คำปฏิญาณลูกเสือ กับความหมาย ที่ไม่มีใครรู้มาก่อน !?

คำปฏิญาณลูกเสือ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เพื่อนๆมักจะได้ท่องจดจำกันมาในช่วงเวลาสมัยเรียน ในวัยมัธยมกันใช่ไหมล่ะ กฎของลูกเสือสามัญ หรือ สำรอง นอกจากจะเป็นอีกวิชาที่เปรียบเสมือนวิชาทหาร ฝึกความอดทน หรือได้เรียนรู้นอกห้องเรียนแล้ว วิชาลูกเสือ ก็ยังเป็นวิชาที่ช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างครู นักเรียน รวมทั้งครู และ นักเรียนด้วยกันเองอีกด้วย แต่เพื่อนๆรู้ไม่ว่าคำปฏิญาณลูกเสือแต่ล่ะข้อที่ท่องๆมานั้นมีความหมายว่าอย่างไรบ้าง หากยังไม่รู้ ก็ไปดูความหมายที่คำปฏิญาณของลูกเสือ ต้องการจะสื่อบอกเพื่อนๆกันได้เลย

คำปฏิญาณลูกเสือ คืออะไร

คำปฏิญาณลูกเสือ มาจากวิชาลูกเสือที่เพื่อนๆได้เรียนกันมา ไม่ว่าจะเป็น กฎของลูกเสือสามัญ หรือ ลูกเสือสำรอง ในสมัยมัธยมนั้นเอง โดยคำปฏิญาณ เป็นเหมือนกฎ หรือ การที่เหล่าลูกเสือ หรือ นักเรียนได้ปฏิญาณตนว่าจะทำตามสิ่งที่ตนพูดอยู่ในกฎระเบียบหรือ ในศีลธรรมอันดีงาม ตามที่ให้คำปฏิญาณไว้ ทำให้การเรียนวิชาลูกเสือ มักจะมีการให้เหล่าลูกเสือ ได้ท่องคำปฏิญาณ ไปพร้อมๆกับการเรียนภาคปฏิบัติด้วยล่ะ

วิธีการให้คำปฏิญาณลูกเสือ

การให้คำปฏิญาณของลูกเสือ มักจะมีพิธีการ หรือ ระเบียบวินัยอยู่ด้วย โดยวิธีการให้คำปฏิญาณลูกเสือ เหล่าลูกเสือจะต้องอยู่ในท่าตรง โดยการยืนตัวตรงและนำมือทั้งสองข้างแบบข้างลำตัว เหมือนการยืนหน้าเสาธงตอนเช้านั้นเอง จากนั้นก็ทำการแสดงรหัส ด้วยวิธีการ ชูมือสามนิ้วด้านขวาขึ้นโดยยกมือให้ขนานกับลำตัว จากนั้นก็ทำการกล่าวคำปฏิญาณของลูกเสือได้

โดยวิชาลูกเสือ มีกฎและกติกามากมายก็เพื่อที่จะฝึกระเบียบวินัย รวมทั้งความอดทนในการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และวิธีการเอาตัวรอดไปจนถึงการใช้ชีวิตพื้นฐานกันด้วย

การกล่าว คำปฏิญาณของลูกเสือ ทำไมต้องชูสามนิ้ว ?

การกล่าวคำปฏิญาณของลูกเสือ หรือ การพูดกฎของลูกเสือสามัญ หรือ สำรอง เหตุผลที่ต้องชูสามนิ้ว ก็เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์กับลูกเสือทั่วโลก ถึงการให้คำปฏิญาณต่างๆร่วมกัน หรือสื่อถึงการเข้าใจความหมายในสิ่งที่พูดร่วมกันนั้นเอง หรือ เรียกง่ายๆว่าการแสดงจุดยืนการให้คำปฏิญาณตน ว่าจะทำในสิ่งที่กล่าวคำปฏิญาณนั้นร่วมกันด้วย

ความหมาย คำปฏิญาณของลูกเสือ

กฎของลูกเสือสำรอง

ข้อ 1. ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ข้อแรกคือ การแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเบื้องต้นของเหล่าลูกเสือ เพราะความจงรักภักดี ก็คือ การเคารพ นับถือ ยกย่อง และหมายความไปถึงการปกป้องรักษาไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

ชาติ ก็คือประเทศชาติ หรือ ประเทศไทยบ้านเรานั้นเอง ทั้งยังหมายถึงการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นประชาชน ไปจนถึงวัฒนธรรมที่กลายมาเป็นชาติจนถึงทุกๆวันนี้

ศาสนา ก็คือ ศาสนาที่เพื่อนๆใช้เป็นที่ยึดแนวจิตใจ หรือ ใช้เป็นหลักคำสอนการยึดหมั่น ถือหมั่นในการไม่เบียดเบียน หรือ สร้างจิตสำนึกให้ไม่ทำเรื่องผิดศีลธรรมอันดี และไม่เบียดเบียนผู้อื่นในสังคมด้วย

พระมหากษัตริย์ ก็คือสถาบันที่คนไทยยกย่องนับถือกันมาแต่ช้านั้น ซึ่งทั้งสามสถาบันคือที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือ แสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเพื่อนๆลูกเสือนั้นเองล่ะ

ข้อ 2. ข้าจะยึดมั่นในกฎของลูกเสือสำรองและบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นทุกวัน

ข้อนี้ก็คือการที่ลูกเสือสำรองปฏิญาณตนว่าจะยึดมั่นในกฎของลูกเสือสำรอง หรือจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือสำรองที่ได้ให้คำปฏิญาณไว้ และจะบำเพ็ญประโยชน์ คือ การให้ความช่วยเหลือสังคม หรือ เพื่อนมนุษย์อยู่เสมอ

กฎของลูกเสือสำรอง

1.ลูกเสือสำรองทำตามลูกเสือรุ่นพี่

คือ ลูกเสือสำรองจะทำตามลูกเสือรุ่นพี่ หรือ ดูลูกเสือรุ่นพี่เป็นแบบอย่างนั้นเอง แต่ข้อนี้น่าจะหมายถึง ทำตามในเรื่องที่เหมาะที่ควรและไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี หรือ เดินตามเฉพาะเรื่องที่ดีและไม่สร้างความเดือดร้องให้กับตนเองและผู้อื่นด้วย

2.ลูกเสือสำรองไม่ทำตามใจตนเอง

กฎข้อนี้น่าจะออกมาเพื่อฝึกระเบียบวินัยให้กับลูกเสือสำรอง เพื่อให้ลูกเสือสำรองมีระเบียบวินัยในตัวเอง และไม่ทำตามใจของตัวเองมากเกินไป ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำตามใจตัวเองไม่ได้ แต่น่าจะหมายถึงแค่ตอนที่เรียนวิชาลูกเสือ วิชานี้เพียงเท่านั้น

ลูกเสือสามัญ, , ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่, ลูกเสือวิสามัญ

ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า

ข้อ 1. ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

หมายความเช่นเดียวกับกฎของลูกเสือสำรอง ก็คือการปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดี แสดงความเคารพนับถือ ไปจนถึงปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ชาติ หมายถึงประเทศชาติ วัฒนธรรม และประชาชน อันเป็นสิ่งที่รวมกันมาเป็นชาติจนถึงทุกวันนี้ ส่วนศาสนา ก็คือ ศาสนาที่เพื่อนๆทุกคนนับถือหรือใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และ สถาบันพระมหากษัตริย์ คือสถาบันที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือกันมาตั้งแต่ช้านาน การแสดงความจงรักภักดี ก็เพื่อนจะแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของเหล่าลูกเสือนั้นเอง

ข้อ 2. ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ

คือ การมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับเพื่อนมนุษย์ ด้วยการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่น เมื่อมีโอกาสที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้อื่นมาขอความช่วยเหลือ หรือ เห็นผู้อื่นต้องการความช่วยเหลือ แต่การให้ความช่วยเหลือนี้จะต้องเป็นการที่ไม่ทำให้ตัวเราเองได้รับความเดือดร้อน หรือ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองด้วย

ข้อ 3. ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

คือการให้คำปฏิญาณตนว่าเพื่อนๆจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือที่ได้กล่าวคำปฏิญาณไว้นั้นเอง

กฎของลูกเสือ สามัญ, ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่, ลูกเสือวิสามัญ

ข้อ 1. ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้

คือ ลูกเสือจะต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เป็นคนซื่อตรงและมีความน่าเชื่อถือ หรือ เป็นผู้ที่ปฏิบัติตนตรงไปตรงมาและสามารถทำให้ผู้อื่นไว้ใจได้นั้นเอง

ข้อ 2. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ

คือ การแสดงความเคารพนับถือต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไปจนถึงผู้มีพระคุณด้วย

ข้อ 3. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น

คือ การให้ความช่วยเหลือผู้อื่นโดยที่ตนเองไม่เดือดร้อน หรือ การเห็นแก่ประโยนช์ส่วนรวมนั้นเอง

ข้อ 4. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก

เพื่อนๆจะต้องเป็นมิตรกับผู้อื่นซึ่งหมายถึงเป็นมิตรกับลูกเสือทุกคน และลูกเสือทั่วโลกนั้นเอง

ข้อ 5. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย

มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่ทำการใดๆที่ก่อกวน หรือ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่น หรือสังคม

ข้อ 6. ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์

การไม่เบียดเบียนชีวิตของสัตว์ ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ร่วมโลกกับเราด้วย

ข้อ 7. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ

ลูกเสือควรเชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ ไปจนถึงผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่มีประสบการณ์มามากกว่า ด้วยความเคารพและนับถือ

ข้อ 8. ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

ลูกเสือควรที่จะมีใจร่าเริงและสดใสอยู่เสมอ เพื่อสามารถเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ หรืออุปสรรคต่างๆที่พบเจอได้ และไม่ควรย่อท้อต่อความยากลำบาก เพื่อที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถใช้ชีวิตให้ประสบความสำเร็จในอนาคตได้อีกด้วย

ข้อ 9. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์

ลูกเสือควรใช้จ่ายอย่างประหยัด หรือ รู้คุณค่าของเงินที่ใช้จ่ายนั้นเอง

ข้อ 10. ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ

ลูกเสือควรมีความประพฤติหรือปฏิบัติไปในทางที่ชอบ คือการปฏิบัติตนเป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นและตัวเองทั้งด้วยการกระทำที่เกิดจากกาย และวาจาในเรื่องของคำพูด ไปจนถึงจิดใต้สำนึกอันเป็นเรื่องของใจนี้ด้วย

กฏของลูกเสือ

สำหรับกฎของลูกเสือ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการเรียนวิชาลูกเสือของเพื่อนๆ ทั้งนั้นชั้นประถมไปจนถึงชั้นมัธยมต้นด้วย นอกจากกฎของลูกเสือ ถือเป็นคำสอนและมีความหมายในเชิงฝึกระเบียบวินัย โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้ทุกคนมีระเบียบวินัยกันแล้ว ก็ถือเป็นอีกวิชาที่มีประโยชน์ สอนเพื่อนๆทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิต รวมไปถึงมิตรภาพ แถมยังช่วยสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนมีระเบียบวินัยในสังคมได้อีกด้วยล่ะ ใครที่ยังไม่รู้ความหมายของกฎของลูกเสือ รู้แบบนี้แล้วก็น่าจะเข้าใจเหตุผลที่มีวิชานี้ในการเรียนการสอนกันมากขึ้นกว่าเดิมเลยใช่ไหมล่ะ

📚 อ้างอิง (Reference Sites)

📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)

• https://www.bspc.ac.th/files/2106091313172131_22070222220609.pdf

📕 อ้างอิงรูปภาพ

• https://scout.nma6.go.th/2409

เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม