ในประเทศไทย จะมี วันผู้สูงอายุ ที่จะมีในวันที่ 13 เมษายน หรือก็คือ ช่วงวันสงกรานต์นั่นเอง โดยวันนี้ก็จะเป็นวันที่ครอบครัวมารวมตัวกัน เพื่อทำความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ผ่านการให้ดอกมะลิ และสรงน้ำอบหอม ๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นใจให้กับคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี ทีนี้ทุกคนอาจจะสงสัยว่ารายละเอียดเกี่ยวกับ วันผู้สูงอายุ มีประเด็นอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหรือไม่ สามารถติดตามอ่านบทความข้าวตังต่อได้เลย
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ วันผู้สูงอายุ ให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับ วันผู้สูงอายุ ที่วันนี้คนส่วนใหญ่จะกลับมาเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุที่อยู่ต่างจังหวัด ส่วนมากในตอนเช้ามักจะตื่นมาใส่บาตร และก็มีการสรงน้ำอบให้กับวัยสูงอายุโดยลูกๆ หลานๆ มาอวยพระให้แข็งแรง อายุยืนยาว นอกจากนี้ดอกลำดวน ยังเป็นตัวแทนสำคัญของผู้สูงอายุ เพราะให้ร่มเงาดี มีกลิ่นหอม และแข็งแรง มั่นคง ตลอดปี
วันผู้สูงอายุ ของประเทศไทยเรานั้น ถูกกำหนดโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เน้นให้ความสำคัญเรื่องผู้สูงอายุ เพื่อให้ลูกหลานได้กลับมาเยี่ยมเยียน ให้จิตใจของผู้สูงอายุแช่มชื่น รวมไปถึงสุขภาพร่างกายต่างๆ ที่สามารถพาผู้สูงอายุไปตรวจได้ ซึ่งถือว่าเป็นการตระหนักชีวิตของผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยผู้ที่ถูกจัดว่าเป็นผู้สูงอายุนั้น ก็คือคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขึ้นไปนั่นเอง
เจาะลึกสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการในบั้นปลายชีวิต
สำหรับใครที่มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน หรือพ่อกับแม่เข้าสู่วัยผู้สูงอายุ การให้การดูแลไม่จำเป็นที่จะต้องทำใน วันผู้สูงอายุ เท่านั้น แต่ขอแนะนำว่าควรเน้นดูแลเอาใจใส่ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจให้ดี รวมไปถึงเน้นโฟกัสไปหาความต้องการของผู้สูงอายุว่ามีอะไรที่ต้องการในบั้นปลายชีวิตหรือไม่ จากการค้นคว้าหาข้อมูลสามารถสรุปได้ดังนี้
1.ดูแลโภชนาการผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญ
อาหารการกินของผู้สูงอายุนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสุดที่จำเป็นจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะร่างกายหลายๆ จุดของผู้สูงอายุจะมีการเสื่อมโทรมลงทุกวัน ถ้าหากบำรุงสม่ำเสมอก็จะช่วยต่อความแข็งแรงในด้านต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสายตา เรื่องของความจำ หรือแม้แต่พละพลังก็นับเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อย พร้อมทั้งต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ควรทานด้วยเช่นกัน เพราะอาจส่งผลสุขภาพได้ในอนาคต
2.พาออกกำลังกายให้แข็งแรง
อีกอย่างหนึ่งที่ผู้สูงอายุต้องการคือมีร่างกายที่แข็งแรง ดังนั้นการพาออกกำลังกายนับว่าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยให้ร่างกายของผู้สูงอายุขยับเขยื้อนตัวได้ดีขึ้น ส่งเสริมต่อพลังภายในร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถสร้างกล้ามเนื้อเพิ่ม ลดการเสื่อมของข้อเข่าได้เป็นอย่างดี และยังส่งเสริมให้อวัยวะภายในต่างๆ แข็งแรงอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องออกแบบการออกกำลังกายให้กับผู้สูงอายุที่เหมาะสมจะต้องดูความแข็งแรงของผู้สูงอายุคนนั้นๆ ด้วย การออกกำลังกายอาจเป็นการออกเฉพาะส่วนก็ได้ หรือจะเป็นการออกกำลังกายทั่วไปก็ได้เช่นกัน
3.ให้ได้สัมผัสพื้นที่สีเขียวและอากาศบริสุทธิ์
สิ่งที่สามารถสร้างความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดีกับผู้สูงอายุก็คือธรรมชาติ หรือก็คือพื้นที่สีเขียว รวมทั้งอากาศบริสุทธิ์เพราะไม่เพียงแต่ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว ยังได้รับออกซิเจนดีๆ ที่ส่งผลดีต่อร่างกายในหลายๆ ด้าน นอกจากนี้ยังส่งเสริมในเรื่องของสภาพจิตใจที่สามารถคลายกังวล ผ่อนคลายความเครียด และทำให้จิตใจสดชื่น แจ่มชัดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สิ่งนี้จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกดีกับตัวเองมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
4.หากิจกรรมสนุกๆ ให้ผู้สูงอายุได้เล่น
การหากิจกรรมสนุกๆ หรืองานอดิเรกที่ครั้งหนึ่งผู้สูงอายุชื่นชอบก็นับว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ หากได้ทำกิจกรรมเหล่านั้น เพราะไม่เพียงแต่ร่างกายได้ขยับเขยื้อน จิตใจรู้สึกดีที่ได้ทำสิ่งที่ชอบ หรือได้อยู่กับลูกกับหลาน ที่สำคัญยังกระตุ้นการทำงานของสมองให้เป็นไปได้ด้วยดี หรือก็คือเพิ่มทักษะการจดจำมากยิ่งขึ้น เพราะถ้ายิ่งเป็นผู้สูงอายุเยอะมากขึ้นเท่าไหร่ ปัญหาด้านความจำก็อาจเกิดขึ้นได้เมื่อนั้น การหากิจกรรมที่เน้นช่วยเรื่องสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ
5.สนทนาถามไถ่ทุกวันด้วยความรัก
การพูดคุยหรือการถามไถ่ว่าแต่ละวันเป็นอย่างไรบ้าง ทำอะไรบ้าง มีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร ร่างกายเจ็บป่วนตรงไหนหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นการแสดงความรักที่ถือว่าเป็นการใส่ใจในผู้สูงอายุ ในจุดนี้จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกดีเป็นคนสำคัญ ทุกคนยังเห็นคุณค่าในตัวเขา ห่วงใยเขา และยิ่งมีการสัมผัสด้วยภาษากายด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้รู้สึกดีขึ้นไปอีก เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
วิธีสร้างความสัมพันธ์กับผู้สูงอายุอย่างไรให้ดีขึ้น
เมื่อได้รู้ความต้องการของผู้สูงอายุส่วนใหญ่แล้ว ในส่วนนี้จะแนะนำวิธีการสร้างความสัมพันธ์กับผู้สูงอายุ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต้องใช้เวลา และความเข้าใจเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากมองดี ๆ ก็เหมือนว่าเราอยู่คนละเจนเนอเรชั่น ดังนั้นความคิดความอ่านของผู้สูงอายุ จะแตกต่างกับเด็กสมัยใหม่เป็นอย่างมาก แต่ถ้าอยากจะสร้างความสัมพันธ์ดี ๆ ก็มีวิธีการดังต่อไปนี้
1.ชวนดูรูปภาพแห่งความทรงจำเก่าๆ
คงจะดีไม่ใช่น้อย หากทุกคนในบ้านมารวมตัวกัน ค้นหารูปเก่าๆ แล้วนำไปถามผู้สูงอายุ ว่าคิดสิ่งใด จำเหตุการณ์ในภาพได้หรือไม่ ในจุดนี้ถือว่าเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีมากๆ ให้กับครอบครัวได้ทุกเพศ ทุกวัยสุดๆ ที่สำคัญยังทำให้นึกถึงเรื่องราวดีๆ มากมายที่ทำให้ทุกคนได้เพลิดเพลิน สนุกสนาน และอิ่มเอมใจเป็นอย่างแน่นอน หากมีเวลารีบไปทำการหารูปเก่าๆ แล้วมาแชร์ความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อกันได้เลย
2.ทำงานอดิเรกด้วยกันกับผู้สูงอายุ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถเสริมความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดี คือ การทำงานอดิเรกของผู้สูงอายุร่วมด้วยกัน ผู้สูงอายุบางคนอาจจะชอบดูแลสวน ก็ชวนคนในครอบครัวมาร่วมทำด้วยเพื่อเพิ่มความสนุกสนาน ถ้าหากผู้สูงอายุชอบวาดภาพ ก็มานั่งวาด นั่งเล่นด้วยกัน หรือถ้าหากแต่ก่อนผู้สูงอายุชื่นชอบการอ่านหนังสือ ก็สามารถให้คนในครอบครัวมาอ่านหนังสือให้ฟังได้เช่นกัน งานอดิเรกเหล่านี้ถือว่ามีค่ามากมาย ที่จะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกดีได้แบบสุดๆ
3.พูดคุยสื่อสารในเชิงบวกเท่านั้น
ในการสื่อสารสิ่งที่ให้ความสำคัญได้เป็นอย่างดีที่สุด ก็คือการพูดคุยในเชิงบวก เพื่อสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับคนในบ้านได้อย่างสม่ำเสมอ และหากมีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน แม้ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาก็จะสัมผัสแต่สิ่งดีๆ ได้อีกด้วย ซึ่งถ้าเป็นในกรณีที่ผู้สูงอายุอยู่ในวงสนทนาการสื่อสารเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าสื่อสารเชิงลบอาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งในด้านร่างกายและจิตใจได้นั่นเอง ดังนั้นการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญและไม่ควรใช้อารมณ์ใดๆ เป็นอันขาด
4.มีเวลาให้ในทุกวันสร้างความสำคัญ
ความสม่ำเสมอแสดงให้เห็นถึงความสำคัญ ความใส่ใจ และความรักได้เป็นอย่างดี ดังนั้นคนในครอบครัวทุกคนควรมีเวลาให้ผู้สูงอายุทุกวัน แต่ละคนอาจกำหนดช่วงเวลาให้เลยก็ได้ เช่น เย็นนี้ฉันจะอยู่กับผู้สูงอายุ และจะไม่ทำอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ เพราะสิ่งนี้ นอกจากจะช่วยคลายเหงา คลายความคิดมากให้กับผู้สูงอายุแล้ว ยังทำให้ตัวผู้สูงอายุรู้สึกได้รับความรักดีๆ อีกด้วย ซึ่งการให้เวลาคือสิ่งสำคัญ อย่าเอาเวลานั้นปล่อยผ่านไปเป็นอันขาด
5.แสดงความรักอย่างซื่อตรง
กรแสดงความรักอย่างซื่อตรง คือ สิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุเข้าใจในสิ่งที่เราสื่อสารได้ อย่างเช่น การพูด ที่สามารถบอกรัก บอกความห่วงใส บอกความรู้สึกดีๆ ได้ หรือสามารถสื่อสารผ่านทางภาษากาย อย่างการ จับมือ ลูบหลัง โอบกอด ก็ได้ด้วยเช่นกัน อันนี้คือการแสดงความรักตรงๆ ที่ทุกคนสามารถเข้าใจง่ายๆ ไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงแบบซับซ้อน เข้าใจยาก เพราะผู้สูงอายุอาจคิดไปอีกทาง หรือไม่เข้าใจเรื่องของการแสดงความรักนอกเหนือจากนี้ได้นั่นเอง
สรุปบทความ
สำหรับใครที่ไม่มีเวลาให้ครอบครัวที่อยู่ห่างไกล หรือผู้สูงอายุ การที่จะให้ความสำคัญในเรื่อง วันผู้สูงอายุ หรือก็คือ วันที่ 13 เมษายน นับเป็นวันที่เหมาะสมที่สุดที่จะไปเคารพ สร้างความสุขในครอบครัว ได้เห็นถึงความรักและความกลมเกลียว และที่สำคัญหากครอบครัวไหน อยากจะวางแผนทริปเพื่อไปเที่ยว ไปพักผ่อน หรือไปร้านอาหารมื้อพิเศษก็สามารถทำได้เหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดหากเรามีเวลาก็ควรให้ความสำคัญกับผู้สูงบ่อย ๆ นับว่าเป็นอะไรที่ดีกว่า
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.mea.or.th/public-relations/press-media/infographics/x1BKWVDpZ
- https://www.thaipbs.or.th/now/content/113
- https://www.gj.mahidol.ac.th/main/knowledge-2/nutrition/
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://www.pexels.com/photo/adult-affection-baby-child-302083/
- https://www.pexels.com/photo/cheerful-senior-mother-and-adult-daughter-using-smartphone-together-3791664/
- https://www.pexels.com/photo/positive-senior-man-in-formal-wear-and-eyeglasses-hugging-with-young-lady-while-sitting-at-table-3823497/