แนะนำ 7 ซีรีส์จีน โรแมนติก แห่งปี 2022 ที่คุณห้ามพลาด
ในปี 2022 นี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกปีที่แฟนซีรีส์จีนน่าจะเต็มอิ่ม จุใจ ไปกับบรรดาซีรีส์คุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนว ซีรีส์จีน โรแมนติก พีเรียด ที่มีมาให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นแนว ซีรีส์จีน โรแมนติก แฟนตาซีฟอร์มยักษ์อย่าง Who Rules the World หรือ ซีรีส์จีน โรแมนติก อิงประวัติศาสตร์ใน Royal Feast หรือใครที่ชอบแนวร่วมสมัยหน่อยก็มี Master of My Own ซึ่งในโพสต์นี้เราก็ได้ทำการรวบรวม 7 ซีรีส์จีน โรแมนติก แห่งปี 2022 ที่แฟนซีรีส์ห้ามพลาดมาแนะนำกัน รับรองว่าครบทุกสไตล์ ครบทุกรสชาติ แน่นอน
1.Who Rules the World เทียบท้าปฐพี
ผลงานซีรีส์แอคชั่น ซีรีส์จีน โรแมนติก แห่งปี 2022 ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ ชิงหลิงเยวี่ย กับเรื่องราวความรักท่ามกลางสงครามระหว่างสองจอมยุทธ์อย่าง เฮยเฟิงซี (หยางหยาง) บุรุษรูปงามผู้เปี่ยมไปด้วยความฉลาดเฉลียว เปี่ยมไปด้วยกลอุบาย ที่ยากจะคาดเดาความคิด และไป๋เฟิงซี (จ้าวลู่ซือ) หญิงสาวผู้งดงาม และเปี่ยมด้วยจิตใจที่โอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อผู้อื่น แม้จะมีลักษณะนิสัยที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งสองเปรียบเสมือนขาวและดำ แต่ต้องร่วมกันต่อสู้กับคู่ปรับทั่วยุทธภพมาเป็นเวลาร่วม 10 ปี ในขณะเดียวกันความรักของทั้งสองก็ค่อย ๆ เริ่มเบ่งบานขึ้น
Who Rules the World เป็นงานที่ได้สองนักแสดงขวัญใจมหาชนอย่าง หยางหยาง และเจ้าแม่ซีรีส์พีเรียด จ้าวลู่ซือ โคจรมาพบกัน โดยผลงานเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นการหวนกลับมาเล่นซีรีส์พีเรียดอีกครั้งของหยางหยาง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเลี่ยงมาโดยตลอดเพราะไม่ชอบการใส่วิกผม นอกจากดาราที่สร้างแรงดึงดูดแล้ว นี่ยังเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยฉากแอคชันฟอร์มยักษ์ตระการตา และการสร้างสรรค์ฉาก CGI ที่สมจริง ประกอบกับเคมีการแสดงของคู่พระนาง ที่ทำเอาแฟน ๆ อินไปกับเรื่องราวความรักแบบสุด ๆ ด้วยงานที่เปี่ยมคุณภาพขนาดนี้จึงไม่แปลกที่เมื่อตอนที่ซีรีส์ฉายใน WeTV ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซีรีส์เรื่องนี้ก็ทะยานขึ้นอันดับ 1ที่มีคนดูเยอะที่สุดในแอปพลิเคชั่นเลยทีเดียว
2.Royal Feast รอยัล ฟีสท์
สำหรับเรื่องนี้นอกจากจะเป็น ซีรีส์จีน โรแมนติก แล้ว ยังเป็นซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ที่พูดถึงการทำอาหารของจีนอีกด้วย โดยจะว่าด้วยเรื่องราวเหตุการณ์ช่วงราชวงศ์หมิง เมื่อ เหยาจื่อจิน (อู๋จิ่นเหยียน) หญิงสาวชาวบ้านที่ได้เข้าหวังหลวงเพื่อสมัครเป็นสาวใช้ในห้องครัว เนื่องจากเธอนั้นต้องการหนีจากการถูกครอบครัวบังคับจับแต่งงาน ซึ่งหลังจากที่ได้เข้ามาทำงานในวังหลวง เหยาจื่อจิน ก็ได้มีโอกาสได้โชว์ฝีมือทำอาหารให้กับ องค์ชายจูจานจี (สวีข่าย) จนได้ค่อย ๆ ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ดี ๆ ที่ค่อย ๆ ก่อตัวเป็นความรักของสองคนผู้ต่างชนชั้น
สำหรับ Royal Feast ได้ถูกยกให้เป็น แดจังกึม เวอร์ชั่นจีน ที่สนุก และชวนติดตามไม่แพ้กัน เพราะในเรื่องนี้นอกจากผู้ชมจะได้ร่วมเอาใจช่วยเหยาจื่อจิน ในการฝ่าฟันทุกอุปสรรค ทั้งการทำงานและความรักของคู่พระนางแล้ว ในแง่ของประวัติศาสตร์ซีรีส์ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ ไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นการอิงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ การออกแบบคอสตูม เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครที่อิงตามเครื่องแต่งกายยุคนั้นจริง ๆ และที่สำคัญผู้ชมจะได้พบกับเมนูอาหารจีนกว่า 1,000 เมนู ตลอดทั้งซีรีส์เรื่องนี้ ที่จะมาทำให้คนดูอย่างเรา ๆ ได้น้ำลายสอตลอดทั้งเรื่องแน่นอน
3.Master of My Own ขอโทษที ฉันไม่ใช่เลขาคุณแล้ว
ซีรีส์จีน โรแมนติก ที่น่าจะถูกใจกับคนวัยทำงาน เพราะจะว่าด้วยเรื่องราวของ หนิงเหมิง (ถานซงอวิ้น) หญิงสาวผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นผู้บริหารด้านการลงทุน แต่ทว่าโชคชะตาดันเล่นตลก ให้งานที่เธอต้องเป็นเลขาส่วนตัวของเจ้านายสุดเฮี้ยบอย่าง ลู่จี้หมิง (หลินเกิงชิน) แทน แถมเธอยังถูกผู้เป็นเจ้านายพูดดูถูกว่าเธอไม่สามารถเติบโตในสายงานนี้ได้ ด้วยความชอกช้ำทำให้จากนั้น หนิงเหมิง ก็ได้ตัดสินใจลาออกจากงานเลขา และได้โอกาสทำงานที่ตนเองอยากทำ แต่ก็ไม่วายถูก ลู่จี้หมิง กลับมาวุ่นวายในชีวิต โดยครั้งนี้เขามาในบทบาทคนที่คอยเข้ามาให้คำปรึกษา และช่วยเหลือในการทำงานต่าง ๆ จนก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ ซีรีส์จีน โรแมนติก ขึ้นมา
โดยซีรีส์เรื่อง Master of My Own ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ ฮงจิ่ว ซึ่งความสนุกของซีรีส์เรื่องนี้คือการได้ติดตามการสู้ชีวิตของ หนิงเหมิง ที่ต้องไล่ตามความฝันของตนเอง ในขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็นความสัมพันธ์แบบลิ้นกับฟันของพระนาง ที่ดูเหมือนจะไม่ลงรอยกันในตอนแรก แต่ก็มีฉากให้ได้จิ้น ให้ได้ฟินกันในช่วงกลาง ๆ เรื่อง นอกจากพาร์ท ซีรีส์จีน โรแมนติก ดราม่าแล้ว เรื่องนี้ก็ยังมีพาร์ทการทำธุรกิจที่สนุก เข้มข้นมาก ๆ อีกด้วย
4. The Blue Whisper ทาสปีศาจ
ผลงานซีรีส์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ ที่พูดถึงเรื่องราวความรักของสองเผ่าพันธุ์ เมื่อ จี้อวิ๋นเหอ (ตี๋ลี่เร่อเปา) ปรมาจารย์แห่งการควบคุมวิญญาณของปีศาจร้าย แห่งหุบเขาหมื่นบุปผา แต่ทว่าชีวิตของ จี้อวิ๋นเหอ กลับไร้ซึ่งอิสระในการใช้ชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เมื่อ องค์หญิงซุนเต๋อ (กัวเสี่ยวถิง) ได้ส่ง ฉางอี้ (เหรินเจียหลุน) เงือกหนุ่มไปยังเขาหมื่นบุปผาเพื่อให้ จี้อวิ๋นเหอดูแล เพื่อแลกกับการได้ใช้ชีวิตที่อิสระแบบที่เธอต้องการ โดยมีเงื่อนไข 3 อย่าง คือต้องทำให้เงือกตนนี้มีขาเหมือนมนุษย์ ทำให้พูดภาษามนุษย์ได้ และต้องทำให้รับใช้ด้วยความซื่อสัตย์ภักดี แม้ว่าในตอนแรกทั้งสองจะดูปรับตัวเข้ากันไม่ค่อยได้ แต่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกันนานวันเข้า ความรู้สึกดี ๆ ของทั้งสองก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว
The Blue Whisper เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ จิ่วลูเฟยเซียง โดยนี่ถือว่าเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของสองนักแสดงอย่าง ตี๋ลี่เร่อเปา และเหรินเจียหลุน ซึ่งผู้ชมจะได้จิ้นไปกับความรักจากเคมีการแสดงของทั้งสอง นอกจากนี้ตัวซีรีส์ก็ยังมีการใช้ CGI ในการสร้างสรรค์ฉากแอคชั่น แฟนตาซีให้ออกมายิ่งใหญ่ตระการตา ด้วยความที่เล่นใหญ่ขนาดนี้ ไม่แปลกที่ซีรีส์เรื่องนี้จะสามารถกลายเป็นคอนเทนต์ยอดนิยมอันดับ 1 ของแพลตฟอร์ม Youku ประจำปี 2022 ไปเป็นที่เรียบร้อย
5. Hello the Sharpshooter พิชิตรักนักแม่นปืน
สำหรับเรื่องนี้จะเป็นแนว ซีรีส์จีน โรแมนติก ปนกีฬา โดยจะว่าด้วยเรื่องราวของ ถังชิน (สิงเฟย) เด็กฝึกงานจากบริษัททำสื่อเกี่ยวกับกีฬา ที่ได้มอบหมายให้เธอทำไลฟ์สดตามติดการแข่งขันกีฬายิงปืนของทีมมหาวิทยาลัยไห่หยา ที่นั่นเธอได้พบกับ เสิ่นชิงหยวน (หูอี้เทียน) อดีตคนรักของ ถังชิน ที่ทั้งคู่เคยคบหากันตอนสมัยมัธยม จนกระทั่งหลังจากจบจากมัธยมปลาย ทั้งสองก็ต้องแยกจากกัน แม้ว่าในวันจบการศึกษาทั้งคู่จะสัญญาว่าจะไม่ลืมกัน แต่หลังจากนั้น เสิ่นชิงหยวน ก็ได้หายไปจากชีวิตของเธอ และไม่ติดต่อมาอีก จนเมื่อถังชินได้เจอเขาอีกครั้ง ก็ต้องช็อคกว่าเดิมเมื่อเธอพบว่า เสิ่นชิงหยวน ไม่สามารถจำเธอได้ เธอเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อสืบหาความจริงว่าทำไมเขาถึงลืมเธอ และพยายามทำให้เขากลับมาจำเธอได้อีกครั้ง
Hello the Sharpshooter เป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายของเหลียนมู่ชูกวง ที่แม้ว่าตัวพลอตของซีรีส์จะค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จและคาดเดาได้ไม่ยาก แต่ด้วยเคมีของสองนักแสดงนำที่เป็นวัยรุ่น ที่ต่างมีเคมีการแสดงที่มีเสน่ห์ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากน่ารักของคู่พระนางที่ชวนฟินตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้ซีรีส์ก็จะตัดสลับเรื่องรัก ๆ กับพาร์ทกีฬายิงปืน ที่ในซีรีส์เรื่องนี้ก็จะให้ความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้ที่ทั้งสนุกชวนติดตาม ใครที่ชอบซีรีส์รัก ๆ วัยรุ่น เนื้อหาไม่เครียด หรือดราม่าจนเกินไป เรื่องนี้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
6. Immortal Samsara อวลกลิ่นละอองรัก
ซีรีส์แฟนตาซี ซีรีส์จีน โรแมนติก ที่มีชื่อไทยว่า “อวลกลิ่นละอองรัก” ที่จะว่าด้วยเรื่องราวของ ถังโจว (เฉิงอี้) จอมยุทธ์พเนจรที่ในระหว่างกำลังลงเขา ก็ได้พบกับ หญิงสาวนาม เหยียนตัน (หยางจื่อ) และ อวี๋โม (จางรุ่ย) เพื่อนสนิทของเธอ โดยทั้งสามได้มีเป้าหมายเดียวกันคือการท่องยุทธจักร และต่อสู้กับเหล่าผู้ร้าย จนเมื่อเวลาผ่านไป ก็ได้มีเหตุที่ทำให้ตัว ถังโจว และเหยียนตัน สามารถคืนความทรงจำของตนเองในชาติที่แล้ว มาได้ ทำให้ทั้งสองพบว่าแท้จริงแล้ว ถังโจว คือ อิ๋งยวน เทพแห่งสงคราม ส่วน เหยียนตัน คือเทพเซียนที่มีความสามารถในการช่วยรักษาคน ซึ่งด้วยอดีตชาติที่ต่างกันคนละขั้วนี่เอง ทำให้ทั้งสองต้องเผชิญกับความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งแค้น
Immortal Samsara ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกันของ ซูโม่ ที่ได้สองนักแสดงสายพีเรียดอย่าง เฉิงอี้ จากซีรีส์ Love and Redemption และ หยางจื่อ จากซีรีส์ Ashes of Love มาร่วมแสดงนำ โดยซีรีส์ก็ให้กลิ่นอายของความเป็นแอคชั่น แฟนตาซี ที่มีฉากตระการตา มีฉากประลองยุทธที่สนุก ในขณะที่ด้านเนื้อหาพาร์ท ซีรีส์จีน โรแมนติก ของเรื่องก็นำเสนอความรักอันขมขื่นของสองพระนางออกมาได้ชวนลุ้น ชวนติดตามในทุก ๆ ตอน
7. Sassy Beauty บล็อกเกอร์สาวทะลุมิติ
ซีรีส์ที่น่าจะถูกใจสาว ๆ ในยุคนี้ เพราะนี่เป็นเรื่องราวของ บิวตี้บล็อกเกอร์สาวอย่าง ซือเหยียน (ขงเสวี่ยนเอ่อ) ที่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา จนเมื่อพ่อของเธอได้หาทางช่วยทำให้ ซือเหยียน ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการให้เธอสวมแว่น VR และให้จิตของ ซือเหยียน หลุดเข้าไปในเกมแนวพีเรียด ซึ่งภารกิจของเธอคือการไต่เต้าจากการเป็นคนใช้ในวัง ไปเป็นนางกำนัลสูงสุด โดยหากเธอสามารถเคลียร์ภารกิจได้สำเร็จก็จะสามารถตื่นขึ้นจากการเป็นเจ้าหญิงนิทราได้ แต่ทว่าในระหว่างทำภารกิจ ซือเหยียนก็ได้ไปพบกับคุณชายเจ็ด ฉีกวนอี๋ (เยี่ยนจื่อตง) โดยบังเอิญ จากนั้นทั้งสองก็ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์จากการเป็นคู่กัด ที่ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความรักในที่สุด
ตัวซีรีส์ค่อนข้างเป็นแนวที่มีความร่วมสมัย ทั้งการพูดถึง AI การเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ และการผสมผสานความเป็นซีรีส์พีเรียดได้อย่างลงตัว มีการเล่นกับความเป็น ซีรีส์จีน โรแมนติก คอมเมดี้ที่ชวนยิ้ม ชวนขำตลอดทั้งเรื่อง นอกจากนี้การเล่าเรื่องก็ยังให้อารมณ์เหมือนคนดูกำลังร่วมทำภารกิจไปกับ ซือเหยียน จริง ๆ ใครที่ชอบแนว ซีรีส์จีน โรแมนติก เบาสมอง แนะนำว่าไม่ควรพลาด
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎