มนุษย์ทุกคนต่างอยากที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่แล้วมันก็ไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงมักจะมีเรื่อง “ดราม่า” มาทำให้เรา “โศกเศร้า” และ “เสียน้ำตา” หลายต่อหลายครั้ง
เช่นเดียวกับกับ ชีวิตตัวละครใน “อนิเมะ” ที่จะขอหยิบยกมาเล่านี้ เรียกได้ว่ามีหลายระดับมาให้ได้เลือกสรรกันเลยทีเดียว ตั้งแต่ระดับน้ำตาคลอเบ้ายันไหลเป็นเขื่อนแตก บางเรื่องก็จุกอกถึงขั้นร้องไห้ไม่ออก
ทั้งนี้ จุดประสงค์ไม่ได้มีเพื่อทำร้ายวันแย่ๆของผู้ชมแต่อย่างใด เพราะภายใต้คราบน้ำตาและความดราม่านั้น ยังมีความสนุกและลุ้นระทึกของเนื้อเรื่อง ซึ่งบางเรื่องนั้นเรียกได้ว่า “เรื่อง” จบ “คนดู” ไม่จบ เพราะว่ามีหลากหลายประเด็นให้ต้องไปคิดต่อ ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น เลื่อนอ่านได้เลย
วันนี้ข้าวตังจะมาแนะนำ 10 อนิเมะดราม่า สำหรับคออนิเมะ สายเศร้า ดราม่า เรียกน้ำตา ทั้งเศร้าและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ใครที่ชื่นชอบ Anime แนวนี้ต้องห้ามพลาด ไปตามดูกันทุกเรื่องไปเลย กับอนิเมะที่ยกมาในวันนี้ หากถูกใจบทความของเรา อย่าลืมไปตามต่อใน ตัวละครอนิเมะหญิงสุดประทับใจ
🎀 1. Your Name : หลับตาฝันถึงชื่อเธอ 🎀
อนิเมะเรื่องแรกที่จะหยิบยกมานี้ เนื้อเรื่องคือ เด็กสาววัยมัธยมปลายอย่าง “มิสึฮะ” ในชนบทสุดแสนเงียบสงบและห่างไกลความเจริญ หากแต่ชีวิตของเด็กชนบท เธออธิษฐานอย่างเพ้อเจ้อถึงขั้นว่าหากชาติหน้ามีจริง เธอนั้นอยากจะเป็นหนุ่มฮอตในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวสักครั้งให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกอย่างที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นจริง เธอได้กลายเป็นผู้ชายในเมืองใหญ่จริงๆ
เธอได้กลายเป็นเด็กหนุ่มสมใจอยาก อีกทั้งได้พบกับความแปลกใหม่และบรรยากาศในเมืองใหญ่อย่างโตเกียว ที่มันช่างแตกต่างจากชนบทที่เด็กสาวนั้น และที่สำคัญไปกว่านั้น เธอนั้นสลับร่างกับชายหนุ่มอีกคนอย่าง “ทะกิ” ชายหนุ่มที่อาศัยในเมืองใหญ่แออัดที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ซึ่งนั่นทำให้เธอต้องผจญภัยไปกับเงื่อนไขของเวลา และวิญญาณที่สลับร่างกันไปมา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสับสนอลหม่าน
เหมือนจะเป็นอนิเมะที่เป็นแนวสดใสแต่ว่า ผู้ชมจะได้ลุ้นไปกับการผจญภัย การวางแผน และการเผชิญอุปสรรคด้วยความยากลำบาก เพื่อรับมือกับ เงื่อนไขของเวลา และหายนะจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่จะทำให้ชะตากรรมของเขาและเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล ที่อาจจะทำให้เราเสียน้ำตาได้ในท้ายเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ถูกฉายเมื่อปี 2016 ซึ่งถึงแม้เวลาจะผ่านมานานมากแล้ว แต่มันกลับดูง่ายและเข้าใจง่ายมาก
และถึงแม้ว่ามันจะเป็นอนิเมะที่เล่นกับ “การย้อนเวลา” ทำให้เนื้อเรื่องไม่ได้เป็นเส้นตรง ด้วยงานที่คุณภาพด้านเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ อีกทั้งเป็นบทที่แข็งแรงและซับซ้อนจนไม่อาจจะละสมาธิไปได้
เพลงประกอบอย่าง “Nandemonaiya” และ “Sparkle” ของศิลปิน “RADWIMPS” ก็สามารถกลายเป็นอีกตัวละครที่จนกลายเป็นเพลงโปรดในเพลย์ลิสต์ของใครหลายคน
🎀 2. Weathering with You : ฤดูฝัน ฉันมีเธอ 🎀
หากยังไม่เต็มอิ่มจาก “Your Name : หลับตาฝันถึงชื่อเธอ” เรื่องที่สองที่จะนำเสนอนี้ ก็จะเป็นเรื่องเล่าจากจักรวาลเดียวกัน ที่ทำให้เสียน้ำตาได้ไม่แพ้กัน เรื่องราวจะยังคงอยู่ใน “โตเกียว” เช่นเดิม เพียงแต่คราวนี้ มันจะถูกเล่าในมุมที่แตกต่างจากเดิม เมื่อเมื่องใหญ่เมืองนี้ไม่ได้น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ มันวุ่นวาย และดูเหมือนว่าประชากรในเมืองจะไม่ค่อยเป็นมิตร แต่กลับเป็นเมืองที่ “โฮดากะ โมริชิมะ” ตัดสินใจมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง การเริ่มต้นโดยไม่มีผู้ใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การหางานทำเป็นเรื่องที่ยาก และเงินเก็บที่ติดตัวมาก็เหลือน้อยเต็มที เขาไม่สามารถกินอาหารหรูได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาได้เจอกับเธอ “ฮินะ อามาโนะ” สาวน้อยวัยรุ่นที่ทำงานในร้านอาหารจานด่วน ในที่สุดเขาก็ได้งานเป็นนักเขียนบทความในนิตยสารหนึ่ง ที่เกี่ยวกับเรื่องลึกลับ เหนือธรรมชาติ ซึ่งถึงแม้งานจะหนักขนาดไหน แต่ที่เขาได้กินดีอยู่ดี นันก็เป็นสิ่งที่เพียงพอแล้ว แต่จุดเริ่มต้นที่โฮดากะและฮินะได้มีความสัมพันธ์ ผจญภัย และแก้ไขปัญหา มันเริ่มต้นที่งานของเขาจะต้องค้นคว้าเกี่ยวกับ “สาวฟ้าใส” หรือชื่อตามตำนานคือ “มิโกะแห่งฟ้าฝน” มีหญิงสาวที่สามารถควบคุมสภาพอากาศได้ ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องออกสัมภาษณ์กลุ่มคนต่างๆ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยา จนถึง พวกคนทรงเจ้า จนกระทั่งได้รู้ว่าฮินะคือสาวฟ้าใสตัวจริง
ถึงตัวเรื่องจะมีความแฟนตาซีไม่ต่างจากเรื่องแรก แต่ทว่ามันกลับสอดแทรกอะไรหลายๆอย่างได้เป็นอย่างดี ทั้งชีวิตในวัยผู้ใหญ่ ความสัมพันธ์ของคนต่างวัย การใช้ชีวิตอยู่ในกฎระเบียบต่างๆ การตัดสินใจใช้ชีวิตคนเดียวด้วยความยากลำบาก ทั้งการกิน การอยู่ การหางานทำ สิ่งเหล่านี้ทำเอาต้องเก็บไปคิดต่อหลังจากดูจบ ส่วนเรื่องของความเศร้านั้น ในองก์สุดท้ายของเรื่องเรียกได้ว่าเศร้าจนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว
🎀 3. 5 Centimeters Per Second : ยามซากุระร่วงโรย 🎀
มันใช้เวลาถึง 5 วินาทีเลย กว่าที่กลีบซากุระจะร่วงลงสู่พื้น เรียกได้ว่าเรื่องที่สามที่หยิบยกมันเล่านั้น แทบจะเป็นกุญแจที่เปิดประตูบานแรกสู่การ์ตูนอนิเมะเรียกน้ำตาเรื่องนี้ได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งจะแตกต่างจากสองเรื่องที่แล้ว ที่แฟนตาซีเพราะจะมีความติดดินที่สูงพอสมควร โดยที่เนื้อเรื่องจะเล่าถึง 3 เหตุการณ์ของการเติบโตและความสัมพันธ์ของชายหนุ่มและหญิงสาวอย่าง “ทะกะกิ โทโนะ” และ “อะกะริ ชิโนะฮะระ” ตั้งแต่วัยมัธยมต้น วัยมัธยมปลาย จนถึงวัยทำงาน ด้วยระยะทางเป็นสาเหตุหลักที่มีผลต่อความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ และดูเหมือนว่าจะยิ่งไกลห่างมากขึ้นเรื่อยๆ จากจดหมายที่ส่งถึงคนไกลฉบับแล้วฉบับเล่า การย้ายโรงเรียนไปมา สู่การนั่งรถไฟไปหาหญิงสาว แต่ด้วยหิมะที่ตกหนักทำให้รถไฟคลาดเคลื่อนเป็นเวลายาวนานหลายชั่วโมง จนฝ่ายชายคิดไปว่าการให้อาการิรอต่อไปมันอาจจะเสียเวลา แต่ตอนจบของหนังเรื่องนี้กลับเศร้ากว่าที่คิด
ในเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าเพียงใด ยิ่งเวลาในการพบเจอกัน เป็นเรื่องที่ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ การพบเจอกันในแต่ละครั้งจึงสำคัญมาก ตั้งแต่คำพูด การกระทำ รวมไปจนถึงทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกันของเขาและเธอ
ความฉลาดที่เป็นจุดขายสำคัญคือ ผู้ชมจะได้ลุ้นไปกับการตัดสินใจอันยากยิ่งของตัวละครทั้งพระเอกและนางเอกในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ เรื่องนี้เป็นการเล่าถึงความเป็นจริงของชีวิต การพบเจอ การลาจาก ความรัก ความผูกพัน ความสัมพันธ์ ผ่านความทรงจำ ที่มันจะกลายเป็นสิ่งที่มีความหมายที่ยากจะลืมเลือน
🎀 4. Hotarubi no mori e : สู่ป่าแห่งแสงหิ่งห้อย 🎀
หากคิดว่าสามยังทำให้เราอินไปกับอันโรแมนติกของชายหนุ่มและหญิงสาวไม่พอ เรื่องที่สามนี้ก็เป็นที่การ์ตูนดราม่าอีกเรื่องหนึ่ง เพียงแต่คราวนี้ มันไม่ใช่ความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกัน หากเป็นความรักระหว่างเด็กสาวกับปีศาจ ซึ่งฉายไปเมื่อปี 2011 นั่นเอง
จุดเริ่มต้นของเรื่องคือเมื่อ “โฮตารุ ทาเกงาวะ” ที่ไปเยี่ยมคุณตาในช่วงฤดูร้อน จนเกิดเหตุการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น เมื่อเธอได้พบกับภูตหนุ่มปริศนานามว่า “จิน” ที่ใส่หน้ากากไว้ ตอนที่เธอกำลังหลงป่าอยู่คนเดียว และเขาก็ได้ช่วยเธอเอาไว้ ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ
ความประทับใจที่มีต่อเขานั้น ทำให้เธอกลับมาภูติตนนี้ ในช่วงฤดูร้อนทุกๆปีตลอดมา ผ่านความสัมพันธ์ที่บ่มเพาะจนสุกงอม และช่วงเวลาอันมีค่าที่ได้ใช้ร่วมกัน ในขณะที่เธอนั้นเติบโตและมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ในทางกลับกัน อายุของกิงไม่ได้เพิ่มขึ้นเลย กลับคงที่อยู่อย่างนั้น ถึงแม้ว่าจะมีอายุยืนยาวขนาดไหนก็ตาม และสิ่งที่เป็นเงื่อนไขสำคัญก็คือ เมื่อใดก็ตามที่ภูติตนนี้สัมผัสกับร่างกายของมนุษย์ ร่างของเขาก็จะสูญสลายหายไปทันที อนิเมะเรื่องนี้นำมาสู่ตอนจบที่ตราตรึงใจ แต่ก็ถือว่าสามารถเรียกน้ำตาได้อีกเรื่องหนึ่งเลย
ด้วยเพลงประกอบที่สุดแสนจะไพเราะอย่าง “Be With You” ของ “Tiara” ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่แทนความรู้สึกของโฮตารุได้อย่างหมดจดและชัดเจน ความรู้สึกที่ครั้งหนึ่งได้พบเจอกับความรักที่แตกต่างจากความรักทั่วไปที่ใครหลายคนได้พบเจอ แต่มันจะเป็นความรักที่สวยงามในชีวิตของเธอตลอดไป
🎀 5. Grave of the Fireflies : สุสานหิ่งห้อย 🎀
เรื่องที่ 5 นี้ ยังคงอยู่กับคำว่า “หิ่งห้อย” แต่เรียกได้ว่าคนละอารมณ์กับสามเรื่องที่ผ่านมาสุดขั้ว เพราะเรื่องนี้จุดเด่นของเรื่องไม่ใช่ความรักของชายหนุ่มหญิงสาวที่ชวนจิ้นฟินจิกหมอน เพราะหิ่งห้อยในเรื่องเปรียบเสมือนกับลูกระเบิด นั่นเอง
“สงคราม” สิ่งที่ไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้น เพราะนั่นหมายถึง ความสูญเสีย และความเศร้าอันมากมายเท่าที่จะสามารถจินตนาการได้หรืออาจจจะเกินกว่านั้น ทั้งการหนีระเบิด การทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอด ยุคสมัยที่ข้าวยากหมากแพง และการตายของผู้คนราวกับใบไม้ร่วง ความโศกเศร้า ความหดหู่ของมนุษย์ที่ทำกับมนุษย์ด้วยกันเพียงเพราะความรักตัวกลัวตาย ถูกผสมผสานไปกับเรื่องนี้อย่างไร้ความปราณี ผ่านเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยหัวเลี้ยวหัวต่อผู้มีชื่อว่า “เซตะ” และน้องสาวอย่าง “เซ็ตซึโกะ” ที่อายุห่างกันนับสิบปี ที่ต้องไปอาศัยที่บ้านของป้าหลังจากที่พ่อของพวกเขาออกไปรบและพ่ายแพ้ให้กับสงคราม ส่วนคนเป็นแม่ก็เสียชีวิตจากกการถูกไฟคลอก แต่แล้วเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผู้เป็นป้าเริ่มมีท่าทีไม่ต้อนรับพี่น้องคู่นี้ เพราะทั้งสองแลดูจะไม่ทำคุณประโยชน์ให้เลย สุดท้ายทั้งคู่จึงออกไปใช้ชีวิตลำพังตามยถากรรม นำมาซึ่งจุดจบสุดแสนจะหดหู่ น้ำตาเปียกปอนสองแก้ม จนใครหลายคนเลือกที่จะดูเรื่องนี้เพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น เพราะการสะท้อนด้านมืดของมนุษย์ที่ทุกคนล้วนทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอด
🎀 6. Perfect Blue 🎀
เรื่องต่อมา จะยังอยู่กับความมืดมิดอันในใจของมนุษย์รวมถึงชะตากรรมแสนเศร้าของตัวละคร กับอนิเมะที่มีเนื้อหารุนแรง และสะท้อนสังคมแดนอาทิตย์อุทัยได้เป็นอย่างดี กับเรื่องราวในอุตสาหกรรมบันเทิง เมื่อ “มิมะ คิริโกเอะ” สมาชิกวงไอดอลที่ประกาศจบการศึกษาหรือประกาศยุติบทบาทหน้าที่ เพื่อไปเป็น “นักแสดง” อย่างเต็มตัว แม้ว่าแฟนคลับจะไม่พอใจต่อการตัดสินใจในครั้งนี้
ซึ่งทางเดินที่เธอจะเลือกต่อจากนี้ มันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของชีวิต ผ่านการเผชิญสิ่งต่างๆ ทั้งสื่อ กระแสสังคม ผู้คนในสายอาชีพที่เต็มไปด้วยผลประโยชน์และการหลอกลวง บาดแผลต่างๆนานา จนสภาพร่างกายและจิตใจของหญิงสาวถูกทำลาย ถูกทำร้ายจนแทบไม่เหลือชิ้นดี ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เป็นศัตรูอันน่ากลัว ที่ตามหลอกหลอนเธอ นั่นก็คือชายหนุ่มลึกลับโรคจิตที่เป็นแฟนคลับเธอ หรือ “สต็อกเกอร์” นั่นเอง นอกจากเรื่องราวจะพาคนดูจมดิ่งสู่ด้านมืดในวงการนี้แล้ว “Perfect Blue” จะพาเราด่ำดิ่งไปสู่ความเศร้าในจิตใจของมิมะ รวมถึงจิตใจอันดำมืดของคนที่รายล้อมเธออีกด้วย
นอกจากบทที่ทำให้เราอดที่จะตั้งคำถามกับสังคมไม่ได้แล้ว ดนตรีประกอบที่มีทั้งสดใสสไตล์ไอดอลขวัญใจแฟนคลับ และมืดครึ้มจนหลอนประสาท กดดัน ก็ทำให้บรรยากาศดูน่าสะพรึงกลัว และไม่น่าไว้วางใจอีกด้วย
ถึงแม้ว่าลายเส้นจะดูเก่าไปสักนิด แต่เชื่อว่าถ้าผู้ชมอนิเมะที่ชื่นชอบอนิเมะแนวโลกไม่สวยแล้วล่ะก็ “Perfect Blue” จะเป็นอีกเรื่องที่ติดอันดับการ์ตูนในดวงใจได้อย่างแน่นอน
🎀 7. Koe no katachi : รักไร้เสียง 🎀
อนิเมะเรื่องนี้ ถือได้ว่าไม่ควรพลาดด้วยกาลทั้งปวง ที่อยากจะแนะนำให้ได้ไปตามกัน
จุดเริ่มต้นเมื่อมี “โชโกะ นิชิมิยะ” เด็กหญิงชั้นประถมคนหนึ่งสุดแสนจะน่ารักที่มีชีวิตแสนเศร้าได้ย้ายเข้ามา ซึ่งเธอคนนี้เป็น “คนหูหนวก” นั่นหมายความว่าเธอสามารถสื่อสารกับคนอื่นได้เพียงการเขียนข้อความในสมุดกับภาษามือเท่านั้น เป็นธรรมดาที่จะสร้างความลำบากให้กับคนรอบข้าง และเป็นเรื่องปกติที่เด็กสาวคนนี้จะถูกกลั่นแกล้ง ตั้งแต่สถานเบาไปสถานหนัก บ่อยครั้งที่เธอต้องเจ็บตัว ได้รับความอับอาย แต่โชโกะก็ไม่เคยโกรธเลย
หนึ่งในผู้ร่วมอุดมการณ์แกล้ง และเป็นจุดเริ่มต้นทั้งหมดคือ “โชยะ อิชิดะ” เด็กชายหัวโจก สายแกล้ง สายเกรียนที่ชอบเอาเครื่องช่วยฟังนั่นไปทิ้ง จนกระทั่งการดึงเครื่องช่วยฟังในครั้งนี้ทำให้โชโกะเลือดออก เรื่องใหญ่จนถึงผู้ปกครองและผู้หลักผู้ใหญ่ในโรงเรียน ถึงแม้ว่าคนแกล้งจะมีหลายคน แต่คนที่ต้องยอมรับผิดกลับเป็นเขาคนเดียว ซึ่งทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ไม่สู้ดีนักของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย และบางอย่างในตัวของโชยะได้ก่อเกิดขึ้นในใจของเขา และเขาอยากจะได้เจอเธออีกครั้ง เพื่อที่จะชดเชยความรู้สึกผิดทั้งหมดที่เขาเคยก่อไป
เรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เส้นเรื่องดราม่าหรือเพียงความสัมพันธ์ของชายหนุ่มหญิงสาวธรรมดาเท่านั้น แต่อนิเมะเรื่องนี้กล้าที่จะหยิบเรื่องราวประเด็นต่างๆทางสังคม สำหรับวัยรุ่น วัยเรียน หลายต่อหลายเรื่อง เอามาใช้ได้อย่างชาญชลาด ทั้งการกลั่นแกล้ง การตัดสินใจทำอะไรลงไปโดยไม่ทันคิด ความลำบากของผู้ปกครอง ความรุนแรง สุขภาพจิต รวมไปถึงการฆ่าตัวตาย ที่เชื่อว่า ถ้าได้คิดตามตัวละครที่เล่าเรื่องในประเด็นต่างๆ อนิเมะเรื่องนี้จะเปรียบเสมือนตำราเรียนดีๆเล่มหนึ่งเลยทีเดียว
🎀 8. School Days : เธอฉันวันฟ้าคราม 🎀
การ์ตูนอนิเมะสายฮาเร็มที่ไม่ได้สดใสอย่างที่คิด และมันจะทำลายโทนของเรื่องที่เกี่ยวกับชายหนุ่ม หญิงสาว ความรักที่สวยงาม เรียกได้ว่าโยนทิ้งลงถังขยะไปแบบไม่ใยดี
เมื่อ “อิโต มาโกโตะ” เด็กหนุ่มธรรมดาที่หลงรักหญิงสาวที่ขึ้นรถไฟมาด้วยกัน ทำได้เพียงแค่มองตาและหลบหน้าเท่านั้น จนได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อน ทำให้เด็กหนุ่มจีบคนที่หมายปองจนสำเร็จ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ได้พบกับ “คัตสึระ โคโตโนฮะ” และ “ไซอนจิ เซไค” ในเวลาต่อมา
ถ้าจะให้เปรียบเทียบอย่างเห็นภาพที่สุด เรื่องนี้เปรียบเสมือนผลไม้อาบยาพิษ ที่ดูภายนอกแล้ว ลายเส้น ตัวละครดูเหมือนจะน่ารักแต่หากกำลังมองหา อนิเมะวัยรุ่น สายดราม่า สายสะท้อนสังคม ที่เนื้อหาระดับซีรีส์โลกตะวันตกแล้ว เรื่องนี้ถือว่าห้ามพลาด เพราะมันสะท้อนมุมมองความรักวัยรุ่นแบบถึงพริกถึงขิง ที่ไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อหารักสามเศร้าเราสามคนเท่านั้น แต่มันยังพ่วงประเด็นดราม่าที่ปวดตับที่เกิดขึ้นจริง กับตอนจบของเรื่องที่คาดไม่ถึงว่าอนิเมะเรื่องนี้จะกล้าพาคนดูไปถึงจุดนั้น และจะเป็นประโยชน์มากขึ้น หากดูเรื่องนี้กับผู้ปกครองหรือคนที่เราไว้ใจ เพื่อแนะแนวทางในการใช้ชีวิตและมุมมองความรักในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อได้อย่างแน่นอน
🎀 9. Fumetsu no Anata e : แด่เธอผู้เป็นนิรันดร์ 🎀
อนิเมะเศร้าเนื้อหาแฟนตาซีอีกหนึ่งเรื่อง ที่ว่าด้วยเรื่องของการพบกันและลาจาก อันเป็นสัจธรรมที่มนุษย์ต้องเจอ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “ฟูชิ” สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด ที่ไม่มีรูปร่างและความรู้สึกนึกคิด ถูกส่งมาบนโลกมนุษย์ แต่เดิมจะมีรูปทรงกลมสีขาวคล้ายๆลูกบอล ซึ่งความสามารถของเขาก็คือการเปลี่ยนร่างตามสิ่งรอบตัวที่เขาสนใจ จนกระทั่งได้กลายร่างเป็นหมาป่าผู้อยู่กับเด็กหนุ่มจนกระทั่งเขาได้สิ้นใจไปในที่สุด เขาจึงได้กลายเป็นเด็กหนุ่มเพื่ออกเดินทางและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่อไป
ในอนิเมะเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สะท้อนสัจธรรมในชีวิตได้อย่างดี ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ทำให้เรียกน้ำตาให้ไหลเหมือนเขื่อนแตกขนาดนั้น แต่ด้วยภาพ ตัวละครที่น่าจดจำ และการทำให้เราติดตามการใช้ชีวิตของสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้ ทั้งการปรับตัวให้ชินกับสิ่งต่างๆ เช่น จากหมาป่ากลายเป็นเด็กหนุ่ม เป็นต้น
🎀 10. Ano Hana : ดอกไม้ มิตรภาพ และความทรงจำ 🎀
เรื่องสุดท้ายที่จะนำมาเล่านี้ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ กลุ่มเพื่อน 6 คน ที่นำไปสู่มิตรภาพ และการทำให้ความปรารถนาเป็นจริง ผ่านหัวหน้ากลุ่มอย่าง “จินตะ ยะโดะมิ” ตามด้วยสมาชิกที่เหลือคือ “เทะสึโด ฮิซะกะวะ” “ชิริโกะ สึรุมิ” “นะรุโกะ อันโจ” “เมโกะ ฮมมะ” “อะสึมุ มะสึยุกิ” ที่ได้แยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของแต่ละคน ต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพราะฮมมะ หรือที่ในเรื่องเรียกว่า “เม็มมะ” ได้จากไปเพราะอุบัติเหตุเมื่อ 10 ปีก่อน เนื่องด้วยเธอนั้นไม่สามารถไปสู่สุคติได้และมีเพียงแค่จินตะที่มองเห็นวิญญาณของเด็กสาว
ผู้ชมจะได้เอาใจช่วยผ่านการก้าวข้ามบาดแผลในจิตใจของแต่ละคน และการเติมเต็มความปรารถนาให้เป็นจริง ผ่านความยากลำบาก ความพยายาม ความรู้สึก ความขัดแย้งของตัวละคร แต่นั่นก็เป็นบทพิสูจน์ที่ว่ากาลเวลาจะทำให้ความเป็นเพื่อนของพวกเขาและเธอเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
สรุปส่งท้าย อนิเมะดราม่า
ก็จบกันไปแล้ว สำหรับการรีวิวอนิเมะเศร้าเคล้าน้ำตาในแต่ละเรื่อง ร้องไห้กันไปกี่ลิตร เสียน้ำตาไปกับเรื่องไหนบ้าง ก็สามารถแชร์ให้เพื่อนๆ แฟน หรือคนในครอบครัวได้เช่นเดียวกัน
คิดในแง่ดีตรงที่ว่า อย่างน้อยก็ไม่ได้มีเพียงแค่เราที่กำลังเผชิญกับเรื่องเครียด และกำลังแก้ปัญหาอยู่เพียงคนเดียว ยังมีตัวละครในเรื่องที่เจออุปสรรคไม่ต่างกัน
มีเรื่องไหนที่ประทับใจกันบ้าง ความจริงแล้วอนิเมะสายดราม่าไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่กลัวว่าจะเสียน้ำตากันไปมากกว่านี้ ส่วนใครที่ยังไม่เคยดูก็ลองหามาดูสักครั้ง การลองดูอะไรใหม่ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถูกไหม เอาเป็นว่า ขอให้สนุกกับอนิเมะที่คัดสรรมาให้ แล้วก็เตรียมกระดาษทิชชู่มาซับน้ำตากันด้วยนะ เป็นห่วง
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม
แสดงความคิดเห็นกันหน่อย 😎