หากจะพูดถึงสีประจำวัน 7 วันที่หลาย ๆ คนมักจะคุ้นชินกันเป็นอย่างดีกับวัฒนธรรมของไทยบ้านเราที่ยึดถือในเรื่องของสีให้เข้ามามีอิทธิพลต่อความเชื่อในหลากหลายด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสีประจำวัน 7 วันที่ไปสอดคล้องกับสีสันความเป็นมงคลประจำวันเกิดในแต่ละวัน หรือสีที่มีความหมายที่ดีกับคนแต่ละราศีที่มีความแตกต่างกัน ซึ่งมักจะมีการบัญญัติไว้เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความมงคลในแต่ละด้านอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน การเงิน โชคลาภ สุขภาพ หรือความรัก ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อตั้งแต่โบราณอย่างหนึ่งที่มีมาอย่างยาวนานแสนนานสืบทอดต่อ ๆ กันมาตามยุคตามสมัย ว่าแต่ยังมีเพื่อน ๆ คนไหนยังจำสีประจำวันทั้ง 7 วันของสัปดาห์ไม่ได้อยู่บ้างหรือเปล่าเอ่ย? วันนี้เราได้เก็บสาระแบบสรุปย่อยพร้อมอ่านมาให้แบบจุก ๆ แล้ว หากใครพร้อมแล้วเรามาดูไปพร้อมกันได้เล้ย!
ความลับของสีประจำวัน 7 วันที่หลายคนอยากรู้แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ!
โดยแท้จริงแล้วจุดกำเนิดความเชื่อหรือการตั้งเกณฑ์ของสีประจำวัน 7 วันนั้นมีจุดเริ่มต้นจากประวัติศาสตร์ไทยที่มักจะใช้การอ้างอิงจากตำนานเกี่ยวกับสีกายของเหล่าเทพเทวดาของไทยที่ถูกเสกให้บังเกิดกายขึ้นมาจากอิทธิฤทธิ์บางอย่างของพระอิศวร จึงนำหลักการเหล่านี้มาประกอบการยึดสีประจำวันิแถมยังมีความเชื่ออีกว่าเทพเทวดาเหล่านั้นจะมีอิทธิฤทธิ์หรือมีกำลังที่แก่กล้ามากที่สุดจนเพียงพอที่สามารถจะปกป้องหรือช่วยเหลือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจนำพาให้เราสามารถข้ามผ่านพ้นอุปสรรคนานานับประการไปได้อย่างราบรื่นและง่ายดายนั่นเอง
สำหรับวันอาทิตย์จะแทนด้วยสีแดงซึ่งอ้างอิงจากตำนานของพระอิศวรที่นำราชสีห์จำนวน 6 ตัวมาป่นแล้วห่อด้วยผ้าสีแดงแล้วพรมด้วยน้ำอมฤตจนบังเกิดกลายเป็นพระอาทิตย์ ฤทธิ์เดชจากสีแดงของผ้าทำให้อาณุภาพของดวงอาทิตย์ส่องแสงและมีกายเป็นสีแดง ส่วนวันจันทร์มีสีประจำวันคือสีเหลือง ตามตำนานเล่าขานกันมาว่าพระอิศวรได้ทำการร่ายพระเวทให้เหล่านางฟ้าทั้ง 15 นางหลายเป็นผุยผงละเอียดแล้วทำการห่อด้วยผ้าสีเหลืองก่อนพรมด้วยน้ำอมฤตจึงบังเกิดเป็นพระจันทร์ที่มีรูปกายสีเหลืองนวลสวยงาม
เฉกเช่นเดียวกับวันอังคารที่มีสีประจำวันคือสีชมพู ที่มีการค้นหาประวัติศาสตร์ตามตำนานและพบว่าพระอิศวรได้ทำการร่ายพระเวทให้กระบือจำนวน 8 ตัวกลายเป็นผงและห่อด้วยผ้าสีแดง จนจุติเป็นพระอังคารที่มีสีกายเป็นสีแก้วเพทาย ซึ่งมีสีประจำกายเป็นสีชมพูเหลื่อมแดงงดงาม ส่วนวันพุธนั้นตามตำนานเล่าว่าเกิดจากที่พระอิศวรร่ายพระเวทใส่พญาคชสารจำนวน 17 ตัวให้กลายเป็นผุยผงก่อนห่อด้วยผ้าสีเขียวแล้วพรมน้ำอมฤตจนบังเกิดกลายเป็นพระพุธที่มีรูปกลายสีเขียวมรกต
ในส่วนของสีประจำวันพฤหัสบดีนั้นมีสีประจำวันคือสีส้ม โดยมีเรื่องราวเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตว่าเกิดจากที่พระอิศวรได้ทำการร่ายพระเวทให้กับฤาษี 19 ตนให้กลายเป็นผงก่อนห่อด้วยผ้าสีแสดแล้วพรมด้วยน้ำอมฤตจึงบังเกิดกลายเป็นพระพฤหัสบดีที่มีเนื้อกายเป็นสีส้มอมแสดสีเดียวกับผ้าที่ห่อ ส่วนวันศุกร์ที่มีสีประจำวันเป็นสีฟ้านั้น ได้มีตำนานของสีประจำวันจากที่พระอิศวรได้ร่ายพระเวทให้โคทั้ง 21 ตัวกลายเป็นผงก่อนห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินครามก่อนพรมด้วยน้ำอมฤตจนบังเกิดกลายเป็นพระศุกร์ที่มีรูปกายสีฟ้าครามสุกสกาวแวววาวงดงาม ซึ่งแตกต่างกับสีของวันเสาร์วันสุดท้ายของสัปดาห์ที่มีสีประจำวันเป็นสีม่วง โดยมีประวัติตำนานการเล่าขานเอาไว้ว่าพระอิศวรได้ร่ายพระเวทใส่เสือจำนวน 10 ตัวให้กลายเป็นผงก่อนห่อด้วยผ้าสีดำหลัวแล้วประพรมด้วยน้ำอมฤตจึงบังเกิดเป็นพระเสาร์ที่มีรูปกบายเป็นสีดำคล้ำ ในบางตำนานบอกเอาไว้ว่าผ้าที่ใช้ห่อเป็นสีดำแกมม่วง เป็นเฉดสีม่วงเข้มจนเกือบกลายเป็นสีดำ จึงถือว่าสีม่วงเป็นสีหลักประจำวันเสาร์นั่นเอง
ประโยชน์ของการใช้สีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต!
หากจะกล่าวถึงสีประจำวัน 7 วัน นอกจากความเชื่อในเรื่องของดวงชะตาหรือความเชื่อต่าง ๆ ที่หลายคนใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเพื่อความสบายใจแล้ว ยังสามารถช่วยกระตุ้นความจำและช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กเล็ก เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารเสมือนเป็นตัวกลางในการจัดหมวดหมู่ที่ทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใดก็สามารถเข้าใจได้อย่างตรงกัน โดยนำมาเป็นตัวกลางที่ใช้สื่อสารความหมายผ่านสีแทนวันต่าง ๆ ของปฎิทินหรือสามารถใช้ประโยชน์ของสีประจำวัน 7 วันนี้ในการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของงานกลุ่มได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ในบางกลุ่มมักจะใช้สีประจำวันเหล่านี้ในการยึดถือเป็นสีมงคลเพื่อเลือกสวมใส่เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือรองเท้าให้เกิดเป็นความสิริมงคลแก่ตนเอง และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจในหลาย ๆ เรื่องได้เป็นอย่างดี เราจึงเห็นได้ว่าในเรื่องของสีประจำวันนั้นมีประโยชน์มากมายกับทุกเพศทุกวัยอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นการจดจำสีของแต่ละวันได้จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งในการและการอยู่ร่วมกันในสังคมได้ง่ายยิ่งขึ้นได้อีกด้วย โดยเฉพาะการปลูกฝังให้ฝึกการจดจำและเรียนรู้เรื่องสีตั้งแต่ในเด็กนักเรียนหรือเด็กวัยเรียนอย่างที่หลักสูตรได้บรรจุเนื้อหาไว้ในหนังสือเรียนนั่นเอง สำหรับบทความหน้าเราจะมีความรู้ดี ๆ อ้างอิงตำนานประวัติศาสตร์น่ารู้ในหัวข้อใดที่น่าสนใจมาเสิร์ฟให้ได้อ่านกันอีก อย่างลืมแวะเวียนมากดติดตามเราเอาไว้กันด้วยน้า จะได้ไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจที่น่ารู้แบบจุก ๆ แบบนี้ค่า!
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.areenakids.com/สื่อการเรียน-การสอน/
- https://eng-panda.com/wp-content/uploads/2021/05/วันทั้ง7ภาษาอังกฤษ.jpg
- https://shopee.co.th/สื่อการสอน-1-สัปดาห์-มี-7-วัน-i.14980356.4123598694
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://www.areenakids.com/สื่อการเรียน-การสอน/
- https://eng-panda.com/wp-content/uploads/2021/05/วันทั้ง7ภาษาอังกฤษ.jpg
- https://shopee.co.th/สื่อการสอน-1-สัปดาห์-มี-7-วัน-i.14980356.4123598694
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม