“ดนตรีนั้นคือชีวิต” ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนนั้นต้องเคยได้ยินคำพูดนี้อย่างแน่นอน หนึ่งในความจริงที่ต้องเผชิญเลยก็คือ โลกใบนี้มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน โหดร้ายจนต้องร้องขอชีวิต แต่ผู้คนนั้นก็ยังโชคดีที่ว่ายังมีสิ่งที่เรียกว่าดนตรีและเสียงเพลงมาขับกล่อมผู้คนบนโลกให้มีความสุข มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป ซึ่งบางครั้งคำว่าดนตรีอาจหมายถึงชีวิตจริงๆก็ได้ และสิ่งที่เรียกว่าดนตรีนั้นอยู่ควบคู่บนโลกของเรามาแล้วหลายสิบปีด้วยกัน ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้สร้างเกิดแรงบันดาลใจในการนำเสียงเพลงและดนตรีมาใส่ในโลกของภาพยนตร์และซีรีส์หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งก็มีครบทั้งสุขและเศร้าปะปนกันไป ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีแต่เรื่องเด็ดๆทั้งนั้น แต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นไปอ่านกันได้เลย
Alvin and the Chipmunks : อัลวินกับสหายชิพมังค์จอมซน
เริ่มต้นกันที่ภาพยนตร์เรื่องแรกกันเลยดีกว่า กับเรื่องราวของนักแต่งเพลงคนหนึ่งนามว่า “Dave” ที่ในตอนนี้นั้นชีวิตนั้นไม่ได้รุ่งโรจน์สักเท่าไหร่ จนกระทั่งจับพลัดจับผลูได้เจอกับเหล่า Chipmunks ตัวแสบถึงสามตัวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น “Alvin” ตัวละครเสื้อสีแดงที่เป็นตัวละครที่ใจดีและแสบซนมากๆ ตัวต่อมาคือ “Theodore” ตัวกลมอ้วนน่ารักเสื้อสีเขียว และตัวสุดท้ายก็คือ “Simon” ตัวละครใส่แว่นเสื้อสีน้ำเงิน ผู้เป็นตัวแทนของความฉลาด และแน่นอนว่าสัตว์เหล่านี้เมื่อมาเจอกับมนุษย์ก็จะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพราะว่าพวกมันทั้งสามชอบร้องชอบเต้น ทำให้ Dave สามารถทำเงินได้และทำให้ชีวิตของ Dave ดีขึ้น และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของพวกเขาสู่อุตสาหกรรมวงการเพลง
School of Rock : ครูซ่าเปิดตำราร็อค
เปลี่ยนบรรยากาศมาสายวงดนตรีกันบ้าง กับภาพยนตร์เพลงในตำนาน กับเรื่องราวของ “Dewey Finn” ชายผู้ที่เป็นนักดนตรี แต่ติดที่ว่าเขาไม่มีงานทำและไม่มีอนาคต เพราะว่าเพื่อนร่วมวงดันมาไล่เขาออกจากวงไป เขานั้นได้อาศัยอยู่กับ “Ned Schneebly” เพื่อนร่วมห้อง แต่ทว่าเขาได้แอบรับโทรศัพท์ของเพื่อน และนั่นทำให้เขาปลอมตัวเข้าไปสอนดนตรีอย่างเนียนๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาค้นพบว่านักเรียนที่เขาสอนอยู่ มีความสามารถในทางดนตรีที่สูง ซึ่งนั่นทำให้เขามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อผลักดันนักเรียนของเขาเข้าสู่การแข่งขันดนตรี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีหลักการสอนที่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ทว่าเขาก็สอนเด็กด้วยความตั้งใจ และแพชชั่นที่เขามี โดยที่มี “Rosalie Mullins” คอยสังเกตอยู่ไม่ห่างไปไหน
SuckSeed : ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ
นี่คือหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว และได้กระแสตอบรับที่ดีมาก กับเรื่องราวของ “เป็ด” เด็กประถมที่อ่อนต่อโลกในเรื่องของดนตรีมากๆ แต่ทว่าเขาตัดสินใจเล่นดนตรีเพราะว่าได้หลงรักหญิงสาวอย่าง “เอิญ” ที่ชื่นชอบในดนตรีร็อกเป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่านั่นทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อที่จะพิชิตใจเธอ เวลาผ่านไปในช่วงมัธยม เป็ดได้จับมือกับ “คุ้ง” มือกีตาร์ และ “เอ็กซ์” ที่เป็นมือกลอง เพื่อที่จะได้ฟอร์มวงดนตรีขึ้นมาเพื่อพิชิตใจหญิง โดยที่เป็ดนั้นรับหน้าที่เป็นมือเบสของวง แต่ทว่าเส้นทางไปสู่ฝั่งฝันในด้านดนตรีก็ไม่ง่ายเอาเสียเลย เพราะว่าต่างคนต่างมีปัญหาเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบ คู่แข่ง ความรัก รวมถึงการพิสูจน์ตัวเอง
The Overture : โหมโรง
นี่คือภาพยนตร์ไทยสายดนตรีที่น่าสนใจ กับการนำเสนอเส้นทางของตัวละครกับดนตรีไทยอย่าง “ศร” ในช่วงปีพุทธศักราช 2429 ที่ได้รับการพร่ำสอนวิชาระนาดเอกมาจาก “ครูสิน” ผู้มีเหตุให้ต้องยุติการสอนวิชาดนตรีลง แต่ทว่าครูคนนี้ก็กลับมาสอนได้อีกครั้งเพราะหลวงพ่อ และได้ “ทิว” ผู้ที่เป็นมิตรสหายคอยเป็นกำลังใจให้ จนกระทั่งที่ตัวของศรเข้าสู่วัยหนุ่ม จากการเอาชนะในการแข่งขันหลายต่อหลายครั้งทำให้เขาเกิดความหยิ่งยโสว่าไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ จนกระทั่งชีวิตได้เข้ามาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อได้มาเจอกับ “ขุนอิน” และพ่ายแพ้ต่อการประลองไป ทำให้เกิดความคับแค้นใจจนทำให้เขาทะเยอทะยานที่จะเอาชนะให้ได้ แต่สิ่งที่เขาต้องรับมือในชีวิตไม่ใช่ศัตรูที่น่ากลัว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
Bohemian Rhapsody : โบฮีเมียนแรปโซดี
“Bohemian Rhapsody” คือชื่อเพลงของศิลปินดังอย่าง Queen ที่โด่งดังมากๆ จนทะลุพันล้านวิวไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็กลายเป็นเพลงที่ถูกอกถูกใจแฟนๆทั้งชาวไทยและทั่วโลก และในเวลาต่อมา ชื่อนี้ก็ได้กลายเป็นชื่อสำหรับภาพยนตร์ชีวประวัติของวง Queen ที่จะเล่าเรื่องราวการเดินทางตั้งแต่จุดเริ่มต้น การรวมทีม การอัดเสียงอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ความเชื่อมั่นในการทำเพลงต่างๆ รวมถึงเพลง Bohemian Rhapsody ที่มีคนไม่เชื่อว่าเพลงที่มีการเล่าเรื่องที่ประหลาดจะออกมาติดกระแสจนถึงปัจจุบัน แต่ภาพยนตร์ก็เล่าในจุดสูงสุดของชีวิตเช่นกันที่นำมาซึ่งบาดแผลและความขมขื่น ของ “Freddie Mercury” ทั้งเรื่องของมิตรภาพ ครอบครัว รวมไปจนถึงรสนิยมทางเพศ และค่านิยมต่างๆในสมัยนั้น ผ่านเพลงฮิตมากมายทั้ง We Will Rock You, Somebody to Love, Don’t Stop Me Now หรือ I Want to Break Free
My Lovely Girl : เพลงรัก หัวใจเลิฟ
เปลี่ยนบรรยากาศมาสายซีรีส์กันบ้าง กับซีรีส์สัญชาติเกาหลีสายเพลงที่จะทำให้ทุกคนได้ตกหลุมรักกัน กับเรื่องราวของ “Lee Hyun-wook” ชายหนุ่มหน้าตาดี มากความสามารถในอุตสาหกรรมบันเทิงเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ปัจจุบันเขาคือลูกชายของบริษัท ANA Entertainment ที่เขาได้ไปใช้ชีวิตบนเกาะ ไม่สามารถแต่งเพลงได้ เหตุมาจากการสูญเสียแฟนสาวไป ความเจ็บปวดในครานั้นทำให้เขาไม่ต้องการที่จะกลับไปแต่งเพลงอีก แต่แล้วโชคชะตาก็จับพลัดจับผลูให้ไปเจอกับนางเอกที่ชื่อว่า “Yoon Se-na” ที่ใช้ชื่อปลอมในการสมัครงานเพราะว่าต้องการที่จะหนีคนทวงหนี้ ในทีแรกทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีมาก เพราะฝ่ายนางเอกดันไปทำให้หมาของพระเอกต้องเป็นโรคร้ายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเรื่องของหมาก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเหินห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
La La Land : นครดารา
เชื่อว่าใครหลายคนต้องยกให้ “La La Land” คือภาพยนตร์สายดนตรีที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ กับเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า “Mia” ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย มาทำงานที่ร้านกาแฟที่ใกล้กับสตูดิโอ ที่นั่นเธอได้เจอกับเหล่าทีมงานกองถ่ายและนักแสดงมากมาย เธอมีความฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงเลยไปออดิชั่นตามสถานที่ต่างๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีที่ไหนอยากรับเธอเลย เช่นเดียวกับชายหนุ่มนามว่า “Sebastian” ที่มีความฝันอยากจะเปิดคลับแจ๊ส แต่ด้วยสภาวะทางการเงินที่ไม่สู้ดีนัก ทำให้เขาต้องรับงานเล่นดนตรีที่ร้านอาหารเพื่อประทังชีวิต และด้วยความที่เขาอยากจะเป็นตัวของตัวเองทำให้โดนไล่ออกจากงานไป และแล้วชายหนุ่มกับหญิงสาวก็ได้มาเจอกันในที่สุด และค่อยๆสานสัมพันธ์ขึ้นมา แต่ทว่ามีอุปสรรคสำคัญของเขาและเธอนั่นก็คือความฝันที่จะทำให้ทั้งสองต้องตัดสินใจเลือก
Seasons Change : เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
นี่คือภาพยนตร์ไทยอีกหนึ่งเรื่องที่อยากจะป้ายยากัน กับเรื่องราวของ “ป้อม” ที่ตัดสินใจเข้าเรียนมัธยมปลายในด้านดนตรีเพราะว่าเขานั้น อยากที่จะได้ใกล้ชิดกับ “ดาว” หญิงสาวที่เขานั้นแอบชอบ ท่ามกลางความคัดค้านของคนเป็นพ่อ โดยมี “อ้อม” นักเรียนสาวที่เรียนอยู่ที่เดียวกันเข้ามาในชีวิต ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนตามสาวที่ตัวเองหลงรัก แต่ทว่าทักษะการตีกลองของเขาก็โดดเด่นเสียจนทำให้ถูกชวนเข้าวงดนตรีเพื่อทำการประกวด หลังจากที่สมาชิกในวงกำลังตามหามือกลองเพื่อเข้าร่วมวง รวมถึงไปเตะตาอาจารย์ให้ช่วยมาเป็นส่วนหนึ่งในวิทยานิพนธ์ของเขา แต่ทว่าป้อมนั้นกลับทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดหญิงสาวที่ตัวเองแอบชอบ ซึ่งนั่นทำให้เขาได้กลายเป็นสมาชิกวงออเครสตรา
A Star Is Born : อะ สตาร์ อีส บอร์น
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นที่นักร้องดังคนหนึ่งอย่าง “Jack” ที่ความมีชื่อเสียงและทักษะดนตรีทำให้เขานั้นเป็นที่รู้จักไปทั่ว แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าเขาเป็นคนที่ติดสุราอย่างหนัก วันหนึ่งเขาได้ไปดื่มเหล้าที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งพอรู้ว่าคนดังมาเยือนถึงถิ่นก็เลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดี และในคืนนั้นเขาก็ได้พบเจอกับ “Ally” หญิงสาวผู้มีความสามารถทั้งร้องเพลงได้ แถมยังแต่งเพลงได้อีกด้วย ทั้งสองนั้นได้คุยกัน จนความสัมพันธ์ค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ ลามไปถึงขั้นชวนกันไปดูคอนเสิร์ตที่ Jack เล่น แต่เขานั้นก็ได้ชวนเธอมาร้องเพลงด้วยกัน ซึ่งหลังจากนั้นมันทำให้ความสัมพันธ์ของเขาและเธอดีมากขึ้นไปอีก จนเสียงสวรรค์ของเธอดันไปเตะตาแมวมองให้ไปเป็นนักร้องในสังกัด ซึ่งนั่นทำให้เขาและเธอต้องห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
Whiplash : ตีให้ลั่น เพราะฝันยังไม่จบ
“Whiplash” จะกล่าวถึง “Andrew” ที่มีความสามารถในการเล่นดนตรีได้สอบเข้ามหาวิทยาลัยจนสำเร็จ จนกระทั่งได้เจอกับครูคนหนึ่งนามว่า “Fletcher” ที่กำลังจะหาคนเข้าวงดนตรีอยู่ ซึ่งสมาชิกแต่ละคนของอาจารย์คนนี้ก็มีแต่คนเก่ง ทำให้เขานั้นมีความใฝ่ฝันอยากจะเข้าร่วมวงดนตรีวงนี้ให้จงได้ จนกระทั่งเขาได้ถูกชักชวนให้เป็นหนึ่งในสมาชิกจนได้ ส่วนครูคนนี้ก็เริ่มฝึกฝนวงดนตรีด้วยความจริงจัง จน Andrew นั้นถึงกับท้อถอย แต่ก็ยังมิวายฝึกฝนตัวเองอย่างหนักจนทำให้พาวงชนะการประกวด สร้างความประทับใจให้แก่ครู แต่หารู้ไม่ว่า Andrew กำลังจะเจอบททดสอบสุดแสนจะหฤโหดจนต้องร้องขอชีวิต และเขาก็ต้องฝึกฝนมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าโชคชะตาก็ได้เล่นตลกเพราะว่าเขานั้นได้ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถเล่นกลองได้อย่างที่เขาคิดไว้
เดินทางมาถึงส่วนสุดท้ายกันแล้ว และก็จบบทความกันไปแล้ว สำหรับบทความป้ายยาภาพยนตร์และซีรีส์แนวดนตรีที่ผู้เขียนตั้งใจแนะนำมาให้ได้ดูกัน และเป็นอะไรที่ผู้เขียนภาคภูมิใจอย่างมาก เพราะเป็นประเภทที่สามารถดูได้ทุกเพศ ทุกวัย และไม่ว่าจะดูคนเดียวหรือว่าดูกับเพื่อน ดูกับแฟน หรือดูกับครอบครัวก็จะได้อรรถรสและความสนุกกลับไปอย่างแน่นอน แถมบางเรื่องนั้นก็จะสอดแทรกเรื่องของความจริงของชีวิต ความฝัน การเติบโต หรือว่าการเปลี่ยนผ่านของช่วงวัยต่างๆ ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์เหล่านี้มีมิติมากขึ้นไปอีก ซึ่งก็เป็นอะไรที่น่าประทับใจมากเพราะภาพยนตร์และซีรีส์แนวดนตรีนั้นก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ว่าแต่ผู้อ่านทุกท่านมีภาพยนตร์หรือซีรีส์แนวดนตรีเรื่องใดที่ผู้อ่านประทับใจกันบ้าง
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://www.imdb.com/title/tt4065400/
- https://www.imdb.com/title/tt0880477/
- https://www.imdb.com/title/tt0952640/
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม