ชวนดูทริคเลือก ชุดไปงานแต่ง มีไอเดียและข้อแนะนำอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

สิ่งที่ควร และไม่ควรทำ เมื่อต้องแมทช์ชุดไปงานแต่ง มีอะไรบ้าง

งานแต่งงานถือว่าเป็นงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของใครคนหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่อย่างเป็นทางการของคู่รัก ที่ได้ผ่านความทุกข์และความสุขมาด้วยกันตลอดมา ฉะนั้นเมื่อมีงานแต่งงานขึ้นมาแล้ว ก็อยากจะจัดให้มันออกมาเพอร์เฟคที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งหลายครั้งเราก็อาจจะเห็นกันไปแล้วว่า เจ้าภาพจะมีการเตรียมตัวมาเป็นเดือน เตรียมหลาย ๆ อย่างเพื่อให้ทุกอย่างออกมาลงตัวที่สุด และพยายามให้ความผิดพลาดออกมาน้อยที่สุด เช่น ธีมงานแต่ง การ์ดแต่งงาน ชุดไปงานแต่งของแขก อาหารในงาน สถานที่จัดงาน เป็นต้น 

หลายครั้งเราที่เป็นแขกในงานแต่งงาน ก็อาจจะยังไม่แน่ใจว่าเราควรแต่งตัวไปอย่างไรดี มีกฎในการแต่งตัวไปงานแต่งหรือเปล่า กาลเทศะที่เหมาะสมในการแต่งตัวไปงานแต่งนั้นมีอะไรบ้าง ตลอดจนอะไรบ้างที่เราไม่ควรแต่งไปงานแต่งงานคนอื่น ซึ่งก็อาจจะเป็นสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ โดยเฉพาะคนที่แต่งตัวไม่เก่ง วันนี้เราจึงนำทริคเล็กๆ ที่จะทำให้คนแมทช์ชุดไปงานแต่งได้อย่างถูกต้องตามกาละเทศะและแฟชั่นปัจจุบัน ที่นับว่าครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตของเราไปแล้ว 

สิ่งที่ควรทำ เมื่อจะแมทช์ชุดไปงานแต่ง

• แต่งตัวตามธีมที่กำหนด

เมื่อทุกคนอยากมีงานแต่งงานที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น งานที่จัดออกมาก็จะต้องออกมาเป๊ะที่สุด ซึ่งก็รวมทั้งธีมในงานด้วย เจ้าภาพหรือคู่รักบ่าวสาวจะมีการกำหนดธีมงาน ซึ่งก็จะเป็นทั้งในเรื่องของโทนสี หรือรายละเอียดต่างๆ ที่จะไปในทางเดียวกัน เช่น ผ้าม่าน พรม ประตูทางเข้า ฉากถ่ายรูป ธีมชุดของคู่บ่าวสาว และชุดไปงานแต่งของแขกที่มาในงาน โดยการแต่งกายนั้น ก็จะกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นชุดราตรีที่ดูสวยหรู หรือชุดเรียบง่ายที่เน้นแนวมินิมอล ซึ่งคู่รักส่วนใหญ่จะกำหนดชุดแต่งงานและชุดไปงานแต่งให้ตรงกับช่วงเวลาของปีที่จะจัดขึ้น หรือบางทีพวกเขาก็จะกำหนดตามที่ตั้งใจไว้ เช่น ธีมมินิมอล ธีมเขียวขาว ธีมสีเบจ เนคไทสีดำ ทักซิโด้สีดำ เป็นต้น

• ใช้สถานที่จัดงานเป็นแนวทางในการแมทช์ชุด 

สถานที่จัดงานก็สามารถนำมาเป็นแนวทางในการแมทช์ชุดไปงานแต่งได้เช่นกัน เพราะแต่ละสถานที่ก็สามารถทำให้งานออกมาในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ เช่น หากจัดงานที่ทะเลในฤดูร้อน แขกก็ควรใส่ชุดที่บางเบา และเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน เพื่อให้งานออกมาดูสบายๆ และผ่อนคลาย หรือหากเป็นงานที่จัดในสวนเล็กๆ แขกก็ควรแต่งตัวให้ดูกระฉับกระเฉงหรือดูเป็นธรรมชาติ อาจจะเป็นในชุดธีมคาวบอยก็ได้ หรือหากงานแต่งงานจัดในโบสถ์หรือสถานที่ทางศาสนา เราก็ควรอย่างมากที่จะต้องแต่งตัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่หวือหวาจนเกินไป และให้เหมาะสมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาที่สุด

• หาเครื่องประดับมาตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ 

อีกหนึ่งทริคเล็ก ๆ ที่เราอยากจะแนะนำในการแต่งชุดไปงานแต่งคือการตกแต่งเครื่องประดับเล็กน้อย ให้ชุดที่ดูเรียบง่ายนั้นกลายเป็นชุดที่ดูสวยงามมากขึ้นได้ หากเป็นสุภาพสตรีก็สามารถตกแต่งชุดด้วยเครื่องประดับจากเงิน ทอง หรือเพชร ที่อยู่ในรูปแบบตุ้มหู สร้อยคอ แหวน หรือสร้อยข้อมือ และหากเป็นท่านสุภาพบุรุษก็สามารถแต่งชุดสูทที่ดูธรรมดาให้ออกมาดูดีได้เช่นกัน อาจจะด้วยเข็มกลัดบนหน้าอก หรือผ้าเช็ดหน้าที่อาจจะสอดไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทบนหน้าอก แต่เครื่องประดับก็ไม่ควรใส่มากเกินไปจนดูเยอะ มากกว่าจะเป็นการตกแต่งให้ดูน่าสนใจ

• ประยุกต์ชุดที่มีอยู่แล้วให้เป็นชุดใหม่ 

หากใครที่กำลังมองหาวิธีการประหยัดในการเลือกชุดไปงานแต่ง ด้วยการเนรมิตชุดที่มีอยู่ในตู้ให้ออกมาเป็นชุดใหม่ได้ในพริบตานั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่กวาดตาดูเสื้อผ้าสวยๆ เก่าๆ หรือที่เราอาจจะไม่ค่อยได้ใส่ และนำออกมาประยุกต์ อาจจะมีการดึงขึ้น ดึงลง บิดเกลียว ให้การสวมใส่นั้นไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิม และเพื่อให้ชุดเก่าออกมาดูแปลกตา ซึ่งเราก็ควรนำความมั่นใจและความคิดสร้างสรรค์ออกมาใช้กันสักหน่อยแล้ว เพียงเท่านี้ ก็ไม่จำเป็นต้องควักเงินซื้อชุดที่อาจจะใส่ได้ไม่กี่ครั้ง เพราะเชื่อว่าช่วงนี้ การเงินของหลาย ๆ คนคงจะติดขัดเพราะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก

• คลุมไหล่เมื่อจำเป็น 

การคลุมไหล่ของสุภาพสตรีในงานเลี้ยงนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ดูสง่า โดยเฉพาะชุดไปงานแต่งที่เรากำลังพูดกันอยู่ และจะทำให้คนสวมใส่ดูเรียบหรู โดยปกติแล้วงานแต่งงานที่จัดในโบสถ์หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์จะมีการแลกเปลี่ยนคำสาบาน โดยแขกก็สามารถนำผ้าคลุมไหล่หรือเสื้อสเวตเตอร์มาคลุมตัวเองได้เสมอ เพื่อให้เกียรติสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องมีการแต่งกายที่สุภาพกว่า และสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องจำไว้ คืองานแต่งงานก็เป็นโอกาสอันศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตคน ๆ หนึ่งได้เช่นกัน

ทุกคนอาจจะสังเกตได้จากที่เราได้แชร์ข้อมูลดี ๆ ข้างต้นแล้วว่า การแต่งตัวและการแมทช์ชุดไปงานแต่งนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ และมีผลต่อรูปแบบของงานได้เช่นกัน หากเราแต่งตัวได้ไม่เหมาะสมกับสถานที่และธีมที่กำหนดไว้โดยคู่บ่าวสาว ก็อาจจะส่งผลให้พวกเขาอาจดูผิดหวัง เพราะนั่นก็แสดงได้ถึงการไม่ใส่ใจ และให้ความสำคัญกับงานอันเป็นมงคลเช่นนี้ เว้นแต่ว่าเราจะบอกความจำเป็นส่วนตัว และพวกเขาเข้าใจได้ก็ถือว่าไม่เป็นไร

หลังจากที่เราได้รู้สิ่งที่ควรทำในการเลือกชุดไปงานแต่งแล้ว ต่อไปเราก็มาแชร์ข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ควรกระทำในการแต่งชุดไปงานแต่งด้วย เพราะเมื่อมีสิ่งที่ควรกระทำแล้ว ก็ย่อมมีสิ่งที่ไม่ควรกระทำเช่นกัน

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อจะแมทช์ชุดไปงานแต่ง

• ห้ามใส่ชุดสีขาว

แน่นอนว่าชุดแต่งงานของเจ้าสาวและเจ้าบ่าวส่วนใหญ่ ย่อมเป็นสีขาวโดยไม่ต้องสงสัยกันอยู่แล้ว เพราะหากเราจะสวมชุดสีขาวไปด้วยก็อาจจะทำแขกในงานสับสน ว่าคนไหนคือเจ้าสาวเจ้าบ่าวกันแน่ ดังนั้นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงคือการใส่ชุดสีขาว และควรหาเสื้อผ้าที่เป็นสีอื่นนอกเหนือจากสีขาว แต่ก็อาจจะยังเป็นสีอ่อนได้อยู่ หากมันเป็นสไตล์ส่วนตัวของผู้สวมใส่ แต่ก็ไม่ควรลืมธีมการแต่งตัวที่ถูกกำหนดไว้ด้วย หากจะแค่หลีกเลี่ยงสีขาว แต่ไปใส่ชุดไปงานแต่งแบบหลุดธีมไปเลย อันนี้ก็อาจจะลองคิดใหม่ดูดี ๆ และอาจจะไม่ใช่กรณีที่คู่บ่าวสาวกำหนดธีมที่ให้แขกใส่ชุดสีขาวเช่นเดียวกัน

•  ไม่โอเวอร์และไม่ชิลจนเกินไป

หากจะพูดถึงงานแต่งงานแล้ว แน่นอนว่าคนที่เด่นที่สุดก็ควรจะเป็นคู่บ่าวสาว ซึ่งถ้าหากเราเป็นคนที่ชอบแต่งตัวโอเวอร์ หรือมีสไตล์ส่วนตัวที่เป็นเอกลักษณ์มากอยู่แล้ว ก็อาจจะต้องลดความโอเวอร์ไปก่อน และควรจะแต่งให้ดูเรียบร้อยให้เข้ากับธีม รวมทั้งสถานที่ในงานด้วย หรือหากใครที่ชอบแต่งตัวสบาย ๆ เหมือนทุก ๆ วัน เช่น เสื้อยืด กางเกงยีนส์ หรือหมวกแก๊ปที่อาจจะต้องอยู่บนหัวตลอดเวลา ก็ต้องลองเปลี่ยนสักช่วงเวลา โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ที่มีรอยขาดตามแฟชั่นที่ถือว่าต้องห้ามใส่ไปก่อน นั่นก็เพื่อให้เกียรติคู่บ่าวสาวและแขกในงาน จึงต้องสะบัดความแนวนั้นไปก่อนสักพัก

• เลือกใช้กางเกงที่ไม่ชิลจนเกินไป

หากคุณเป็นสุภาพสตรีคนหนึ่งที่ไม่ได้ชื่นชอบการใส่กระโปรงหรือชุดลากยาว หรือคุณอาจจะเป็นสาวเท่ที่ชอบการใส่กางเกงมากกว่า ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะใส่ชุดไปงานแต่งไม่ได้ เพราะการสวมใส่กางเกงไปงานแต่งก็ไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไป ด้วยแฟชั่นในปัจจุบันที่สามารถประยุกต์ได้ตามโอกาสที่สวมใส่ การใส่กางเกงจึงไม่ได้เป็นสิ่งต้องห้ามแต่อย่างใด แต่อาจจะต้องใช้ความใส่ใจในการเลือกสักหน่อย เพื่อให้ชุดที่สวมใส่นั้นออกมาดูเรียบร้อยตรงกับกาลเทศะและธีมของงาน ซึ่งอาจจะใช้กางเกงที่ตัดเย็บมาตามไซส์หรือตัดเย็บมาเฉพาะตัวก็ได้ และใส่มาคู่กับเสื้อสูททรงสวยๆ หรือสายเดี่ยวผ้าซาตินที่ดูนำแฟชั่นมาสักหน่อย

• ไม่โป๊เกินไป

ขึ้นชื่อว่างานแต่งงานแล้ว ชุดไปงานแต่งไปงานแต่งก็ควรเป็นชุดที่เรียบร้อย เรียบหรูและให้เกียรติคนในงาน ฉะนั้นเสื้อผ้าที่ดีที่จะใส่ในงานแต่งก็ไม่ควรเปิดเนื้อหนังมากจนเรียกว่าโป๊ แต่ก็ไม่ควรลืมเกี่ยวกับแฟชั่นชุดราตรีเช่นกัน ซึ่งการออกแบบของชุดก็อาจจะมีการแหวกบนแหวกล่างได้ตามสบาย หรืออาจจะมีการแทรกผ้าซีทรูที่จะทำให้ดูเซ็กซี่และน่าค้นหามากขึ้น แต่กระนั้น หากจะเป็นชุดที่เปิดมากกว่าปิด ก็อาจจะดูไม่ค่อยสุภาพ และอาจจะดึงดูดสายตามากกว่าคู่บ่าวสาว จนไปแย่งซีนเจ้าของงานโดยปริยาย

• ไม่ควรลืมเรื่องรองเท้า

พูดถึงเรื่องชุดไปงานแต่งกันไปแล้ว เราก็ไม่ควรลืมเรื่องรองเท้าที่จะแมทช์กับชุดเป็นอันขาด การเลือกรองเท้าให้ตรงกับแฟชั่นของชุดและสถานที่จัดงานเลี้ยงก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นเดียว เพราะถ้าหากลองนึกภาพคนที่ตื่นเต้นในการเลือกชุดจนลืมเลือกรองเท้า แล้วต้องเลือกใส่รองเท้าตามที่มีโดยไม่ได้แมทช์กับชุดและสถานที่จัดงาน ก็อาจจะมีสายตาที่คอยเฉลียวมองการแต่งตัวที่แปลกกว่าชาวบ้านสักหน่อย แต่หากเป็นคนที่มีความสามารถในการแมทช์ชุดกับรองเท้าได้อัศจรรย์อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ควรลืมเรื่องการเตรียมรองเท้าด้วย เพราะการเตรียมตัวมาตั้งแต่เนิ่น ๆ นั้นย่อมดีกว่าอยู่แล้ว

ทุกคนอาจจะเห็นกันแล้วว่า การเลือกใช้เสื้อผ้าและการแต่งตัวเพื่อแมทช์ชุดไปงานแต่งให้เข้ากันนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากแค่ไหน โดยหากจะพูดเรื่องการเลือกใส่ และสไตล์การแต่งตัวของแต่ละคนนั้น ก็ไม่ควรมากำหนดจนเด็ดขาดมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้การสวมใส่ครั้งนั้น ไม่รู้สึกเป็นตัวเอง และอาจจะรู้สึกอึดอัด ดังนั้นเราจึงต้องเลือกแต่งตัวให้เหมาะสมกับเวลาและสถานที่ แต่ก็ให้เป็นตัวเองด้วยในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม กฎของการแต่งตัวก็ไม่ได้เด็ดขาดมากนัก หรือบางครั้ง แฟชั่นก็ไม่ได้มีกฎตายตัวให้เราต้องทำตามทุกข้อ เพราะแฟชั่นก็เป็นศิลปะอีกแขนงหนึ่ง หากจะมีใครเคยได้ยินที่ว่า “ศิลปะนั้น ไม่มีถูกไม่มีผิด” ก็คงจะเป็นเรื่องเดียวกัน การแมทช์ที่จะใส่ในโอกาสต่าง ๆ เช่น ชุดไปงานแต่ง ชุดไปไปเที่ยว ชุดไปคาเฟ่ ชุดไปสังสรรค์ ชุดไปงานเลี้ยง ชุดไปปาร์ตี้ หรือชุดไปงานพิเศษต่าง ๆ ก็ไม่ได้มีกฎตายตัวเช่นกัน สิ่งที่เราควรคำนึงถึงคือกาลเทศะ ที่เราควรแต่งให้เหมาะสมแต่เพียงเท่านั้น

📚 อ้างอิง (Reference Sites)

📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)

เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม