หลวงปู่ทวดถือเป็นพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งในไทยที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้ว่าท่านจะละสังขารไปตั้งแต่ พ.ศ. 2225 หรือหลายร้อยปีมาแล้ว แต่เครื่องรางของขลัง พระคาถา ตลอดจนหลักคำสอนต่าง ๆ ยังคงถูกสืบทอดกันมาอย่างเหนียวแน่นจากบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่เคารพนับถือหลวงปู่ทวดมาโดยตลอด ยิ่งกิตติศัพท์ของเหรียญหรือเครื่องรางที่หลวงปู่ทวดได้กรุณาปลุกเสก จะเห็นได้ว่ามีราคาสูงลิบลิ่ว นั่นเป็นเพราะความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นสิริมงคลจะบังเกิดขึ้นกับตัวผู้เคารพบูชาให้มีความแคล้วคลาดปลอดภัยและไร้ซึ่งอุปสรรคต่าง ๆ นา ๆ ได้ราวกับมีปาฏิหาริย์ โดยจะเห็นได้จากเรื่องเล่าหรือประสบการณ์ตรงของผู้ที่เคารพบูชาที่มักจะได้พบกับเรื่องเหลือเชื่อในชีวิตของเขา ดังคำบอกเล่าของคุณเขมชาติ เทพไชย อดีตรองอธิบดีกรมศิลปากร ที่มีความเคารพนับถือหลวงปู่ทวดมาเป็นพิเศษ โดยประสบการณ์จริงในวัยเด็กที่ท่านและครอบครัวได้ไปเคารพสักการะหลวงปู่ทวด จนเกิดปาฏิหาริย์ในระหว่างที่น้องของท่านกำลังจะข้ามถนนนั้นได้มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งสวนขึ้นมาและทับร่างของเธอไป ทุกคนเห็นกับตาว่าร่างนั้นได้ไปอยู่ใต้ท้องรถไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะมีชีวิตรอดกลับมาได้ แต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวดจึงทำให้น้องสาวของคุณเขมชาติไม่ได้รับอันตรายใด ๆ จากการถูกรถยนต์ชนเลยแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์อื่น ๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของการท่อง คาถาหลวงปู่ทวด ที่ช่วยคลายมนต์สะกดหรือของไม่ดีต่าง ๆ ให้หายไป เนื่องจากช่วงหนึ่งที่คุณเขมชาติเกิดข้อขัดแย้งบางอย่าง จนทำให้ผู้ที่มีคาถาอาคมเลือกทำของใส่ท่านแต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ได้ช่วยทำให้เขารอดพ้นจากมนต์ดำเหล่านั้นมาได้ และอีกความโดดเด่นของเครื่องราง เหรียญต่าง ๆ หรือพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดที่ได้รับการยอมรับไปทั่ว นั่นก็คือความแคล้วคลาดปลอดภัยไม่ว่าจะเดินทางไปยังพื้นที่ไหน คนที่เคารพบูชาก็จะได้รับการปกปักรักษาและทำให้ทุก ๆ การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งปาฏิหาริย์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณเขมชาติเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่มีอีกหลายคนที่เคยประสบพบเจอและมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่ทวดมาแล้วอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลให้เหรียญหรือเครื่องรางต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่หลวงปู่ทวดมีชีวิตอยู่มีมูลค่าที่สูงมาก บางรุ่นมีราคาเป็นล้านบาท และถูกจับตามองจากเซียนพระทั้งในและต่างประเทศอยู่เสมอ
วิธีการบูชาหลวงปู่ทวด
เตรียมธูปแขกหรือธูปสีดำ จำนวน 9 ดอก และดอกมะลิสีขาว 9 ดอก จากนั้นก็ให้ท่องนะโมฯ 3 จบ ตามด้วยคาถาบูชาหลวงปู่ทวดอีก 3 จบ
คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ)
จากคาถาบูชาหลวงปู่ทวดแปลความได้ว่า “ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่เจ้าประคุณสมเด็จหลวงปู่ทวด ผู้เป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้มีโชคซึ่งเข้ามาสถิตอยู่ในตัวของข้าพเจ้านี้”
เด็กชายปูจากสทิงพระสู่จุดเริ่มต้นของ คาถาหลวงปู่ทวด
ด้วยความที่เรื่องเล่าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลวงปู่ทวดนั้นมีความเป็นมาอันยาวนานหลายร้อยปี จึงทำให้บางคนที่ได้รับฟังคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา หรือเป็นเพียงบุคคลทางศาสนาที่ถูกจินตนาการขึ้นมา แต่ในความเป็นจริงแล้วหลวงปู่ทวดถือเป็นพระสงฆ์ที่มีตัวตนจริง ๆ ในสมัยอยุธยาซึ่งเป็นช่วงที่สมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงปกครองอาณาบริเวณของสยามอยู่ โดยจะเห็นได้จากหนังสือจากทางพระราชวังและบันทึกต่าง ๆ ที่ได้กล่าวถึงหลวงปู่ทวดอย่างละเอียด ดังนั้นนี่จึงเป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมที่สามารถรองรับการมีตัวตนอยู่จริงของพระเกจิอาจารย์รูปนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อนที่ท่านจะก้าวเข้าสู่ร่มกาสาวพัดได้เกิดเหตุการณ์ปาฏิหาริย์หลายอย่างที่แสดงถึงความมีบุญญาบารมีของหลวงปู่ทวดไว้อย่างมากมาย โดยชื่อเดิมของท่านในตอนที่เป็นเด็กนั้นมีชื่อว่า ปู ซึ่งเป็นบุตรของนายหูและนางจันทร์ในพื้นที่ของอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ที่เป็นบริเวณภาคใต้ของไทยนั่นเอง ซึ่งในระหว่างที่พ่อแม่กำลังทำสวนอยู่นั้นได้ผูกเปลให้นายปูนอนแต่ปรากฏว่ามีงูจงอางตัวใหญ่เลื้อยมาพันรอบเปล เมื่อพ่อแม่เห็นดังนั้นจึงตกใจ เกรงว่านายปูจะเป็นอันตราย แต่ก็ทำได้เพียงการตั้งจิตอธิษฐานและนำธูปเทียนดอกไม้มาถวาย จนกระทั่งงูจงอางตัวนั้นได้คลายการรัดเปลออกและเลื้อยหายออกไป ซึ่งสิ่งที่เป็นความอัศจรรย์คืองูตัวนั้นไม่ได้ทำร้ายนายปูเลยแม้แต่น้อย แถมยังปรากฏเมือกแก้วสีใสสะอาดเป็นดวงกลมทิ้งไว้บนตัวของนายปูอีกด้วย ซึ่งต่อมาเศรษฐีที่เป็นนายทาสของนายหูและนางจันทร์ทราบเรื่องเข้าก็บังคับให้ทั้งสองคนนำลูกแก้วที่ว่านั้นมาไว้ในการครอบครองของตน แต่ปรากฏว่าชีวิตของเขาและครอบครัวกลับย่ำแย่ มีแต่อุปสรรคและไม่มีความสุขใด ๆ จนต้องนำลูกแก้วนั้นกลับไปคืนกับครอบครัวของนายปูในที่สุด
เมื่อนายปูอายุครบ 7 ปี ทางครอบครัวเห็นว่าด้วยอุปนิสัยใจคอและพฤติกรรมบางอย่างที่นายปูเป็น เช่นการไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหรือกลั่นแกล้งสัตว์อย่างที่เด็ก ๆ คนอื่นมักทำ นายหูและนางจันทร์จึงมีความเห็นตรงกันว่าควรส่งเด็กชายคนนี้ไปบวชเป็นสามเณรเพื่อร่ำเรียนหนังสือและศึกษาธรรมะที่วัดดีหลวง หรือวัดสีหยังบริเวณอำเภอสทิงพระนั่นเอง จากนั้นด้วยความมุมานะและขยันหมั่นเพียรของท่านทำให้ได้บวชพระและเข้าไปศึกษาพระธรรมที่หัวเมืองใหญ่ของภาคใต้ จนมีชื่อเสียงและถูกเคารพกราบไหว้จากลูกศิษย์ลูกหาในหลาย ๆ พื้นที่อย่างหนาแน่น จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ศักดิ์ด้านพระสงฆ์ที่น่าเลื่อมใสจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในยุคนั้นด้วย
อภินิหารหลวงปูทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่โด่งดัง จนชาวต่างชาติต้องยอมศิโรราบ
อีกเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในระหว่างที่หลวงปู่ทวดยังคงมีชีวิตอยู่ นั่นก็คือการเหยียบน้ำทะเลจนกลายมาเป็นน้ำจืด ด้วยยุคสมัยนั้นการเดินทางที่รวดเร็วและดีที่สุดคือการล่องเรือสำเภาฝ่าผืนน้ำทะเลไปยังตัวเมืองพระนครหรือกรุงศรีอยุธยาในเวลานั้น ได้เกิดเหตุการณ์คลื่นลมกรรโชกแรงจนทำให้เรือสำเภาไม่สามารถเดินเรือต่อไปได้ นายเรือจึงแวะพักกลางทางและน้ำจืดซึ่งเป็นของหายากและมีความสำคัญต่อลูกเรือก็ได้เหือดหายไปตามกาลเวลาและการใช้งาน จนทำให้หลายคนที่อยู่บนเรืออดคิดไม่ได้ว่าเป็นเพราะหลวงปู่ทวดเป็นตัวกาลกิณีหรือไม่ จึงได้นิมนต์ให้ท่านลงจากเรือ แต่ทว่าทันทีที่เท้าของของหลวงปู่ทวดได้สัมผัสกับทะเล น้ำเค็มเหล่านั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นน้ำจืดที่สามารถดื่มกินได้ จนหัวหน้าเรือและลูกเรือทั้งหลายต้องรีบขอขมาและนิมนต์หลวงปู่ทวดกลับขึ้นไปบนเรือดังเดิม เมื่อข่าวเกี่ยวกับการเหยียบน้ำทะเลจืดครั้งนี้แพร่สะพัดออกไป ยิ่งทำให้ชาวบ้านและผู้คนในอยุธยาเกิดความเลื่อมใสใน คาถาหลวงปู่ทวด มากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณเลยก็ว่าได้ ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์นี้ได้แผ่ขยายไปยังชนชาติอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นจีน สิงคโปร์ และอีกมากมายที่เคารพนับถือหลวงปู่ทวดเต็มกำลังศรัทธา
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเหรียญหรือ คาถาหลวงปู่ทวด จะมีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่เคารพบูชาอย่างชัดเจน แต่ก็มีข้อห้ามบางประการที่ผู้ถือครองจะต้องปฏิบัตินั่นก็คือศีล 5 และการละเว้นสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไป จึงจะทำให้คุณความดีและ คาถาหลวงปู่ทวด คงความศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่กับผู้ที่บูชาต่อไปได้ และสำหรับคนที่ต้องการจะไปสักการะกราบไหว้หลวงปู่ทวดตลอดจนได้มีโอกาสท่อง คาถาหลวงปู่ทวด อย่างจริงจังก็สามารถเดินทางไปที่วัดพะโคะ จังหวัดปัตตานีได้เสมอ เพราะที่นั่นมีการตั้งสถูปบรรจุอัฐิของหลวงปู่ทวดเอาไว้ นอกจากนี้หากท่านใดที่ไม่สะดวกเดินทางไปภาคใต้ก็สามารถไปสักการะพระเกจิท่านนี้ได้เช่นกันที่ วัดแม่ตะไคร้ จ.เชียงใหม่ , พุทธอุทยานมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา , วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี จ.นครราชสีมา และวัดห้วยมงคล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทุกที่ที่แนะนำมานั้นเป็นรูปปั้นหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://www.sanook.com/horoscope/66577/?fbclid=IwAR2sHsXgRUDcWXqI3dSKQAfB6GUyYFmV-n2olAIc5jfgSqR5iciePm-8QqU
- https://www.thairath.co.th/lifestyle/culture/2015244?fbclid=IwAR28je7o0l-OH4u6n93k6fil1c1pGeJQOpwfGN-nFUIWE0TMdhpNiDQw9co
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม