก็ตาม เพื่อนๆจะเห็นได้ชัดว่าแบบฟอร์มการเขียนหนังสือรับรองเงินเดือนนั้น จะแตกต่างกับสลิปเงินเดือนอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวล่ะ
ประโยชน์ของหนังสือรับรองเงินเดือน
หนังสือรับรองเงินเดือน กับ สลิปเงินเดือนมีประโยชน์ที่เหมือนกันบางอย่าง จะ สลิปเงินเดือนข้าราชการ หรือ พนักงานก็เหมือนกันตรงที่ การนำไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน โดยธนาคาร หรือ สถาบันทางการเงินบางแห่ง อาจจะต้องใช้หนังสือรับรองเงินเดือนเพื่อเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินด้วย ที่สำคัญหนังสือรับรองเงินเดือนยังใช้เพื่อขอวีซ่าในต่างประเทศ ไปจนถึงในเรื่องของการขอสินเชื่อต่างๆได้อีกด้วยล่ะ แม้แต่การสมัครบัตรเครดิตก็สามารถใช้หนังสือรับรองเงินเดือน เป็นหลักฐานได้เช่นเดียวกับสลิปเงินเดือนเลย ถือเป็นเอกสารที่จำเป็นมากๆเช่นกัน
สิ่งที่ควรรู้ ! หนังสือรับรองเงินเดือน มีอายุการใช้งาน
แม้ สลิปเงินเดือนจะสามารถใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงินบางอย่างได้ตลอด แต่สำหรับหนังสือรับรองเงินเดือนนั้น แตกต่างกับสลิปเงินเดือนอย่างสิ้นเชิง เพราะหนังสือรับรองเงินเดือนจะมีอายุการใช้งานด้วย โดยจะเริ่มนับจากวันที่มีการออกหนังสือ ซึ่งจะแตกต่างกันจากวัตถุประสงค์การใช้งาน ดังนี้ คือ
- หนังสือรับรองเงินเดือนใช้ยื่นเพื่อขอสินเชื่อ หรือ บัตรจากธนาคาร จะใช้งานได้ไม่เกิน 1 เดือน หรือ 30 วัน
- หนังสือรับรองเงินเดือนใช้ยื่นขอวีซ่า ส่วนใหญ่ จะใช้งานได้ไม่เกิน 1 เดือน หรือ 30 วัน โดยอาจจะต้องใช้เอกสารเป็นภาษาอังกฤษด้วย
- หนังสือรับรองเงินเดือน ที่จะใช้กับหน่วยงานราชการ จะใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน หรือ 90 วัน เท่านั้น
สลิปเงินเดือน และหนังสือรับรองเงินเดือน
สลิปเงินเดือน และหนังสือรับรองเงินเดือน ก็ถือเป็นเอกสารที่สำคัญในการใช้ทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆที่มีผลต่อกฎหมายเช่นกัน ทั้งยังสามารถใช้เป็นหลักฐาน เพื่อยืนยันว่าเพื่อนๆได้ทำงานและได้รับเงินเดือนได้อีกด้วย สลิปเงินเดือนที่เพื่อนๆได้แต่ล่ะเดือน หรือ หนังสือรับรองเงินเดือนที่สามารถขอได้ จากบริษัท หรือ ห้างร้าน รวมทั้งนายจากที่ทำงานด้วยนั้นก็ถือเป็นเอกสารที่ควรค่าแก่การเก็บไว้ และสำคัญเป็นอย่างมากอีกด้วยล่ะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม