การดื่มเบียร์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความนิยมในไทยเป็นอย่างมาก ไม่แพ้แอลกอฮอล์ประเภทอื่น ๆ เนื่องจากหาซื้อง่าย แถมเบียร์ใน 7-11 ไทยก็ราคาเริ่มต้นแค่เพียงหลักสิบเท่านั้น ในปัจจุบันมีการพัฒนาเบียร์กระป๋องออกมาหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบที่รูปลักษณ์สวยงาม แพ็กเกจดึงดูด รวมไปถึงมีรสชาติที่แปลกใหม่ไปจากเดิม ดังนั้นสำหรับใครที่อยากจะเลือกซื้อเบียร์ใน 7-11 ไทยเราอยากให้คุณลองอัปเดตผ่านบทความนี้ก่อนว่ามีเบียร์อะไรที่น่าซื้อมาลองบ้าง เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การดื่มเบียร์แบบใหม่ ๆ โดยจะมีเบียร์ยี่ห้ออะไรบ้างที่เรารวมมาแนะนำก็ไปติดตามในบทความนี้ได้เลย
10 เบียร์ใน 7-11 ไทยที่ได้รับความนิยม มาแรงจนไม่ควรพลาด
ถ้าให้แนะนำเบียร์ที่วางขายใน 7-11 ประเทศไทย ต้องบอกเลยว่ามีเบียร์หลายยี่ห้อเลยที่น่าซื้อมาลองชิมเป็นอย่างมาก โดยในบทความนี้เราจะเลือกมารีวิวเบียร์ใน 7 11 ทั้งหมด 10 ยี่ห้อ รับรองว่าจะมีหลากหลายรูปแบบ ชอบสไตล์ไหนก็ไปลองกินกันได้ เพื่อให้ทุกคนหาคำตอบได้ว่าเบียร์ใน 7-11 อันไหนอร่อย อันไหนน่าซื้อมาดื่ม ถ้าอ่านบทความของเราจบจะทำให้คุณได้เบียร์ที่น่าดื่มกลับไปอย่างแน่นอน โดยจะมียี่ห้อไหนบ้างไปลองติดตามจาก 10 ยี่ห้อที่เราคัดสรรมาให้ได้เลย
- Kiss Me Deadly
“Kiss Me Deadly” นับว่าเป็นเบียร์ที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก ส่วนผสมหลักจะมาจากฮอปและข้าวสาลี แต่สิ่งที่ทำให้ตัวนี้แตกต่างจากตัวอื่น ๆ คือ กลิ่นลิ้นจี่ที่ใส่มาแบบอ่อน ๆ เพิ่มความหอม อร่อย กลมกล่อมให้มากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีความขมเล็กน้อย แต่โดยรวมนับว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่น่าหามาดื่มเป็นอย่างมาก เชื่อว่าจะเป็นรสชาติที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนแน่นอน ถ้ากำลังมองหาเบียร์รสชาติดีต้องตัวนี้เลย
- Asahi
เบียร์ญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Asahi ก็มีวางจำหน่ายใน 7-11 เหมือนกัน นับว่าเป็นตัวที่ขายดีอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลย เพราะตัวนี้วัตถุดิบคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับความนุ่มละมุนลิ้น เชื่อว่าใครได้ลองชิมรสชาติของเบียร์ตัวนี้จะสัมผัสได้เลยว่าแตกต่างจากเบียร์ไหนยี่ห้ออื่น ๆ เพราะถึงแม้จะมีความขม แต่เป็นความขมที่กลมกล่อม สมกับการที่ Asahi ได้ชื่อว่าเป็นเบียร์ที่ขายดีอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลย
- Hoegaarden
“Hoegaarden” เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อเบียร์ที่วางขายใน 7-11 ของไทย ซึ่งเบียร์ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์โปรดของสาว ๆ หลายคน โดยเฉพาะตัว Hoegaarden Rosee เชื่อว่าถ้าพูดถึงตัวนี้จะมีหลายคนที่ช่วยรีวิวกันเพียบเลย รสชาติจะมีความหวาน กลิ่นหอมทานง่าย แถมยังมีรสชาติหวานของข้าวโอ๊ตที่ทำให้เบียร์มีความอร่อยมากขึ้นอีกด้วย โดยจะขายอยู่ที่กระป๋องละ 99 บาท ความเข้มข้นของ Hoegaarden อยู่ที่ประมาณ 4.5% – 5% มีส่วนผสมหลักเป็นส้ม, ข้าวสาลี และข้าวโอ๊ต
- Singha Craft
“Singha Craft”เป็นเบียร์แบบถัดไปที่จะแนะนำ ซึ่งกระป๋องจะมีทั้งหมด 4 ลาย ปกติเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยกินเบียร์สิงห์มาก่อนแล้ว แต่ถ้าพูดถึงที่เป็นคราฟอาจจะยังไม่เคย เราต้องอธิบายว่า Singha Craft จะต่างจากเบียร์ปกติ เพราะมีความเข้มข้น และกลิ่นที่หอมหวานมากกว่า ราคาจะอยู่ที่กระป๋องละ 119 บาท ความเข้มข้น 5%
- Leo Craft
ถ้าอยากดื่มเบียร์ใน 7-11 ไทยโดยเน้นที่รสชาติเบา ๆ ดื่มแล้วเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เราแนะนำเป็น Leo Craft ซึ่งตัวนี้จะมีความเข้มข้น 4.5% ราคา 109 บาท เป็นตัวที่เราคิดว่าเหมาะกับคนไทยเป็นอย่างมาก จิบเบา ๆ คู่กับมื้ออาหารช่วงเย็นก็ได้ เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน
- Snowy
เบียร์ของ Snowy เป็นอีกหนึ่งตัวที่เราอยากแนะนำ เพราะเป็นเบียร์ที่มีความเข้มข้น มาพร้อมกับรสชาติที่หอมหวานของมอลต์ด้วย ความเข้มข้นของตัวนี้จะอยู่ที่ 6% มีให้เลือกทั้งหมด 3 รสชาติได้แก่ Yuzu, Weizen และ Rose ตัวนี้จะเป็นเบียร์ที่ทำจากมอลต์ คนส่วนใหญ่ที่ชอบดื่มยี่ห้อนี้จะเรียกว่าเป็นเบียร์หมีนับว่าเป็นอีกหนึ่งเบียร์คราฟที่เราอยากแนะนำเลย รับรองว่ารสชาติดี เข้ากับมื้ออาหารแบบสุด ๆ
- Kopper Craft
เอกลักษณ์ของ Kopper ก็คือ การสร้างความแตกต่างจากคนอื่น เพราะเป็นเบียร์ที่ใช้กระป๋องเป็นสีทองแดง มีความหอม รสชาติเข้มข้น โดยความเข้มข้นจะอยู่ที่ 5% ตัวนี้แม้ว่าชื่อจะแตกต่างไปจากเดิม แต่ผู้ผลิตก็คือ บริษัทสิงห์ คอร์เปอร์เรชั่นที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สำหรับราคาของเบียร์คราฟ 7-11 ตัวนี้จะวางจำหน่ายอยู่ที่ราคา 69 บาท
- Cheers Selection
คิดว่าหลายคนอาจจะคุ้นชื่อเบียร์ Cheer Selection กันอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเบียร์ที่วางจำน่ายใน 7-11 ไทยแล้ว กระป๋องจะมีทั้งหมด 2 รูปแบบ คือ รูปยักษ์สำหรับกระป๋องสีขาว และรูปไก่ฟ้าสำหรับกระป๋องที่เป็นสีดำ นับว่าเป็นเบียร์ Weizen ที่น่าลองชิมเป็นอย่างมาก ความเข้มข้นจะอยู่ตั้งแต่ 4% – 5% แม้ว่าเบียร์ตัวนี้รสชาติจะเบาไปบ้าง แต่ก็เหมาะกับคนที่อยากจะดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายเป็นอย่างมาก ใครที่รู้สึกว่าตัวเองเมาง่ายเราแนะนำตัวนี้เลย
- MY Beer
ถัดมาที่จะแนะนำคือ “My Beer” อีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้เป็นอย่างดี ความเข้มข้นของยี่ห้อนี้จะอยู่ที่ 4.5% เหมาะกับคนที่อยากจะสังสรรค์ช่วงหลังเลิกงาน แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเองเมามากจนเกินไป แค่จิบ My Beer สัก 1-2 กระป๋องก็จะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายความเครียดแล้ว นับว่าเป็นคราฟทเบียร์ลูกรักอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยากแนะนำให้คุณลอง
- Full Moon Malt
Full Moon Malt เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกหนึ่งตัวที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอร่อย แถมยังเป็นเครื่องดื่มที่ออกใหม่ในช่วงนี้ สไตล์ฟรุ๊ตเบียร์ ใครที่อยากกินเบียร์ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติอร่อย แนะนำว่าให้ลองซื้อตัวนี้มากินกันดู คุณจะต้องถูกใจแน่นอน ส่วนราคาของตัว Full Moon Malt ก็ไม่ได้แพงแบบที่คิด แค่เพียงกระป๋องละ 39 บาทเท่านั้น แต่มาพร้อมกับความอร่อยเกินคาดคิดเลย ได้ลองสัมผัสเชื่อว่าคุณจะติดใจกับรสชาติ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ไม่ชอบรสชาติขมลองเปิดใจมากินตัวนี้ก่อนจะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดจากการที่ไม่ชอบกินเบียร์ได้แน่นอน
รวมเรื่องน่ารู้ที่คอเบียร์ห้ามพลาด เบียร์มีแบบไหน กินเบียร์ยังไงให้อร่อย?
หลังจากที่ไปดูรายชื่อเบียร์ใน 7-11 ของไทยที่น่าซื้อมาดื่มแล้ว เราก็อยากจะให้คอเบียร์ทั้งหลายได้เจาะลึกเกี่ยวกับเรื่องเบียร์ให้มากยิ่งขึ้น โดยได้รวบรวมมาฝากว่าเบียร์คืออะไร เบียร์ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เบียร์มีประเภทไหนบ้าง และการดื่มเบียร์ดื่มแบบไหนแล้วจะอร่อย หากอยากรู้ก็ลองมาหาคำตอบจากบทความนี้ได้ รับรองว่าจะทำให้คอเบียร์ได้ความรู้ดี ๆ กลับไปอย่างแน่นอน
- ส่วนประกอบของเบียร์มีอะไรบ้าง?
เรื่องแรกที่เชื่อว่าหลายคนอยากรู้เกี่ยวกับเบียร์คือ ส่วนประกอบมีอะไรบ้าง ในเบียร์จะมีส่วนประกอบหลัก ๆ ทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ น้ำซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส่วนประกอบประมาณ 90% เป็นต้นไป ฮอบส์ดอกไม้ที่จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์และรสชาติให้กับเบียร์ มอลต์หรือข้าวบาร์เลย์เป็นข้าวที่จะทำให้เกิดน้ำตาลยีสต์ขึ้น และยีสต์ตัวจุลินทรีย์ที่กินน้ำตาลในข้าวบาร์เลย์เข้าไปและแปลงให้กลายเป็นแอลกอฮอล์
- ประเภทหลักของเบียร์แบ่งได้กี่แบบ อะไรบ้าง?
สำหรับเบียร์จะแบ่งหลัก ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ เบียร์เอลล์ และเบียร์ลาเกอร์ ซึ่งเบียร์เอลล์จะเป็นเบียร์ที่หมักด้วยยีสต์ที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศาเซลเซียสไปจนถึง 15 องศาเซลเซียส เวลาที่ใช้ในการหมักจะอยู่ที่ประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์ สีจะเข้มและมีความเข้มข้นมากกว่าแบบเอลล์ ส่วนเบียร์เอลล์จะเป็นเบียร์ที่หมักยีนส์ก้นถัง หมักด้วยอุณหภูมิไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส จะมีความใสและเรียบเนียน ใช้เวลาหมักประมาณ 4 สัปดาห์ ที่สำคัญประเภทนี้เหมาะกับอากาศของประเทศไทยเป็นอย่างมาก
- แนะนำทริคการดื่มเบียร์ให้อร่อยมากขึ้น
ถ้าหากเป็นเบียร์ขวดหรือเบียร์กระป๋องควรจะรีบดื่มหลังจากผลิตภายใน 3 ถึง 4 เดือน เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เสียกลิ่นหรือเสียรสชาติได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาเบียร์คือ 4.5 องศาเซลเซียสไปจนถึง 21 องศาเซลเซียส ที่สำคัญควรจะเก็บเบียร์ให้ห่างไกลจากแสงแดดเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ ถ้าอยากได้รสชาติของเบียร์แท้ ๆ ให้ใส่แก้วที่มีความเย็นหรือน้ำไปแช่เย็นไม่ควรจะใส่น้ำแข็งลงไป และสุดท้ายอยากแนะนำว่าถ้าจะกินเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์สูงควรจะกินกับอาหารรสจัดหรืออาหารหนัก ๆ เช่น สเต๊ก และซูชิ
จาก 10 เบียร์ที่วางจำหน่ายใน 7-11 ของประเทศไทยที่เรารวมมาฝาก อยากจะบอกทุกคนว่าจริง ๆ แล้วเบียร์ไม่ได้มีแค่แบบที่รสชาติขมเท่านั้น แต่ยังมีพัฒนาเครื่องดื่มออกมาหลากหลาย แม้ว่าคุณจะไม่ใช่คนที่ชอบดื่มเบียร์มากนัก แต่ก็อยากให้ลองเปิดใจมาชิมรสชาติเบียร์ทั้ง 10 ยี่ห้อที่เราแนะนำก่อน อาจจะพบยี่ห้อที่คุณถูกใจก็ได้ เราคัดมาให้แบบเน้น ๆ เลือกตัวที่ขายดีมาให้ทั้งนั้นเลย เบียร์เหล่านี้อาจกลายเป็นเบียร์โปรดของคุณก็ได้ลองซื้อมากินดูก่อนแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.tsunagujapan.com/th/review-beer-in-7-11-japan/
- https://www.beervadsadu.com/content/4597/เบียร์มีกีประเภท-คอเบียร์ตัวจริงต้องรู้
- https://beerthaigointer.com/แนะนำเบียร์7-11/
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://pintplease.s3.eu-west-1.amazonaws.com/post/original/post_906680-1.jpg
- https://www.beerpronto.co.uk/cdn/shop/products/AsahiCan_750x.png?v=1675326288
- https://lh5.googleusercontent.com/6yODXgEnvyS_zCJ05GQdXC40rq2WLJm8o56uSsAcEJ3w7CMTKuwpTJQeNPDCRRzryG4T3sNbxCS2D6Q7UBnFMTIk5oNoBUmdYK3R8YuqoPphaHF2QXPvo3l-5JaTxG2LQKHUCvsO9u8zPCrXDZMeNY1OVwvalY1j9GxQ2Ab56ULjhiOhQgda9G1Ui3k-VKYUtNAx0JAWJw