ยังจำกันได้หรือไม่ในช่วงวัยเยาว์แห่งความสนุกสนาน คุณพ่อคุณแม่มักจะร้องเพลงเพื่อปลอบใจหรือสร้างความเพลิดเพลินพร้อมกับเชียร์ให้ลุกเต้น ปัจจุบันเพลงเด็กภาษาอังกฤษก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ครอบครัวไทยให้ความนิยมอย่างยิ่ง
เพราะเพลงภาษาอังกฤษไม่เพียงสร้างรอยยิ้มและความผ่อนคลาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการรอบด้านทั้งด้านภาษา ความฉลาดทางอารมณ์ การทำงานของร่างกายที่ประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นจิกซอว์ตัวสำคัญในการเติบโตของเด็กเล็กเลยก็ว่าได้ ดังนั้นอย่ารอช้า มาเช็กกันดีกว่าว่าเพลงใดควรค่าแก่การเพิ่มลงเพลย์ลิสต์บ้าง
TOP 9 เพลงเด็กภาษาอังกฤษแห่งปีชวนโยก ร้องง่าย ได้ทักษะเกินคาด!
สำหรับรายชื่อเพลงเด็กภาษาอังกฤษสำหรับเด็กที่ถูกคัดสรรมาวันนี้ ถูกใจเด็ก ๆ ทั่วโลกและคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอน ไม่ว่าลูกของคุณจะยังอยู่ในวัยประถมตอนต้น อนุบาลหรือวัยเตาะแตะก็ครอบคลุมทั้งหมด จะน่าสนใจเพียงใดมาดูพร้อมกันเลย
1. Ring Around the Rosy
มาประเดิมกันที่เพลงประกอบท่าทาง ภาษาอังกฤษเพลงแรก ‘Ring Around the Rosy’ เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังฝึกพูด ในเพลงจะมีการออกท่าออกทาง เช่น จับมือกันเดินเป็นวงกลม กระโดดและล้มตัวนอน ซึ่งสามารถจดจำคำศัพท์ได้ง่ายแน่นอน วิธีแนะนำคือ เปิดสัก 2 – 3 รอบเพื่อให้คุ้นชินกับท่าและเพลง จากนั้นให้หยุดจังหวะ ‘down’ ‘jump’ หรือ ‘fall’ เพื่อให้ลูกพูดออกมา รับรองว่าสนุกสนานแน่นอน!
2. Counting 1 to 10 — PINGFONG
มาต่อกันที่เพลงเด็กภาษาอังกฤษเบสิกสำหรับสอนลูกน้อยนับเลข 1 – 10 ด้วยจังหวะที่แสนเพลิดเพลินและแอนิเมชันเจ้าเพนกวินที่น่าสนใจชวนให้ร้องตามอย่างมาก แถมมีการนับถอยหลังจาก 10 – 1 อีกด้วย ใครจะสอนลูกเริ่มเขียนเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กจากเพลงนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
3. Hokey Pokey
สำหรับเพลงนี้ขึ้นแท่นอับดับ 1 ในดวงใจของเด็กทั่วโลก โดยจังหวะจะไม่เร็วนักและได้โยกย้ายทั้งร่างกายให้ลูกของคุณเรียนรู้ทั้งคำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ขา แขน หัว หากโตขึ้นมาหน่อยค่อยเพิ่มฝั่งซ้าย/ขวา เข้ามาด้วย ร่างกายจะมีการทำงานสอดประสานอย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
4. If You’re Happy and You Know it — Super Simple Song
เพลงสำหรับเด็กนี้ติดหูคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอนเพราะมีเวอร์ชันภาษาไทยอย่าง “หากว่าเรากำลังสบายจงปรบมือพลัน” โดยเวอร์ชันที่เราหยิบมาฝากนี้เหมาะสำหรับการดูประกอบเพื่อให้น้อง ๆ ออกท่าออกทางตาม สนุกสนานและจดจำได้ง่าย หากเป็นเด็กเล็กอาจจะสอนให้ลอกเลียนแบบท่าการปรบมือและยกมือ โตขึ้นมาหน่อยสามารถสอนการแสดงสีหน้าท่าทางตามอารมณ์ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจแสดงตัวอย่างแบบ Overacting ให้เห็นภาพชัด ซึ่งเนื้อหาของเพลงจะสอนเรื่องอารมณ์และการขยับร่างกายแบบเริ่มต้นได้ดี
5. Head, Shoulders, Knees and Toes
หากนึกถึงเพลงเด็กภาษาอังกฤษในตำนานที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานจะขาดเพลงนี้ไปได้อย่างไร เช่นเดียวกับ ‘Hokey Pokey’ เพลงนี้สอนคำศัพท์เกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ผู้ปกครองอาจจะแสดงท่าทางให้น้อง ๆ เลียนแบบในเวอร์ชันช้า เมื่อทำตามได้คล่องแคล่วแล้วอาจจะเปิดช่วง Speed Up ขึ้นมาให้สนุกเพิ่มขึ้น ซึ่งหากจับผิดส่วนก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกเลย มิหนำซ้ำอาจสร้างเสียงหัวเราะให้ลูก ๆ ได้อีกด้วย
6. Twinkle, Twinkle Little Star — Kidcasts
สำหรับเพลงนี้เชื่อว่าทุกคนรู้จักเพราะไม่ว่าจะมุมไหนของโลก คุณพ่อคุณแม่ก็นิยมเปิดเพลงนี้ให้เด็ก ๆ ฟัง ซึ่งจังหวะค่อนข้างช้า ให้ความผ่อนคลายจำเนื้อร้องง่ายด้วยความเป็น Nursery Rhyme ซึ่งในไทยก็นำมาประยุกต์เป็นเพลงภาษาอังกฤษabc ที่เราต่างก็เคยร้องนั่นเอง โดยเวอร์ชันที่เราแนะนำมาพร้อมท่าทางง่าย ๆ อย่างการเอียงหัว ชูไม้ชูมือ หลังจากน้อง ๆ คุ้นเคยกับเพลงแล้วให้ใช้เทคนิคหยุดเน้นจังหวะสำคัญ (expectant pause) เช่น Twinkle, Twinkle little (star). How I wonder what you (are) เป็นต้น
7. Wheels on the Bus — Cocomelon
มาปิดท้ายกันด้วยเพลงแสนสนุกอย่าง ‘Wheels on the Bus’ ที่ช่วยให้การจำเป็นเรื่องง่ายและสนุก พร้อมชวนโยกเบา ๆ ไปในตัว สำหรับเด็กวัยเตาะแตะควรให้เริ่มจากการเลียนแบบท่าทาง จากนั้นใช้เทคนิค ‘expectant pause’ หยุดเพื่อให้ลูกออกเสียง โดยเฉพาะ Action Words เช่น ‘Up and Down’ และ ‘Beep’ สำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยอาจจะให้ใช้ความครีเอทีฟว่าอะไรเกิดขึ้นได้บ้างบนรถบัสจะแต่งเนื้อเพิ่มก็น่าสนใจและเปิดกว้าง ยืดหยุ่นให้ลูกได้ฝึกฝนการอธิบาย แถมคุณยังสามารถหาเพลงภาษาอังกฤษ อนุบาล พร้อมคําแปลเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
8. Old MacDonald Had a Farm — Cocomelon
มาต่อกันที่เพลงสุดคุ้นหูที่ชาวไทยให้ความนิยมอย่างยิ่ง “Old MacDonald Had a Farm…Ee i ee i o” ดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ได้เป็นอย่างดีกับเวอร์ชันจาก ‘Cocomelon’ ที่มีแอนิเมชันสวยงาม พร้อมพาไปรู้จักกับสัตว์ชนิดต่าง ๆ พร้อมเสียงร้อง เมื่อเปิดให้ลูกฟังจนคุ้นกันแล้วอาจจะหยุดบางจังหวะให้ลูกทายว่าเสียงของสัตว์ชนิดต่อไปร้องอย่างไร เรียกรอยยิ้มเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีแน่นอน
9. I See Something Blue — Super Simple Song
อีกหนึ่งหัวข้อที่น่าสนใจในการสอนเด็ก ๆ ก็คือ ‘สี’ นั่นเอง โดยเวอร์ชันนี้นอกจากจะช่วยให้เข้าใจแต่ละสีอย่างง่ายดายจากสิ่งรอบตัวแล้ว ยังเว้นช่วงให้ค้นหาแต่ละสีอีกด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ลูกรักของคุณได้อย่างแน่นอน หรือจะหยิบของในชีวิตประจำวันมาเล่นทายสีก็เป็นความคิดที่ดีไม่น้อย หากเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อยอาจพาแต่งประโยคจากโครงสร้างภาษาง่าย ๆ เช่น I see..(n.) และ I see something (Adjective/Colour) เป็นต้น
มัดรวม 9 เพลงเด็กภาษาอังกฤษประจำปี 2023 ที่เรียนรู้ง่ายได้ทักษะจริง
และนี่คือความน่าสนใจทั้งหมดของเพลงเด็กภาษาอังกฤษที่เราหยิบมาฝากกันในครั้งนี้ ถูกใจทั้งเด็ก ๆ และคุณพ่อคุณแม่อย่างแน่นอนด้วยประโยชน์ที่แฝงมากับเพลงแบบคาดไม่ถึง และอย่าลืมใช้เทคนิคการหยุดจังหวะเพื่อให้ลูกของคุณได้ออกเสียงด้วยล่ะ รับรองว่าสนุกสนานเพลิดเพลินจนหุบยิ้มแน่นอน!
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม