สำหรับชาวคริสต์ศาสนาทุกคนต่างทราบกันเป็นอย่างดีว่า พระเจ้าถือเป็นองค์พระศาสดาที่มีความสำคัญ และมีความเสียสละต่อเหล่าชาวคริสต์มากเพียงใด ตามประวัติศาสตร์ได้บอกเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมา คำสอน รวมทั้งการทำเพื่อผู้อื่นของพระองค์อย่างมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งทุกการกระทำของพระองค์ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยหลักคำสอนและแนวคิดการปฏิบัติตัวในสังคม

          โดยยึดมั่นในความดีเพื่อจงรักต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ในหลากหลายคำสอนมักจะคอยเป็นคติสอนใจให้กับมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ในการเกรงกลัวต่อบาป การชำระบาปให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น และมีความถ่อมตนอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าชาวคริสต์ต่างเคร่งครัดในหลักคำสอนและวินัยของพระองค์ จึงไม่แปลกเลยที่จะมีพิธีกรรมหรือวันสำคัญต่าง ๆ ที่ยังคอยระลึกถึงพระองค์ หรือเป็นความเชื่อบางอย่างที่เป็นการส่งแรงใจแรงศรัทธาที่มีอยู่เต็มเปี่ยมให้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าใจโอกาสสำคัญวันศักดิ์สิทธิ์

          โดยเฉพาะวันขอบคุณพระเจ้า ที่เหล่าชาวคริสต์จารึกไว้อย่างพร้อมเพียงกันว่าเป็นวันสำคัญในปฏิทินของชาวคริสต์ศาสนา จะต้องมีการรำลึกและทำพิธีกรรมเพื่อขอบคุณในคุณความดีของพระองค์ที่ทำเพื่อปวงมนุษย์ ขอบคุณในความเสียสละอันแสนเจ็บปวดของพระองค์ ว่าแต่ยังมีใครไม่รู้อีกบ้างไหมน้า ว่าวันขอบคุณพระเจ้าเขาต้องปฏิบัติยังไงบ้างวันนี้เราได้รวบรวมสาระสำคัญทั้งหมดของชาวคริสต์เอาไว้ให้หมดแล้ว ถ้าพร้อมแล้วเรามาดูไปพร้อมกันเล้ย!

ประเพณีเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าที่ชาวอเมริกันต่างเฝ้ารอคอย!

          ในศาสนาคริสต์มักจะมีวันสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้ในการแสดงความรักความจงรักภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งวันสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้ชาวคริสต์มักจะร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อไปเฉลิมฉลองหรือไปรวมตัวกัน ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อเข้าร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ของศาสนา โดยเฉพาะวันขอบคุณพระเจ้า(Thanksgiving) ที่ตรงกับวันพฤหัสบดีที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันหยุดที่ชาวคริสต์มักจะไปรวมตัวกันเพื่อรำลึกและแสดงเจตนารมณ์ในการภาวนาขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้าด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ และถือว่าเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ขอพรจากพระองค์ให้ท่านได้ประทานพรให้ชาวคริสต์ทุกคนมีแต่ความรักและมีแต่ความสุขให้แก่กัน

          จุดประสงค์ของเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ถูกเตรียมจัดขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงความเสียสละของพระองค์ เสมือนเป็นการตอบแทนคุณความดีงามของพระเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์ชาวคริสต์ จึงไม่แปลกเลยที่วันสำคัญนี้จะถูกจัดให้เป็นวันหยุดที่ทุกคนต่างพร้อมใจกันมาโดยสมัครใจ ซึ่งไม่ได้เป็นการบังคับหรือกำหนดกะเกณฑ์ว่าชาวคริสต์ทุกคนจะต้องมาเข้าร่วมงานประเพณีเทศกาลนี้ แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มาร่วมงานด้วยใจที่ศรัทธาและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข หลังจากนั้นทุกคนที่มาร่วมเฉลิมฉลองให้พระองค์มักจะกลับไปสังสรรค์กับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทของตนเองต่อ นับว่าเป็นเทศกาลที่เป็นการส่งมอบความสุขทั้งในแง่ของผู้ให้และในแง่ของผู้รับ ทำให้ทุกคนได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด

          โดยอาหารที่นำมาเฉลิมฉลองในงานเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า ที่เรามักคุ้นชินและเห็นกันอย่างชินตาเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเพณีได้เลยนั่นก็คือ อาหารประเภทไก่ง่วง น้ำเกรวี่ มันเทศ ข้าวโพด มันฝรั่งบด และซอสแครนเบอร์รี่ ซึ่งจัดเป็นวัตถุดิบส่วนผสมที่มีความลงตัวกับรสชาติที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งสามารถรับประทานร่วมกันได้อย่างเอร็ดอร่อย โดยจะเลือกใช้วัตถุดิบที่มีความสะอาดสดใหม่เป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ถูกคัดสรรและบ่มเพาะเลี้ยงมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้เมื่อนำมาประกอบอาหารจึงได้รสชาติของอาหารที่เลิศรส เหมาะสมกับความยิ่งใหญ่ของพลังศรัทธาชาวคริสต์ที่มีต่อพระเจ้านั่นเอง

          นอกจากการได้รับประทานอาหารร่วมกันภายในครอบครัวแล้ว กิจกรรมการรับชมฟุตบอลของอเมริการ่วมกัน รวมทั้งตั้งตารอชมขบวนพาเหรดวันขอบพระคุณพระเจ้าที่แสนตื่นตาตื่นใจอีกด้วย ในช่วงเย็นหลายคนมักใช้โอกาสนี้ในการจับจ่ายใช้สอยถือเป็นการช้อปปิ้งในช่วงเย็นเพื่อเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ด้วยสิ่งดี ๆ ที่มีความสุข เพื่อรอต้นรับเช้าวันศุกร์วันถัดไปที่เหล่าชาวคริสต์มักเรียกกันว่าวัน Black Friday

          จึงไม่แปลกเลยที่หลายคนที่สมาชิกในครอบครัวต่างแยกย้ายกันไปทำงานทำอาชีพของตนเองต่างถิ่นกันไปตามมลรัฐต่าง ๆ จะพยายามเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านกันในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้านี้ในทุก ๆ ปี เพราะเหล่าชาวคริสต์ให้ความสำคัญกับวันนี้จริง ๆ จนกระทั่งถูกประกาศให้เป็นวันหยุดประจำปีของประเทศอเมริกาและสั่งให้หน่วยงานรัฐปิดการทำการในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนนั่นเอง!

การเป็นชาวคริสต์ที่ดีต้องปฏิบัติอย่างไรที่นี่มีคำตอบ!

          หลักธรรมคำสอนของศาสนาคริสต์นั้นมักจะเน้นย้ำในเรื่องของการมีจิตใจที่เมตตา ปราถนาให้มีความรักเพื่อนมนุษย์เหมือนกับที่รักตนเองเพื่อให้ชาวคริสต์ทุกคนเป็นผู้มีจิตใจที่อ่อนโยน ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น และไม่หลงไหลปราถนาอยากได้สิ่งของของผู้อื่น

          ซึ่งถือว่าเป็นหลักคำสอนที่สามารถควบคุมจิตใจของมนุษย์ให้ยังมั่นคงในความดีอยู่เสมอ จึงไม่แปลกเลยที่เหล่าชาวคริสต์โดยเฉพาะชาวอเมริกันที่เคร่งในศาสนาคริสต์เป็นอย่างมากจะพร้อมใจกันจัดเทศกาลรำลึกวันขอบคุณพระเจ้าขึ้นอย่างใหญ่โต ให้เหมาะสมกับความรักความศรัทธาที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงพระองค์เดียว

          นอกเหนือจากวันอาทิตย์ที่เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ให้ทุกคนได้มาฟังคำสอน มาเจริญศีลภาวนาในการเข้าร่วมพิธีกรรมสรรเสริญพระเจ้า เพื่อรวมใจกันร้องเพลงและอ่านบทคำสอนในไบเบิ้ลด้วยความตั้งใจ ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวคริสต์ที่ดีควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อเป็นการได้รำลึกและประพฤติตนอยู่ในกรอบบทบัญญติการทำดีอย่างมั่นคง เห็นไหมคะเพื่อน ๆ การปฏิบัติตนให้สำรวม คิดดีทำดี เข้าโบสถ์เข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าเป็นประจำจะทำให้จิตใจเราบริสุทธิ์ และจะได้พบเจอกับหนทางสว่างและความสุขทราปลายเส้นทางของชีวิตอย่างแน่นอนค่ะ