หลายๆคนมักจะพบเจอกับเหตุการณ์ ความฝัน ทุกครั้งที่หัวถึงหมอน หรือ เพียงแค่งีบนิดหน่อยระหว่างพักผ่อนก็เข้าสู่หวงนินทรันได้แบบง่ายดายแล้ว เพื่อนๆคงจะสงสัยกันใช่ไหมล่ะว่า แท้จริงแล้วความฝันเกิดจากอะไรกันแน่ คนโบราณ หรือ ญาติผู้ใหญ่ก็มักจะบอกเล่าต่อๆกันว่า ความฝันในบางช่วงเวลา เกิดจากนิมิตของเหล่าเทวาดา หรือ บุคคลที่อยู่อีกมิติหนึ่งมาดลบันดาล ให้เราเห็นเรื่องราวต่างๆกัน บ้างก็มีความเชื่อว่าเรื่องราวความฝันอาจมีความหมาย ใช้ทำนายอนาคตได้ด้วย
แต่ความฝันก็สามารถอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ได้เช่นกัน หากเพื่อนๆอยากรู้ว่าแท้จริงแล้ว ความฝันตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นเกิดขึ้นได้ยังไง มีทฤษฎีไหนที่น่าเชื่อถือได้บ้าง ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีการหาเหตุและผลถึงที่มาที่ไปของความฝัน ได้แบบไม่ชัวร์ แต่ก็มีทฤษฎีต่างๆที่มาอธิบาย เหตุผลการเกิดขึ้นและมีอยู่ของความฝันได้อย่างมากมายเช่นกัน จะมีทฤษฏีไหนบ้างไปดูกันเลย
ความฝันเกิดจากอะไร ?
ความฝันเกิดจากอะไร หลายๆคนมักจะนึกถึงเรื่องเล่าที่ว่าความฝันคือ นิมิตจากเทวดา หรือ จากอีกมิติหนึ่งที่เป็นความเชื่อตามหลักคำสอนศาสนา เช่นเดียวกับความเชื่อของชาวกรีก โรมัน ที่เชื่อว่าความฝัน เกิดจากนิมิตของเหล่าทวย เทพ เทวดา หรือ จากอีกมิติหนึ่ง บ้างก็เชื่อว่าความฝันนั้นสามารถให้โชคลาภ และสามารถทำนายอนาคตได้ด้วย จริงเป็นเหตุผลที่ใช้อธิบายว่า ฝันเรื่องเดิม เกิดจากอะไรในสมัยโบราณได้ แต่หากพูดถึงเรื่องราวความฝัน ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ก็มีทฤษฎีต่างๆที่สามารถให้คำนิยามของความฝันได้เช่นเดียวกันเลยล่ะ
ความฝัน คือ การแสดงออกทางแรงขับ ความปรารถนา และความรู้สึก
ไม่แน่ว่า คำพูดติดตลกที่บอกว่า ฝันไปหรอ ถ้าทำไม่ได้ก็ค่อยฝันเอา ก็อาจจะเป็นเรื่องจริงตามทฤษฎีของ ซิกมันด์ ฟรอยด์ นายแพทย์ด้านประสาทวิทยา ชาวออสเตรียก็เป็นได้ นอกจากเขาจะใคร่รู้สนใจในการทำงานของระบบประสาทและความคิดมนุษย์ เพื่อการแพทย์แล้ว เขาก็ยังให้ความสนใจกับความคิดของมนุษย์ในขณะที่หลับใหลอีกด้วย ทั้งยังมีทฤษฎีที่สามารถอธิบายว่า ทำไมถึงฝันเห็นคนที่ไม่รู้จัก ที่สำคัญ เขายังได้รับฉายาว่าเป็นบิดาแห่งจิตวิเคราะห์เลยล่ะ โดย ซิกมันด์ ฟรอย์ วิเคราะห์และคิดว่า ความฝันนั้นเกิดจากแรงขับ หรืออารมณ์ของมนุษย์ที่มีความรู้สึกและมีแรงปรารถนาต่างๆ ซึ่งถูกกดทับและซ่อนเอาไว้ในจิตลึกๆ และมักจะเป็นเรื่องเพศส่วนใหญ่ เช่น หญิงสาวมักจะฝันถึงชายในฝัน หรือ ชายหนุ่มมักจะฝันถึงสาวที่มีลักษณะที่ตนชอบและอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันในฝันอีกด้วย ดูเหมือนว่าทฤษฎีนี้ก็มีส่วนที่จะอธิบายที่มาที่ไปของความฝันได้อย่างมีเหตุและผล เพราะเป็นการอธิบาย ความฝันเกิดจากอะไร จิตวิทยา แต่ก็น่าจะไม่ถูกทั้งหมดซะทีเดียว
อีกหนึ่งจิตแพทย์และนักจิตบำบัดชาวสวิตเซอร์แลนด์ ก็เห็นด้วยคล้ายกับ ซิกมันด์ ฟรอยด์ ที่บอกว่าความฝันเกิดจากปัจจัยแรงกระตุ้นบางอย่างของมนุษย์ โดยเขามองว่า ความฝัน คือ พลังงานที่มีรูปร่างและเกี่ยวพันกับจิตใต้สำนึก ความฝันมักจะมาจากภาพสะท้อนของสิ่งต่างๆที่ ทุกคนพบเจอและรู้สึกนึกคิดอยู่ทุกวัน สมองจึงนำกลับมาขบคิดอีกครั้งจนแสดงออกมาเป็นความฝันในขณะที่เราหลับใหลนั้นเอง
ความฝัน กับการทดลอง ทฤษฎี สมองลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออก
เนื่องจาก การหาที่มาที่ไปของความฝัน ทำให้สถาบันการแพทย์ Max Planck ในเมืองไฮเดลเบิร์ก ในประเทศเยอรมนี ได้ทำการทดลองว่าแท้จริงแล้วความฝัน เกิดจากการที่สมองได้ลบความจำที่ไม่จำเป็นออกจากสมองในแต่ล่ะวันจริงหรือไม่ โดยทำการทดลองกับหนูที่ถูกวางยาสลบ ทำให้พบว่าสมองส่วน นีโอคอร์เท็กซ์ นั้นสามารถทำงานได้ในขณะที่หลับ โดยจะประมวลผลว่าข้อมูลในสมองส่วนไหนที่เหมาะจะถูกเก็บไว้ระยะยาว และจะส่งกระแสประสาทไปยังสมองส่วนฮิปโปแคมปัส ทำให้สมองส่วนนี้เก็บข้อมูลระยะสั้นไว้แทน ไม่นานบางความทรงจำก็จะถูกลบและลืมลง เพราะฉะนั้นแล้วเจ้าความฝันที่ทุกคนเห็นๆกันในทฤษฎีนี้ ก็เกิดจากภาพความทรงจำที่ถูกผสมผสานปรุงแต่ง จนกลายเป็นความฝันนั้นเอง เหมือนกับการที่เพื่อนๆพึ่งจะไปดูหนังมา หรือ ทำกิจกรรม สอบ ออกกำลังกายก่อนนอน ก็อาจจะเก็บเรื่องราวดังกล่าวกลับมาฝันในคืนนั้นได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่บ่อยครั้ง เมื่อมีความฝันหลายๆคนคงมักจะลืมไปว่าตัวเองนั้นฝันอะไร เพราะอาจมาจากการที่สมองเลือกลบข้อมูลที่ไม่จำเป็นออกไปนั้นเอง
ความฝัน กับความเชื่อ
หากเป็นความฝันและความเชื่อตั้งแต่สมัยโบราณ ว่า ทำไมฝันแล้วรู้สึกเหมือนจริง หรือทำไมถึงฝันถึงคน ได้มีการแบ่งความฝันเป็นทั้งหมด 4 ประเภท และความฝันบางประเภทเชื่อว่าสามารถให้โชค หรือเป็นนิมิตหมายที่อาจจะเกิดขึ้นได้จริงอีกด้วย โดยแบบแรก คือ จิตนิวรณ์ คือ การที่นำสิ่งที่นึกคิด หรือ กังวลใจ เก็บเอาไปฝันในเวลากลางคืน อาจเกิดจากความวิตกกังวล หรือ นำเรื่องที่เจอมาเก็บไปคิด ก็ยังไม่ใช่ความฝันที่เป็นนิมิต จากเทวดาสิ่งศักดิ์สิทธ์นั้นเอง
ประเภทเทพสังหรณ์ เป็นความฝันที่เชื่อว่าอยู่ในระหว่างที่หลับลึก เกิดจากเทวดามาดลใจ และทำให้เห็นภาพความฝันนั้นขึ้น
ประเภทบุพนิมิต คือความฝันที่เกิดกับผู้มีบุญ และความฝันนั้นอาจเป็นนิมิตที่ใช้ทำนายอนาคตได้อีกด้วย
ประเภทธาตุสัมฤทธิ์ หรือ ธาตุพิการ คือความฝันที่เกิดจากการกินของแสลง หรืออาการไม่สบาย ซึ่งมักจะเป็นความฝันที่เรารู้สึกในช่วงแรงที่นอนหลับนั้นเอง
เรื่องราวการอธิบาย ให้เหตุผลของความฝันต่างๆก็มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เกิดขึ้นตามความเชื่อและความรู้ที่สะสมมาในแต่ล่ะยุคสมัย แม้ว่าเรื่องราวความฝันจะยังหาข้อสรุปแน่นอนไม่ได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ และได้มีการทดลองไปแล้วก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลทั้งหมดของความฝันได้ ความฝันจึงถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งเร้นลับที่น่าสนใจและหาเหตุผลเป็นอย่างมากเลยล่ะ แล้วเพื่อนๆล่ะเชื่อว่าความฝันเกิดจากอะไรกันแน่นะ ไม่แน่ว่าความฝันอาจจะเกิดจากสิ่งเหล่านั้นจริงๆก็เป็นได้เลยล่ะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม