สำหรับคนไทยที่มีการนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาตินั้น แน่นอนว่าจะต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับการท่องบทสวดมนต์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่มากมาย โดยความหมายของแต่ละบทสวดมนต์นั้นจะแตกต่างกันออกไป และเลือกใช้ตามวาระโอกาสที่มีความเหมาะสมจึงจะส่งเสริมพลังมากขึ้น โดยพระสงฆ์และฆราวาสที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น จะเป็นผู้กำหนดและร่วมกันท่องคาถาเหล่านั้นอย่างพร้อมเพรียงเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลหรืองานอวมงคลอื่น ๆ จะต้องมีพิธีกรรมลำดับงานและการสวดมนต์ท่องคาถาเข้ามาร่วมด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในวันนี้เราจะกล่าวถึงการสวด คาถาชุมนุมเทวดา หรือการสวดพระปริตร ที่ไม่ใช่การสวดมนต์แบบทั่ว ๆ ไปแต่มันหมายถึงการอัญเชิญเทวดาเทพเจ้าที่ที่สิงสถิตอยู่ตามที่ต่าง ๆ รวมถึงยักษ์ คนธรรพ์ พญานาคทุกลำดับชั้น ไม่ว่าจะสถิตอยู่บนผืนพิภพหรือใต้น้ำก็ดี ก็สามารถเข้ามารับฟังธรรมะ ร่วมสร้างบุญกุศลที่กำลังจะบังเกิดเพื่อใช้เป็นเนื้อนาบุญ อันจะทำให้รูปภูมิที่มีอยู่ดียิ่งขึ้นไป ซึ่งตามความเชื่อของทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดนั้นเห็นพ้องต้องกันว่าเทวดา คือสัญลักษณ์ของการเป็นผู้คุ้มครองมนุษย์ให้มีความอยู่ดีกินดี รอดพ้นภัยอันตรายต่าง ๆ และสามารถบันดาลสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้
ต่อบุญบารมีด้วย คาถาชุมนุมเทวดา
นอกจากนี้ในความเชื่อของศาสนาคริสต์หรือศาสนาอื่น ๆ เอง ก็มีทัศนคติต่อเทวดาในด้านบวกว่าคือผู้ที่ช่วยเหลือมนุษย์ที่มีคุณงามความดีให้ได้รับในสิ่งที่ดีงามตอบแทน อีกทั้งเทวดาในมุมมองนี้ยังช่วยขจัดเรื่องราวที่เลวร้ายให้มลายหายไปได้ด้วย ซึ่งทั้งสองความเชื่อนี้มีความเห็นตรงกันในเรื่องที่ว่าเทวดาจะมีภพภูมิของตนเองที่สวยงาม หรืออาจจะเรียกว่าเป็นวิมานสวรรค์ อันเกิดจากผลบุญเก่าที่ทำให้ได้เกิดมาเป็นเทวดาและเสวยสุขอยู่บนวิมานสวรรค์นั่นเอง สำหรับการสวด คาถาชุมนุมเทวดา นั้นถือเป็นการเชื้อเชิญให้เหล่าเทวดาได้เข้ามาฟังธรรมะ ร่วมสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อต่อบุญบารมีที่มีให้กว้างไกลไพศาลไปมากกว่าเดิม อันจะทำให้สามารถเสวยสุขไปได้ยาวนานยิ่งขึ้น นอกจากนี้บุญบารมีเหล่านั้นก็จะทำให้เมื่อพ้นรูปภพนี้แล้วก็จะยังเหลือบุญต่อไปในชาติต่อ ๆ ไปได้ หรือจนกว่าจะได้รับอรหันต์ในที่สุด ซึ่งสิ่งที่มนุษย์จะได้จากการสวดชุมนุมเทวดาในด้านของความเชื่อคือจะเกิดความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิต เพราะการทำบุญถือเป็นการสร้างคุณงามความดีซึ่งจะสามารถขัดเกลาจิตใจและทำให้ผู้ที่อยู่ในศีลธรรมมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต ไม่ว่าจะทำกิจการหรือกิจกรรมใดก็จะพบแต่ความเจริญก้าวหน้าและไร้ซึ่งอุปสรรคใด ๆ เพราะจิตมันยึดมั่นอยู่กับการทำความดี และเผื่อแผ่บุญกุศลให้กับเหล่าเทวดาด้วย ซึ่งเมื่อได้ท่องบทสวดชุมนุมเทวดาเมื่อใดเหล่าเทวดาจำนวนมากก็จะมาจากภพภูมิที่องค์เทวดาสถิตอยู่ถือเป็นการสร้างเกราะกำบังที่หนาแน่นให้กับมนุษย์ จึงไร้ซึ่งเหตุการณ์อันเลวร้ายไปได้อย่างมีปาฏิหาริย์ โดยบทสวดมนต์ชุมนุมเทวดานั้นมีทั้งหมด 2 รูปแบบคือ
1. บทชุมนุมเทวดา 7 ตำนาน
สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตังนุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริตวานะ เมตตัง สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
คำแปล
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ผู้มีเมตตา จงแผ่เมตตาจิต ด้วยคิดว่า ขออานุภาพพระปริตร จงรักษาพระราชาผู้เป็นเจ้าแห่งนรชน พร้อมด้วยราชสมบัติ พร้อมด้วยราชวงศ์ พร้อมด้วยเสนามาตย์ อย่ามีจิตฟุ้งซ่าน ตั้งใจสวดพระปริตร ขอเชิญเหล่าเทพเจ้าซึ่งสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นกามภพก็ดี รูปภพก็ดี และภุมมเทวดา ซึ่งสถิตย์อยู่ในวิมานหรือยอดเขาและหุบผา ในอากาศก็ดี ในเกาะก็ดี ในแว่นแคว้นก็ดี ในบ้านก็ดี ในต้นพฤกษาและป่าชัฏก็ดี ในเรือนก็ดี ในที่ไร่นาก็ดี เทพยดาทั้งหลาย ซึ่งสถิตย์ตามภาคพื้นดิน รวมทั้งยักษ์ คนธรรพ์และพยานาคซึ่งสถิตย์อยู่ในน้ำ บนบก และที่อันไม่ราบเรียบ ก็ดี ซึ่งอยู่ในที่ใกล้เคียง จงมาประชุมพร้อมกันในที่นี้ คำใดเป็นของพระมุนีผู้ประเสริฐ ท่านสาธุชนทั้งหลาย จงสดับคำข้าพเจ้านั้น
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ดูก่อน ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
2. บทชุมนุมเทวดา 12 ตำนาน หรือเรียกอีกชื่อว่าบทสมันตา
สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัต๎ราคัจฉันตุเทวะตา สัทธัมมัง มุนิราชัสสะ สุณันตุ สัคคะโมกขะทังฯ
สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
โดยความหมายของบทสวดมนต์ทั้ง 2 แบบนั้น มีความคล้ายคลึงกัน คือการอัญเชิญเทวดาทุกหมู่เหล่าเพื่อเข้ามารับฟังพระธรรมและร่วมสร้างบุญกุศลให้เพิ่มพูนขึ้นไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
จุดเริ่มต้นของการสวด คาถาชุมนุมเทวดา ในอดีต
โดยปกติแล้วองค์เทพหรือเทวดาจำนวนมากมีความชอบในคุณงามความดีหรือการฟังธรรมะอยู่เสมอซึ่งในสมัยพุทธกาลครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อแสดงธรรมต่อพุทธมารดาที่ได้สวรรคตไปแล้ว ระหว่างนั้นได้มีเทวดาหรือองค์เทพจำนวนมากที่หลั่งไหลมาร่วมฟังพระธรรมของพระพุทธองค์อย่างยินดี โดยเนื้อหาเหล่านี้มีปรากฏอยู่ในข้อมูลทางพุทธประวัติอย่างชัดเจน ซึ่งการมีขึ้นของการสวดชุมนุมเทวดาหรือการสวดพระปริตรนั้น เชื่อกันว่าได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในพุทธศักราช 500 ของประเทศลังกา โดยฆราวาสและพระสงฆ์จำนวนมากที่มีความศรัทธาในศาสนาพุทธ ร่วมกันสวดมนต์และท่องคาถานี้เพื่อเป็นการขับไล่อันตรายต่าง ๆ ให้มลายหายไป และเพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลและทำให้ชีวิตของคนเหล่านั้นมีแต่เรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นนั่นเอง ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ได้ถูกถ่ายทอดและนับถือสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องจนแผ่ขยายอิทธิพลเข้ามาในประเทศไทยในเวลาต่อมา ซึ่งความศรัทธานี้องค์ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ก็ได้กล่าวถึงเอาไว้ด้วยว่าการสวดคาถาชุมนุมการเทวดานั้นจะเป็นการเชื้อเชิญเทวดาให้เข้ามารับฟังธรรมะเป็นจำนวนมากซึ่งจะช่วยคุ้มครองและป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ ให้กับมนุษย์ที่อยู่ในพิธีการสวดมนต์นั้นด้วย
ช่วงเวลาที่ควรสวด คาถาชุมนุมเทวดา
จริง ๆ แล้วการทั้งบทสวดมนต์ชุมนุมเทวดานั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้อย่างเป็นทางการว่าจะต้องใช้ในพิธีกรรมใดอย่างเคร่งครัด แต่พระสงฆ์หรือฆราวาสที่จะเลือกส่วนนั้นสามารถพิจารณาตามกาลเทศะหรือสถานการณ์นั้น ๆ ได้ตามความเหมาะสม เพราะเนื้อหาหลักของบทสวดมนต์นี้นั่นก็คือการอัญเชิญเทวดาจาก 16 ชั้นฟ้าและ 15 ชั้นดินให้เข้ามาร่วมสร้างบุญสร้างกุศลอย่างอิ่มเอม จึงมักพบการสวดมนต์ในลักษณะนี้ก่อนที่พระสงฆ์จะสวดเจริญพระพุทธมนต์ทุกครั้ง นอกจากนี้ยังมีการนำเอาบทสวดมนต์ชุมนุมเทวดามาใช้ในพิธีการทางศาสนาอื่น ๆ ที่สามารถสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับผู้ที่กำลังอยู่ในพิธีกรรมได้ด้วย ซึ่งช่วงเวลาที่เห็นได้อย่างเด่นชัดมากที่สุดคือ
- วันปีใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มกราคมของทุกปี ชาวพุทธจะนิยมไปทำบุญตักบาตรที่วัดเพื่อรับศีลรับพรและถือเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยการทำคุณงามความดีเพื่อทำให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์และเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าสืบไป ซึ่งในพิธีการของวันนั้นจะมีการสวดคาถานี้ด้วย
- วันสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวไทยและภูมิภาคเอเชียบางส่วน ซึ่งความเชื่อและความนิยมของชาวพุทธในวันนี้ ก็จะทำพิธีกรรมเหมือนกันกับวันขึ้นปีใหม่เลย นั่นก็คือการไปทำบุญตักบาตรและสร้างคุณงามความดีให้กับชีวิตนั่นเอง
ดังนั้นหากใครที่มีความประสงค์ในการท่องคาถานี้เพื่อเผื่อแผ่บุญกุศลและเชิญชวนให้เทวดาทั้งหลายได้เข้ามาสร้างความเป็นมงคล รวมถึงเป็นเกราะกำบังความเลวร้ายอื่น ๆ ให้หายไปก็สามารถท่องบทสวดมนต์นี้ได้ตามความสะดวกและความเหมาะสมดังที่มีอยู่
โดยการสวด คาถาชุมนุมเทวดา ที่เห็นผลได้ดีนั้นจะต้องประกอบไปด้วยขั้นตอนการสวดที่ถูกต้อง โดยจะประกอบไปด้วยความตั้งใจของผู้สวด อีกทั้งความเชื่อและความศรัทธาต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างเหลือล้น โดยผู้สวดควรชำระล้างร่างกายให้มีความสะอาดผ่องใส พร้อมที่จะอัญเชิญเทวดาให้มากที่สุด นอกจากนี้ควรเตรียมแรงและกำลังให้พร้อมต่อการสวดมนต์ด้วย สำหรับบุคคลธรรมดาก็สามารถทานอาหารหรือของว่างได้แต่สำหรับผู้ที่ถือศีล 8 หรือมากกว่านั้น ก็สามารถดื่มน้ำปานะหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่ต้องอาศัยการขบเคี้ยวแทนได้ นอกจากนี้ควรเลือกสถานที่ที่เหมาะสม เช่นห้องพระหรือสถานที่สำหรับปฏิบัติธรรม เพื่อเอื้อให้บรรยากาศของการสวดมนต์เป็นไปอย่างราบรื่นนั่นเอง
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ คาถาชุมนุมเทวดา ที่มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาโดยตรง นอกจากนี้บทสวดมนต์ที่กล่าวถึงในวันนี้ยังถูกนำไปใช้ในงานพิธีต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมของคนหมู่มากหรือส่วนตัว ก็สามารถอัญเชิญเทวดาเพื่อลงมาสดับรับฟังธรรมะร่วมสร้างบุญกุศลและช่วยคุ้มครองมนุษย์ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากบทสวดมนต์นี้ได้
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
- https://shopee.co.th/blog/buddhist-chant-samanta/?fbclid=IwAR2LmCSXbPquarR1gtBgvXMlvJcFZ6ETcTWxv9w7M5421alEyJH8YmozXBw
- https://horoscope.trueid.net/detail/YrR55LKzy3Yo?fbclid=IwAR0DN5JhpYNciBoqqR4VhVWd09yjyQUDRRdgD0111_RDufFYfJ2sDyu2d44
- https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2360732?fbclid=IwAR3JaKjLBVhqtmrRp_zWSypVr7L1U6sUuSNWRDGYnRp0TDKY3Jmqrx3I01s
📕 อ้างอิงรูปภาพ
- https://static.thairath.co.th/media/00_A5B2360732C4E1280.jpg
- https://www.tewfree.com/wp-content/uploads/2020/03/เทวดา-1024x768.jpg
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม