เมื่อพูดถึงราหู เชื่อว่าหลายคนคิดไปทางลบ ยิ่งเกิดตรงกับราศีเกิดคงพากันอดคิดมากไม่ได้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายหรือเคราะห์อะไรขึ้นหรือไม่ เพราะพระราหูมีผลต่อดวงชะตา ซึ่งสำหรับพระราหูก็มีผลในเรื่องของโชคลาภเช่นกัน อย่างการเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นอาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าคุณกำลังจะมีโชค มีลาภเกิดขึ้นนั้นเอง จึงเป็นที่นิยมในเหล่าสายมูอย่างมากในการ ไหว้พระราหู เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล ซึ่งก็มีวิธีไหว้และของที่ต้องนำมาบูชา ในวันนี้เรามีคำตอบเตรียมไว้รอคุณอีกเพียบ

ช่วงเวลา ไหว้พระราหู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและเสริมสิริมงคล

หากจะให้พูดตามตำราทางโหราศาสตร์คนที่เกี่ยวข้องกับพระราหูมากที่สุดก็คือคนที่เกิดวันพุธกลางคืน วันอังคาร และวันเสาร์ แต่จะมีวันประจำของพระราหูนั้นคือวันพุธกลางคืน จึงทำให้เป็นวันที่เหมาะแก่การ ไหว้พระราหู โดยจะใช้ของของไหว้ 8 อย่าง ซึ่งพระราหูจะมีสีพระกายจริงแล้วเป็นสีน้ำตาลไหม้ ไม่ใช่สีดำอย่างที่เราเห็นในรูปปั้น แต่เนื่องด้วยของที่มีสีตามจริงของพระราหูหายาก การใช้สีดำก็จะหายง่ายมากกว่า โดยของที่จะต้องนำมา ไหว้พระราหู ต้องเป็นดำ ได้แก่

• ไก่ดำต้ม
• ปลาดุกย่าง
• เหล้าดำ
• กาแฟดำ
• เฉาก๊วย
• โค้กหรือน้ำหวานที่มีสีดำ
• ซุปไก่
• งาดำ
• ถั่วดำ
• ข้าวเหนียวดำ
• สาหร่ายดำ
• ไข่เยี่ยวม้า

นอกจากนี้หากของที่เรานำมากล่าวถึง ไม่สามารถหาได้ เปลี่ยนเป็นอาหารปรุงสุกทั่วไปก็ได้ ซึ่งจะต้องมีสีดำมาเสริมแทน เพื่อให้เหมาะแก่การ ไหว้พระราหู

ขั้นตอนวิธี ไหว้พระราหู

            นอกจากของดำจำนวน 8 อย่าง หรือ 12 อย่างตามที่เรากล่าวข้างต้น เพื่อให้เตรียมไว้สำหรับการ ไหว้พระราหู มาแล้วยังมีรายการเพิ่มเติมอีก

• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• ดอกไม้ที่มีสีดำ
• หากถวายของบูชากี่อย่างก็ให้ใช้ธูปตามจำนวน เช่น ของไหว้ 8 อย่าง ธูปก็ต้อง 8 ดอก หรือหากของไหว้ 12 อย่าง ธูปไหว้จะต้องเป็น 12 ดอกนั้นเอง
• ทิศตะวันตกเฉียงเหนือเหมาะแก่การไหว้และควรเป็นที่กลางแจ้งในการไหว้ สิ่งหนึ่งที่อยากให้ความสำคัญคือไม่แนะนำให้ไหว้พระราหูที่บ้านหรือในบ้าน เมื่อทราบแล้วก็เริ่มจุดธูปเทียน เริ่มท่องนะโม 3 จบ ตามด้วย บทสวดคาถาบูชาพระราหู ดังนี้

บทสวดคาถาบูชาพระราหู

กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ

สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ

สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ

กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ

สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ

สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ

สวดพระคาถาสุริยาบัพพา

กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ

โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ

โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ

พระคาถาจันทบัพพา

ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง

มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ

กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ

*แล้วจึงเริ่มกล่าวคำถวายเครื่องสังเวยพระราหู

นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง

สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ

สัมปันนัง โภชะ นานัง

สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง

อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา

หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา

มะหิทธิกา เตปิ อัมเห

อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ

เยนะ สุเขมะจะฯ

สุดท้ายจบด้วย คาถาบูชาพระราหู

*โดยจะต้องสวดทั้งหมด 12 จบตามกำลังของพระราหู

คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ (12 จบ)

ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12) อย่าง ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใด ๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ (อธิษฐานเรื่องอื่น ๆ ได้ตามปรารถนา)

จากนั้นเมื่อทำทุกขั้นตอนสำเร็จหมดแล้ว ให้สังเกตดูว่าหากธูปใกล้หมด ควรที่จะเริ่มลาของไหว้ สามารถทานได้ เชื่อว่าจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ทานของ ไหว้พระราหู แต่ก่อนกินจะต้องไม่ลืมท่องคาถา “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”  จากนั้นเพื่อเป็นการเสริมเติมมงคลให้กับดวงชะตาชีวิต ให้นำไปทำบุญตักบาตรจำนวนพระ 8 รูป หรือ12 รูปก็ได้แล้วแต่จำนวนที่ได้ ไหว้พระราหู พร้อมกับทำบุญถวายสังฆทานที่เกี่ยวกับแสงสว่าง อย่างเช่น หลอดไฟ บริจาคค่าไฟฟ้าหรือเติมน้ำมันตะเกียง เป็นต้น หรือหากต้องการทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้เหมาะเคราะห์ สามารถทำได้แต่จะต้องเป็นประจำทุกวันพุธกลางคืน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เรื่องร้าย ๆ กลับกลายเป็นเรื่องดี ๆ ในชีวิต

รวมสถานที่ไหว้พระราหู 

            ในประเทศไทยมีสถานที่สำหรับ ไหว้พระราหู เยอะมากและสืบเนื่องมาจากข้อมูลที่เรานำเสนอไปแล้วว่าการ ไหว้พระราหู ไม่ควรไหว้ที่บ้าน ฉะนั้นเพื่อเป็นการชี้แนวทางให้เหล่าสายมูทั้งหลายได้มีสถานที่สำหรับไหว้หรือทำพิธี เราจึงรวบรวมไว้ให้หลากหลายสถาที่ ดังนี้

1.ไหว้พระราหู เทวาลัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งอยู่หัวมุมสี่แยกเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

หากใครสะดวกการ ไหว้พระราหู ในช่วงค่ำหรือดึก ๆ การเดินทางมาที่ เทวาลัยของพระราหูทรงทรัพย์ เป็นสถานที่กราบไหว้ตั้งอยู่ที่หัวมุมสี่แยกเกษตร-นวมินทร์ เลียบทางด่วนรามอินทรา ประเสริฐมนูกิจ 33 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม กรุงเทพฯ สามารถเข้ามาสักการะบูชาได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เชื่อกันว่าบารมีขององค์ท่านพระราหูจะกลืนกินความทุกข์โศก สิ่งร้าย ๆ จะกลายเป็นเรื่องดีและช่วยคุ้มครองภัยร้ายทั้งปวง ส่งเสริมดวงชะตามหาเศรษฐี ไม่ว่าจะกราบไหว้ขอพรสิ่งใดก็มักสมปรารถนาและยิ่งใครค้าขายการ ไหว้พระราหู จะส่งเสริมและชี้ทางสว่างให้แก่ผู้นั้น

• พิกัด :https://goo.gl/maps/g6EP97wX8dbNuDYU6

• ช่วงเวลาเปิดเข้าชม : ตลอด 24 ชั่วโมง
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/rahudevali

2.สถาปัตยกรรมอันงดงามและศักดิ์สิทธิอ์วัดวรามาตยภัณฑสาราราม วัดขุนจันทร์ กรุงเทพฯ

         วัดวรามาตยภัณฑสารารามหรืออีกชื่อเรียกว่าวัดขุนจันทร์ วัดดังย่านตลาดพลูตั้งอยู่ที่ 1144 ซอยเทอดไท 28 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมความเป็นไทยผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเมียนมา ที่ทำให้ผู้คนต่างตื่นตาและประทับใจแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์ก็มีมากไม่แพ้ใคร เพราะด้วยวัดแห่งนี้มีความเก่าแก่สร้างมานานกว่า 100 ปี ราว ๆ ปีพุทธศักราช 2370-2380 ในสมัยรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันผู้คนนิยมเดินทางมากราบไหว้

ภายในวัดประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้บูชา ที่พลาดไม่ได้เลยคือการ ไหว้พระราหู ซึ่งทางวัดจะมีการจัดพิธีให้สวดมนต์นพเคราะห์พระราหูประจำทุกปี หากใครไม่ทราบวิธีไหว้ทางวัดจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา แต่ของดำ 8 อย่างที่ใช้ในการไหว้จะต้องเตรียมมาเอง

• พิกัด : https://goo.gl/maps/DMdcxYDRqjfn6B52A
• ช่วงเวลาเปิดเข้าชม : 07.00-18.00 น.
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watkunchan

3.วัดเก่าแก่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่รัชการที่ 1 วัดศีรษะทอง นครปฐม

ใครที่หาวัดเก่าแก่สำหรับการ ไหว้พระราหู เพราะเชื่อว่าจะมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษ เราขอแนะนำวัด วัดศีรษะทอง นครปฐม ตำบลศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม แห่งนี้ เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและมีความเก่าแก่ที่สุดของอำเภอนครชัยศรี อย่างที่เราบอกไปในหัวข้อว่าวัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 อีกหนึ่งความน่าสนใจคือโบราณวัตถุภายในวัดถือเป็นโบราณสถานสำคัญ ซึ่งได้รับความสนใจนำไปศึกษาเกี่ยวกับเรื่องราวของดาราศาสตร์ โหราศาสตร์ รวมถึงสมุนไพรตั้งแต่อดีต

จุดเดนของด้านในจะเห็นพระราหู องค์ใหญ่ สร้างไว้เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปไหว้สักการะบูชา โดยมีความเชื่อกันว่า หากใครที่ได้ ไหว้พระราหู ท่านจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ๆ ออกไปและกลับกลายเป็นดีและเกิดความสำเร็จ การงานและการเงิน

• พิกัด : https://goo.gl/maps/jzMTbSnZfgvjxk819

• ช่วงเวลาเปิดเข้าชม : 08.30-17.00 น.
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/watsrisathong

4. 4. พระราหูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ วัดสมานรัตนารามฉะเชิงเทรา

เมื่อพูดถพึงจังหวัดฉะเชิงเทราเชื่อว่าหลายคนนึกถึงองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้รับความนิยมไม่น้อยในการเดินทางมากราบไหว้ขอพร แต่ที่นี่ไม่เพียงมีความโดดเด่นที่องค์พระพิฆเนศเท่านั้น ภายในยังมีพระราหู ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกได้ว่าถูกใจเหล่าสายมูที่ชื่นชอบการเดินทางมาขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากทีเดียว  ที่สำคัญหากใครต้องการ ทางวัดยังมีการจัดชุดของดำ 8 สำหรับไหว้บูชาพระราหูไว้ให้เสร็จสรรพเลยด้วย ใครต้องการฝากดวงชะตา คุ้มภัย แก้ปีชง มาไหว้พระราหูที่นี่ได้เหมือนกันค่ะ ตามความเชื่อในการขอพร บูชาพระราหู จะทำให้เกิดโชคลาภ และความสำเร็จนั่นเอง ที่สำคัญหากใครต้องการ ไหว้พระราหู ทางวัดยังมีบริการจัดชุดของดำ 8 อย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ใครต้องการฝากดวงชะตา ขอพรให้ท่านปกปักรักษา ส่งเสริมให้เกิดโชคลาภ ก็สามารถทำได้เลยแม้จะไม่ได้ได้เตรียมของมาด้วยก็ตาม

• พิกัด : https://goo.gl/maps/BczFsAXnhHLyNzuh6
• เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
• โทร : 08-1983-0400
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/wat.saman

สำหรับผู้ที่อยาก ไหว้พระราหู หรือดวงชะตากำลังตกอยู่ในคราวเคราะห์ อยากจะมาฝากดวงชะตาหรือบูชาท่าน เพื่อให้สิ่งร้าย ๆ กลับกลายเป็นดี ลองศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการไหว้ ข้าวของต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการ ไหว้พระราหู ไม่แนะนำให้ไหว้ที่บ้าน ฉะนั้นเราจึงได้รวบรวมสถานที่สำหรับไหว้พระราหูมาให้ได้เลือกกันก่อนว่า หากต้องการไปเสริมสิริมงคลควรเลือกสถานที่แห่งใด