10 ประโยคภาษาญี่ปุ่น ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
ทุกคนเคยได้ยินประโยคภาษาญี่ปุ่นที่ว่า 強く願えば、夢は必ず実現する ซึ่งแปลว่า “ถ้ามีปรารถนาอย่างแรงกล้า ความฝันจะกลายเป็นจริงได้อย่างแน่นอน” หรือไม่ ประโยคภาษาญี่ปุ่นนี้ ไม่เกินจริงเลยค่ะ เพราะถ้าเราจะทำอะไรสักอย่าง ขอแค่มีความตั้งใจ อะไรก็เป็นจริงได้ ยกตัวอย่างการดำเนินชีวิตของคนญี่ปุ่นที่เราอาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่าพวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างเคร่งเครียดและจริงจังกับการทำสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าหากมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป การดำเนินชีวิตของพวกเขาก็ถือเป็นชีวิตที่ประสบความสำเร็จกันในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้น ในบทความนี้ เรามาเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ ผ่าน 10 ประโยคภาษาญี่ปุ่นที่จะช่วยให้คุณได้แรงบันดาลใจดีๆ แถมได้พลังบวกไปใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อไล่ตามความฝันกันอีกด้วย
1. あなたならできる。
(Anata nara dekiru.)
เริ่มต้นกันที่ประโยคภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ ที่สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ประโยคนี้ あなたならできる อ่านว่า Anata nara dekiru. แปลว่า “คุณทำได้!” ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้าคิดว่าคุณทำได้ซะอย่าง ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วค่ะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
できる (Dekiru) แปลว่า สามารถทำได้
2. 何事も始めるのに遅すぎるということはない。
(Nanigotomo hajimeru no ni ososugiru to iu koto wa nai.)
ต่อมา สำหรับใครที่อยากจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง แต่คิดว่ามันจะสายเกินไปหรือเปล่านะ ต้องใช้ประโยคภาษาญี่ปุ่นนี้เลย 何事も始めるのに遅すぎるということはない。อ่านว่า Nanigotomo hajimeru no ni ososugiru to iu koto wa nai. แปลว่า “ไม่มีอะไรสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นใหม่” อยากทำอะไร ทำเลย อย่ามัวคิดเยอะ เดี๋ยวจะไม่ได้เริ่มสักทีนะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Nanigotomo แปลว่า อะไรก็ตาม หรือ ทุกสิ่ง
Hajimaru แปลว่า เริ่มต้น
Ososugiru แปลว่า สายเกินไป
3. 何事も経験だからね。
(Nanigotomo keiken dakara ne.)
แต่บางครั้งการเริ่มต้นใหม่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไปใช่ไหมคะ ดังนั้น ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้น ให้คิดเสียว่า 何事も経験だからね。อ่านว่า Nanigotomo keiken dakara ne. แปลว่า “ทุกสิ่งคือประสบการณ์” หากลงมือทำไปแล้ว แต่ผลที่ได้อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวังไว้ ก็ให้คิดเสียว่ามันคือประสบการณ์ที่จะทำให้เราพัฒนาขึ้นในครั้งต่อไปค่ะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Nanigotomo แปลว่า อะไรก็ตาม หรือ ทุกสิ่ง
Keiken แปลว่า ประสบการณ์
4. 明日死ぬかもしれないなら、今日を楽しく生きなさい。
(Ashita shinu kamoshirenai nara, kyou wo tanoshiku ikinasai.)
ประโยคนี้ เป็นประโยคภาษาญี่ปุ่นที่สามารถใช้ได้ในทุกๆ วันค่ะ 明日死ぬかもしれないなら、今日を楽しく生きなさい。อ่านว่า Ashita shinu kamoshirenai nara, kyou wo tanoshiku ikinasai. แปลว่า “คุณอาจจะตายในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นจงใช้ชีวิตในวันนี้อย่างมีความสุข” ให้เราใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเต็มที่ จะได้ไม่มานั่งเสียใจในสิ่งที่อยากจะทำ แต่ไม่ได้ทำในภายหลังนะคะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Tanoshiku แปลว่า อย่างมีความสุข
5. 辛い時こそ目標を見失わないで
(Tsurai toki koso mejirushi wo miushinawanaide.)
การมีเป้าหมายเป็นสิ่งที่ดี แต่ทุกเส้นทางที่มุ่งไปสู่เป้าหมาย ย่อมมีอุปสรรคเสมอ ดังประโยคภาษาญี่ปุ่นที่ว่า 辛い時こそ目標を見失わないで อ่านว่า Tsurai toki koso mejirushi wo miushinawanaide. แปลว่า “อย่าละสายตาจากเป้าหมาย โดยเฉพาะตอนที่คุณกำลังข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก” ไม่ว่าเส้นทางนั้นจะยากเย็นเพียงใด แต่ถ้าเราข้ามผ่านมันไปได้ เป้าหมายก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Tsurai แปลว่า ยาก ลำบาก เจ็บปวด
Toki แปลว่า เวลา
Mejirushi แปลว่า เป้าหมาย
Miushinau แปลว่า พลาด
6. 希望を生かし続けなさい。
(Kibou wo ikashitsuzukenasai.)
ประโยคภาษาญี่ปุ่นข้อนี้มีความหมายสำคัญมากๆค่ะ 希望を生かし続けなさい。อ่านว่า Kibou wo ikashitsuzukenasai. แปลว่า “จงมีความหวังต่อไป” ไม่ว่าจะลงมือทำอะไร ไม่ว่าสิ่งๆนั้นจะสำเร็จหรือไม่ ขอแค่เรามีหวัง เราก็จะมีแรงทำตามความฝันนั้นต่อไปค่ะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Kibou แปลว่า ความหวัง
Ikasu แปลว่า ให้คงอยู่
Tsuzukeru แปลว่า ทำต่อไป
7. 今日の失敗ではなく、明日訪れるかもしれない成功について考えるのです。
(Kyou no shippai de wa naku, ashita atozureru kamoshirenai seikou ni tsuite kangaeru no desu.)
ข้อต่อมา เป็นประโยคภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เป็นสิ่งเตือนใจได้ดีเลยค่ะ 今日の失敗ではなく、明日訪れるかもしれない成功について考えるのです。อ่านว่า Kyou no shippai de wa naku, ashita atozureru kamoshirenai seikou ni tsuite kangaeru no desu. แปลว่า “อย่ามัวแต่คิดถึงความล้มเหลวในวันนี้ แต่ให้คิดถึงความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้” เพราะการที่เราเอาแต่จมอยู่กับความผิดพลาดที่ผ่านไปแล้ว เราจะไม่สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้ ดังนั้นโฟกัสถึงเรื่องที่เราสามารถทำได้ในวันพรุ่งนี้กันดีกว่าค่ะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Shippai แปลว่า ผิดพลาด หรือ ล้มเหลว
Ashita แปลว่า พรุ่งนี้
Atozureru แปลว่า มาถึง หรือ ปรากฏ
Seikou แปลว่า ความสำเร็จ
Ni Tsuite แปลว่า เกี่ยวกับ
Kangaeru แปลว่า คิด
8. 私の歩みは遅いが歩んだ道を引き返すことはない。
(Watashi no ayumi wa osoi ga ayunda michi wo hikikaesu koto wa nai.)
อย่าพยายามเปรียบเทียบตัวเองกับคนกับที่เดินไปข้างหน้าเร็วกว่าเรา ดังประโยคภาษาญี่ปุ่นที่ว่า 私の歩みは遅いが歩んだ道を引き返すことはない。อ่านว่า Watashi no ayumi wa osoi ga ayunda michi wo hikikaesu koto wa nai. แปลว่า “ฉันเดินช้า แต่ฉันไม่เคยเดินถอยหลัง” ซึ่งประโยคภาษาญี่ปุ่นข้อนี้ถูกแปลมาจากวาทะคำคมคุ้นหูของ อับราฮัม ลินคอล์น ที่ไม่ว่าจะอยู่ยุคไหน ก็สามารถนำคำกล่าวนี้มาใช้ได้เสมอ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Ayumi แปลว่า การเดิน
Michi แปลว่า เส้นทาง
Hikikaesu แปลว่า ถอยหลัง
9. 成長は往々にして苦痛を伴う過程である。
(Seichou wa ouou ni shite kutsuu wo tomonau katei de aru.)
การที่เราจะเติบโตมาได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งร่างกายและจิตใจ จำเป็นต้องผ่านประสบการณ์ชีวิตมากมาย ที่จะช่วยหล่อหลอมให้เราเป็นคนที่เข้มแข็ง และใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างสวยงาม ดังคำกล่าวที่ว่า 成長は往々にして苦痛を伴う過程である。อ่านว่า Seichou wa ouou ni shite kutsuu wo tomonau katei de aru. แปลว่า “การเติบโตนั้นมักจะเป็นกระบวนการที่เจ็บปวด” ดังนั้น หากชีวิตต้องผ่านอะไรร้ายๆ ก็จงอย่ายอมแพ้ และเดินต่อไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งนะคะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Seichou แปลว่า การเติบโต
Kutsuu แปลว่า ความเจ็บปวด หรือ ความทุกข์ทรมาน
Katei แปลว่า กระบวนการ
10. 未来は今日始まる。明日始まるのではない。
(Mirai wa kyou hajimaru. Ashita hajimaru no de wa nai.)
ประโยคภาษาญี่ปุ่นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจข้อสุดท้าย 未来は今日始まる。明日始まるのではない。อ่านว่า Mirai wa kyou hajimaru. Ashita hajimaru no de wa nai. แปลว่า “อนาคตต้องเริ่มจากวันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้” ดังนั้น แม้ความฝันจะอยู่ไกลแค่ไหน ขอแค่เราเริ่มต้น ทุกอย่างก็สามารถเป็นจริงได้ค่ะ
คำศัพท์ที่น่าสนใจ:
Mirai แปว่า อนาคต
Kyou แปลว่า วันนี้
Hajimaru แปลว่า เริ่มต้น
การเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ อาจเป็นสิ่งที่ยากสำหรับใครหลายๆ คน แต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับคนที่มีความตั้งใจอันแรงกล้า ซึ่งนอกจาก 10 ประโยคภาษาญี่ปุ่นนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคนญี่ปุ่นแล้ว ยังช่วยฝึกการใช้ประโยคภาษาญี่ปุ่นอย่างง่ายสำหรับใครที่กำลังสนใจอยากเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย ดังนั้นเราจึงหวังว่าประโยคภาษาญี่ปุ่นสร้างแรงบันดาลใจทั้ง 10 ประโยคนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ทุกคนมีแรงก้าวเดินในวันพรุ่งนี้ เพื่อเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ต่อไปในทุกๆ วันนะคะ
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎