ภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ มันเป็นสิ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ นั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่ามันจะเกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน เพราะเราควบคุมมันไม่ได้ แถมเกิดขึ้นมาแต่ละทีก็สร้างบาดแผลความสูญเสียอยู่ไม่น้อย และแน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้ก็มักจะถูกหยิบยกมาทำเป็นหนังภัยพิบัติ เพื่อเป็นสิ่งเตือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งพล็อตของหนังภัยพิบัตินั้นก็มีเนื่อเรื่องที่ชวนติดตามอยู่เสมอ ดูทีไรก็ตื่นตาในเอฟเฟคทุกรอบ วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำหนังภัยพิบัติเรื่องเยี่ยมที่น่าสนใจ จะมีเรื่องอะไรบ้างไปดูกันเลย
ลิสต์หนังภัยพิบัติเรื่องเยี่ยม ที่คุณจะต้องชอบ
1.The Impossible (ดูผ่านช่องทาง Netflix)
สำหรับหนังภัยพิบัติเรื่องแรกนั่นจะเป็นหนังที่ถูกสร้างมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 2547 นั่นก็คือเหตุการณ์สึนามิภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในฝั่งอันดามันของประเทศไทย ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ก็มีความสูญเสียมากมายที่ทุกคนจำไม่เคยลืม ทางผู้ทำหนังเรื่องนี้ก็ได้หยิบเรื่องราวนี้มาดัดแปลงเป็นหนังที่จะทำให้คุณน้ำตาซึมได้เลย โดย The Impossible นั้นจะเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งได้มาพักผ่อนวันหยุดที่บ้านพักต่างอากาศที่ทะเลประเทศไทยฝั่งอันดามัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อได้มีคลื่นยักษ์ได้ซัดเข้าชายฝั่ง ทำให้คนในครอบครัวนั้นพลัดหลงกันไป และพวกเขาต้องพยายามที่จะตามหาครอบครัวที่พลัดพรากให้เจอให้ได้ บอกเลยว่าตัวหนังนั้นก็จะพยายามเล่าถึงเหตุการณ์ความสูญเสีย และความหัวง ภายใต้สถานการณ์ที่มันหดหู่ ซึ่งหากคุณได้ดูแล้วจะต้องน้ำตาซึมอย่างแน่นอน สำหรับเรื่อง The Impossible หนังภัยพิบัติเรื่องนี้
2.2012 วันสิ้นโลก (ดูผ่านช่องทาง Prime video, Apple TV )
ใครที่จำกันได้ในก่อนปี 2012 ก็ได้มีกระแสข่าวฮือฮาอย่างมากว่า วันที่ 21 ธ.ค. 2012 นั้นโลกจะแตกตามความเชื่อของชาวมายัน จึงทำให้หลายวงการให้ความสนใจร่วมถึงเรื่องนี้ก็ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหนังภัยพิบัติ ที่ได้เอาประเด็นของโลกร้อนมาเล่น ซึ่งเมื่อทำออกมาแล้วบอกเลยว่าสมจริงทุกฉาก ลุ้นระทึกไปกับตัวหนังสุดๆ
สำหรับหนังภัยพิบัติเรื่องนี้ก็ได้เล่าผ่านตัวละครที่ชื่อ แจ๊คสัน เคอร์ติส คุณพ่อที่ได้พาลูกๆ ของเขาไปตั้งแคมป์ในป่า และเขาก็ได้พบกับดีเจท่านนึงที่บอกกับเขาว่าโลกที่เราอยู่นั้นกำลังจะแตก ในตอนนั้นแจ๊คสันมองว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องไร้สาระและไม่ได้เชื่อ แต่ใครจะรู้ว่าอยู่ๆสิ่งที่คนๆนั้นพูดมันจะเป็นเรื่องจริง ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่น้ำจะท่วมโลก ทำให้แจ๊คสันนั้นต้องขับรถไปที่เรือยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหนีจากน้ำท่วมโลกครั้งนี้ให้ได้
3.Geostorm (ดูผ่านช่องทาง Apple TV)
ขอต่อด้วยหนังภัยพิบัติสุดระทึกขวัญกับเรื่อง Geostorm ที่ได้เอาเรื่องของเทคโนโลยีและเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของอากาศมาทำเป็นหนังภัยพิบัติสุดน่าดู แถมยังมีการแอคชั่น ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่ออีกด้วย สำหรับ Geostorm นั้นจะเป็นการเล่าเรื่องเมื่อสภาพอากาศของโลกนั้นแปรปรวนสุดๆ ทำให้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำด้วยเจค นั้นได้ทำระบบดาวเทียมเพื่อที่จะให้มนุษย์นั้นรอดจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ก็มิวายเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีกลุ่มที่เข้ามาแทรกแซงระบบดาวเทียม จนทำให้สภาพอากาศนั้นย่ำแย่ไปมากกว่าเดิม พวกเขาจึงต้องหาทางเพื่อจะจัดการกับปัญหาทั้งหมดนี้ให้ได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า Geostorm นั้นเป็นหนังที่สะท้อนเรื่องราวของอุณหภูมิในปัจจุบันที่มีการแปรปรวนออกมาได้เป็นอย่างดี ทุกคนสามารถดูแล้วเข้าใจได้ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ทุกนาทีที่ดูก็สนุกแล้วลุ้นตามไปกันเนื้อเรื่อง ขอยกให้เป็นหนังภัยพิบัติที่ไม่ควรพลาดเรื่องนึงเลย
4.Only the Brave (ดูผ่านช่องทาง Apple TV)
ขอต่อกันที่หนังภัยพิบัติที่เกี่ยวกับไฟป่ากันบ้าง กับเรื่อง Only the Brave หนังที่ถูกสร้างมาจากเรื่องจริงของชีวิตนักผจญเพลิงของอเมริกา ที่ได้มีการหยิบยกเหตุการณ์ของทีม แกรนิต เมาเท่น ฮิตชอต นักผจญเพลิงที่เก่งที่สุดในสหรัฐ ได้รับหน้าที่ไปป้องกันไฟป่าที่ดูเหมือนจะควบคุมง่ายๆ ไม่ให้ลุกลาม แต่แล้วภัยพิบัตินั้นก็เกิดกว่าที่คาดหมายเมื่อไฟป่าได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลย
จะพูดว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตที่เชิดชูวีรกรรมของนักผจญเพลิงก็ไม่ผิดสักเท่าไร่ เพราะว่าภายในเรื่องจะมีการเล่าแทรกเรื่องราวการใช้ชีวิตของนักผจญเพลิงสลับกับการทำหน้าที่ของเขาได้อย่างน่าสนใจ แถมยังมีการให้ความรู้แบบเจาะลึกเกี่ยวกับไฟป่า จนทำให้คนดูนั้นจะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ได้อะไรมากกว่าที่คิดอีกด้วย ใครที่อยากดูหนังภัยพิบัติ แนวชีวิต สารคดี ต้องยกให้เรื่องนี้ บอกเลยว่าเป็นหนังน้ำดีสุดๆ
5.Just a Breath away (ดูผ่านช่องทาง Monomax)
หนังภัยพิบัติสัญชาติฝรั่งเศสที่เหมาะกับสถานการณ์ PM2.5 ของไทยในปัจจุบันมากๆ กับเรื่อง Just a Breath away เรื่องราวการที่ต้องเอาชีวิตรอดจากหมอกมหันตภัย หากว่าใครได้สูดดมเข้าไปแล้วละก็ต้องตายทันที บอกเลยว่าเรื่องนี้ก็เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่จะทำให้คนดูระทึกขวัญและต้องกลั้นหายใจไปตามๆ กันแน่นอน
เรื่องราวของ Just a Breath away นั้นจะเล่าผ่านครอบครัวแมทธิว ซึ่งเขามีลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคประหลาดตั้งแต่เกิด ทำให้เธอนั้นต้องอาศัยอยู่ในเพียงแคปซูลเท่านั้น ไม่สามารถที่จะออกมาใช้ชิวิตปกติได้ ในวันนึงก็ได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นเมื่อมีหมอกปริศนาได้ปรากฏขึ้นและปกคลุมไปทั่วเมือง จนทำให้คนที่เผลอสูดเข้าไปนั้นล้มป่วยและตายจำนวนมาก ทำให้ผู้คนต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากฝุ่นมฤตยูนี้ไปให้ได้ รวมถึงแมธิวที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะช่วยลูกสาวไม่ให้เจอกับหมอกร้ายอันนี้
6.The Quake (ดูผ่านช่องทาง Apple TV)
หนังภัยพิบัติฟอร์มยักษ์จากประเทศนอร์เวย์ ที่จะมาเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวสุดระทึกขวัญ ภัยพิบัติที่เกิดบ่อยครั้งและพร้อมจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง The Quake นั้นจะเป็นการเล่าเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์สึนามิในหนังเรื่อง the wave ซึ่งเกี่ยวกับ คริสเตียน นักธรณีวิทยาที่เป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์นั้น และได้แยกจากครอบครัวมาอยู่คนเดียว วันนึงเขาก็ได้พบว่าจะเกิดมหันตภัยครั้งใหญ่ ทำให้เขาต้องกลับไปรับครอบครัวของเขาเพื่อเอาตัวรอดก่อนที่จะสายเกินไป และเขาจะทำได้หรือไม่ ต้องหามาดูให้ได้เลย
7.Don’t Look up (ดูผ่านช่องทาง Netflix)
เรื่องสุดท้ายขอแนะนำหนังภัยพิบัติแนวไซไฟที่จิกกัดสังคมและการเมืองได้เป็นอย่างดี กับหรังเรื่อง Don’t Look up ที่จะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับนักดาราศาสตร์ ที่ชื่อ ดร.แรนดัล และนักศึกษาปริญญาเอก ที่ได้พบคาวหางที่กำลังจะพุ่งมาชนกับโลก เขาจึงได้ตั้งใจที่จะไปพบกับประธานาธิบดี เพื่อที่จะบอกให้รับมือกับหายนะที่ใกล้จะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครเชื่อพวกเขาแถมประธานาธิบดียังบอกให้สังเกตุการณ์ไปก่อน เพราะเขาจะต้องไปหาเสียงเลือกตั้ง จนเวลาผ่านไปก็ทำให้เหตุการณ์เลวร้ายนั้นได้มาถึงจริงๆ และสุดท้ายดร.แรนดัล จะสามารถป้องกันเรื่องนี้ได้หรือไม่ ต้องไปติดตามจริงๆ กับเรื่อง Don’t Look up
ต้องบอกเลยว่าสำหรับหนังภัยพิบัติเรื่อง Don’t Look up นั้นสามารถที่จะเสียดสีและดึงความเพิกเฉยของผู้คนออกมาตีแผ่ได้อย่างเจ็บแสบ หากใครได้ดูแล้วก็จะเห็นว่าหนังพยายามทจะสอนให้เราคิดได้ว่าบางเรื่องก็ต้องจัดลำดับความสำคัญให้ดี นอกจากนี้ทั้งเนื้อเรื่องและโปรดักชั่นก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับหนังเรื่องอื่นเลย จึงนับได้ว่าหนังเรื่อง Don’t Look up ก็เป็นหนังน้ำดีอีกเรื่องที่คุณไม่ควรพลาด
บทสรุปของภัยพิบัติที่เราต้องผ่านไปให้ได้
สำหรับภัยพิบัติเราก็รู้กันดีว่ามันไม่สามารถที่จะบังคับให้มันรุนแรงหรือเบาลงได้ มันมีเพียงแต่ให้เรานั้นต้องคอยเตือนสติตัวเองอยู่เสมอ และให้ความสำคัญกับมีแผนรับมือในทุกๆ เหตุการณ์ ก็เหมือนกับหนังภัยพิบัติทั้ง 7 เรื่องที่เราเอามาฝากทุกคนในวันนี้ มันก็เหมือนการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อให้เราได้คิดต่อว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ หรือ เกิดขึ้นอีก เราควรจะต้องทำยังไง เพื่อให้เราเอาชีวิตรอดจากตรงนี้ให้ได้ และทางผู้เขียนชื่อจริงๆ ว่า หนังภัยพิบัติทั้ง 7 เรื่องนั้นจะต้องมีประโยชน์กับทุกคนอย่างแน่นอน
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2189340
- https://www.beartai.com/lifestyle/292447
- https://www.beartai.com/lifestyle/203896
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://www.primevideo.com/detail/The-Impossible/0HG2XIMTTCXZVQFEUMI4WOHI4M
- https://www.bilibili.tv/th/video/2040868752
- https://www.majorcineplex.com/news/detail-geostorm
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม