แม้ว่าคุณจะไม่ใช่สายมู ความเชื่อเรื่อง ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 สำหรับคนไทยแล้วเป็นสิ่งที่ยึดถือกันมาและควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในคนที่กำลังจะสร้างบ้าน อย่างการลงเสาเอก ถือเป็นเสาหลักของบ้านหากได้ทำในวันมงคลหรือฤกษ์งามยามดี เชื่อว่าจะทำให้คนในบ้านหรือครอบครัวพบเจอแต่ความสุขสงบ ถือเป็นธรรมเนียมที่ดีและไม่ต้องลงทุนอะไรมาก แค่เลือกวันให้เหมาะสมเท่านั้น เราไปดูกันว่า ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 มีวันไหนบ้างและควรเริ่มพิธีอย่างไร
เช็ก ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 ขึ้นบ้านใหม่ พร้อมขั้นตอนดำเนินพิธี
ก่อนที่จะสร้างบ้านสักหลังต้องผ่านการกลั่นกรองหลายขั้นตอน อาทิ แบบหรือสไตล์บ้านทั้งสำหรับสร้างบ้านและตกแต่งภายใน แปลนบ้าน เมื่อผ่านการลงความเห็นของคนในบ้านที่ตรงกันแล้ว ถึงตอนสร้างเมื่อเสร็จทั้งหมด ขั้นตอนต่อไปก็คือการดู ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 สำหรับใครที่อยากจะเสริมสิริมงคลก่อนปลูกบ้าน มาดูพิธีการปลูกบ้านและตั้งเสว่าควรทำวันใดและพิธีควรดำเนินอย่างไร ดังนี้
1.เริ่มต้นต้องหาฤกษ์ดี ๆ เพื่อเสริมมงคล
เดือนอ้าย, เดือนยี่, เดือน 4, เดือน 5, เดือน 9 หรือเดือน 12 เป็นวันมงคลตจามความเชื่อโบราณลิงตามปฏิทินจันทรคติ โดยในการเลือกจะเป็นการยึดตามเดือนเกดของเจ้าของบ้าน เวลาในการลงเสาเอกควรเป็น 09.00 น. เป็นตัวเลขที่มีความหมายการก้าวหน้า ในส่วนเรื่องของวัน วันอาทิตย์ไม่นิยมลงเสาเอก แต่จะเป็นวันจันทร์และต้องเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ แต่หากใครไม่แน่ใจหรือไม่มีความรู้สามารถถามโหราจารย์หรือหมอดูได้เช่นกัน เบื้องต้นเมื่อรู้ ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 กันไปแล้ว เราไปดูข้อยกเว้นกันว่าวันใดไม่ควรทำพิธีบ้าง ดังนี้
1.ใครที่เกิดวันอาทิตย์ ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันศุกร์และวันอังคาร
2.ใครที่เกิดวันจันทร์ ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันอาทิตย์และวันพฤหัสบดี
3.ใครที่เกิดวันอังคาร ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันจันทร์และวันอาทิตย์
4.ใครที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันพุธ (กลางคืน)
5.ใครที่เกิดวันพฤหัสบดี ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันเสาร์
6.ใครที่เกิดวันศุกร์ ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันพุธ (กลางคืน) และวันเสาร์
7.ใครที่เกิดวันเสาร์ ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ฤกษ์ที่ตรงกับวันพุธ (กลางวัน)และวันศุกร์
8.ใครที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) ขอเตือนไว้เลยว่าห้ามใช้ ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 ตรงกับวันพฤหัสบดีและวันพุธกลางวัน
2.ก่อนวางเสาเอกหรือกาปลูกบ้านต้องมีเครื่องเซ่นสังเวยหรือพิธีกรุงพาลี
ขั้นตอนนี้มีความสำคัญไม่แพ้การดู ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 ทำเพื่อเป็นการขอขมาเจ้าที่ เจ้าทาง แม่ธรณีก่อนที่จะมาปลูกบ้านตรงที่ได้เลือกกันไว้แล้ว ถือเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ฉะนั้นจึงควรเตรียมเครื่องเซ่นไหว้เพื่อนำไปทำพิธี ภายในนั้นจะประกอบไปด้วย ข้าวสุก กล้วยน้ำว้าสุก ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว ข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียน และหมากพลู หลังจากที่ทำพิธีเสร็จขั้นต่อไปให้ก็อย่าลืมนำถั่วเขียว ข้าวตอก และงาดิบ โปรยทับลงบนดินด้วย
3.เอาฤกษ์เอาชัยด้วยการขุดหลุมเสาเอกหนึ่งเสา
เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยช่างก่อสร้างหรือผู้ที่เป็นหัวหน้างาน เพื่อทำหน้าที่ตีผังบ้านและปรับระดับดิน เพื่อที่จะได้เริ่มทำพิธี ขั้นตอนต่อไปคือการขุดหลุมเสาเอก 1 หนึ่ง ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อน
4.เตรียมของมงคลตามเหมาะสม
ในขั้นตอนนี้เป็นการจัดเตรียมของมงคล ไม่จำเป็นว่าต้องมีครบทั้งหมด สามารถเลือกได้ตามเหมาะสม อันได้แก่
- โต๊ะหมู่บูชา 1 ชุด จะมีหรือไม่มีก็ได้
- หากมีการเชิญพระมานิมนต์พรมน้ำมนต์เตรียมจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ 1 ชุด
- เครื่องบูชาฤกษ์หรือสังเวยเทวดา ไม่จำเป็นต้องจัดชุดใหญ่ สามารถทำตามเหมาะสม
- สายสิญจน์ 1 ม้วนเล็ก
- ผ้าชนิดต่าง ๆ อาทิ ผ้าสามสี ผ้าแพรสีแดง ผ้าห่มเสา ผ้าหัวเสาหรือผ้าขาวม้า 1 ผืน
- แผ่นทอง นาก เงิน อย่างละ 1 แผ่น
- เหรียญทอง เงิน อย่างละ 9 เหรียญ
- ทองคำเปลว 3 แผ่น
- หน่อกล้วย อ้อย อย่างละ 1 หน่อ
- ข้าวตอกดอกไม้ 1 ขัน
- น้ำมนต์ 1 ขัน (พร้อมกำหญ้าคา 1 กำ)
- ทรายเสก 1 ขัน
- แป้งหอม
- ไม้มงคล 9 ชนิด ได้แก่ ไม้ราชพฤกษ์, ไม้ขนุน, ไม้ชัยพฤกษ์, ไม้ทองหลาง, ไม้ไผ่สีสุก, ไม้ทรงบาดาล, ไม้สัก, ไม้พะยูง, ไม้กันเกรา (หากไม่มีสามารถเลือกชนิดใดชนิดหนึ่ง)
5.ลำดับพิธีตั้งเสาเอก
เมื่อได้ ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 แล้ว ขั้นตอนต่อไปนี้ไม่ได้เคร่งมากนัก จึงไม่จำเป็นต้องทำให้ครบทุกขั้นตอน เลือกทำพิธีต่าง ๆ ตามความเหมาะสม โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ก่อนที่จะตั้งเสาเอกให้คุณนำเอาน่อกล้วย อ้อยและผ้าสามสี ผูกติดกับเสาเอกซึ่งจะมีลักษณะเป็นโครงเหล็ก
- ในขั้นตอนนี้หากใครไม่ได้เชิญพระหรือพราหมณ์ สามารถให้ผู้ใหญ่หรือเจ้าของบ้านเป็นผู้ที่ทำพิธีเองทั้งหมด จากนั้นก็วางสายสิญจน์ตั้งแต่โต๊ะหมู่บูชาไปจนถึงเสาเอก
- ให้เจ้าภาพหรือเจ้าของบ้านทำการจุดธูปเทียน หากมีโต๊ะหมู่บูชาก็ทำได้เลยพร้อมอธิษฐาน บูชาเทวดา ให้ช่วยปกปักรักษา
- หากใครมีต้นไม้มงคล 9 ชนิดให้ตอกลงไปในหลุมเสาเอก แต่หากไม่มีสามารถนำแค่ใบมาโรยก็ได้ พร้อมกับวางแผ่นทอง แผ่นนาก แผ่นเงินและเหรียญเงินลงไปในหลุมด้วยเช่นกัน
- ขั้นตอนนี้สำหรับผู้ที่นิมนต์พระสงฆ์มา ซึ่งท่านจะทำพิธีพรมน้ำมนต์และโปรยทรายเสกลงที่หลุมเสาเอก อีกทั้งทำการเจิมและปิดทอง พร้อมผูกผ้าสามสี หน่อกล้วยและอ้อย
- จากนั้นทางเจ้าภาพและผู้ร่วมพิธีจะทำหารถือสายสิญจน์และยกเสาเอกลงหลุม
- ขั้นตอนสุดท้ายเจ้าภาพจทำการโปรยข้าวตอกดอกหรือแป้งหอมลงถือเป็นอันเสร็จพิธี
เช็คปีนนักษัตรปลูกเรือนและ ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 เสริมความเป็นมงคล
-ปีชวด แนะนำว่าก่อนที่จะทำการยกเสาเอกให้เอาต้นไม้ราชพฤกษ์ปักเสามุมแรก ตามด้วยการโปรยกลีบดอไม้ 3 สี อาทิ ดอกกุหลาบ ดอกรักและดอกพุทธ สำหรับสิ่งที่จะนำมาบวงสรวงเพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่คนที่เกิดปีนี้ให้พบแต่ความอยู่เย็นเป็นสุขและพบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรือง
– ปีฉลู แนะนำในการบวงสรวงเริ่มต้นให้เอากล้วยและผ้าขาวมาพันที่เสาเอก ปักกิ่งมะตูม 3 กิ่ง ของกินที่ควรนำมาเพื่อทำพิธีคือ ลูกตาล ขนมฝอยทอง เมื่อนำมาไหว้จะทำให้พบเจอแต่ความความสุขความเจริญ
–ปีขาล แนะนำให้เตรียมน้ำ 3 ขันเพื่อใช้รดต้นเสาเอกและเอาข้าวสุก 3 กระทง จากนั้นนำดอกไม้ที่เตรียมไว้มา จะต้องเป็นดอก 3 ชนิดนี้อันได้แก่ ดอกดาวเรือง ดอกรักและดอกบานไม่รู้โรย เชื่อว่าเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้พบเจอแต่ความร่ำรวยและอยู่เย็นเป็นสุข
–ปีเถาะ สำหรบคนที่เกิดปีนี้หากอยากพบเจอแต่ความเจริญรุ่งเรืองหลังจากที่ปลูกบ้าน แนะนำว่าให้นำเอาใบตะเคียน ใบเฉียง ใบพร้าหอม และต้นกล้วยจำนวน 1 ต้น มาห่อที่ปลายเสาเอก พร้อมด้วยหมูย่าง ปลายำ
–ปีมะโรง ในพิธีบวงสรวงให้นำเอาใบมะกรูดและกำยานพันปลายเสาเอก ต่อด้วยการยกเสาและทำการโปรยดอกไม้มงคล 7 ชนิด อันมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง อย่างดอกดาวเรือง หากอยากมีคนนับถือควรเป็นดอกบัว ดอกกุหลาบสื่อถึงความสดชื่น ดอกบานไม่รู้โรยความยั่งยืน ดอกพุดให้พระคุ้มครองและดอกมะลิส่งเสริมให้การเป็นอยู่ดีขึ้น สงบสุข
–ปีมะเส็ง เริ่มต้นที่นำเอาใบสิงห์ 2 กิ่ง ผูกที่ปลายเสาเอก จากนั้นนำข้าว 3 กระทง จุดธูปเทียน พร้อมบูชาด้วยดอกกุหลาบ พวงมาลัย มะลิสด ดอกรักและน้ำเย็น 6 ขันและให้กล่าว มั่ง มี ศรี สุข เชื่อว่าจะทำให้รุ่งเรือง
–ปีมะเมีย สำหรับคนเกิดปีนี้ให้เตรียมใบขี้เหล็กโดยจะต้องมีก้านด้วย จากนั้นให้นำไปกวาดตั้งแต่ปลายเสาเอกลงมาถึงโคนเสาจำนวน 3 ครั้ง ตามด้วยน้ำรดเสาเอก แต่อย่าลืมให้ไก่ขันแล้วจึงทำการบวงสรวงด้วยกล้วย มะพร้าว ส้ม เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข
-ปีมะแม เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่และเจ้าของบ้านได้พบเจอแต่ความเป็นมงคล เจริญรุ่งเรืองให้นำเอาใบเงิน 3 ใบ หมากผู้ 3 ใบ หมากเมีย 3 ใบ ใบกล้วย ใบอ้อย ทั้งหมดนี้ให้นำใส่ลงไปในหลุมเสาเอกพร้อมยกเสาลง
-ปีวอก ขั้นตอนในการทำพิธีให้เตรียมเทียน 3 เล่มที่ได้ทำการแปะทองมาแล้ว ให้นำไปผูกข้างเสาด้านหัวนอนและนำใบเงิน ใบทอง ใบนาก ทั้งหมดนี้ให้ใส่ลงในฐานหลุม แล้วจึงยกเสาเอก เชื่อว่าจะทำให้พบแต่ความสุขตลอดกาล
–ปีระกา ก่อนที่จะนำอะไรโรยลงไปให้รองหลุมด้วยใบบัวบก ข้าวตอก ทั้งหมดนี้ให้ทำทั้งของเสาเอกและเสารอง เชื่อว่าหากทำแล้วจตะส่งเสริมให้อยู่เย็นเป็นสุข จากนั้นนำข้าว แกง แอปเปิล ดอกบัวหลวง มาบวงสรวงพร้อมอธิฐานขอพร
–ปีจอ เป็นอีกปีที่แนะนำให้เอาข้าวตอกกับใบบัวบกรองหลุมเสาเอกก่อนและให้ดำเนินการบูชาด้วยดอกบัวหลวง จะทำให้ผู้อาศัยมีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน หากทำได้จะเป็นผลดี
–ปีกุน เป็นปีที่แนะนำว่าให้เริ่มต้นทำพิธีและฤกษ์เวลา 09.09 น. แต่ก่อนอื่นให้นำเอาดอกชบาและดอกบัวอย่างละ 1 ดอกรองหลุมเสาเอก หากทำแล้วเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้อาศัยให้พบเจอแต่ความมั่งคั่ง เจริญรุ่งเรือง
สรุป ฤกษ์ลงเสาเอก 2566
จากข้อมูลข้างต้นเราไม่พียงกล่าวถึง ฤกษ์ลงเสาเอก 2566 เท่านั้น ยังมีในเรื่องของขั้นตอนพิธีในการดำเนินการก่อนสร้างบ้าน ซึ่งแม้จะเป็นเพียงความเชื่อ แต่เมื่อพิจารณาแล้วทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่ได้ยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายไม่ได้สูง อีกทั้งสิ่งต่าง ๆ เต็มไปด้วยความหมายที่ดี อย่างเช่น ต้นไม้มงคล ดอกไม้ชื่อมงคล เป็นต้น เหล่านี้แฝงไปด้วยความเป็นมงคล แน่นอนว่าส่งผลดีต่อจิตใจผู้เป็นเจ้าของบ้านและผู้อาศัยไม่น้อย หากจะทำตามก็ไม่เสียหาย ที่สำคัญสามารถเลือกทำได้ตามสะดวกเหมาะสม
📚 อ้างอิง (Reference Sites)
📙 บทความที่เกี่ยวข้อง (Internal Resources)
📘 อ้างอิงเนื้อหา (External links)
📕 อ้างอิงรูปภาพ
เรียบเรียงและจัดทำโดย ข้าวตังดอทคอม